“โจ แม่สาย” เจ้าของรถแท็กซี่ลัมบอร์กินี เข้าร้อง ป.อ.ท. สุดทนฟ้องเว็บไซด์ดังโพสต์หมิ่น ฉุนกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติเพราะโกง ซัดธุรกิจเสียหาย แถมกลายเป็นคนเลวครบสูตร เป็นทั้งไฮโซ เพลย์บอย พ่วงอันธพาล ลั่นไม่เคยจีบ “ขวัญ อุษามณี” ฝากบอกนางเอกดังไม่ใช่คนปล่อยข่าวหวังเกาะกระแส
จากกรณีที่ “โจ แม่สาย ประภาสระวัต” เจ้าของรถหรูลัมบอร์กินีนำรถไปดัดแปลงจนเหมือนรถแท็กซี่ หวังโปรโมตรายการ Hi So Life ออกอากาศทางช่องโมเดิร์นไนน์ ทีวี แต่รถคันดังกล่าวถูกมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนจนเกิดเหตุทะเลาะวิวาท เป็นเหตุให้ไฮโซคนดังบันดาลโทสะตบหน้าอีกฝ่าย เพราะคิดว่าตั้งใจชนแล้วหนี จนกลายเป็นประเด็นฮือฮาในโลกโซเชียล ล่าสุด เมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้ (18 มีนาคม 2558) ไฮโซคนดังได้นำหลักฐานเข้าร้องกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท) เพื่อฟ้องเว็บไซต์ดังข้อหาหมิ่นประมาท กรณีขุดประวัติตนมาแฉ และกล่าวหาว่าตนร่ำรวยผิดปกติ เพราะโกงและยักยอกทรัพย์ ก่อนน้อมรับผิดตบหน้ามอเตอร์ไซค์เพราะอารมณ์ร้อน ยันไม่สร้างสถานการณ์โปรโมตรายการแน่นอน เพราะทำให้ภาพลักษณ์แย่ พร้อมกันนี้ ได้เปิดใจกรณีแอบกิ๊กนางเอกดัง “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” ยันไม่รู้จักอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัว และไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวหวังเกาะกระแส
“ก็คือตอนแรกเราคิดคอนเซปต์ว่ารายการเราทำรายการ Hi So Life ช่อง 9 วันพุธ สี่ทุ่มครึ่ง รายการก็จะเหมือนสัมภาษณ์ไฮโซธรรมดาไม่มีอะไร แต่เราเคยเป็นคนธรรมดามาก่อน เป็นคนไม่มีอะไร เราก็รู้สึกแบบ เฮ้ย… เห็นลัมบอร์กินีแล่นผ่านก็เฉยๆ คนไม่คิดอะไร เห็นแท็กซี่วิ่งผ่านคนก็ไม่คิดอะไร แต่พอจับความธรรมดากับไม่ธรรมดามาอยู่รวมกันมันกลายเป็นเรื่องน่าสนใจ อันนี้เป็นธีมรายการเป็นเหมือนคอนเซปต์รายการ เราจะเอาไฮโซที่เกิดมาชีวิตนี้คุณรวยเลย คือเกิดมารวยเป็นคุณหนูเป็นคุณชายเลย เราก็จะจับอย่างน้องจินนี่เอามาทำงานก่อสร้าง คือธีมรายการเราเล่นแค่นี้เอง อย่างวันนั้นที่ผมไปทำที่สี่แยก ผมพาน้องเปเป้ไปขายพวงมาลัย รถคันนั้นเป็นของผมเอง ไม่ได้จดทะเบียนเป็นรถแท็กซี่เพราะเราไม่ได้รับผู้โดยสาร ถ้าจะผิดอาจจะดัดแปลงสภาพสีรถเท่านั้น อีกอย่างผมแค่ถ่ายรายการเท่านั้น”
“ภาพตอนที่ผมไปตบน้องเขา ผมก็โดนคนว่าผม ผมก็เข้าใจเมื่อคนเราทำผิดไปแล้วผมไม่ได้พูดว่าผมไม่ผิด ผมก็โพสต์ว่าผมขอโทษผมคิดน้อยไปเอง แล้วผมก็รู้สึกว่าผมผิด ไม่ใช่มารู้สึกตอนหลังนะ คือผมโมโหตอนแรกมันชน โครม! ผมก็เฮ้ย มันก็ขับไป ภาพในเหตุการณ์จะเห็นเลยว่าผมบีบแตรไล่เหมือนจะไม่จอดแต่ที่จอดเพราะว่ารถถ่ายรายการเราไปด้วยกัน พอรถคันหน้าเห็นก็ขวางไว้ถึงได้จอด เราก็เลยคิดว่าถ้าไม่มีรถคันข้างหน้า ทีมถ่ายเรา มันจะจอดเหรอวะ ก็เลยฉุน พอฉุนก็ลงไป ผมคิดในใจว่าถ้าไม่มีทีมเราไปขวาง เขาหนีแน่นอน”
“ตอนนั้นก็ไม่ได้คุยกัน เข้าไปก็เห็นหน้ามันทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ ผมก็เลยโมโหก็ตบ เสร็จเราก็ยืนคุยกับมัน แล้วมันก็ขอโทษผม พอมันพูดผมก็แบบเอาไงล่ะทีนี้ ตอนนั้นที่โกรธเพราะเขาจะหนี ถ้าไม่มีรถไปขวางเขาหนีแน่นอน ถ้าเขาจอดมาคุยก็ไม่เป็นไรหรอก ผมเคยขี่มอเตอร์ไซค์ แต่เราคิดว่าถ้าไม่มีรถขวางมึงไปแน่นอน ตำรวจก็มาถามว่าจะเอายังไง จะไปโรงพักไปจ่ายค่าปรับ เขาชนผม ผมก็ทำร้ายร่างกายเขา ต่างคนต่างจ่ายค่าเสียหาย ตอนผมใจเย็นผมก็คิดว่าเขาจะมีเงินเหรอ เราก็เข้าใจเด็กขี่มอเตอร์ไซค์ เราก็เลยคิดว่าเขาคงไม่มีเงินก็ไม่อยากเอาเรื่อง เลยบอกร้อยเวรว่าให้ผมไปโรงพักก็ได้ ให้ร้อยเวรไปบอกเด็กว่าผมไม่เอาความ น้องจะเอาเรื่องไหม มันก็บอกมันก็ไม่เอาอะไร ต่างคนต่างไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี เพราะน้องไม่ติดใจเอาความ ผมก็โอเคงั้นไม่เป็นไรผมก็แค่ไปจ่ายค่าปรับเพราะเราไม่ได้ทำถึงขนาดซ้อมเขาเลือดตกยางออก ตอนหลังคิดได้ ตอนอารมณ์เย็นก็ปล่อยเขาไป เพราะว่าเราก็เข้าใจเขา การที่คนมองว่าเราไปทำร้ายเขาก็สมควรเพราะเราทำจริง ทุกคนมีสิทธิ์มองแบบนั้น ผมไม่มีปัญหา คุณมองผมแบบนั้นก็ไม่เป็นไร ผมโอเค ยอมรับว่าทำจริง ผมจะไม่รับก็ได้เพราะไม่มีหลักฐานไม่มีคลิป ตอนนี้ก็ไม่มีอะไรแล้วตั้งแต่วันนั้น”
เผยรับไม่ได้เว็บไซต์ดังโพสต์หมิ่น บอกไม่มีคุณธรรมเกินไป เพราะตนไม่ได้ร่ำรวยผิดปกติหรือยักยอกใครมา
“ก็คืออย่างที่ผมบอกว่าถ้าเป็นการแสดงความคิดเห็นบุคคลทั่วไป ถ้าคุณทำอย่างนั้นผมก็โอเค ความคิดเห็นส่วนบุคคลคุณทำไปเหอะ คุณจะว่าผมก็ปล่อยไปแต่พอเป็นเว็บเป็นสื่อใหญ่ที่ทำ ผมมองว่าไม่มีคุณธรรมแล้ว ผมกล้าทำผมกล้ารับ ผมทำบอกผมทำ ผมเขียนเรื่องราวลงไปหมดแล้ว คุณไปพิจารณาเองเองว่าผมผิดหรือผมถูก แต่เขาเขียนถึงขนาดว่ายักยอกเอามาดื้อๆ เนี่ย อันนั้นติดคุกนะครับ ผมแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทเรื่องที่คุณพูดไม่จริง แล้วก็กรณีที่ชัดเจนเลยก็คือหาว่าผมยักยอกทรัพย์เอาของคนอื่นมาดื้อๆ อันนี้คือพูดใช้คำว่ายักยอกทรัพย์เลย เลวสุดๆ ว่าผมยักยอกคนอื่น
“ยืนยันว่าผมไม่ได้ยักยอกครับแต่ว่าทำธุรกิจมีเทคนิคอย่างที่ผมเขียนไปลองดูนะ ผมก็บอกแล้วว่านี่คือเทคนิคที่ทำให้ผมทำเงินมาได้โดยไม่มีทุน แต่ถามว่ามีคนมีบุญคุณกับผมไหมก็มี แต่ถ้าถามว่ายักยอกอยู่ดีๆ เอาของเขามาเลยนี่ผมไม่ได้ทำ คนกล่าวหาก็เห็นชื่อเขานะครับ ซึ่งเขาระบุชื่อเรา นามสกุลชัดเจน ผมก็เลยปรึกษาเจ้าหน้าที่ เขาบอกเข้าข่ายหมิ่นจริงที่ผมแจ้งแล้วก็ฟ้องร้องเขาได้ วันนี้ผมฟ้องเว็บเด็กดีดอทคอมครับ อีกอันหนึ่งก็ไทยอินโฟเน็ต ผมต้องปรึกษาเจ้าหน้าที่ก่อนว่าเข้าข่ายไหม สิ่งที่เขาทำเราฟ้องเขาได้หรือเปล่า ถามว่าจะพูดคุยกันก่อนไหม ทีเขาเอาข่าวผมไปลง เขาไม่ถามผมสักคำ เขาน่าจะคุยกับผมก่อน ถ้าจะลงว่าผมขนาดนี้คุณถามผมสักคำสิ โทร.มาถามก็ได้ น่าจะคุยกับผมก่อน ฉะนั้นถ้าผมจะฟ้องเขา ทำไมผมต้องโทร.ไปหาล่ะ ถ้าเขาจะติดต่อมาขอโทษหรือไกล่เกลี่ย ผมก็เปิดรับนะ แต่ต้องดูว่าเขาทำกับผมระดับไหน ก่อนทำ ทำไมไม่โทร.มาคุยกับผมก่อน หลังจากนี้ถ้าเป็นคนทั่วไป โอเคคุณมีสิทธิ์ที่จะพูดผมไม่ว่าคุณ แต่ถ้าคุณมีตัวตน ผมมองว่าไม่สมควรครับ นำเสนออะไรแบบนี้มันผิด ถ้าแสดงความคิดเห็นโอเคผมรับได้”
เชื่อฝีมือคู่แข่งหวังดิสเครดิต ธุรกิจได้รับความเสียหาย
“เรื่องนี้เกิดหลังจากที่ผมตบมอเตอร์ไซค์ คือตอนแรกก็มีคนโพสต์เรื่องมอเตอร์ไซค์ก็ว่าผม เขาไปหาข้อมูล พอไปค้นดู เว็บนี้ก็เอามาเรียบเรียงนำเสนอว่าไอ้นี่เป็นคนชั่ว ผมไปทำอะไรเว็บเขาเหรอ(หัวเราะ) อยู่ดีๆ มานำเสนอว่าผมเลว ลงประจานผม หลักฐานคุณก็ไม่มี ผ่านมา 5 ปีแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจเจตนาเขา”
“ผมชื่อว่าต้องมีคนต้องการดิสเครดิตผมแน่นอนอยู่แล้วครับเพราะเขาแต่งเรื่อง แต่ไม่ใช่เว็บนี้แต่งนะครับ เขารวบรวมเรื่องราวที่มีคนแต่งขึ้นมานำเสนอเผยแพร่ แต่คราวนี้คนแต่งมันต้องเป็นผู้ไม่หวังดี เพราะผมบอกแล้วว่าถ้าย้อนกลับไปประมาณ 3 - 4 ปี ผมเริ่มออกรายการทีวี คนเริ่มรู้จักผมแล้ว ยอดขายผมเพิ่มขึ้นสามเท่า ขายดีขึ้น มันต้องมีคนเสียประโยชน์ ต้องมีคนขายไม่ได้ ผมคิดว่าเป็นเหตุจูงใจ แต่ไม่ใช่ร้านเจ๊แน่นอน ผมพูดได้เลยว่าร้านนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องเป็นมือที่สาม ที่อยากยุให้เราสองคนห้ำหั่นกัดกันเอง ซึ่งเป็นใครผมไม่รู้”
“อาจจะเป็นคู่แข่งทางธุรกิจแต่ไม่รู้ว่าใครแต่ผมสันนิฐานว่าน่าจะเป็นอย่างนั้น ตัดเจ๊ออกไปได้เลย แกไม่ทำแน่ๆ โดยส่วนตัวแกไม่ทำอะไรแบบนี้อยู่แล้ว สิ่งที่เขาเขียนลงเว็บส่งผลกระทบมากเลยครับ เพราะว่าอู่ลูกน้องผม 200-300 รายทั่วประเทศ เอารูปผมขึ้นโชว์ตอนนี้ก็ยังแปะหน้าอู่ พอผมเสียชื่อเสียงมีคนไม่เชื่อถือ บางคนก็เอาลงบางคนเอาออก มันทำให้การค้าของผมกระทบแน่นอน”
ยันไม่จีบ “ขวัญ อุษามณี” สุดงงเป็นข่าวได้ไง ฝากบอกขวัญตนไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าว
“น้องเขาอาจจะเสียหายนะ ชอบมีคนจับคู่ให้ ส่วนตัวไม่รู้จักกันนะครับ ก็งงๆ เหมือนกัน ไม่เคยทำงานด้วยกัน ก็งงเหมือนกันนะครับเพราะว่าเราเองไม่อยากให้น้องเขาเสียหาย เขาอาจจะคิดว่าผมปล่อยข่าวก็ได้ แต่จริงๆ ไม่ใช่นะ(หัวเราะ) ก็อยากให้น้องเข้าใจว่าพี่ไม่ได้เป็นคนปล่อยข่าวนะ (หัวเราะ) พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าข่าวนี้หลุดมาได้ยังไง ไม่รู้จักกันครับ
“ผมติดตามผลงานน้องดูอยู่แล้ว น้องเขาเป็นคนสวยผมยอมรับ ดูในทีวีน้องเขาสวยครับ (หัวเราะ) ก็เคยคิดนะ ว่าทำไมมีข่าวนี้เกิดขึ้นมาสองครั้งแล้ว ผมก็ไม่เข้าใจว่าจริงๆ มันเกิดได้ยังไงเนอะ คนก็มองว่าเป็นไฮโซไม่พอ เป็นเพลย์บอยอีก ตอนนี้มองเป็นอันธพาลด้วย (หัวเราะ) ครบความเลวเลย มาอยู่ที่นี่หมด(หัวเราะ) คิดว่าคงไม่กระทบอะไรใครนะครับ เพราะว่าเราก็อยู่แบบนี้ ถ้าหลายคนมองว่าเป็นการโปรโมตรายการ ผมทำแท็กซี่คันนี้ก็เพื่อโปรโมตรายการครับ (หัวเราะ) แต่ชนนั่นชนนี่ของจริงไม่ได้โปรโมต ใครจะอยากให้ถูกด่าจริงไหมครับ (หัวเราะ) ยืนยันว่าไม่ได้สร้างเหตุการณ์มาโปรโมต สร้างแค่ครึ่งเดียว สร้างแค่แท็กซี่อย่างอื่นไม่ได้สร้าง (หัวเราะ) และไม่ตั้งใจเกาะกระแสนางเอกดังอยู่แล้วครับ เราไม่ได้คิด เราก็อยู่ของเราแบบนี้”
ASTVผู้จัดการออนไลน์ เพิ่มหมวดข่าว “โต๊ะญี่ปุ่น” นำเสนอความเคลื่อนไหวของข้อมูลข่าวสาร ตอบสนองผู้อ่านที่สนใจในประเทศญี่ปุ่น รวมทั้ง สรรสาระ เกร็ดความรู้ต่างๆ ที่ผู้อ่านควรรู้ และ ต้องรู้อีกมากมาย ติดตามเราได้นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |