“อเล็กซ์ เรนเดล” ค้นหาสิ่งที่ชอบ เปิดใจอยากใช้ชีวิตเรียบง่ายตจว. ปัดตามรอย “ติ๊ก เจษฎาภรณ์” ชิลๆ ถ่ายแฟชั่นหวานคู่ “เต้ย จรินทร์พร” และ “ขวัญเมือง” ยันไม่เขิน ไม่รู้เรตติ้งพุ่ง ฟุ้งบริษัทศูนย์การเรียนรู้เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เดินหน้าลุยรถพยาบาลช้าง ตอนนี้เข้าโค้งสุดท้ายหาเงินครบ 2 ล้านแล้ว
เป็นนักแสดงที่มีจุดยืนแน่วแน่ รักธรรมชาติ ไม่ชอบความวุ่นวายในเมือง ล่าสุด “อเล็กซ์ เรนเดล” ลงขันกับหวานใจ “เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ” เปิดบริษัท EEC ศูนย์การเรียนรู้ทางธรรมชาติ ซึ่งพระเอกหนุ่มได้เปิดใจใน “งานเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีนาฬิกาดำน้ำไซโก” ที่จัดขึ้น ณ Quartier Cineart & IMAX ชั้น 4 ห้างสรรพสินค้า Emquartier ว่าหลังจากที่ค้นหาตัวเองมานานว่าชอบอะไร สุดท้ายก็มาลงทุนที่ธุรกิจนี้ พร้อมโต้ไม่ได้ทำตามพระเอกรุ่นพี่ “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” ที่ทำรายการเกี่ยวกับธรรมชาติ ย้ำเป็นงานคนละแนวทาง
“ตอนนี้ผมก็มาเปิดบริษัทกับเต้ยครับ บริษัทก็เปิดเรียบร้อยแล้ว คือผมมีออฟฟิศที่ไม่ได้ใช้ ก็เลยใช้เพื่อเป็นศูนย์การเรียนรู้ธรรมชาติสิ่งแวดล้อมรักษาทรัพยากรของเรา โดยพาเด็กอายุ 4-16 ขวบ พร้อมผู้ปกครอง พร้อมพ่อแม่ไปทำกิจกรรมกันในป่า ซึ่งกิจกรรมก็จะเป็นพวกศึกษาเรื่องแมลง ศึกษาเรื่องนก ศึกษาเรื่องช้าง ศึกษาเรื่องการทำอาหารเบื้องต้น การล้างจาน คือเป็นกิจกรรมแบบครอบครัวๆ เลยครับ มันก็จะมีพาร์ตดำน้ำด้วย ก็จะมีพาเด็กๆ ไปดำ แต่เราไม่ได้ดำกันเล่นๆ เรามีการบ้านให้ไปทำด้วย”
“จริงๆ เราไม่ได้จำกัดอายุของเด็กว่าต้องขนาดไหน แต่มันจะมีทริปที่มันเหมาะสม กับแต่ละอายุ อย่างล่าสุด เราก็มีเด็กที่อายุ 3 ขวบ มากสุดก็ 8 ขวบ ผู้ปกครองก็มาด้วย 50 กว่าคน มาเรียนรู้เรื่องธรรมชาติในสไตล์ของเรา”
“คือผมคิดมาตั้งนานแล้วครับ ตอนแรกผมชอบเดินทาง ผมชอบดำน้ำ ชอบเข้าป่า ชอบช้าง แล้วผมก็คลุกคลีอยู่กับเขาใหญ่มา 1-2 ปีแล้ว ผมอยู่เขาใหญ่มากกว่าบ้าน ซึ่งตอนแรกผมก็คิดว่า ผมจะทำทัวร์พาคนไปดำน้ำ อยากทำอะไรที่เกี่ยวกับการศึกษา ทำอะไรที่เกี่ยวกับเด็ก พอคิดตรงนี้ขึ้นมาได้ มันไม่ใช่ธุรกิจขายของ มันไม่ใช่สิ่งที่เราทำจุกจิก มันเป็นบริษัทที่เป็นเรื่องเป็นราว เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ เรามีอาจารย์ที่เก่ง มีด็อกเตอร์ระดับประเทศมาเป็นคนสอน เป็นนักวิชาการแต่ละฝั่งมาสอน อย่างล่าสุดมีทริปมาจากออสเตรเลีย เป็นคนที่ทำงานที่สวนสัตว์ออสเตรเลีย เขามาให้เราพาไปเดินป่า ให้เราไปศึกษาธรรมชาติ ในสไตล์ของพวกเรา”
“การทำงานกับเด็กมันสนุกนะครับ คือเรามีประสบการณ์การทำงานกับเด็กมา 20 กว่าปีแล้ว เพียงแต่เรามาจัดให้เป็นเรื่องเป็นราว จัดเป็นบริษัท แล้วก็มีในส่วนของมาร์เก็ตติ้ง เราก็ช่วยในมาร์เก็ตติ้ง แล้วก็บริหารกันเอง เรียนรู้กันเอง เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ครับ”
ยันยังเล่นละครเป็นหลัก ปลีกเวลาเรียนต่อปริญญาโท ต่อยอดธุรกิจดันให้เป็นที่ยอมรับระดับโลก
“งานในวงการก็ไม่ก็น้อยลงครับ แต่เราก็ทำหลายอย่างหน่อย ตอนนี้ก็เข้าเรียนที่มหิดลด้วย เรียนต่อปริญญาโทด้วย แล้วก็มีละครด้วย แต่ด้วยความที่บริษัทเราอยู่หน้าหมู่บ้านเรา เราก็สามารถที่จะแวะไปตรงนั้น สามารถที่จะเข้าไปบ้าง ก็บริหารได้ แต่ยังไงเราก็เอางานละครเป็นหลักอยู่นะ (หัวเราะ)”
“เรื่องเรียนที่ผมเรียนต่อผมเรียนต่อด้านสิ่งแวดล้อมศึกษา คือตอนแรกเราอยากจะเรียนทำหนังทำอะไร แต่เราคิดว่าการที่เราอยู่ตรงนี้ ประสบการณ์ตรงนี้มันทำให้เราเรียนรู้ได้พอสมควรแล้ว คือบริษัทผมชื่อบริษัท EEC นะครับ ซึ่งผมก็อยากจะให้ EEC เนี่ย มีคนที่มีความรู้ มีคนที่มีคุณสมบัติที่จะดึงบริษัทนี้ขึ้นไปเพื่อเป็นองค์กรการเรียนรู้ในอนาคต คือเรามองไว้ไกลมากครับ ไม่ได้มองแค่สำหรับเด็กๆ เรามอง เรามองถึงเด็กมหาวิทยาลัยทั่วโลก ในเรื่องของเนเจอร์ แคมป์ทั้งหมด เราจะเป็นคนจัดการ”
โต้ตามรอย “ติ๊ก เจษฎาภรณ์” เข้าป่า บอกเป็นสิ่งที่ชอบ แพลนใช้ชีวิตต่างจังหวัด ย้ำไลฟ์สไตล์ไม่กระทบงานละคร
“ก็อาจจะเป็นคนละแนวครับ ของพี่ติ๊กก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง ของผมจะเป็นการศึกษาอย่างเดียวเลยครับ คือไม่ได้เน้นการท่องเที่ยวครับ เราบอกตรงนี้เลย เราไม่ใช่คนขายทัวร์ เราเน้นการเรียนรู้อย่างเดียว นั่นก็ธีมคือเมนหลักของเราเลย”
“เรื่องชอบใช้ชีวิตนอกเมือง ก็ประมาณนั้นครับ พอเราเรียนจบมาแล้ว เราก็ไม่ใช่คนที่ชอบเข้าเมืองอยู่แล้ว เราชอบอยู่ตามทะเล ชอบแอดเวนเจอร์ มันอาจจะเป็นเพราะพอเรียนจบเรามีเวลาได้คิดงาน ได้คิดอะไร ได้คิดถึงอนาคตตัวเองมากขึ้น มันก็ทำให้เราคิดตรงนี้ได้ คือเราคิดมาทั้งชีวิตแล้ว ว่าเราอยากจะทำอะไรซักอย่างแต่ว่าเราก็หาไม่เจอ ว่ามันจะมีอะไรที่เรารัก ที่เรามีอินเนอร์ในการทำ ถามว่าอยากใช้ชีวิตอยู่ต่างจังหวัดไหม ถ้าเกิดถึงจุดๆ นั้นจริงๆ ก็ค่อยว่ากันครับ แต่ว่าตอนนี้เราก็อยู่กรุงเทพฯ ทำงานอยู่ เวลาว่างเราก็ค่อยไปทำงานตรงนี้ คือเราก็มีสต๊าฟ มีคนดูแล ไม่ใช่ว่าเรามีกันแค่ 2 คน เรามีทีมเป็น 10 กว่าคนครับ”
“ตอนนี้ยังไม่เป็นอุปสรรคสำหรับละครนะครับ เราก็พยายามที่จะดิวกับคิวละครว่าเราจะมีทริปวันไหน อาจจะขอคิวล่วงหน้าซัก 3-4 เดือนขอล็อกแค่ตรงนี้นะ ส่วนถ้าวันไหนเขาไม่มีถ่าย เราก็ขอไปทำงาน หรือว่าอะไรที่มันจำเป็นต้องไป เราต้องขอเขา 1-2 ครั้ง แต่ช่วงแรกกิจกรรมก็ไม่ได้เยอะมาก ยังอยู่ในช่วงก่อตั้ง อยู่ในช่วงที่สร้างความน่าเชื่อถือ สร้างความไว้ใจให้กับผู้ปกครอง ที่จะพาลูกๆ เขามาเรียนกับเรา”
ถูกใจถ่ายแฟชั่นกับ “คนรัก-ช้างรัก” ไม่เขิน ไม่รู้เรตติ้งพุ่งแค่ไหน ก่อนฝากช่วยซื้อรถพยาบาลช้าง
“ก็สนุกดีครับ นานๆ ทีจะถ่ายแฟชั่น ก็ไม่เขินครับ เพียงแต่ช้าง ลูกชาย ไม่ค่อยจะอยู่นิ่งเท่าไหร่ กว่าจะได้ช็อตที่สวย ก็ใช้เวลาพอสมควร แต่เราก็อยู่ข้างๆ เขา พยายามที่จะให้เขาอยู่นิ่งๆ แต่โดยธรรมชาติ ความเป็นเด็กของเขา เขาไม่อยู่นิ่งอยู่แล้ว แต่สุดท้ายก็ได้ช็อตที่หนังสือเขาต้องการ ก็โอเคครับ”
“ผมมองว่าการที่ได้เราได้ถ่ายกับขวัญเมือง แล้วหนังสือกุลสตรี ก็เป็นหนังสือที่โอเค เป็นหนังสือที่โปรโมตไปในทางที่ดี แต่ตอนที่เขาแจ้งคอนเซ็ปต์มา เราก็คิดนิดหนึ่งนะครับ แต่เห็นว่าเราก็ได้ถ่ายกับขวัญเมือง แล้วก็เป็นธีมอยู่ในป่า เหมือนเราได้ช่วยอนุรักษ์ช้างไทยด้วย ซึ่งมันก็วินๆ กันทั้งหลายฝ่าย ก็ลองดู ถ่ายกันวันหนึ่ง กับฟีดแบ็ก จริงๆผมก็ไม่ได้เช็คอะไร ก็ไม่โปรโมตอะไรมากมาย ก็โปรโมตไปรูปหนึ่ง แล้วก็อ่านคอมเมนต์ก็แค่นั้นครับ ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้เจอคนแล้วรับฟีดแบ็กอะไรมากมาย”
“ตอนนี้กำลังทำโรงพยาบาลช้างที่เป็นรถช้าง ตอนนี้ก็ได้มา 2 ล้านแล้วครับ คือเราขายเสื้อช้างได้มา 2 ล้าน เราขาดอีก 4-5 แสนที่จะซื้อรถบรรทุก ที่จะมาทำเป็นรถพยาบาลช้าง ตอนนี้ก็ใกล้ถึงโค้งสุดท้ายแล้ว ใครยังไม่มีเสื้อก็ซื้อนะครับ เพราะว่าเสื้อกำลังจะหมดแล้ว (ยิ้ม)”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม