ฉากหลังแข่งดุยุคคาเฟ่เรืองรองหลังสิ้น “สมยศ สุธางค์กูร” เผยเจ้าของ “พระราม 9 คาเฟ่” เคยให้สัมภาษณ์รับสั่งคนอุ้ม “ไชยา มิตรชัย” แย่ง “เฮียเลี้ยง” ด้าน “โก๊ะตี๋” ก็เคยถูกลือ ขณะที่ “เป็ด เชิญยิ้ม” บอกตกใจหลังรู้ข่าว พร้อมปัดไม่รู้เรื่องอดีตกรณีคาเฟ่ดังสั่งแบนตระกูล “เชิญยิ้ม”
ถือเป็นคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญไม่น้อยสำหรับข่าวคราวการเสียชีวิตของ “สมยศ สุธางค์กูร” เจ้าของพระรามเก้าคาเฟ่ หลังถูกมือปืนจ่อยิงเหตุเกิดบริเวณลานจอดรถร้านอาหารย่านพัฒนาการ เมื่อช่วงเวลาประมาณสามทุ่มของคืนวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา
สำหรับคนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้สึกผูกพันอะไรมากมายนักกับข่าวๆ นี้ แต่สำหรับคนรุ่นเก่าที่เติบโตมาในยุค “คาเฟ่เฟื่องฟู” โดยเฉพาะคนในแวดวงตลก รวมถึงนักร้องลูกทุ่งที่ทำมาหากินและใช้ “คาเฟ่” เป็นแหล่งสร้างชื่อเสียงอาจจะตกใจไม่น้อย
เพราะเป็นที่รู้กันดีว่านี่คือหนึ่งในผู้ให้กำเนิดแห่งเสียงหัวเราะของตลกบ้านเราที่เราเรียกว่า “ตลกคาเฟ่” นั่นเอง
นับตั้งแต่เจ้าของวิลล่าคาเฟ่ และ ดาราคาเฟ่ “บุญเลี้ยง อดุลย์ฤทธิกุล” ที่ถูกมือปืนยิงตายในลิฟต์ของคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านรามคำแหง โดยอ้างว่าเพื่อชิงทรัพย์เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2541 มาถึงการเสียชีวิตของเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ในครั้งนี้ต้องถือว่าเป็นการปิดฉากตำนาน “เจ้าพ่อคาเฟ่” ย่านนี้อย่างแท้จริง
ในอดีตทั้ง “เฮียเลี้ยง” และ “เสี่ยสมยศ” คือ 2 ผู้ร่วมหุ้นที่บุกเบิกคาเฟ่ชื่อดังอย่าง “วิลล่าคาเฟ่” อัครสถานแห่งความบันเทิงยามค่ำคืนย่านพระราม 9 ที่เต็มไปด้วยนักร้องลูกทุ่งและบรรดาตลกทั่วฟ้าเมืองไทยมาขึ้นโชว์เรียกแขก
แม้จะสนิทสนม ไปไหนมาไหนด้วยกันราวกับเป็นฝาแฝด แต่ด้วยเรื่องของผลประโยชน์ก็ทำให้ทั้งสองต้องแตกคอกัน โดยทางเสี่ยสมยศได้ถอนหุ้นออกมา พร้อมหันไปประกอบอาชีพทนายความก่อนจะหันมาเปิด “พระราม 9 พลาซ่า” อันทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่แข่งทางด้านการค้าในย่านนี้ไปโดยปริยาย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ทั้งคู่เปลี่ยนจากมิตรกลายเป็นคู่ปรับกันนั้น หนึ่งในแม่ทัพคนสำคัญของทางฝั่ง “เฮียเลี้ยง” ก็คือ เจ้าพ่อวงการบันเทิง อย่าง “ชาญ มีศรี” อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงที่เสียชีวิตไปแล้วนั่นเอง
ความขัดแย้งและการแข่งขันกันของ 2 เจ้าพ่อย่านพระราม 9 ในสมัยนั้น ต้องถือว่าเป็นไปอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในเรื่องการแย่งชิงนักร้องและตลก เพื่อที่จะให้มาแสดงที่คาเฟ่ของตนเองถึงขนาดที่มีการใช้กำลัง “อุ้ม” กันก็มี ไม่ว่าจะเป็นในรายของ “โก๊ะตี๋” และ นักร้องลูกทุ่งดัง “ไชยา มิตรชัย”
โดยในรายหลังนั้นได้กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เนื่องจากทั้ง “เฮียเลี้ยง” และ “เสี่ยสมยศ” ต่างก็คิดและใช้วิธีการเดียวกันนั่นเอง...
“ผมเป็นคนสั่งผู้พันตึ๋ง หรือ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ให้ไปอุ้ม ไชยา มิตรชัย เพราะไชยาไม่ยอมไปโชว์ตัวที่คาเฟ่ผม ทั้งที่รับคิวแสดงให้ที่ผมก่อน และผมก็ทุ่มโฆษณาไปหมดเป็นสิบๆ ล้าน วันนั้น นายบุญเลี้ยง ก็ส่งคนไปอุ้มไชยาด้วยเช่นกัน โดยคนของเฮียเลี้ยงไปถึงก่อน แต่ชุดของผมที่ส่งไปทีหลังเป็นชุดใหญ่กว่า ทำให้ชุดของเฮียเลี้ยงต้องกลับไป และผมก็ได้ไชยามาเล่นที่พระราม 9 พลาซ่า” เจ้าพ่อพระราม 9 คาเฟ่เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับหนังสือพิมพ์ข่าวสดเมื่อปี พ.ศ. 2541
หลังจากการเสียชีวิตของ “เฮียเลี้ยง” ก่อนมาซึ่งการปิดกิจการลงของวิลล่าคาเฟ่ ทำให้กิจการพระราม 9 คาเฟ่ของ “เสี่ยสมยศ” กลายเป็นคาเฟ่ชื่อดังหนึ่งเดียว ส่งผลให้เจ้าตัวมีอำนาจการต่อรองกับบรรดาตลกที่สูงมากจนครั้งหนึ่งได้เกิดความขัดแย้งกับบรรดาตลกตระกูล “เชิญยิ้ม” ถึงขนาดที่เจ้าตัวได้ประกาศห้ามตลกตระกูล “เชิญยิ้ม” แสดง แต่ถ้าจะแสดงก็ห้ามใช้นามสกุลนี้ต่อท้าย
ขณะเดียวกัน “ตระกูลเชิญยิ้มทุกคนบอยคอตไม่ไปแสดงที่พระราม 9 คาเฟ่” ด้วยเช่นกัน (ข้อมูลจากงานวิจัยตลกคาเฟ่ของ “อาจินต์ ทองอยู่คง”)
อย่างไรก็ตาม ชื่อของเสี่ยสมยศได้เงียบๆ หายไปจากวงการหลังจากที่คาเฟ่ได้รับความนิยมลดลงไป จนตลกคาเฟ่ต้องล้มหายตายจากไปหลายคณะ โดยหันไปเล่นการเมืองพร้อมเปิดสำนักความทนายความควบคู่กันไปก่อนที่เจ้าตัวจะมาเป็นข่าวเสียชีวิตในล่าสุด
ซึ่งเมื่อทีมข่าว “Super บันเทิง” ได้สอบถามความรู้สึกไปยัง “ธัญญา โพธิ์วิจิตร” หรือ “เป็ด เชิญยิ้ม” อดีตตลกชื่อดังต่อข่าวการเสียของเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ เจ้าตัวได้ยอมรับว่ารู้สึกตกใจอยู่เช่นกัน...“เพราะเราก็เป็นคนเคยรู้จักกัน เคยทำงานร่วมกัน แล้วก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเขาด้วย คือเราไม่ได้เจอกันมานานมากเป็นสิบปีแล้ว ไม่ได้เจอไม่ได้ติดต่ออะไรกันเป็นสิบปี แล้วเมื่อคืนนั่งดูข่าวแล้วมีตัวหนังสือวิ่งมาพอเห็นชื่อก็ตกใจพอสมควร ซึ่งตลกหลายๆ คนที่เคยร่วมงานกันมาก็คงจะต้องไปร่วมงานศพแหละ”
“สำหรับเรื่องของความผูกพันอะไรกันมันก็คงเหมือนกับว่าที่ผ่านๆ มา ต่างฝ่ายต่างก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันนั่นแหละ เขาเป็นเจ้าของคาเฟ่จ้างตลกมาเล่น เราเป็นตลกก็เล่นตลกไป...”
ส่วนกรณีที่เจ้าของพระราม 9 คาเฟ่เคยมีปัญหากับตลกตระกูล “เชิญยิ้ม” จนถึงขนาดมีประกาศิตห้ามขึ้นเวทีนั้น เรื่องนี้ทางด้านของหนึ่งในผู้ก่อตั้งตระกูลเชิญยิ้มบอกว่าเป็นเรื่องในอดีตที่คงไม่มีประโยชน์อะไรจะไปพูดถึง
“จริงๆ เชิญยิ้มมันก็มีหลายคณะนะ พี่ไม่รู้ว่าใคร พี่ไม่รู้ว่าตระกูลเชิญยิ้มมันคณะไหนบ้าง เพราะเชิญยิ้มมันมีเป็นร้อย ไม่รู้ว่าสร้างกระแสกันหรือเปล่า เพราะทางพี่ที่เล่นอยู่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ตอนหลังพี่ไม่ได้เล่นเพราะมีอายุ ก็ไม่อยากจะไปสาวไส้กันนะ คนตายไปแล้วอย่าอะไรกันเลย เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ”
...
จ่อยิง “สมยศ” เจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ ดับคาลานจอดรถร้านอาหาร
ตามล่ามือปืนมหากาฬฆ่าเสี่ยพระราม 9 คาเฟ่ สอบลึกปม “เบี้ยวค่าเช่าที่ดิน - ชักดาบหนี้พนัน”
ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
ถือเป็นคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญไม่น้อยสำหรับข่าวคราวการเสียชีวิตของ “สมยศ สุธางค์กูร” เจ้าของพระรามเก้าคาเฟ่ หลังถูกมือปืนจ่อยิงเหตุเกิดบริเวณลานจอดรถร้านอาหารย่านพัฒนาการ เมื่อช่วงเวลาประมาณสามทุ่มของคืนวันจันทร์ที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา
สำหรับคนรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้สึกผูกพันอะไรมากมายนักกับข่าวๆ นี้ แต่สำหรับคนรุ่นเก่าที่เติบโตมาในยุค “คาเฟ่เฟื่องฟู” โดยเฉพาะคนในแวดวงตลก รวมถึงนักร้องลูกทุ่งที่ทำมาหากินและใช้ “คาเฟ่” เป็นแหล่งสร้างชื่อเสียงอาจจะตกใจไม่น้อย
เพราะเป็นที่รู้กันดีว่านี่คือหนึ่งในผู้ให้กำเนิดแห่งเสียงหัวเราะของตลกบ้านเราที่เราเรียกว่า “ตลกคาเฟ่” นั่นเอง
นับตั้งแต่เจ้าของวิลล่าคาเฟ่ และ ดาราคาเฟ่ “บุญเลี้ยง อดุลย์ฤทธิกุล” ที่ถูกมือปืนยิงตายในลิฟต์ของคอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านรามคำแหง โดยอ้างว่าเพื่อชิงทรัพย์เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2541 มาถึงการเสียชีวิตของเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ในครั้งนี้ต้องถือว่าเป็นการปิดฉากตำนาน “เจ้าพ่อคาเฟ่” ย่านนี้อย่างแท้จริง
ในอดีตทั้ง “เฮียเลี้ยง” และ “เสี่ยสมยศ” คือ 2 ผู้ร่วมหุ้นที่บุกเบิกคาเฟ่ชื่อดังอย่าง “วิลล่าคาเฟ่” อัครสถานแห่งความบันเทิงยามค่ำคืนย่านพระราม 9 ที่เต็มไปด้วยนักร้องลูกทุ่งและบรรดาตลกทั่วฟ้าเมืองไทยมาขึ้นโชว์เรียกแขก
แม้จะสนิทสนม ไปไหนมาไหนด้วยกันราวกับเป็นฝาแฝด แต่ด้วยเรื่องของผลประโยชน์ก็ทำให้ทั้งสองต้องแตกคอกัน โดยทางเสี่ยสมยศได้ถอนหุ้นออกมา พร้อมหันไปประกอบอาชีพทนายความก่อนจะหันมาเปิด “พระราม 9 พลาซ่า” อันทำให้ทั้งสองกลายเป็นคู่แข่งทางด้านการค้าในย่านนี้ไปโดยปริยาย
ทั้งนี้ ในช่วงที่ทั้งคู่เปลี่ยนจากมิตรกลายเป็นคู่ปรับกันนั้น หนึ่งในแม่ทัพคนสำคัญของทางฝั่ง “เฮียเลี้ยง” ก็คือ เจ้าพ่อวงการบันเทิง อย่าง “ชาญ มีศรี” อดีตนายกสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงที่เสียชีวิตไปแล้วนั่นเอง
ความขัดแย้งและการแข่งขันกันของ 2 เจ้าพ่อย่านพระราม 9 ในสมัยนั้น ต้องถือว่าเป็นไปอย่างดุเดือด โดยเฉพาะในเรื่องการแย่งชิงนักร้องและตลก เพื่อที่จะให้มาแสดงที่คาเฟ่ของตนเองถึงขนาดที่มีการใช้กำลัง “อุ้ม” กันก็มี ไม่ว่าจะเป็นในรายของ “โก๊ะตี๋” และ นักร้องลูกทุ่งดัง “ไชยา มิตรชัย”
โดยในรายหลังนั้นได้กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก เนื่องจากทั้ง “เฮียเลี้ยง” และ “เสี่ยสมยศ” ต่างก็คิดและใช้วิธีการเดียวกันนั่นเอง...
“ผมเป็นคนสั่งผู้พันตึ๋ง หรือ พ.ต.เฉลิมชัย มัจฉากล่ำ ที่เป็นเพื่อนสนิทกัน ให้ไปอุ้ม ไชยา มิตรชัย เพราะไชยาไม่ยอมไปโชว์ตัวที่คาเฟ่ผม ทั้งที่รับคิวแสดงให้ที่ผมก่อน และผมก็ทุ่มโฆษณาไปหมดเป็นสิบๆ ล้าน วันนั้น นายบุญเลี้ยง ก็ส่งคนไปอุ้มไชยาด้วยเช่นกัน โดยคนของเฮียเลี้ยงไปถึงก่อน แต่ชุดของผมที่ส่งไปทีหลังเป็นชุดใหญ่กว่า ทำให้ชุดของเฮียเลี้ยงต้องกลับไป และผมก็ได้ไชยามาเล่นที่พระราม 9 พลาซ่า” เจ้าพ่อพระราม 9 คาเฟ่เคยให้สัมภาษณ์ไว้กับหนังสือพิมพ์ข่าวสดเมื่อปี พ.ศ. 2541
หลังจากการเสียชีวิตของ “เฮียเลี้ยง” ก่อนมาซึ่งการปิดกิจการลงของวิลล่าคาเฟ่ ทำให้กิจการพระราม 9 คาเฟ่ของ “เสี่ยสมยศ” กลายเป็นคาเฟ่ชื่อดังหนึ่งเดียว ส่งผลให้เจ้าตัวมีอำนาจการต่อรองกับบรรดาตลกที่สูงมากจนครั้งหนึ่งได้เกิดความขัดแย้งกับบรรดาตลกตระกูล “เชิญยิ้ม” ถึงขนาดที่เจ้าตัวได้ประกาศห้ามตลกตระกูล “เชิญยิ้ม” แสดง แต่ถ้าจะแสดงก็ห้ามใช้นามสกุลนี้ต่อท้าย
ขณะเดียวกัน “ตระกูลเชิญยิ้มทุกคนบอยคอตไม่ไปแสดงที่พระราม 9 คาเฟ่” ด้วยเช่นกัน (ข้อมูลจากงานวิจัยตลกคาเฟ่ของ “อาจินต์ ทองอยู่คง”)
อย่างไรก็ตาม ชื่อของเสี่ยสมยศได้เงียบๆ หายไปจากวงการหลังจากที่คาเฟ่ได้รับความนิยมลดลงไป จนตลกคาเฟ่ต้องล้มหายตายจากไปหลายคณะ โดยหันไปเล่นการเมืองพร้อมเปิดสำนักความทนายความควบคู่กันไปก่อนที่เจ้าตัวจะมาเป็นข่าวเสียชีวิตในล่าสุด
ซึ่งเมื่อทีมข่าว “Super บันเทิง” ได้สอบถามความรู้สึกไปยัง “ธัญญา โพธิ์วิจิตร” หรือ “เป็ด เชิญยิ้ม” อดีตตลกชื่อดังต่อข่าวการเสียของเจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ เจ้าตัวได้ยอมรับว่ารู้สึกตกใจอยู่เช่นกัน...“เพราะเราก็เป็นคนเคยรู้จักกัน เคยทำงานร่วมกัน แล้วก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวเขาด้วย คือเราไม่ได้เจอกันมานานมากเป็นสิบปีแล้ว ไม่ได้เจอไม่ได้ติดต่ออะไรกันเป็นสิบปี แล้วเมื่อคืนนั่งดูข่าวแล้วมีตัวหนังสือวิ่งมาพอเห็นชื่อก็ตกใจพอสมควร ซึ่งตลกหลายๆ คนที่เคยร่วมงานกันมาก็คงจะต้องไปร่วมงานศพแหละ”
“สำหรับเรื่องของความผูกพันอะไรกันมันก็คงเหมือนกับว่าที่ผ่านๆ มา ต่างฝ่ายต่างก็ต้องพึ่งพาซึ่งกันและกันนั่นแหละ เขาเป็นเจ้าของคาเฟ่จ้างตลกมาเล่น เราเป็นตลกก็เล่นตลกไป...”
ส่วนกรณีที่เจ้าของพระราม 9 คาเฟ่เคยมีปัญหากับตลกตระกูล “เชิญยิ้ม” จนถึงขนาดมีประกาศิตห้ามขึ้นเวทีนั้น เรื่องนี้ทางด้านของหนึ่งในผู้ก่อตั้งตระกูลเชิญยิ้มบอกว่าเป็นเรื่องในอดีตที่คงไม่มีประโยชน์อะไรจะไปพูดถึง
“จริงๆ เชิญยิ้มมันก็มีหลายคณะนะ พี่ไม่รู้ว่าใคร พี่ไม่รู้ว่าตระกูลเชิญยิ้มมันคณะไหนบ้าง เพราะเชิญยิ้มมันมีเป็นร้อย ไม่รู้ว่าสร้างกระแสกันหรือเปล่า เพราะทางพี่ที่เล่นอยู่ก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ตอนหลังพี่ไม่ได้เล่นเพราะมีอายุ ก็ไม่อยากจะไปสาวไส้กันนะ คนตายไปแล้วอย่าอะไรกันเลย เพราะเราก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงๆ”
...
จ่อยิง “สมยศ” เจ้าของพระราม 9 คาเฟ่ ดับคาลานจอดรถร้านอาหาร
ตามล่ามือปืนมหากาฬฆ่าเสี่ยพระราม 9 คาเฟ่ สอบลึกปม “เบี้ยวค่าเช่าที่ดิน - ชักดาบหนี้พนัน”
ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
