“ป๋าเทพ” เผยปมขัดแย้งหุ้นส่วนร้านหมูกระทะ ฉุนทำธุรกิจ 5 เดือนไม่ได้เงินสักบาท แถมเข้าเนื้อเป็นแสน เล็งปรึกษาทนายเพื่อความโปร่งใส ลั่นแก่แต่ไม่โง่ เตรียมกู้เงินล้านเปิดธุรกิจใหม่
จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่า “เทพ โพธิ์งาม” เกิดความบาดหมางกับหุ้นส่วนธุรกิจร้านหมูกระทะขั้นเทพ ที่ลงทุนร่วมกับแฟนคลับแต่กลับถูกเอารัดเอาเปรียบ เพราะไม่ได้รับส่วนแบ่งปันผลจากธุรกิจดังกล่าว แม้ในเวลาต่อมา “จุ๋ม ภัสราวรรณ โพธิ์งาม” ภรรยาของป๋าเทพ จะได้ออกมาชี้แจงว่าเป็นความเข้าใจผิด และเป็นความใจร้อนด่วนสรุปเกินไป อีกทั้งหุ้นส่วน “หน่อง จรูญ” ไม่ได้เอาเปรียบอีกฝ่ายแต่อย่างใด
ล่าสุดป๋าเทพก็ได้ออกมาเปิดใจกลางรายการคนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 2 เผยทำงานมา 4-5 เดือนไม่ได้เงินสักบาท แถมเข้าเนื้อเป็นแสน เพิ่งได้ตอนเป็นข่าว 7 หมื่น บอกทำแล้วไม่สบายใจเล็งเปิดธุรกิจใหม่ กู้เงินมาลงทุนเป็นล้าน
“จริงๆ ก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร เราเองเห็นข่าวแล้วตกใจ เราเองไม่ได้ไปว่าว่าเขาโกง เพียงแต่ว่าตามระบบหุ้นกันแล้วมันไม่ถูกต้องเท่านั้นเอง พอเราอยู่นานๆ เข้ามันมีเรื่องราวตรงนี้ปรากฏขึ้นให้เห็นเราก็มาคิดว่าเราจะไปนั่งอยู่ทำไม เซ็งๆก็เลยฉีกออกมา แต่ก็ยังให้เมียดูแลอยู่ ป๋าอยากจะให้ทุกอย่างมันเคลียร์ ให้มันมีลายลักษณ์อักษรเป็นเรื่องเป็นราวแบบนั้นคงไม่มีปัญหาอะไร แต่พอไม่มีตรงนี้มันก็เลยเกิดเรื่อง ซึ่งป๋าบอกตั้งแต่ต้นอยู่แล้วว่าให้ทำตรงนี้ให้เรียบร้อยเราจะได้ทำงานกันอย่างเต็มที่ ไม่ต้องทำงานแบบพะวงกัน นานๆ เข้าทำไปเราคิดว่านะเหมือนเราไปเป็นลูกจ้างเขาหรือเปล่า พอเกิดตรงนี้เราเลยรู้สึกว่าไปร้านแล้วมันอายๆ เลยไม่ไปดีกว่า”
“ที่เราฉีกมาเพราะมันรู้สึกว่ามันเริ่มไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันมาตั้งแต่แรก เราจะพูดทุกอย่างกันโปร่งใส แบ่งส่วนกัน สิ้นเดือนมาเคลียร์ว่าขาดทุนหรืออะไรยังไง เราไม่ว่าหรอกขาดทุน เพียงแต่เราอยากรู้ว่าเราใช้จ่ายไปยังไงในแต่ละเดือน เพราะใช้ไปใช้มายังไงมันก็ตกมาอยู่ในส่วนของเราเหมือนกัน แต่เราไม่รู้ด้วยไง รายได้เราก็เห็นนะเขาส่งมาให้เราดูอยู่ แต่รายจ่ายนี่เราไม่รู้ พอเราไปดูอีกทีเขาก็เหมือนจะส่งรายละเอียดมาให้เราดูเหมือนกัน แต่รู้สึกว่ามันเว่อร์มาก มันไม่น่าเชื่อ เราก็เลยเซ็งๆ แต่เราก็ไม่ได้ไปทะเลาะกับเขานะ แค่ฉีกแล้วให้เมียดูแลไป”
บอกตอนแรกจะให้ตน 40 อีกฝ่าย 60 คลุกคลีมา 4-5 เดือนไม่ได้เงินสักบาท เพิ่งได้ 7 หมื่นหลังเป็นข่าว
“เขาก็จะให้เรา 40 นะ เราก็โอเคไม่เป็นไร เราใจกว้างอยู่แล้วที่เขาออกเงินออกมาทำก่อน แต่เอาจริงๆ เราก็เอาชื่อเสียงเรามาลง ซึ่งเราคิดว่ามันมากกว่านั่นนะ มันมากกว่าหลายเท่า จากที่เราไปลองคลุกคลีกับเขามา 4-5 เดือนโดยที่เราไม่ได้เงินสักบาทเดียว เราไม่ได้เห็นเงินเลย เพิ่งจะได้มา 7 หมื่นกว่าบาทเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา เพียงแต่ว่ามันสร้างความอึดอัดให้เรา ไปแล้วเรารู้สึกอายๆ ก็อยากมีการทำอะไรให้มันเป็นระบบหน่อย เราเองไม่คิดโกงใครอยู่แล้ว เราอายที่จะทำ เพียงแต่อยากให้ทำให้ถูกต้อง เราช่วยเต็มที่อยู่แล้ว”
“เขาไม่ได้บอกว่าจะให้ 3 เดือนครั้ง ตอนแรกไม่ได้พูดแล้วมาพูดตอนนี้มันก็ไม่ใช่แล้วไง เราต้องดูตั้งแต่ทีแรกว่าเราตกลงกันมายังไง แล้วเขาจะยอมรับไหมว่าเขาเคยพูดอย่างนั้นอย่างนี้กับเรา เราเองถึงจะแก่แล้วแต่เราจำแม่นนะ เราคลุกคลีกับตัวมาตลอด ตั้งแต่ดูที่ทาง ไปไหว้พระ ทำอะไรเรารู้เราเห็นตลอด แต่พอเข้ามาทำจริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นไง เราก็รู้สึกว่ามันแปลกๆ เราไม่ชอบ”
ยันเดือนแรกขายได้ 4 ล้าน ขาดทุนตรงไหน เผยทำแล้วไม่สบายใจเตรียมออกไปเปิดธุรกิจใหม่ของตัวเอง
“จะได้กำไรไม่ได้กำไรเราก็มาเคลียร์กันสิ วันๆ หนึ่งมันยังไง ช่วงเดือนแรกๆ ยังขายได้ตั้ง 4 ล้านกว่าบาท จะไปขาดทุนอะไรล่ะ เพราะโครงเก่ามันมีอยู่แล้ว พอพูดแล้วมันขัดๆ กันไง เราก็อยากจะเคลียร์ว่าคุณลงอะไรไปบ้างเท่าไหร่ ซื้อมาร้อยแต่มาบอกว่าพันผมนี่ก็ขี้แตกแล้วสิ เขาควรจะเคลียร์ในแต่ละวันไปเลย ไม่ใช่เอาบัญชีมาเป็นเดือนๆ แบบนี้ก็ยากสิ ป๋าเองก็มีบัญชีเหมือนกัน เราต้องเอาบัญชีของทั้งสองฝ่ายมาคุยกันสิ มันเหมือนเราเสียเปรียบเขา คิดแล้วก็ไม่อยากจะไปร่วม แต่ในเมื่อเราทำไปแล้ว เขาจะยอมทำตามที่เขาเคยตกลงทีแรกไหมล่ะ”
“ตั้งแต่เดือนแรกๆ แล้ว อย่างน้อยครึ่งเดือนหุ้นส่วนเขาต้องเคลียร์กันแล้ว แต่นี่ไม่ใช่ ป๋าเองเข้าร้านทุกวัน เราทำงานเอ็นเตอร์เทนคนไปเรื่อย ลูกเราเองก็มาช่วยเอ็นเตอร์เทนคน แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเลย เงินเขาก็ได้อยู่ทุกคืน เงินก็อยู่กับเขาหมด เขาไม่ได้อะไรเลย แม้กระทั้งค่ารถมาทำงานเราก็ออกเองหมด เอาคนมาช่วยเอ็นเตอร์เทนร้านเราก็ออกเองหมด เขาไม่ได้มาออกอะไร อยู่แล้วเราก็รู้สึกกระดากๆ เราเองก็ไม่ได้คิดว่าจะได้อะไรมากมาย เงินที่ได้มันไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า เป็นเศษเงินอะไรไหม เราไม่อยากให้มันเป็นอย่างนั้น ถ้าจะขาดทุนก็ขอให้ขาดทุน แต่ให้เรารู้สิ มาเคลียร์กันเราไม่ว่าอะไรเลยจริงๆ แต่ที่ป๋ามองแล้วมันไม่ขาดทุน เรารู้สึกว่าเราไม่สบายใจ เราไม่รู้ว่าเราไปนั่งทำงานตรงนั้นคนจะพูดกับเรายังไงก็ไม่รู้ เราเองแก่แล้ว เราก็เลยให้เมียเราดู แล้วเราก็ออกมาทำของเราเองที่รามอินทรา ชื่อร้านครัวป๋าเทพ จะเปิดวันตรุษจีนนี้ ไม่ใช่ร้านหมูกระทะ เป็นร้านอาหารไทย จีน ฝรั่ง เราก็เอาลูกหลานพี่น้องมาร่วมทำกัน”
“ถอดชื่อเราไหมยังไม่รู้ ก็ขึ้นอยู่ที่มาตกลงกันได้ ป๋าก็จะทำกับเขาอีก ก็ให้เมียไปดูบ้างอะไรบ้าง แต่ถ้าจะไม่ทำด้วยกันก็ไม่เป็นไร ตรงนั้นเราเห็นมาหมดแล้ว มันไม่ไหวแล้วไง ถ้าจะทำอีกก็จะต้องตกลงกันเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน คุณจะมาทำเองฝ่ายเดียวโดยที่เราไม่รู้เรื่องคงไม่ได้ เขาเองก็ยังไม่ได้ติดต่ออะไรมานะ ก็แล้วแต่เขา ถ้าเราไม่ทำด้วยกันเขาก็ต้องถอดเราออก”
เผยเล็งปรึกษาทนายแต่ไม่ฟ้องร้องแค่อยากให้โปร่งใส บอกอายุ 65 เห็นอะไรมาเยอะ ไม่ใช่คนปัญญาอ่อน!
“ให้คนเข้าไปตรวจแล้ว เขาบอกว่ามันแปลกๆ มันเยอะแยะไปหมด เป็นลังๆ เลย จะเก็บๆ ไว้เยอะๆ เป็นลังๆ เพื่ออะไร เพื่อให้งงเหรอ ป๋าเองบอกตรงๆ เราก็เข้าเนื้อ ไปกินอะไรของเขาก็ต้องจ่ายให้เขานะ บางทีชวนเพื่อนๆ ไปนั่งที่ร้าน ลูกหลานมาเราเกรงใจเขา เราจ่ายหมด ทั้งๆ ที่เราขอก็ได้ แต่เราเกรงใจไง เรายังทำอย่างนั้นเลย ป๋าเองก็ควักส่วนตัวไปเป็นแสนนะ”
“เราไม่ได้ทะเลาะอะไรกัน มาเคลียร์กันก็คือจบ เขาเองไม่มาเจอแล้วก็ไม่ได้โทร.มามันก็เท่านั้นเอง เป็นเดือนแล้ว ก็เดี๋ยวคงจะเอาทนายมาคุยกันว่าตกลงจะทำต่อด้วยกันไหม ถ้าทำก็ให้ทำตามระบบนะ ถ้าไม่เอาก็ไม่เป็นไรก็จบกัน ไม่ใช่ว่าเราจะไปฟ้องร้องเอาความอะไรเขาเลย เราแค่อยากจะรู้รายละเอียด เราคนแก่แล้ว จะทำกันอย่างนี้ทำไม เราเป็นคนใจกว้างอยู่แล้ว ป๋าเองทุ่มให้เขานะ คิดว่าทุกอย่างมันน่าจะดี ป๋าไม่ได้เข้าร้านมาเดือนกว่าๆ แล้ว เราก็ไม่ได้จะไปทำอะไรเขา ถ้าจะไม่ทำด้วยกันก็แยกย้ายด้วยดี ป๋าไม่ใช่คนปัญญาอ่อน 65 ปีแล้ว เราเห็นอะไรมาเยอะ เรารู้ว่าการเริ่มต้นมันเป็นยังไง”
เผยหุ้นส่วนเป็นคนเดียวกับที่เคยมีปัญหากับ “สมรักษ์ คำสิงห์”
“ใช่ ป๋าเองก็เคยได้ยิน แต่ป๋าก็ไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไง เราไม่ได้สนใจ เขาพูดดี เราก็เลยอยากจะทำกับเขา ก็ลองดูว่ามันจะเป็นยังไง พอเรามาเห็นก็แบบเฮ้อ… ทำแต่เราก็ไม่ได้ไปว่าเขาโกงเรานะ แต่ว่ามันรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง เขาทำให้เราสงสัย เราก็เลยรู้สึกว่าไม่อยากจะยุ่งแล้ว ป๋าเองบอกเขามาตั้งแต่แรกแล้วว่าทำอะไรให้มันเรียบร้อยไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมันจะทะเลาะกันนะ แต่เขาก็ยังไม่จัดการ เขาก็จะเปิดๆ ไปเรื่อย”
รับกู้เงินเป็นล้านเพื่อธุรกิจใหม่ แถมยืมเงินตลกดังมาร่วมลงทุนอีก ลั่นไม่เข็ดทำธุรกิจ ถ้าไม่ทำไม่ใช่เทพ
“ป๋าเป็นคนเข็ดยาก เขาไม่ทำก็ไม่เป็นไร เราก็ทำของเราไป ป๋าเองก็ซวยมาเยอะ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ธุรกิจใหม่ลงทุนเยอะ เป็นล้านแล้ว เงินยืมเขามาทั้งนั้น ทั้งจิ้ม (จิ้ม ชวนชื่น) ทั้งหม่ำ (หม่ำ จ๊กมก) ก็มีไปกู้เงินมาบ้าง นี่บ้านก็หมดไปหลังหนึ่งแล้ว เราไม่ได้ขายไปทำอะไร เราเองไปใช้หนี้เขา แล้วเราก็เบาขึ้น ภาระน้อยลงเราก็ได้นอนหลับหน่อย เราไม่มีตังค์ แต่เราอยากทำ ก็กู้มาเป็นล้าน ถามว่าชอบความเสี่ยงไหมก็ไม่รู้สิ มันก็ต้องทำ ถ้าไม่ทำมันก็ไม่ใช่เทพ เราไม่เป็นไร เรามองว่ามันผ่านไปแล้ว ให้มันจบๆ ไปดีกว่า ถ้ากลัวเราจะไม่ทำ ครั้งนี้ที่ทำก็ทำให้ลูกหลาน จะได้มารวมตัวกันได้”
บอกไม่ชวน “น้อย โพธิ์งาม” ทำธุรกิจด้วยกัน ตั้งใจอยากให้เป็นธุรกิจเล็กๆ เพื่อลูกหลานแต่กลายเป็นโครงการใหญ่
“เราก็ไม่ได้ไปบอกเขา เราก็ไปชวนเขามาดูแล้วแต่ดูเหมือนเขาไม่อยากจะทำ หญิงเองเขาก็ไม่อยากให้แม่เขาไปขายของแบบนี้แล้ว เขาอยากให้แม่เขาพักผ่อน มันก็แล้วแต่ไง แต่ที่ตรงนี้มันเป็นที่ของลูกหลานอยู่แล้ว ใครจะมาขายเมื่อไหร่ก็ได้ เราอยากหัดให้มันขายของ มันจะได้มีรายได้ ทุกคนเตือนตั้งแต่ป๋าทำธุรกิจครั้งแรก ก็เตือนกันมาทุกครั้ง เราก็จำไม่ได้ว่าเราทำมาแล้วกี่ธุรกิจ ถ้าเราเอาแต่ไปจำเราจะไม่ได้เริ่มต้นใหม่ เราก็ทิ้งมันไปเลยแล้วตั้งใจใหม่ มองว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ”
“ที่เราทำมันใหญ่ๆ ทั้งนั้นอยู่แล้ว อันใหม่นี่ก็ใหญ่มากเหมือนกัน เราก็คิดว่ามีอะไรนิดหน่อยพอให้ลูกเราได้ทำงาน พอติดต่อไปติดต่อมามันก็กลายเป็นโครงการใหญ่ ก็ไม่รู้จะพูดยังไง เป็นมนุษย์ถ้ามัวแต่กลัวปัญหาก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี ส่วนงานในวงการก็ยังทำ ยังไม่ได้ออกจากวงการไปไหน ตอนนี้มีละครอยู่ 4-5 เรื่อง เราก็มีงานของเราแหละ ที่ทำก็อยากจะทำให้ลูกหลานเท่านั้นเอง ของเรามีรายได้ชัดเจนอยู่แล้ว หวงก็แต่ลูกหลาน ถ้ามีตรงนี้เราก็จะได้หายห่วง”
เปิดใจทะเลาะ “น้อย โพธิ์งาม” บอกอีกฝ่ายห่วงไม่รู้จังหวะ ห่วงจนเลอะเลอะ ตอนแย่ๆ ทำไมไม่ห่วง
“ป๋าด่ามันยิ่งกว่านั้นอีก น้องนุ่ง ป๋าเลี้ยงมันมา ล้างตัวล้างทุกอย่างให้มัน ป๋าเป็นพี่มัน อุ้มมันมาแต่เล็ก คือบางครั้งมันไม่ใช่เรื่องของเรานะ เราก็บอกว่างั้นอย่างมายุ่งเลย เฉยๆ เถอะ ไม่ใช่จะมาแบบไม่ได้กูจะยุ่ง อีนี่มันพูดไม่รู้เรื่องนะ เป็นห่วงก็ให้มันรู้จังหวะหน่อย ไม่ใช่เป็นห่วงจนเลอะเทอะมันก็ไม่ใช่แล้ว จะมาห่วงทำไมช่วงนี้ ตอนกูจะแย่มึงไม่มาห่วงกูบ้างว่ะ”
“ป๋าว่าป๋าเป็นงี้ป๋ามีโชคแล้ว โชคดีกว่าหลายๆ คน ไม่มีใครมาเจอมาลุยแบบป๋า สิ่งที่ป๋ามาเห็นมันยังไม่เห็น มันเหมือนเป็นกำไรชีวิต เราจะสนุกมากที่มันมีงานใหม่ของเรา ไม่ว่ามันจะเป็นงานอะไร มันทำให้เราใจพองโต แม้ตอนหลังจะเจ๊งเราก็จะเริ่มต้นใหม่ ถ้ายังคลานได้เราก็ยังจะคลานอีก ไม่ยอมตาย ผ่านมาก็ผ่านไปเดี๋ยวก็ทำใหม่”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |