xs
xsm
sm
md
lg

“มาดามเกต” ลั่นตัดขาด “ยุ้ย รจนา” ฉุนช่วยเหลือเพราะมนุษยธรรมแต่แว้งกัดเหมือนงูเห่า!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หนังคนละม้วน “มาดามเกต” รับช็อก! “ยุ้ย รจนา” แทงข้างหลังใส่ร้ายจนโดนสังคมประณาม ประกาศลั่นชีวิตต่อจากนี้ขอตัดขาด ลบทุกความทรงจำ พ้อนำตัวมาเลี้ยงดูเพราะมนุษยธรรม แต่กลายเป็นงูเห่าฉกกัดไม่ปล่อย ทำดีแต่ไม่ได้อะไร เสียทั้งเงิน - ชื่อเสียง - สุขภาพจิต

จากกรณีที่อดีตนางแบบโลก “ยุ้ย รจนา เพชรกัณหา” ได้ออกมาเปิดใจผ่านรายการคนดังนั่งเคลียร์ ระบุว่าได้หนีออกมาจากบ้านของ “มาดามเกต พิมพ์ลดา ยอดไชยเกียรติ” แฟนคลับที่พาไปเลี้ยงดู เพราะรู้สึกอึดอัดเหตุอีกฝ่ายมีพฤติกรรมเหมือนไล่ตนทางอ้อม อีกทั้งตนยังไม่มีงาน ไม่มีเงิน จนทำให้ต้องระเห็จออกมาจากบ้านพร้อมกับคุณแม่ เร่ร่อนนอนวัดจนเป็นที่น่าเวทนา

ล่าสุดคู่กรณีอย่าง “มาดามเกต” ก็ขอโอกาสเคลียร์ผ่านรายการ A-POP เที่ยงบันเทิง ณ สถานีโทรทัศน์ อมรินทร์ทีวี เอชดี ซอยอรุณอมรินทร์ 39 ยืนยันยุ้ยขาดการรักษาทำให้อาการกำเริบ พูดจาวกวนไม่รู้เรื่อง พ้ออุตส่าห์นำตัวมาเลี้ยงดูแต่กลับโดนแทงข้างหลัง ประกาศลั่นขอตัดขาดจากกันนับแต่วันนี้

“ความรู้สึกตอนนั้นกับตอนนี้ ก็ยังรักยุ้ยดีอยู่เหมือนเดิม ไม่เคยทะเลาะกันค่ะ แต่ ณ วันนี้ออฟฟิศของเรา ที่ให้ยุ้ยกับแม่อยู่เราไม่ได้อยู่ด้วย แต่จะเข้าไปดูบิลน้ำไฟเข้าไปเคลียร์บิลดูจดหมายดูเอกสารสักครั้งหนึ่ง แต่ทุกวันจะโทร. หายุ้ย ถ้าไม่ได้เข้าไป ก็จะต้องพูดคุยด้วยในฐานะคนดูแลใกล้ชิดว่าพัฒนาการของยุ้ยเป็นยังไงบ้าง แต่สองเดือนมาแล้ว สองนัดมาแล้วไม่ได้ไปกับยุ้ย ก็คิดว่ายุ้ยไม่ได้ไปหาหมอไงคะ มันเลยเกิดอาการพูดจาวกวนแบบนี้ ยุ้ยอาจจะไม่ได้รับยา เพราะเรามีข้อมูลว่ายุ้ยไม่ได้ไป ยืนยันว่าไม่เคยทะเลาะกันไม่มีการตบตี จะตบตียังไงเราสูง 159 ยุ้ยสูง173 ไปสู้กับยุ้ยเราก็ตายสถานเดียวสิ ยุ้ยตัวใหญ่มากนะ ถามว่าไล่ไหม ไม่เคยปริปากไล่สักคำ ไม่เคยคิด ตั้งแต่วันแรกเมื่อออกจากโรงพยาบาล ไปรับยุ้ยกับญาติแล้วก็สามี คุยกับคุณหมอวันนั้นได้ซื้อพวงมาลัยสดให้ยุ้ยไหว้เจ้าที่ของโรงพยาบาลว่ายุ้ยตั้งสติให้ดีนะ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายที่เราจะเข้ามาแอดมิดกับโรงพยาบาลนี้ จากนี้ไปให้ยุ้ยหายขาด ให้ทำมาหากิน ทำอาชีพเลี้ยงตัวเองซะอย่าเข้ามาอีก เพราะ 15 ปีแล้วที่วนเวียนเข้าๆ ออกๆ ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย”

“จุดแตกหักคือเราเข้าไปที่ออฟฟิตคืนวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมาประมาณ 1ทุ่มเข้าไปทำธุระ 5 นาทีแล้วก็กดออดประตูยุ้ยก็วิ่งมาเปิดให้ ครั้งแรกเลยที่เราเห็นเขา คือเขาอาการไม่ค่อยดีแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิดว่ากำลังทำธุระข้างบน แล้ววิ่งมาข้างล่างเลยลนลานรึเปล่าก็คิดอย่างนี้ ลักษณะเหมือนนอาการไบโพล่าร์ เป็นแบบลุกลี้ลุกลน ไม่สบสายตา เราก็เฉยๆ เพราะว่าสามีจอดรถอยู่หน้าบ้าน เสร็จปุ๊บ ยุ้ยก็มาบอกเราว่าจะโท.รหามาดามอยู่พอดีเลย ก็พูดปากคอสั่น เขาบอกว่าเขาจะไปต่างจังหวัดจะไปวิปัสสนา ไปอยู่ในป่าสัก 2 อาทิตย์”

“ปกติเราไม่เคยเห็นเขาไปนะ เขาบอกว่าจะไปต่างจังหวัดสัก 2 อาทิตย์ จะเอากุญแจบ้านไว้ที่ไหน เราก็ถามว่าจะไปวันไหนละ ทำไมถึงร้อนรนขนาดนี้ เขาบอกอีก 3 วันถึงจะไป เราก็บอกว่าถ้า 3 วันไปเวลาไหนก็โทร.บอกจะได้บอกได้ว่าให้เอากุญแจบ้านไปไว้ที่ไหน เขาก็บอกว่าอีก 3 วันเพื่อนจะมารับ พอคำว่าเพื่อนจะมารับ เราก็เริ่มสงสัยทันที เราซักถามเขายาวว่าเพื่อนยุ้ยชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ยังไงถามหมด”

เผยกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่ายุ้ยพาผู้ชายร่างใหญ่มาขนของตอนตี 4 ก่อนหนีออกจากบ้าน รับตกใจเพราะที่บ้านมีสินค้ามูลค่าหลายล้าน
“เราถามเพราะเป็นห่วง แล้วเขาก็บอกว่าเพื่อนเจอกันในโรงพยาบาลสมเด็จ ยุ้ยไม่อยากจะพาดพิงพูดเรื่องราวของเขาเยอะไม่อยากจะให้มาดามรู้ เราก็ถามว่ายุ้ยจำได้ไหมครั้งที่แล้วยุ้ยอยู่กับเราก็โดนข้อหาจากสังคมมากมาย ครั้งนี้ถ้ายุ้ยจะไปไหนยุ้ยควรบอกกับเรานะเพราะยุ้ยอยู่ในการดูแลของเรา อย่าทำให้มีปัญหามีข่าวเสียอีก ยุ้ยต้องบอกว่ายุ้ยอยู่ไหน ปลอดภัยดีไหม ไปกับใครวันไหน สุดท้ายแล้วเราคุยกับเขาประมาณ 1 ทุ่ม ตอนตี 4 มีกล้องวงจรปิดในบ้านจับภาพได้ว่ายุ้ยพาผู้ชายร่างกายกำยำเข้าบ้านช่วงระยะเวลาตี 3-4 มาขนของในบ้านไปใส่รถที่จอดเทียบอยู่หน้าบ้าน คือขนของยุ้ยนั่นแหละค่ะ แต่ว่าบ้านเราตรงนั้นเป็นสต็อกสินค้ามูลค่าหลายล้านบาททุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในนั้นหมดแล้วไม่มีคนอยู่ มีแม่กับยุ้ยแค่สองคนที่อาศัยอยู่ช่วงนั้นนะเขาเอาคนอื่นคนนอกเข้ามาขนแล้วเอากุญแจบ้านไปทิ้งไว้กับเด็กปั๊มน้ำมันใกล้ๆ บ้าน เราไปซื้อของที่ปั๊มนี้ทุกวันก็ไปเจอเด็กปั๊ม เขาก็วิ่งหน้าตาตื่นมาบอกว่าพี่มาดามครับพี่ยุ้ยเอากุญแจมาฝากไว้กับกะกลางคืนตอนตี 4 เราก็ตกใจว่าทำไมคุณไปกลางคืนไหนบอกอีก 3 วันมีเพื่อนมารับ ทำไมพูดแล้วไปเลย ตอนนั้นมือสั่นไปหมดเลย ตกใจว่ายุ้ยไปไหนยังไง เสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็จับกุญแจวิ่งไปที่ออฟฟิต พอขึ้นไปข้างบนปรากฏว่าของก็ไม่มี เหลือแต่ซากที่นอนของแม่เขา เราก็เลย โทร.หาสามีว่าขึ้นมาข้างบนหน่อยยุ้ยเก็บของไปหมดแล้ว แฟนพี่ก็บอกใจเย็นๆ”

“ถ้ายุ้ยคิดได้เองทำไมยุ้ยไม่คิดตั้งแต่วันแรกเดือนแรกหกเดือนแรกที่อยู่กับเรา ณ ปัจจุบันนี้ยุ้ยอยู่กับเราร่วมปีแล้วนะคะ ก่อนหน้านั้นทำไมยุ้ยคิดไม่ได้ว่าเราร้าย ทำไมคิดไม่ได้ละว่าเราดุเรากักขังเขาเพราะสถานที่นี้ยุ้ยอยู่มาตั้งแต่ต้น สภาพเดิม บรรยากาศเหมือนเดิม ทุกไมยุ้ยคิดไม่ได้ว่าเราร้ายหรือไล่หรือแววตาดุดันกรี๊ดกร๊าดใส่เขาอย่างที่ข่าวออกมา”

ยันไม่เคยใช้ชื่อเสียงยุ้ยหากิน เพราะอีกฝ่ายไม่เคยทำอะไร
“ทุกวันนี้เราทำมาหากินเลี้ยงยุ้ยค่ะ ยุ้ยไม่เคยทำมาหากินอะไรช่วยเราเลย ค่าใช้จ่ายอย่างบ้านที่เขาอยู่ ค่าน้ำคาไฟเดือนประมาณ 3 พัน เราออกค่าน้ำเดือนละ 3 พัน ดูแลเรื่องอาหารการกิน ไข่ ปลากระป๋อง มาม่า น้ำ ข้าวสาร ทุกอย่างมีสำรองไว้ให้ กระติกน้ำร้อนหม้อหุงข้าวมีให้ถ้ายุ้ยอยากกินอะไรนอกเหนือจากนี้ ข้างๆ บ้านเป็นร้านอาหาร เป็นร้านส้มตำยุ้ยลงบิลได้เลยเดี๋ยวเรามาเคลียร์เองทุกเดือนเพราะหน้าบ้านเราให้ร้านส้มตำเขาวางขายของ แต่ยุ้ยไม่ค่อยกินหรอกอาหารพวกนี้นานๆ ครั้งเพราะเขาเป็นนางแบบอินเตอร์”

เผยสาเหตุเป็นเพราะยุ้ยกลับมาใช้โทรศัพท์ อีกทั้งมีคนยุยงอยู่เบื้องหลัง วางพล็อตเรื่องให้ตนเป็นนางมารร้าย
“เราก็ยังมึนๆ อยู่นะว่าทำไมยุ้ยถึงเปลี่ยนถึงดื้อในระยะเวลากระชั้นชิดเพราะว่าตอนที่ไปรับยุ้ยออกมาจากโรงพยาบาลยุ้ยก็มีสติสัมปชัญญะดีนะคุณหมอบอกว่ายุ้ย คุณเป็นโรคประสาทเกี่ยวกับสมองคุณห้ามใช้โทรศัพท์ เพราะถ้าสัญญาณโทรศัพท์จะทำให้สมองคุณยิ่งเบลอยิ่งเพี้ยนจัด ห้ามใช้ แล้วยุ้ยก็บอกผู้สื่อข่าวบอกทุกรายการว่ามีอะไรให้ติดต่อมาดามเกต ยุ้ยใช้โทรศัพท์ไม่ได้ แต่ว่าวันนี้ยุ้ยไปออกข่าวว่าเรากีดกันไม่ให้ใช้โทรศัพท์มือถือ ซึ่งไม่ตรงกัน หนังคนละม้วน ณ วันนี้ทำไมเหตุการณ์ถึงเกิดขึ้นพัลวันกลับตาลปัตรไปหมด เพราะยุ้ยมีโทรศัพท์ใช้แต่ไม่ใช่ของเขาเพราะพี่ชายเขากับเราไม่ให้ใช้เพราะปัญหาเกิดจากการใช้โทรศัพท์ ถามว่ายุ้ยเอาโทรศัพท์ที่ไหนมาใช้ ตอนนี้ยุ้ยมีแม่มาอยู่ด้วย แม่มีมือถือใช้ ยุ้ยเอามือถือแม่ โทร.หาคนโน้นคนนี้ก็เลยเป็นเรื่อง

ข่าวที่บอกว่ากักขัง หน่วงเหนี่ยวเขา ทำให้เราดูเป็นนางมารร้ายมาเลยนะ เราไม่เคยกักขังค่ะ ยุ้ยอยู่อิสระ เข้าออกได้ 24 ชม.บ้านทั้งบ้านเราให้ยุ้ยกับคุณแม่อยู่ โยนกุญแจให้เลยค่ะ ยุ้ยสามารถเดินได้ตั้งแต่ 7 โมงเช้ายัน 4 ทุ่มหรือบางคืนเดินทั้งคืนด้วยซ้ำค่ะ ช่วงนี้ขาดยาแล้ว ชนวนเหตุที่ทำให้เขาออกจากบ้าน เราคิดว่าเป็นบุคคลที่ 3 4 5 ที่ยุ้ยคบอยู่ซึ่งเป็นนักข่าวกลุ่มเก่าที่กำลังมีข้อพิพาทกับเราเรื่องคดีอยู่ นอกจากเป่าหู คงต้องขายไอเดีย ยืมมือยุ้ยมาทำลายเราเรื่องของคดี ซึ่งมันเกี่ยวโยงกัน แต่ถ้าจะให้เท้าความ คือวันที่ 16 ธันวาคม ยุ้ยมีรายการรายการหนึ่งที่โมโน 19 เราไม่ว่างก็เลยติดต่อน้องประสานงานให้ลงมารับยุ้ยกับแม่ข้างล่างตึก แล้วพอขึ้นไปกับแม่อัดรายการประมาณ 10 นาทีก็มีการพูดคุยกับนักข่าวคนนี้ แล้วเขาก็มีการแลกเบอร์กัน หลังจากนั้นกลับมายุ้ยมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เราคิดว่ายุ้ยคงไม่ได้ปรึกษาว่าจะเอายังไง แต่ทางโน้นคงวางพล็อตเรื่องให้ ทำให้ยุ้ยต้องทำแบบนี้

“หลังจากเจอรายการวันนั้น ยุ้ยหลบหน้าเราไม่ค่อยเจอเรา แล้วพอเราบอกซ้ายยุ้ยจะไปขวาเพราะยุ้ยเข้าใจว่าไม่ซบบ้านเราแล้ว มีที่ซบใหม่แล้ว ความคิดของเขาเรารู้ดีมาตลอดว่าอยู่กับเรา เราพยายามจะสร้างให้เขามีธุรกิจ มีรายได้ มีกิจกรรมชีวิตจะได้ไม่เหงาไม่เบื่อ ก็เลยสร้างแบรนด์หมวกให้เขาขาย ให้รู้จักค้าขายแต่เขาไม่ชอบ เราก็เลยรู้ว่าเหมือนยัดเยียดให้น้อง แต่เรามองถึงอนาคตข้างหน้าเรามองว่าการมีธุรกิจมีโอกาสเป็นสิ่งที่ดีกับเขาเพราะว่าการเป็นนางแบบไม่สามารถจะหากินได้ตลอดชีพ ก็อยากจะสร้างโน่นสร้างนี่ให้เป็นที่ติดตาแฟนคลับ แต่คนพวกนั้นกลับมาออกข่าวว่าเราเอายุ้ยมาหากิน แต่จริงๆ ไม่ได้เอายุ้ยมาหากินเพราะเราลงทุน 100%”

รับสุดช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากนี้ขอลบความทรงจำเกี่ยวกับยุ้ยออกจากชีวิตทั้งหมด พ้อกลายเป็นงูเห่าฉกกัดไม่ปล่อย
อาการของโรคนี้ก็คือเดินทั้งวัน ดื้อ ตาขวางพูดไม่รู้เรื่อง วกวน ทำอะไรก็ได้อย่างที่ใจอยากทำ โดยที่ไม่แคร์ใครและก็ระแวงคนใกล้ตัวซึ่งเรารับแรงปะทะเกี่ยวกับการระแวงของเขาบ่อย เขาก็จะมีดีๆ ร้ายๆ นะแต่ว่าตอนที่ออกมาจากโรงพยาบาลก็มา 2-3 เดือน แต่ช่วงหลังตั้งแต่มีคุณแม่มาอยู่ด้วยเราก็ไม่ได้ตามตูด 24 ชม.ก็คือยกภาระหน้าที่ตรงนี้ให้แม่ลูกเขาดูแลกัน ใกล้ชิดกันอย่าลืมว่าถ้าสื่อมองย้อนกลับไปหลายปีที่แล้วต้องจำได้ว่ายุ้ยไม่เคยเจอแม่เขามานานแสนนาน แม่เขากับเขาไม่ถูกกันแต่ไหนแต่ไร”

ถามว่าเสียใจไหม เสียใจมาก คือช็อก ไม่เคยคิดว่าการเลี้ยงดูคนๆ หนึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นงูเห่าที่ฉกกัดเราไม่ปล่อย แล้วเราก็มองว่าสุดท้ายแล้วเราทำแต่เสียชื่อเสียเสียง เสียเงินเสียสุขภาพจิตทุกอย่างเพื่ออะไร วันหนึ่งเราก็ไม่ได้อะไรจากยุ้ย แถมยุ้ยมาทิ่มแทงข้างหลังเที่ยวป่าวประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่าเราเลว ชั่ว กักขัง เรามองว่ายุ้ยทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ”

“พูดได้เลยว่าเราเลี้ยงยุ้ยตอนแรกเพราะสงสาร เขาไม่มีใครจริงๆ เลี้ยงเพราะมนุษยธรรม แม้กระทั่งสัตว์สี่เท้าหลงเข้าบ้านเรายังเลี้ยงถูกไกม แล้วนี่คือคน ก็สงสารเขาแต่ความสงสารวันนั้นมาทิ่มแทงเรา ให้สังคมประณามว่าเรารังแก แต่บอกได้เลยเราไม่เคยรังแก เรารักเขาโอบกอดเขา ให้ทุกอย่างที่ชีวิตเขาขาดแม้กระทั่งความอบอุ่น แต่เรารู้มาตลอดว่าเขาพยายามที่จะตั้งเกราะกำบังไม่อินกับเรา เขาอยากจะมีแค่ที่พักอาศัยที่ซุกหัวนอนเท่านั้นเอง”

หลังจากนี้ตัดขาดเลยค่ะ ลบทุกสิ่งทุกอย่างที่ชื่อรจนา เพชรกัณหา ออกจากชีวิต ออกจากครอบครัวรวมไปถึงพยามยามดีลีตจากความทรงจำด้วย เพราะเรามองว่าเราให้เขาเกินร้อยแต่เขาให้เราแค่ 10 %เพราะก่อนหน้านี้ที่เราดูแลแล้วเขามีปัญหา คือตัวเรามีปัญหากับพวกนักข่าวกลุ่มเก่า เราก็บอกให้ยุ้ยช่วยโทรศัพท์ไปหานักข่าวแล้วบอกว่าอย่ามายุ่งกับเราได้ไหม เพราะเขาทำลายเรา อยากให้ยุ้ยอยู่ตรงกลาง แต่ยุ้ยบอกว่าเขาไม่โทร. เพราะเขาไม่ได้มีปัญหากับเขา มาดามมีปัญหาก็ต้องเคลียร์เอง ผ่านมาไม่กี่เดือนก็เจอเหตุการณ์นี้ ซึ่งวันนี้มันเป็นเรื่องจริงที่ยุ้ยกลับไปหาเขา แล้วเขาก็บอกสอนพล็อตเรื่องให้ทุกอย่างให้ยุ้ยพูดว่าเราร้าย เรายังงงเลยว่าสายชาร์จแบตเขามาอยู่กับเราได้ยังไง เพราะเราไม่เคยขึ้นไปข้างบนบ้าน เราปล่อยให้เขาอยู่อิสระกับแม่ อยู่แบบส่วนตัว”

“แล้วที่บอกว่าไปบีบบังคับอยากรู้ว่าบีบตอนไหน เพราะว่าอาทิตย์หนึ่งเราไม่เคยเข้า บางทีเข้าไปตอน 2 ทุ่มซึ่งเขาขึ้นข้างบนแล้วเราไม่มีโอกาสได้เจอเขาเลย แล้วตัวเรารักษาสัจจะเพราะเราไม่เบลอ เพราะเราไม่เคยเทกยา เราบอกทุกคนว่ายุ้ยอยู่ในการดูแลของเรา และเราจะทำให้ดีที่สุด อะไรที่ช่วยได้ก็จะช่วย อะไรที่สนับสนุนได้ก็จะ แล้วกลายมาเป็นว่าเราไล่เขาออก ที่ตรงนั้นมันเป็นที่ว่างทั้งตึกไม่มีคนอยู่แล้ว มันจะเปลืองอะไร น้ำไฟเราก็จ่ายอยู่แล้ว ก็ให้เขาอยู่เอาบุญก็แค่นั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะไปไล่เขา”






ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กำลังโหลดความคิดเห็น