"อากู๋" ขายยกลอตธุรกิจสิ่งพิมพ์ให้บิ๊กแอร์เอเชีย หวังโฟกัสธุรกิจหลักเต็มที่

แกรมมี่ฯ เทขาย 45 ล้าน 6 หัวนิตยสารให้บริษัทส่วนตัวผู้บริหารแอร์เอเชีย คาดยังมีอีกหลัง "อากู๋" เผยเตรียมหาคนมาทำในส่วนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักทั้งหมด ขณะที่เจ้าของใหม่เชื่อตลาดสิ่งพิมพ์ยังไม่ตาย หวังฟันกำไร 3 ปีก่อนดันเข้าตลอดหลักทรัพย์

เป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาให้กับแวดวงธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ไม่น้อยทีเดียวหลังมีรายงานว่าทางแกรมมี่ฯ โดย "อากู๋ ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม" ประธานกรรมการ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ได้ขายกิจการสิ่งพิมพ์ทั้งหมดที่มีอยู่ซึ่งประกอบด้วย นิตยสารอิมเมจ (29 ปี), นิตยสารอินแมกกาซีน (10 ปี), นิตยสารมาดาม ฟิกาโร่ (10 ปี), นิตยสารแม็กซิม, นิตยสารเฮอร์เวิลด์ และนิตยสารแอตติจูด ให้กับบริษัท ซีทรู จำกัด ด้วยสนนราคาที่ 45 ล้านบาท

ทั้งนี้บริษัท ซีทรู ซึ่งเป็นบริาทที่ทำธุรกิจออร์แกไนซ์ รับจัดงานอีเวนต์ งานพีอาร์ งานโปรโมชั่นต่างๆ นั้นเป็นธุรกิจส่วนตัวของนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชียนั่นเอง

โดยประธานแกรมมี่ได้เผยถึงเหตุผลหลักๆ ของการขายธุรกิจสิ่งพิมพ์แบบยกลอตครั้งนี้ว่าเป็นเพราะบริษัทต้องการกระแสเงินสดเข้ามาเพื่อลดอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนให้ต่ำที่สุด ซึ่งจะทำให้สามารถกู้เงินได้เยอะสำหรับขยายกิจการ ทำธุรกิจใหม่ ทั้งนี้ผลประกอบการสิ้นปี 2558 คาดว่าจะไม่ขาดทุน เพราะธุรกิจหลักที่เน้นทำทั้งธุรกิจเพลงและธุรกิจภาพยนตร์มีผลกำไรสูงและน่าจะมากลบให้ผลประกอบการสิ้นปีขยับบวกขึ้นได้ แม้ธุรกิจทีวีดิจิตอลจะยังมีผลประกอบการที่ขาดทุนก็ตาม

นอกจากนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่าการขายครั้งนี้ถือเป็นการขายที่ถูกมากเพราะขายในราคาต้นทุนบัญชีของบริษัทและก่อนขายกิจการบริษัทได้เซตซีโร่ชำระหนี้สินของนิตยสารทั้ง 6 ฉบับทั้งหมดแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทางบริษัทก็จะหันไปโฟกัสและเน้นทำธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจเพลง ธุรกิจโทรทัศน์ ธุรกิจภาพยนตร์ ได้อย่างเต็มที่ โดยส่วนไหนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักทางบริษัทก็จะพยายามหาผู้ที่มีความพร้อมมาลงทุนต่อไป

ขณะที่ในส่วนของสื่อสิ่งพิมพ์ทั้ง 6 เล่มนั้น ตนเชื่อว่าทางนายธรรศพลฐ์สามารถนำไปใช้ประโยชน์และต่อยอดธุรกิจได้ทันทีเพราะทีมงานของนิตยสารทั้ง 6 เล่มก็ยังเป็นชุดเดิม สำนักงานก็ยังเป็นที่ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เพลสที่เดิม เป็นเพียงการเปลี่ยนเจ้าของเท่านั้น

ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชียในฐานะเจ้าของใหม่เปิดเผยว่าส่วนตัวตนมองว่าแม้ว่าพฤติกรรมการอ่านของคนจะอ่านหนังสือลดลงและหันมาอ่านหนังสือผ่านเครื่องมือสื่อสารออนไลน์มากขึ้นแต่ตลาดนิตยสารและหนังสือจะยังไม่ตายไปจากโลกนี้แน่ๆ โดยตนมั่นใจว่าจะทำให้ธุรกิจส่วนนี้มีกำไรภายใน 3 ปีและหลังจากนั้นจะระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์เพื่อเสริมศักยภาพของธุรกิจ

พร้อมกันนี้เจ้าตัวก็ให้ความมั่นใจกับทีมงานเดิมว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรตนเพียงแค่เข้ามาดูในภาพรวม ซึ่งนอกจากการซื้อนิตยสารทั้ง 6 เล่มแล้วทางบริษัทยังได้เข้าไปลงทุนในสื่อดิจิตอลเพื่อมาช่วยเสริมและเพิ่มช่องทางให้กับนิตยสารที่มีทั้งหมดในการเข้าถึงผู้บริโภคด้วย


ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก