xs
xsm
sm
md
lg

สั่งพักราชการ ตร.แปดริ้วรุมกระทืบ-ปืนจ่อหัวทนาย “อาร์เอส” เดินเก็บค่าลิขสิทธิ์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตร.สอบปากคำ
ASTVผู้จัดการ - สภาทนายความแถลงความคืบหน้าคดีทนายความแผนกจัดเก็บลิขสิทธิ์เครืออาร์เอส โดนตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ฉะเชิงเทรารุมทำร้ายแถมชักปืนจ่อศีรษะ ขณะดำเนินการเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงในร้านแห่งหนึ่งในตัวเมืองแปดริ้ว ล่าสุด ผบ.ตร.สั่งพักราชการ ตร.ที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว

วันนี้ (9 ธ.ค.) ที่สภาทนายความ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ พร้อมด้วยนายนิวัติ แก้วล้าน เลขาธิการสภาทนายความ นายวิเชียร ชุบไธสง อุปนายกฝ่ายสวัสดิการและสิทธิประโยชน์ นายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ กรรมการและผู้อำนวยการ บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) และนายธรรมวัฒน์ คงพิกุล ผู้จัดการแผนกปฏิบัติการ บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเอาผิดต่อคนร้ายที่รุมทำร้ายนายธรรมวัฒน์ คงพิกุล ผจก.แผนกปฏิบัติการ บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด ในเครือบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ในขณะเข้าไปปฏิบัติงานการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ร้านศรินทิพย์ ในตัวเมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยถูกรุมทำร้ายจากชายฉกรรจ์ 5 คน อ้างว่าเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.ฉะเชิงเทรา ร่วมกันรุมทำร้ายร่างกายในร้านที่เกิดเหตุ ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมาแต่คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่าใด

นายเดชอุดมกล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องของนายธรรมวัฒน์ที่โดนทำร้ายร่างกายขณะที่ปฎิบัติงานเกี่ยวกับการตรวจสอบการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์เพลงเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 57 นายธรรมวัฒน์เป็นทนายความ ใบอนุญาตเลขที่ 707/2553 ลงในพื้นที่เพื่อสืบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ลิขสิทธิ์ทางวรรณกรรมและดนตรีในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่ในระหว่างที่ชี้แจงอยู่นั้น บริเวณร้านศิรินทิพย์มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่งชุดนอกเครื่องแบบเข้าทำการตรวจค้นและทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ทนายผู้เคราะห์ร้ายคนดังกล่าวมาทราบในภายหลังว่าเป็นตำรวจจริงจึงได้แจ้งความร้องทุกข์ ก่อนเดินทางมาขอความเป็นธรรมที่สภาทนายความเนื่องจากสำนวนคดีไม่มีความคืบหน้า

ด้านนายวิเชียรกล่าวว่า ในวันเกิดเหตุมีการชักอาวุธปืนออกมาจ่อที่ศีรษะนายธรรมวัฒน์ แต่ทนายคนดังกล่าวได้ปัดปืนออกเนื่องจากเกรงว่ากลุ่มชายฉกรรจ์จะยิงใส่ทำให้ถึงแก่ชีวิต และหนึ่งในกลุ่มที่รุมทำร้ายได้พูดกันในกลุ่มว่าให้ไปหาถุงดำมาคลุมหัว แล้วมัดตัวไปโยนทิ้งในแม่น้ำบางปะกง ซึ่งนายธรรมวัฒน์ได้ไปที่สวนอาหารแห่งนี้มาก่อนหน้านี้แล้วเมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นมีการนัดแนะจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ในอีก 2 วันถัดมาก่อนโดนรุมทำร้ายดังกล่าว โดยเป็นเรื่องรับผิดชอบของสภาทนายความที่ต้องให้การช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

นายธรรมวัฒน์กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลา 22.00 น. ทางเจ้าของร้านศิรินทิพย์ได้นัดตนมารับเงินค่าลิขสิทธิ์เพลง แต่พอตนมาถึงได้พบกับชายฉกรรจ์เข้ามาพูดคุยขอตรวจค้น ตนจึงบอกกลับไปว่าให้แสดงบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่ก่อน แต่กลุ่มดังกล่าวไม่ยอมและได้ถามตนว่ามากันกี่คน พกปืนมากี่กระบอก มียากี่เม็ด มีเงินค่าเก็บลิขสิทธิ์เท่าไหร่ ก่อนรุมชกที่บริเวณลำตัว 4-5 ครั้ง และเอากระเป๋าสะพายที่มีเงินค่าลิขสิทธิ์ที่ตนได้ไปเก็บมาจำนวน 4,300 บาทอยู่ภายในไปตรวจค้นและยึดเอกสารของตนไว้ ตนก็พยายามแสดงบัตรเพื่อยืนยันว่าเป็นตัวแทนบริษัทฯ จริง แต่ชายกลุ่มดังกล่าวบอกว่าเป็นบัตรปลอม จากนั้นลากตนไปภายในห้องครัวที่อยู่หลังร้าน และช่วยกันรุมทำร้ายโดยมีเจ้าของร้านและสามียืนดู โดยให้ตนนอนคว่ำหน้ากับพื้น 1 ชั่วโมง รุมเตะ กระทืบ เป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ระหว่างที่ตนโดนทำร้ายมีชายคนหนึ่งได้ถามกับตนว่ารู้จักใครที่เป็นตำรวจหรือไม่ ตนตอบไปว่ารู้จักเจ้าหน้าที่ที่เป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนภูธร จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นตนก็ได้ยินชายคนดังกล่าวโทรศัพท์หาตำรวจคนนั้น และตนได้ยินว่ากระทืบไปแล้วให้ทำยังไง ต่อมามีผู้ชายในกลุ่มนั้นคว้าเอากุญแจรถยนต์ของตนไปค้นภายในรถ และนำเสื้อผ้ากับกางเกงมาให้ตนเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า โดยบอกว่าชุดสกปรกให้ไปเปลี่ยนชุด จากนั้นได้พาร่างกายที่สะบักสะบอมไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ภายหลังตนได้ไปสอบถามจากคนที่ตนรู้จักทราบว่าชาย 2 คนที่ร่วมกันทำร้ายตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ทราบชื่อว่าเปรม และดาบเหลิม

นายธรรมวัฒน์กล่าวต่อว่า หลังจากที่ตนกำลังรักษาตนที่โรงพยาบาลโสธราเวช ก็ได้มีพนักงานสอบสวนพร้อมผู้กำกับ สภ.เมืองฉะเชิงเทราในขณะนั้น มาสอบปากคำโดยนำภาพถ่ายที่เป็นทะเบียนราษฎรมาให้ตนดู ตนจึงบอกว่าไม่มีคนที่ก่อเหตุอยู่ในรูปภาพเหล่านั้น จากนั้นมีนักการเมืองท้องถิ่นติดต่อมาหาตนเพื่อให้กันตำรวจ 2 คนออกไปแล้วจะนำพลเรือนมารับโทษแทน ซึ่งในช่วงเช้าวันพรุ่งนี้ (10 ธ.ค.) พนักงานสอบสวนนัดตนไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา

นายเดชอุดม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นหนังสือทวงถามความคืบหน้าคดีดังกล่าวไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.สั่งพักราชการเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำผิดทันที ไม่ใช่เฉพาะคดีนี้อย่างเดียว รวมไปถึงคดีอื่นๆ ที่เจ้าพนักงานเป็นผู้เป็นผู้กระทำผิดเสียเอง
นายธรรมวัฒน์ คงพิกุล ทนายความผู้เสียหาย











กำลังโหลดความคิดเห็น