xs
xsm
sm
md
lg

“อาร์เอส” ปัดฟ้อง “ฟอร์ด” แค่เรียกตัวเป็นพยาน โต้ลั่นเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงมหาโหด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชี้คนไทยไม่คุ้นเคย “อาร์เอส” ปัดฟ้อง “ฟอร์ด สบชัย” ยันแค่เรียกตัวเป็นพยานเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง รับหวั่นภาพลักษณ์องค์กรติดลบ เชื่อไม่ทำเกินกว่าเหตุ ไม่เลือกปฏิบัติ ยึดหลักการที่ถูกต้องตามสากล

สร้างความฮือฮาอีกครั้ง สำหรับกรณี “ฟอร์ด สบชัย ไกรยูรเสน” โดยหมายเรียกจากทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เรียกตัวให้ไปเป็นพยานในคดีที่บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) แจ้งความดำเนินคดีผู้ว่าจ้างฟอร์ดให้ไปร้องเพลงหยุดตรงนี้ที่เธอในงานแต่งงาน ซึ่งเพลงดังกล่าวเป็นลิขสิทธิ์ของอาร์เอส โดยฟอร์ดยืนยันว่าตนร้องเพลงด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่เพื่อการค้า จนทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องการจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลงของอาร์เอสเป็นจำนวนมาก ว่าทำเกินกว่าเหตุไปหรือเปล่า

ล่าสุด ได้มีโอกาสเจอตัว “เณร ศุภชัย นิลวรรณ” รองกรรมการ ผอ.อาวุโส - กลุ่มธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอสฯ ที่เข้ามาดูแลบริหารจัดการภาพรวมธุรกิจเพลงทั้งหมดของอาร์เอส ประกอบด้วย ค่ายอาร์สยาม, ค่ายกามิกาเซ่, ค่ายเยส! มิวสิค, ค่ายการ์เด้น มิวสิค, ค่ายโชว์ มิวสิค รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวพันกับเพลง และในเรื่องการจัดเก็บลิขสิทธิ์ในเชิงกลยุทธ์ต่างๆ เจ้าตัวก็ได้เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าว ยืนยันคนไทยไม่คุ้นเคยกับการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลง ทั้งที่ปฏิบัติยึดหลักสากล เผยไม่ทำเกินกว่าเหตุกรณีฟอร์ด แต่รับกังวลว่าคนจะมองภาพองค์กรติดลบ

“เรื่องหลักเกณฑ์ของลิขสิทธิ์มันค่อนข้างชัดเจนอยู่แล้ว มันอาจจะมีขรุขระบ้างในส่วนของการปฏิบัติ บวกกับการสื่อสาร ความจริงอีกอย่างข่าวสื่อสารอีกอย่างหนึ่ง พอเกิดทัศนคติแบบนี้ค่ายเพลงก็ดูไม่ดี เลือกปฏิบัติหรือเปล่า แต่จริงๆ มันไม่ใช่ มันไม่ใช่เรื่องของเรากับนักร้อง เราโฟกัสไปที่สถานประกอบการ ห้องจัดเลี้ยงงานต่างๆ ซึ่งคนพวกนี้เขาต้องเสียค่าลิขสิทธิ์อยู่แล้ว เหมือนจ่ายค่าน้ำค่าไฟเพลงที่เขานำไปใช้ก็ต้องจ่าย ที่มีปัญหาคือว่าเราทำหนังสือไปแล้ว 2 - 3 ครั้ง ให้ความรู้ไปแล้วแจ้งเตือนไปแล้วก็ยังเพิกเฉย พอมีการนำเพลงในส่วนของอาร์เอสไปร้องมันก็ผิดระเบียบ เราก็เลยดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ แล้วเจ้าหน้าที่เขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เขาก็ต้องการพยานหลักฐานเขาเลยทำหนังสือแจ้งไปทางคุณฟอร์ด พอหนังสือถูกเผยแพร่ออกมาคนไม่ทราบขอเท็จจริงเดิมก็เลยอาจจะมองว่าค่ายเพลงไปฟ้องฟอร์ดหรือเปล่าซึ่งจริงๆ แล้วไม่ใช่”

การที่คนทั่วไปมองว่าอาร์เอสทำเกินกว่าเหตุ นั่นเป็นสิ่งที่คนมอง แต่นี่คือสิ่งที่สากลเขาทำกัน ที่ผ่านมาคนไทยอาจจะไม่คุ้นเคยเรื่องของการจ่ายลิขสิทธิ์ การตลาดถูกแสนถูกยังไงก็แล้วแต่ก็ยังรู้สึกแพงอยู่ดีตามประสา จริงๆ ตามห้องจัดเลี้ยงแกรนด์บอลลูมนี่จ่ายค่าลิขสิทธิ์ปีละแค่หมื่นกว่าบาทเองให้กับอาร์เอส มีกี่เพลงก็ร้องไป หมื่นกว่าบาทกับธุรกิจใหญ่โตผมว่ามันโอเคนะ แต่เมื่อเขาไม่เคยจ่ายก็รู้สึกว่ามันยังแพงอยู่ดี ก็ไม่อยากจ่าย มันก็ต้องค่อยๆ ใช้เวลาสื่อสารให้เขาเข้าใจ เราก็กังวลเหมือนกันนะว่าภาพที่ออกมาประชาชนจะมองอาร์เอสในแง่ลบหรือเปล่า แต่เราบอกเลยว่าทุกอย่างที่เราทำเราทำอยู่บนหลักการที่ถูกต้องทั้งหมด ข้อเท็จจริงที่รับทราบกันอาจจะมีขาดตกบกพร่องไปในบางมุม”

เผยนักร้องทุกคนต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลง หากออกจากอาร์เอสเอาเพลงไปร้องก็ต้องจ่าย “ใบเตย” ก็ไม่เว้น
“นักร้องทุกคนโดยหลักการแล้วเขาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ทุกคนแม้กระทั้งนักร้องปัจจุบันในอาร์เอสเองเราเก็บนะ แต่เก็บในรูปแบบของสัญญาที่เราหักเขาอยู่แล้ว 30 เปอร์เซ็นต์มันครอบคลุมหมดในเรื่องของลิขสิทธิ์เพลงด้วย วันใดวันหนึ่งที่เขาไม่ได้อยู่กับเราถ้าเขาเอาเพลงเราไปใช้เขาก็ต้องจ่ายเพราะเราต้องจ่ายคนอื่นๆ ทีมงานอะไรอีก คือทุกอย่างมันมีค่าใช้จ่าย เพียงแต่ว่าคนทั่วเข้าใจว่านักร้องไม่ได้จ่ายอะไร แต่จริงๆ แล้วเขาจ่าย ออกไปร้องโชว์ตามงานเราก็เก็บ เราเก็บมาให้นักแต่งเพลง เราเองหักเงินนักร้องมาแบ่งให้ให้นักแต่งเพลง 10 เปอร์เซ็นต์ เรื่องพวกนี้มันยิบย่อยมาก สำหรับโชว์ของนักร้องอาร์สยามเองผมเก็บนักร้อง 10 เปอร์เซ็นต์ ให้ทีมงานและคนทำเพลง สมมุติค่าตัวใบเตย 2 แสนบาท เราหัก 2 หมื่นบาทเข้าทีมงานต่อโชว์ 1 ครั้ง เพื่อเป็นค่าดำเนินการตรงนี้เนื่องจากปัจจุบันค่าซีดีค่าดาวน์โหลดอะไรพวกนี้มันไม่ได้อะไรแล้วเราต้องเข้าใจธุรกิจตรงนี้ด้วย ตัวผมเองต้องการให้มันวินๆ กับทุกฝ่าย ผมพยายามจะจัดสรรเรื่องของผลประโยชน์ให้ทุกฝ่ายกับธุรกิจเพลงที่มันเกิดขึ้น วันนี้เราพยายามจัดระเบียบมันอยู่ ผมไม่เชื่อเรื่องการเอาเปรียบใครแล้วจะเจริญผมเชื่อว่าการที่ไปเอาเปรียบใครทำธุรกิจอะไรมันก็ไม่เจริญอยู่แล้ว มันทำอะไรได้ไม่ไกล ฉะนั้น เราจึงพยายามจัดสรรทุกอย่างให้ลงตัว แต่ทีนี่พอจากนโยบายไปแล้ว ในส่วนของการปฏิบัติมันก็มีติดนั่นติดนี้บ้างนิดหน่อย แต่ถ้าเกิดปัญหาทางเราพร้อมชี้แจงให้เข้าใจอยู่แล้ว เราทำธุรกิจเพลงเราต้องการลูกค้า ไม่ได้ไล่ลูกค้า”

ยันไม่บวกเพิ่มค่าตัวศิลปินอาร์สยาม บอกการตลาดจะเป็นตัวกำหนด
“ลิขสิทธิ์เพลงก็เหมือนบ้านครับคนสร้างอาจไม่ใช่เจ้าของก็ได้ เราไปซื้อบ้านไปเช่าบ้านเขาอยู่เขาก็ต้องเป็นเจ้าของ ถ้าเพลงไหนเขาแต่งเองแล้วเขาขายเพลงให้เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทบริษัทก็เป็นเจ้าของ เวลาใครเอาไปเล่นเพลงของเขาผมก็แบ่งค่าลิขสิทธิ์เพลงให้เขาเป็นครั้งๆ ไป แต่ลิขสิทธิ์เพลงของคุณฟอร์ดมันเป็นยุคแรกๆ ที่ยังไม่มีอะไรแบบนี้”

“ค่าตัวศิลปินอาร์สยามที่บอกว่าสูงขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับบวกค่าลิขสิทธิ์อะไรนะครับ ราคาเป็นเรื่องของตลาดถ้าสูงมากไปคงไม่มีคนจ้าง ตลาดจะเป็นคนกำหนดราคาอยู่แล้ว ถ้าเรากำหนดราคาเรากำหนดได้แต่ถ้ากำหนดแล้วไม่มีคนซื้อโชว์เราจะมีประโยชน์อะไรตลาดจะเป็นตัวกำหนด ยืนยันไม่เอาเปรียบศิลปินนักแต่งเพลงแน่นอน เราให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายอันนี้เป็นสิ่งที่เราชัดเจนมากและชัดเจนมานานแล้ว”




ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กำลังโหลดความคิดเห็น