xs
xsm
sm
md
lg

ผกก.เผยผู้สร้าง “ฟินสุโค่ย” ไม่ได้โกงแค่ค่าตัวนักแสดงแต่ยังโกงกันเองด้วย ยันยังกบดานในไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผกก. “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” โวยโดนผู้สร้างหนัง “ฟินสุโค่ย” เบี้ยวค่าตัวเป็นล้าน แถมผู้สร้างยังโกงกันเอง บอกนักแสดงในเรื่องก็ยังไม่มีใครได้ครบ ตนไล่บี้ทวงถามไปแล้วแต่อีกฝ่ายอ้างหนังเจ๊งทำให้ไม่มีเงิน ยื่นคำขาดถ้าไม่จ่ายจะฟ้อง พร้อมรับกรณี “มาโกโตะ” ทวงเงินข้ามประเทศทำวงการหนังไทยเสียหายกระทบหนักเรื่องความน่าเชื่อถือ ก่อนยันแทนคู่กรณีไม่ได้หนีหนี้ไปนอกแต่ที่ยังไม่ออกมาเคลียร์เพราะกำลังปรึกษาทนายอยู่

กลายเป็นประเด็นร้อนบนโลกออนไลน์ทันที จากกรณีที่นักร้องดังแดนปลาดิบ “มาโกโตะ” วงลูซิเฟอร์ ได้ทวีตข้อความทวงเงินข้ามประเทศ หลังจากมาร่วมแสดงในโปรเจ็กต์หนัง “เลิฟสุดจิ้น ฟินสุโค่ย” ซึ่งเป็นหนังที่ได้รับความร่วมมือจาก 2 บริษัท ฟินโปรเจ็คท์ จำกัด (ประเทศไทย) และ บริษัท เคโปรเจ็คท์ จำกัด (ประเทศญี่ปุ่น) ระบุให้เจ้าของหนังจ่ายเงินค่าตัวตามสัญญา และในเวลาต่อมาได้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกรียวกราว โดยก่อนหน้าที่นักร้องดังจะโพสต์ข้อความดังกล่าว “บี๋ สวิช เพชรวิเศษศิริ” ก็ได้ออกมาเปิดใจว่าตนยังไม่ได้รับเงินค่าตัวเป็นจำนวน 250,000 บาท ทั้งที่ตามทวงทุกวันแต่ยังไม่ได้สักบาท ขณะที่ก็มีข่าวว่า “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์” ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวก็เป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่โดนเบี้ยวค่าตัวเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ดี หนังเรื่องนี้โดนวิพากษ์วิจารณ์ยับกับเนื้อหาที่ไม่โดนใจคนดู ทั้งที่ระบุว่าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ร่วมทุนสองประเทศ จนทำให้ขาดทุนยับเยิน อีกทั้งในระหว่างหนังเข้าโรงฉาย ยังมีการตลาดแหวกแนวด้วยการให้นักแสดงไปชูป้ายอ้อนวอนให้คนมาดูหนัง ล่าสุด ก็มีกระแสลือสะพัดว่าผู้ที่เกี่ยวข้องจะออกมาชี้แจงเปิดใจในทุกกรณีในสัปดาห์นี้แน่นอน แต่ในขณะเดียวกันก็มีกระแสลือหนาหูว่าเจ้าของหนังได้ชิ่งหนีข่าวฉาวไปกบดานเมืองนอกเรียบร้อยแล้ว ด้านนักร้องดังมาโกโตะได้ทวีตข้อความยังรักประเทศไทยเหมือนเดิม โดยมีแฟนคลับร่วมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก

เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวทีมข่าวบันเทิง ASTVผู้จัดการออนไลน์ ได้สอบถามไปยังผู้กำกับ “กอล์ฟ ธัญญ์วาริน” ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่าตนยังไม่ได้ค่าตัวเป็นจำนวนเงินหลักล้าน เช่นเดียวกับนักแสดงรายอื่นๆ ที่ก็ยังไม่มีใครได้ครบเช่นเดียวกัน เผยที่ผ่านมาตนทวงถามมาตลอดแต่อีกฝ่ายอ้างไม่มีเงินเพราะหนังเจ๊ง พร้อมรับข่าวที่เกิดขึ้นทำให้วงการหนังไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง

“กอล์ฟรับผิดชอบในส่วนของโปรดักชั่นเพราะฉะนั้นค่าใช้จ่ายส่วนที่เป็นค่าตัวกอล์ฟ และของทีมงานพวกตากล้อง ช่างไฟ ก็ยังได้ไม่ครบ ส่วนของกอล์ฟได้มาบ้างแต่ก็ยังเหลืออีกก้อนใหญ่มากๆ ก็เป็นหลักล้าน แต่ในส่วนของค่าตัวนักแสดงทางผู้สร้างเขาจัดการเองกอล์ฟก็เลยไม่ทราบว่าใครได้ไปเท่าไหร่บ้างแล้ว เท่าที่รู้คือได้กันไปบ้างแต่ยังไม่ครบทั้งหมด แล้วกอล์ฟเองก็ไม่รู้เลยว่านักแสดงแต่ละคนได้ค่าตัวคนละเท่าไหร่เพราะมันเป็นเรื่องของนายทุนกับนักแสดงที่ดีลกันเอง ค่าตัวมาโกโตะตัวกอล์ฟเองก็ไม่ทราบว่าเขาได้เท่าไหร่ จริงๆ เขาดีลนักแสดงก่อนดีลกอล์ฟอีก เราเลยไม่ทราบตรงนี้”

“ข้อตกลงการจ่ายค่าตัวที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจริงๆ มันก็ครอบคลุม เริ่มตั้งแต่การส่งบทจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์ ถ่ายทำไปแล้วครึ่งหนึ่งจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์ ปิดกล้องจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์ สัญญามีครบเพียงแต่ว่าการจ่ายเงินของเขาไม่ได้เป็นไปตามสัญญา เขาก็ให้มาเรื่อยๆ พอให้มันถ่ายจบ จริงๆ มันก็มีปัญหาตั้งแต่แรกแล้วแต่เราคิดว่ามันได้ทำไปแล้วก็ทำให้มันจบไป ก็พยายามถ่ายหนังให้จบและคิดว่าถ่ายจบแล้วเขาจะเอาเงินมาให้แต่ก็ยังไม่เอามาให้ จนหนังฉายไปแล้วเขาก็ยังไม่เอามาให้ ซึ่งกอล์ฟก็ติดตามทวงถามอยู่เรื่อยๆ แล้วเขาก็ไม่ได้หนีไปไหนและเขาไม่ตั้งใจที่จะโกงนะคะเพียงแต่ว่าเขาไม่มีเงินมาให้ เราก็เลยยังไม่ได้ฟ้องเขา”

“ตอนที่เขามาพูดกับเราเขาก็น่าเชื่อถือ แล้วเพื่อนของเพื่อนก็เป็นคนแนะนำเรามาอีกทีนึง แล้วเขาก็มาพร้อมแพกเกจนักแสดง เราเห็นชื่อนักแสดงแล้วก็น่าเชื่อถือเพราะมีนักแสดงชื่อดังหลายคนและยังมีมาโกโตะด้วย เราก็เห็นว่าเขาสามารถติดต่อดารามาได้ขนาดนี้ก็น่าจะเป็นบริษัทที่มีเงินพอสมควร เราถึงตกลงรับทำหนังให้เขา จริงๆ กอล์ฟก็รอบคอบเรื่องนี้อยู่แล้วนะ”

เผยสาเหตุที่ผู้สร้างหนังโกงค่าตัวเพราะหนังเจ๊งทำให้ไม่มีเงิน แถมผู้สร้างยังมีปัญหาโกงกันเอง
“หนังเจ๊งใช่ค่ะ หนังลงทุนไปประมาณ 10 ล้าน แต่ได้รายได้กลับแค่ 5-6 ล้าน แล้วต้องแบ่งกับโรงหนังอีกมันก็เลยขาดทุนเยอะพอสมควร ถามว่าอยากให้เขารับผิดชอบยังไง จริงๆ เราก็รอได้นะคะ แต่ก็อยากให้เขารับผิดชอบรายจ่ายที่มันต้องจ่ายเพราะกอล์ฟก็ไม่รู้จะเอาจากไหนไปจ่ายทีมงานเหมือนกัน ก็อยากให้เขารับผิดชอบตรงนี้ เขาเป็นผู้สร้างหน้าใหม่ เขาไม่เคยสร้างหนังมาก่อน แล้วในหุ้นส่วนเขาก็คือนายทุนทั้ง 3 คนก็มีปัญหาเรื่องการโกงกันเองด้วยมันก็เลยมากระทบถึงเรา ตอนแรกนายทุนมี 3 คนแต่มาตอนหลังเขามีเรื่องฟ้องร้องกันก็เลยเหลือแค่ 2 คน”

บอกตนยื่นข้อเสนอให้อีกฝ่ายไปแล้วว่าถ้ามีก็ให้เอามาจ่าย แต่ถ้าไม่จ่ายตนฟ้องแน่
“กอล์ฟก็คุยกับเขาว่าถ้าเขามีรายได้ทางไหนมาหรือหาจากทางไหนได้ก็ให้ทยอยจ่ายเรามานะเพราะกอล์ฟก็ต้องเอาไปจ่ายทีมงานที่เหลืออยู่ ณ ตอนนี้ยังไม่คิดจะฟ้องนะคะแต่อนาคตถ้าเขายังหามาจ่ายไม่ได้ หรือถ้าการเคลียร์กันไม่เป็นผลก็คงต้องดำเนินการทางกฎหมายเพราะว่ากอล์ฟก็มีบริษัทไม่งั้นเราก็จะเสียไปด้วย เพราะตอนนี้กอล์ฟก็ถูกมองไม่ดีไปด้วย คนที่ไม่เข้าใจเรื่องกระบวนการสร้างหนังก็คิดว่านักแสดงมาเล่นหนังกับกอล์ฟแล้วกอล์ฟไม่จ่ายเงินเขา ที่กอล์ฟเห็นในคอมเมนต์ในข่าวคนที่ไม่เข้าใจก็มาคอมเมนต์ด่าเรา ไม่ได้ด่านายทุนเลย แต่มาด่าเราว่าเป็นถึงอดีตนายกสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์แห่งประเทศไทยทำไมมาทำแบบนี้ เสื่อมเสียชื่อเสียง ใครกำกับวะ ก็กลายเป็นว่ามาลงที่กอล์ฟ ซึ่งเราเป็นหนึ่งในผู้เสียหายเราไม่ได้โกงใคร”

พร้อมยันแทนข่าวผู้สร้างหนีหนี้ไปต่างประเทศไม่เป็นความจริง อีกฝ่ายยังอยู่ไทยกำลังปรึกษาทนายอยู่
“ไม่นะ กอล์ฟยังคุยไลน์กับเขาอยู่เลย เขายังอยู่เมืองไทยไม่ได้หนีไปไหน ก็คุยกับเขาทั้ง 2 คน ทั้ง คุณปุณยนุช วรนิธิพงศ์ และ คุณภัคกมล วิทยารางสกุล ที่กอล์ฟยังให้โอกาสเขา เพราะเราทำงานด้วยกันก็เห็นว่าเขาก็พยายามหาเงินมาทำหนังเรื่องนี้ให้มันดี เขาไม่ได้มีเจตนาที่จะโกง และกอล์ฟก็เห็นว่าเขาก็ไม่ได้หนีไปไหน คิดว่าเขามีเขาคงทยอยให้ แต่ถ้าเขามีแล้วไม่ให้ก็ค่อยฟ้องร้องกัน เขาก็บอกเหตุผลที่ไม่จ่ายเงินว่าเขาไม่มี(หัวเราะ) แต่เขาก็บอกว่าจะพยายามหาเงินมาทยอยจ่ายให้ แต่เขาบอกเขาไม่โกง ไม่เบี้ยว และไม่หนีไปไหนแน่ๆ กอล์ฟก็คุยกับเขาแหละ เขาก็บอกว่าเขากำลังปรึกษาทนายอยู่ ถ้าคุยกับทนายเรียบร้อยแล้วเขาจะแถลงข่าว ตอนนี้เขายังไม่พร้อมแถลงเพราะกลัวจะมีปัญหาก็เลยขอคุยกับทนายก่อน จริงๆ เขา(นายทุน)ก็เครียดนะ เขาเครียดมานานแล้วด้วยเพราะมีคนไปทวงเขาตลอดเวลา แล้วหนังมันก็ไม่ได้ทำเงิน รายได้ที่เขาคาดหวังว่าจะเอามาให้ทุกคนมันก็ไม่ได้ตามเป้าที่เขาตั้งเอาไว้”

โดนศิลปินดังทวงเงินข้ามประเทศ หลายคนมองว่าเรื่องนี้ทำให้ภาพลักษณ์วงการหนังไทยเสียชื่อ ซึ่ง ผกก.กอล์ฟ ก็ยอมรับว่ามีผลกระทบด้านความน่าเชื่อถืออย่างแน่นอน
“เรื่องมาโกโตะกอล์ฟยังไม่ได้คุยกับเขา (ผู้สร้าง) กอล์ฟคุยแค่เรื่องที่มันเป็นข่าวออกมาเพราะเราก็เห็นว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ที่มาโกโตะออกมาทวงเงินแบบนี้และมันก็จะเสื่อมเสียมาถึงวงการในประเทศไทย ว่ามาทำงานที่ประเทศไทยมันไม่มีความน่าเชื่อถือหรือเปล่าก็เลยคิดว่ามันน่าจะมีผลกระทบ ถ้าถามในส่วนตัวคิดว่ามันก็มีผลในแง่ของข่าวที่มันไม่ดี แต่ในเรื่องของการลงทุนไม่น่ากระทบเพราะกอล์ฟคิดว่าทุกบริษัทก็มีความน่าเชื่อถือของแต่ละบริษัทอยู่แล้ว แล้วศิลปินที่จะมาทำงานในเมืองไทยเขาก็ต้องดูแบ็กกราวด์แต่ละบริษัทอยู่แล้วว่ามีความมั่นคงแค่ไหนเขาถึงจะมาร่วมงานด้วย เพราะจริงๆ ในส่วนนี้ทางมาโกโตะและบริษัทฟินโปรเจกต์เขารู้จักกันมาก่อนกอล์ฟด้วยซ้ำ แปลว่าเขาก็คงมั่นใจกันมาในระดับนึง เราเป็นคนที่เข้ามาทีหลังสุด เราเห็นว่ามาโกโตะก็ยังมาเราถึงได้มั่นใจว่าจะทำงานด้วย เพราะฉะนั้นกอล์ฟคิดว่าคงไม่กระทบในวงกว้าง โอเคมันเป็นข่าวที่ไม่ดีแน่ๆ แต่ในการทำงานทุกคนคงดูที่ความน่าเชื่อถือของแต่ละบริษัท”

ส่วนที่ข้อมูลระบุว่าหนังเรื่องนี้เป็นการร่วมทุนระหว่างไทย - ญี่ปุ่น คือ บริษัท Fin Project และ K-Project ซึ่งรายหลังเป็นบริษัทต้นสังกัดของ “มาโกโตะ” แต่กลายเป็นว่าทางมาโกโตะเองก็ออกมาทวงเงินต้นสังกัดตัวเอง เกี่ยวกับประเด็นนี้ ผกก. กอล์ฟ เคลียร์ว่า…
“จริงๆ ทางฟินโปรเจกต์ก็บอกมาแบบนั้นว่าเป็นหนังร่วมทุนกับญี่ปุ่น แต่ว่าตัวกอล์ฟเองไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาหาทุนมาจากไหน อันนี้กอล์ฟก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาร่วมทุนกันแบบไหน หรือเขาใช้แค่ชื่อร่วมทุนหรือยังไง ตรงนี้กอล์ฟไม่รู้เรื่องเลย เรารู้แค่ว่าเขาหาเงินมาทำหนัง เราเป็นคนรับจ้างเราก็ทำไป กอล์ฟเป็นแค่คนรับจ้างมาอีกทีก็เลยไม่ได้สนใจด้วยแหละว่าเขาหาเงินมาจากไหน อย่างที่บอกเราดูจากชื่อนักแสดงว่ามาโกโตะก็มา และเป็นหนังร่วมทุน เราก็ตัดสินใจจากตรงนี้ในการตกลงทำงานด้วย ส่วนสหมงคลฟิล์มไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้นะคะ สหฯเป็นแค่บริษัทจัดจำหน่ายเท่านั้นค่ะ”





ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป



ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กำลังโหลดความคิดเห็น