xs
xsm
sm
md
lg

ดรามาวิวาห์ดารา “ชมพู่” อลังการขนาดนี้ "อั้ม" ว่าไง สู้หรือถอย!??

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


108 ล้านบาท คือตัวเลขสินสอดที่เจ้าบ่าว “น็อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์” ใส่พานไปหมั้นเจ้าสาว “ชมพู่- อารยา เอ ฮาร์เก็ต” เมื่อวันที่ 6 พ.ค.

81 คน คือ ตัวเลขของเพื่อนเจ้าบ่าว กับเพื่อนเจ้าสาว ที่มารวมกันในงานวิวาห์แห่งทศวรรษของทั้งคู่ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมา ในธีม “เมโลดี้ ออฟ เลิฟ” ณ ห้องแอทธินี คริสตัล ฮอลล์ โรงแรม เดอะ พลาซ่า แอทธินี

(สังเกตว่าตัวเลข 108 ล้านของสินสอด และตัวเลข 81 คน ของจำนวนเพื่อนเจ้าบ่าว- เจ้าสาวนั้น เมื่อนำมาบวกกันแล้วจะได้ผลลัพธ์เท่ากับ 9 ซึ่งถือเป็นเลขนำโชค อันเป็นนัยว่าหมายถึงความเจริญก้าวหน้า)

1,500 คน คือจำนวนแขกทั้งหมดที่มาร่วมงาน ซึ่งมีทั้งแวดวงบนเทิง ที่ขนกันมาทั้งช่อง 3 ช่อง 7 เรียกว่าเป็นงานประชันดารางานใหญ่งานหนึ่งของวงการบันเทิง ประหนึ่งงานพรมแดงเลยทีเดียว นอกเหนือจากนั้น ก็ยังมีบุคคลในแวดวงเซเลบ และแวดวงธุรกิจ ที่มาร่วมแสดงความยินดีกับคู่บ่าว- สาวจนล้นห้องจัดเลี้ยง

1 ล้านดอก คือตัวเลขของหมู่มวลดอกไม้ประดับภายในงาน ทั้งไทยและต่างประเทศ ที่เน้นโทนสีขาวและพาสเทล สร้างเป็นอุโมงค์ขนาดใหญ่พร้อมดอกไม้เรืองแสงปราสาทคริสตัล สูง 4 เมตร กว้าง 3 เมตร
10 ล้านบาท คือตัวเลขของชุดเจ้าสาว ที่ชมพู่สวมใส่ในงาน รวมทั้งสิ้น 3 ชุด โดยชุดแรกเป็นชุดแถลงข่าว จากแบรนด์ Elie Saab สีแชมเปญ แขนยาว ประดับเลื่อมระยิบระยับ รองเท้าจากแบรนด์ Sergio Rossi
ชุดถัดมาเป็นชุดงานเลี้ยงกลางคืน จากแบรนด์ Giambattista Valli Haute (ฌามบัตติสต้า) ปารีส ออกแบบโดย มร. วัลลี ชายกระโปรงมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5 เมตร รองเท้าแก้วสุดสวย จากแบรนด์ Dolce and Gabbana
และปิดท้ายด้วยชุด After Party ที่ส่งตรงจากห้องเสื้อระดับโลก Christian Dior ที่เจ้าสาวสวมคู่กับรองเท้าผ้าใบ “คอนเวิร์ส” เก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร
ถ้านับรวมชุดเมื่อวันงานหมั้นด้วยแล้ว สิริรวมแล้ว 4 ชุด ก็มีมูลค่ารวมกันเบาะๆ แค่ 12 ล้านบาท
งานนี้จึงมีทั้งเสียงชื่นชมว่ายิ่งใหญ่ หรูหรา จัดเต็ม สมฐานะเจ้าบ่าวที่เป็นถึงนักธุรกิจระดับหมื่นล้าน และนางเอก ระดับชั้นซุป’ตาร์แถวหน้าของวงการบันเทิง แต่ท่ามกลางเสียงชื่นชม ก็ย่อมต้องมีคนหมั่นไส้ และวิพากษ์วิจารณ์ถึงความฟุ่มเฟือย โอเวอร์ อวดรวยของทั้งคู่ เพราะเม็ดเงินที่ทุ่มให้กับงานแต่งงานเพียงงานเดียว อาจจะสามารถนำมาเป็นทุนการศึกษา หรือทุนอาหารกลางวันเด็กยากจนได้ทั้งหมู่บ้าน
เรื่องนี้ก็นานาจิตตัง ต่างจิต ต่างใจ ก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า
แต่ในความหรูหรา ฟู่ฟ่า เวอร์วัง อลังการของงานวิวาห์แห่งทศวรรษครั้งนี้ คนที่ต้องอยู่ในสภาวะกดดันที่สุด แน่นอนว่า สปอตไลต์ทุกดวงจะต้องจับจ้องไปที่นางเอกซุป’ตาร์ตัวแม่ต่างช่อง อย่าง “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ” อย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อครั้งที่ทั้งคู่อยู่ร่วมช่องเดียวกัน กระแสการเปรียบเทียบยังไม่เด่นชัดเท่า เพราะถ้าเทียบฟอร์ม ณ ตอนนั้นแล้ว ออร่าซุป’ตาร์ของอั้มเจิดจรัสกว่าชมพู่เป็นไหนๆ และถ้าชมพู่ไม่ชิงตัดสินใจข้ามช่องมาซบอกวิก 3 พระราม 4 อย่างทุกวันนี้แล้ว ก็มั่นใจได้ว่าเธอก็ยังคงเป็น “มวยรอง” ของอั้มอยู่วันยังค่ำ แต่การย้ายช่อง ก็ใช่ว่าจะเป็นการการันตีความสำเร็จได้เสมอไป ดังจะเห็นได้จากนางเอกหลายๆ คนที่ย้ายช่อง จากช่อง 3 ไปช่อง 7 หรือจะจากช่อง 7 มาช่อง 3 ก็ตามที แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝัน ได้แต่รอวันร่วงโรย และล้มหายตายจากวงการไปในที่สุด แต่ชมพู่ก็เลือกที่จะเสี่ยง ยอมไปตายเอาดาบหน้า ดีกว่าทนอยู่เป็น “ไก่รองบ่อน” และก็เป็นการเสี่ยงที่ได้ผลคุ้มเกินคุ้ม เพราะการย้ายฟากจากวิกหมอชิตมาวิกพระราม 4 นั้น ช่วยขับให้รัศมีความเป็นซุป’ตาร์ของเธอเจิดจรัสมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็ต้องขอบคุณจังหวะ และโอกาส รวมถึงการได้บทที่ส่งเสริมให้เธอพุ่งขึ้นสู่ทำเนียบนางเอกแถวหน้า อย่างบท “เรยา” ใน “ดอกส้มสีทอง” ที่นอกเหนือจะกวาดรางวัลจากแทบทุกสถาบันแล้ว ชื่อชั้นของเธอก็ถูกเลื่อนขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกับอั้มเพียงชั่วข้ามคืน
นอกเหนือจากดีกรีความเป็นนางเอกซุป’ตาร์ตัวแม่ที่รัศมีไม่ได้น้อยไปกว่านั้นแล้ว ทั้งคู่ยังเกือบจะได้เป็นสะใภ้ใหญ่-สะใภ้เล็กแห่งตระกูล “รังษีสิงห์พิพัฒน์” คู่กันอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้ทุกสายตาจับจ้อง และโฟกัสมาที่ทั้งชมพู่ และอั้ม ที่ต่างก็มีทั้งชื่อชั้นในความเป็นนางเอก และสถานะความเป็น “ว่าที่สะใภ้หมื่นล้าน” ที่ทัดหน้าเทียมตากัน ไม่แปลกที่จะมีข่าวคราวการไม่กินเส้นของทั้งคู่กระพือออกมาเป็นระยะๆ แต่ก็ไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ ว่าจริง-เท็จประการใด
และเมื่อถึงคราวที่อั้มเลิกรากับ “โน้ต-วิเศษ” ขณะที่ความรักของชมพู่กับ “น็อต-วิศรุต” ยังหอมหวาน ตอนนั้นต้องนับว่าสถานการณ์ของอั้มเพลี่ยงพล้ำแก่ชมพู่ไม่น้อย เพราะต้องยอมรับว่าผู้ชายที่โปรไฟล์สมบูรณ์พร้อมอย่าง 2 พี่-น้องตระกูล “รังษีสิงห์พิพัฒน์” นั้น ไม่ได้มีอยู่ดาษดื่น และระดับนางเอกเบอร์หนึ่งอย่างอั้ม การจะไปคว้าผู้ชายโลว์โปรไฟล์มาเป็นคู่รัก ก็ย่อมไม่สมศักดิ์ศรี ยิ่งมีกระแสการจับคู่เปรียบเทียบกับชมพู่ด้วยแล้ว อั้มก็ยิ่งถูกจับตามอง
แต่เมื่ออั้มประกาศตัวว่าคบหากับหนุ่มมาดนักธุรกิจ โปรไฟล์หรูไม่แพ้กัน อย่าง “แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต” สถานการณ์ที่เคยเพลี่ยงพล้ำ ก็ถูกกอบกู้ขึ้นมาอีกครั้ง และแน่นอนว่าครั้งนี้ทั้งอั้ม และชมพู่ ยิ่งกลายเป็น 2 นางเอกตัวแม่ที่มักจะถูกสื่อต่างๆ หยิบยกมาเปรียบเทียบกับในทุกๆ สถานะ
กระทั่งมีข่าวว่าน็อตขอชมพู่แต่งงาน ทุกสื่อก็โฟกัส และยิงคำถามตรงมาที่อั้มทันทีถึงโครงการแต่งงาน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ออกจากปากอั้ม กระนั้นก็ยังไม่วายมีข่าวลือออกมาอีก ว่าอั้มมีแผนจะจัดงานแต่งงงานตัดหน้าชมพู่ ว่ากันไปขนาดนั้น
และเมื่องานแต่งงานขอบงชมพู่มาถึง แถมจัดแบบเวอร์วังอลังการ แน่นอนล่ะว่าความกดดันทั้งหมดทั้งปวงย่อมเทไป อยู่ที่อั้มเต็มๆ คือแม้โดยนัยอาจจะไม่ได้แข่งขันโดยตรง แต่เชื่อมั้ยว่าลึกๆ แล้ว ก็ยอมกันไม่ได้ ยิ่งชมพูหรูหรา ฟู่ฟ่าเท่าไหร่ อั้มก็จะต้องหรูหราฟู่ฟ่ายิ่งกว่า เรียกว่าหลับตานึกภาพตอนต่อไปได้เลยว่า ณ วันที่อั้มแต่งงานจริงๆ ตัวเลขสถิติต่างๆ ทั้งสินสอด ทั้งราคาชุดเจ้าสาว ทั้งจำนวนแขก จะต้องถูกโยงมาเปรียบเทียบกับงานของชมพู่อย่างไม่ต้องสงสัย

เกิดมาเป็นนางเอกระดับอั้ม บางทีก็เหนื่อยเหมือนกันนะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ที่จะต้องถูกสังคมจับตามอง และตั้งความหวังไว้ว่างานแต่งงานของอั้ม (ที่ยังไม่คอนเฟิร์มแน่ชัดว่าจะมีขึ้นเมื่อไร) จะต้องยิ่งใหญ่ หรูหรา เลอค่า เหมือนเป็นวาระแห่งชาติ ระดับพัชราภาจะแต่งงานทั้งที จะเป็นสองรองใครคงไม่ได้ (แอน ทองประสมเอง ยังไม่กดดันเท่านี้ เพราะแอนเป็นนางเอกบนหิ้ง อยู่ในระดับที่ไม่ถูกจับเปรียบเทียบกับใคร)ฉะนั้น อั้มจึงมี 2 ทางให้เลือกเดิน คือหนึ่ง....จัดให้เป็น Talk of The Town ไปเลย หรือเอาความหรูหราเข้าสู้ เรียกว่าเกทับกันไปเลย หรือสอง.... ถ้าไม่แต่ง ก็อยู่เป็นนางเอกสาวโสดเนื้อหอม (มีแฟน ระดับรูปหล่อ พ่อรวย โปรไฟล์หรู แต่ไม่มีงานแต่งงาน) แล้วก็คงความงามแบบอมตะ เป็นสาวสองพันปีไปเลยก็สุดแท้แต่ว่าอั้มจะเลือกทางเดินไหน ?
ที่มา นิตยสารASTV สุดสัปดาห์ ฉบับที่ 289 16-22 พฤษภาคม 2558















กำลังโหลดความคิดเห็น