นายแบบหนุ่มโร่แจ้งความ เอาผิด “ปุ๊ก โมเดล” โมเดลลิ่งนามสกุลเดียวกับพระเอก “ศรราม เทพพิทักษ์” ฐานฉ้อโกง หลังถูกเบี้ยวเงินจำนวนกว่า 1 หมื่นบาท เผยติดต่ออีกฝ่ายแต่เงียบร่วม 2 เดือน เผยคู่กรณีเรียกพ่อพระเอกดังว่าลุง ย้ำจำนวนเงินไม่มาก แต่ต้องฟ้องเพื่อให้เป็นบทเรียน แหล่งข่าวแฉอีกฝ่ายสนิทคนในวงการ เป็นนายหน้าหาซื้อที่ดินเขาใหญ่ ราคาร่วม 200 ล้าน ให้ “ตู่ นพพล”
จากกรณีที่มีข่าวว่ามีชายที่อ้างตัวว่าเป็นญาติของ “ศรราม เทพพิทักษ์” ซึ่งใช้นามสกุลเดียวกัน โกงเงินค่าตัวนายแบบหนุ่มโฆษณายาหม่องน้ำตราถ้วยทองออกมา วันนี้ (17 สิงหาคม 2558) เวลา 13.00 น. “หมิง ณัฐดนัย ทรัพยสโรส” นายแบบผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ ที่ สน.ลาดพร้าว พร้อมด้วยผู้จัดการส่วนตัว “บาส ณัฐวุฒิ ร่องดุสิต” และคุณพ่อ “พิพัฒน์ ทรัพยสโรส” ยื่นฟ้อง “นายธราพัช เทพพิทักษ์” หรือ “ปุ๊ก โมเดล” ฐานฉ้อโกง หลังได้รับการติดต่อจากคู่กรณีให้ไปถ่ายโฆษณา แต่ภายหลังทำงานเสร็จตนยังไม่ได้ค่าตัวเหมือนนักแสดงคนอื่น ๆ ที่ได้กันครบนานแล้ว ทั้งนี้ ตนพยายามติดต่อแต่อีกฝ่ายเงียบ บ่ายเบี่ยงและผิดนัดมาโดยตลอด อีกทั้งยังท้าให้ตนมาฟ้องร้อง เลยตัดสินใจเข้าแจ้งความในวันนี้
บาส : “มีพี่อยู่คนหนึ่งนะครับเขาใช้ชื่อว่า ปุ๊ก โมเดล ติดต่อให้ทางเราเอาน้องหมิงเข้าไปแคสงานของยาหม่องยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งน้องเขาก็เข้าไปแคสงานเรียบร้อย ก็ได้งานชิ้นนี้ ซึ่งมีการถ่ายทำเมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่มีการถ่ายทำเรียบร้อย ทางเราพยามติดต่อหาเขา แต่ว่าเขาไม่รับสาย เหมือนกับรู้ว่าพอมีสายจากทางเราโทร.เข้าไป เขาก็ไม่รับสายเลย เขาจะปล่อยให้สายตัดไปโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ตั้งแต่ถ่ายทำเสร็จ คือผมต้องการที่จะสอบถามว่าเขาไปวางบิลอะไรเรียบร้อยหรือยัง”
“จากนั้นพอทางเราติดต่อไม่ได้ทางเราก็เลยติดต่อไปทางผู้จัดการกองถ่าย ทางนั้นเขาก็ให้เบอร์กับทางแคสติ้งมาเพื่อคุยรายละเอียดให้เขาฟังว่าทางเราติดต่อขอรายละเอียดกับพี่ที่ชื่อ ปุ๊ก โมเดล ไม่ได้ จากนั้นในส่วนทางแคสติ้ง เขาก็เลยให้เราติดต่อทางบัญชี เผื่อจะมีช่องทางหรืออะไรได้บ้าง ซึ่งทางบัญชีเขาก็ได้บอกว่าเขาได้วางบิลเรียบร้อยแล้ว บิลน่าจะออกปลาย ๆ เดือนกรกฎาคม แล้วก็ให้เราติดต่อไปอีกทีหนึ่งเพื่อสอบถามว่าเขาจะเข้ามารับเช็ควันไหน ผมก็เลยโทร.หาการเงินอีกที เขาก็บอกว่าเช็คจะออกวันที่ 7 สิงหาคม ก็คือเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ผมก็คุยกับเขาไปว่าพอจะมีช่องทางหรือวิธีไหนบ้าง ที่จะให้ทางเราได้เจอเขา เนื่องจากว่าเราไม่สามารถติดต่อเขาได้เลย”
“เขาก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็ให้มาดักรอที่การเงิน เผื่อเขามารับเช็ค มาขึ้นเช็ค ผมก็เลยให้น้องหมิงไปดักรอ เพราะวันนั้นผมติดธุระที่เชียงใหม่ ซึ่งผมก็ได้ฝากทางน้องหมิงถามเขาไปว่าทำไม่เราติดต่อไปแล้วทำไมไม่รับสายเลย เขาก็ได้แต่หัวเราะ เขาไม่ตอบเลย วันนั้นก็ให้น้องเขาดักรอไป แต่เขาก็บอกว่าเช็คน่าจะขึ้นเงินอะไรไม่ได้ เดี๋ยววันที่ 11 สิงหาคม จะโอนเงินอะไรให้ ตอนบ่าย ๆ ซึ่งก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น น้องเขาก็ยังไม่ได้รับค่าตัว ทางเราก็ติดต่อกลับไปเหมือนเดิม แต่ก็ไม่มีการรับสาย น้องหมิงโทร.หาเขา เขาก็ไม่รับสาย ไม่คิดจะรับสายใด ๆ ทั้งสิ้น น้องเขาก็เลยเอาเบอร์ของคุณพ่อโทร.ไป ซึ่งเขารับแต่ก็ไม่ได้คุยอะไรมากมาย แล้วก็ตัดสายทิ้ง”
“หลังจากนั้น ผมก็ให้พี่อีกคนติดต่อหาเขาอีกทีหนึ่ง ซึ่งติดแล้วก็รับสาย พี่ที่ติดต่อไปเขาก็ถามว่าพี่ปุ๊กทำไมไม่จ่ายค่าตัวน้อง เช็คก็เอาไปขึ้นเงินมาแล้ว เขาก็บอกว่าตอนนี้ไม่สบาย ซึ่งพี่ที่ติดต่อไปเขาก็บอกว่ามันไม่ได้นะ เพราะเช็คก็ขึ้นเงินไปแล้ว แล้วทำไมยังไม่จ่ายค่าตัวน้องล่ะ ถ้าไม่จ่ายน้องเขาจะแจ้งความนะ เขาก็บอกว่าแจ้งเลย วันนี้ผมก็เลยมาแจ้งความ ทั้ง ๆ ที่ค่าตัวไม่ได้มากอะไร ค่าตัวจริง ๆ อยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท ซึ่งถ้าหักอะไรต่าง ๆ ไปแล้ว ก็จะเหลือประมาณ 1 หมื่นต้น ๆ คือผมมองว่า ถึงแม้เงินมันจะไม่มาก แต่มันก็เป็นน้ำพักน้ำแรงที่น้องเขาทำงานมา แล้วถ้าผมไม่ทำอะไรซักอย่าง ผมก็กลัวเขาจะไปหลอกนักแสดงคนอื่น ๆ”
“ในโฆษณาก็มีนักแสดงอีกหลาย ๆ คน ซึ่งคนเขาได้รับเงินหมดแล้ว เหลือแค่น้องหมิงคนเดียว คือคนอื่นเขาก็จะไปในนามของโมเดลลิ่งอื่น ซึ่งเขาก็ได้รับการวางบิลหมดแล้ว คือ ทางบริษัทเขาบอกว่าจะต้องวางบิลวันที่ 4-5 ของเดือน ซึ่งงานมีวันที่ 2 เมษายน ซึ่งหลังจากนั้นโมเดลลิ่งอื่นเขาก็ได้รับการวางบิลหมดแล้วครับ แล้วก็ได้รับเงินเรียบร้อยหมดแล้ว คือของเราเขาน่าจะไปวางบิลเดือนมิถุนายน เขาล่าช้าการวางบิลเกือบ 2 เดือนเลยครับ แล้วเช็คก็มาออกวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่าน คือจริงๆ ทางเขาได้รับเงินจากทางบริษัทที่เขารับมาแล้ว ก็มีใบยืนยัน ว่าเป็นชื่อของเขา”
รับไม่แน่ใจคู่กรณีเป็นญาติของพระเอกดังหรือไม่ เพราะไม่มีโอกาสคุย ติดต่องานกันแบบไม่เจอตัว แต่เห็นอีกฝ่ายเรียกพ่อพระเอกว่า “คุณลุง” ด้านนายแบบหนุ่มแอบเหน็บหาข้อมูลในกูเกิลยังไม่มี
บาส : “เห็นเขาเรียกทางคุณพ่อของคุณศรราม (ศรราม เทพพิทักษ์) ว่าเป็นคุณลุง คือผมไม่ได้สอบถามเลยว่าเขาเป็นญาติกันไหม เพราะตอนหลังไม่ได้คุยกับเขาเลย เขาไม่รับสายเลยครับ ทำยังไงก็ไม่รับสาย พยายามเอาเบอร์อื่นโทร.ไป เขาก็ไม่รับ แล้วผมก็ไม่เคยเจอตัวเขาด้วย”
หมิง : “ผมเคยเจอครับ วันที่พี่บาสให้ผมไปดักรอเขา ที่บริษัท ๆ หนึ่งแถวลาดพร้าว ซึ่งเขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขาจะโอนเงินมาให้ มาวันที่ 11 สิงหาคมตอนบ่าย พอถึงวันนั้นตอนบ่าย ๆ ผมก็ โทร.ไป ใช้เบอร์พ่อ โทร.ไปเขาก็รับ แล้วเขาก็บอกว่าเดี๋ยวบ่าย ๆ จะโอนให้ แล้วหลังจากนั้นผมใช้เบอร์อะไร โทร.ไปก็ไม่รับเลย ไลน์ไปก็ไม่ตอบ คือ ส่วนตัวผม ผมไม่สนิทครับ จะไปหาตามกูเกิลก็ไม่มีครับ”
บาส : “คือเท่าที่ผมรู้มาเขาเป็นหนึ่งในส่วนแคสติ้งด้วย แล้วก็ทำงานในวงการ ซึ่งก่อนหน้านั้นเขาก็พยายามตามตัวน้องๆ ที่อยู่ในสังกัดผมไปแคสงานให้หน่อย แต่ก่อนหน้านั้นผมไม่ได้ส่งน้องๆ ไปแคสงาน แต่พอดีมันมีงานตัวนี้ ผมก็เลยให้น้องเขาไปแคสดู คือ ผมไม่ได้สนิทเป็นการส่วนตัวเลย เขาจะเป็นแบบว่าไม่มีนักแสดงในสังกัดแล้วก็มาติดต่อเรา เพื่อให้เราหานักแสดงคาแร็กเตอร์ตามบทนี้ ไปแคสงานให้หน่อย ซึ่งเขาก็จะติดต่อมาทางไลน์ แล้วก็โทร.เข้ามาด้วย ว่าเอาน้องไปแคสงานให้หน่อย”
ด้านนายแบบโอดรับงานแรกก็โดนเบี้ยวเงิน ย้ำที่แจ้งความอยากให้อีกฝ่ายได้รับบทเรียน ก่อนเผยหลังจากนี้ต้องให้พ่อช่วยดูแลเรื่องค่าตัว
หมิง : “งานแรกมาโดนอย่างนี้ก็หมดกำลังใจไปนิดหนึ่ง แต่ว่าเราก็ยังมีงานอื่นมาเสริม คือ มันอาจจะเป็นงานที่ค่าตัวไม่เยอะนะครับ แต่ว่าที่ผมมาแจ้งความ มันเหมือนเป็นการเรียกร้องสิทธิของเราด้วย และก็เป็นการกันว่าอย่าให้ไปทำกับคนอื่นอีกนะ ก็อยากจะให้เป็นบทเรียนของเขาด้วย ว่าถ้าเขาทำอย่างนี้กับใครอีก ก็อาจจะโดนแบบนี้อีกก็ได้ คือในส่วนของผม ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของดวงมากกว่าที่มันพาทุกอย่างมารวมกัน จนทำให้ผมไม่ได้เงิน แต่หลังจากนี้ผมคงต้องให้พ่อเป็นคนจัดการเรื่องวางบิลทุกอย่าง เพราะปกติผมจะจัดการเอง แล้วก็ให้พี่บาสช่วยจัดการ ตอนนี้คงต้องให้พ่อช่วยอีกแรงหนึ่งครับ”
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง “ริน ณัฐฐสิณี ศาสน์ประดิษฐ์” ที่ติดตามมากับผู้จัดการส่วนตัวของนายแบบหนุ่ม ซึ่งเป็นผู้ที่เคยร่วมงานกับ “ปุ๊ก โมเดล” ถึงพฤติกรรมการเบี้ยวเงินนักแสดงว่ามีหรือไม่ เจ้าตัวก็ได้ยืนยันว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ที่ทำงานด้วยกันมา ไม่มีปัญหาเรื่องเงินแต่อย่างใด และก็ไม่เข้าใจว่าทำไมครั้งนี้ถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้ ซึ่งล่าสุดเจ้าตัวก็ได้ขอถอนตัวจากการทำงานกับ “ปุ๊ก โมเดล” เพราะรู้สึกไม่ดีที่อีกฝ่ายทำเช่นนี้ และอยากจะรับผิดชอบที่ตนเป็นฝ่ายติดต่อนายแบบหนุ่มให้เข้ามารับงานโฆษณาชิ้นนี้
ทั้งนี้ ผู้ที่เคยร่วมงานกับ “ปุ๊ก โมเดล” ได้ให้ข้อมูลว่าอีกฝ่ายสนิทสนมกับผู้จัดอีเวนต์รายใหญ่ของวงการอย่าง “ก้อง ปิยะ เศวตพิกุล” และผู้กำกับมาแรงอย่าง “ชุ ชุดาภา จันทเขตต์” รวมไปถึงยังสนิทสนมกับ “ตู่ นพพล โกมารชุน” ถึงขั้นอีกฝ่ายให้จัดแจงเรื่องหาซื้อที่ดินที่เขาใหญ่ในราคากว่า 200 ล้านบาทให้อีกด้วย
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม