ฉะเชิงเทรา - เหยื่อแก๊ง 5 ชายฉกรรจ์อ้างตัวเป็นตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รุมตืับแบบดิบเถื่อนขณะเข้าเรียกเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์เพลงตามนัด ภายในร้านสวนอาหารแบบคาเฟ่ “ศรินทิพย์” โอดตำรวจเมืองแปดริ้วไม่จริงใจในการติดตามจับกุมตัวแก๊งคนร้ายมาดำเนินคดี เผยนำรูปบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กลุ่มผู้ก่อเหตุมาให้ชี้ตัวยืนยัน
วันนี้( 28 พ.ย.57) นายธรรมวัฒน์ คงพิกุล อายุ 55 ปี อาชีพทนายความซึ่งทำหน้าที่สายงานกฎหมายและปราบปราม ให้กับบริษัทจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทยจำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 203/18-20 ซ.ลาดพร้าว 15 ถ.ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ที่ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน อ้างตัวเป็นตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ใช้อาวุธปืนจ่อจี้บังคับก่อนลากตัวไปร่วมกันรุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในร้านอาหาร “ศรินทิพย์” ขณะที่เดินทางมาเก็บเงินค่าลิขสิทธิ์เพลง จากนางประภัสสร แซ่อี้ง เจ้าของร้าน ตามที่ได้นัดหมายกันไว้ เมื่อเวลา 22.00 น.ของคืนวันที่ 26 พ.ย.57 ที่ผ่านมานั้น ได้กล่าวถึงพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ในขณะนี้ว่า
ทาง ร.ต.ท.พิชิต วรรณารักษ์ พนักงานสอบสวนเจ้าเของคดี พร้อมด้วยนายตำรวจหลายนาย และ พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นั้น ได้เดินทางเข้ามาสอบปากคำตนเองถึงยังภายในห้องพักรักษาตัวของ รพ.โสธราเวช เมื่อช่วงใกล้ค่ำวานนี้ พร้อมกับได้นำภาพถ่ายของบุคคลจากทะเบียนราษฎร์ ซึ่งเป็นภาพถ่ายเก่าไม่ชัดเจนคล้ายกับภาพถ่ายประกอบในการยื่นคำร้องขอทำบัตรประชาชน รวม 4 ภาพ ซึ่งทั้ง 4 ภาพนั้นไม่มีภาพใดตรงกับใบหน้าของกลุ่มบุคคลที่ลากตนไปรุมทำร้ายเลยแม้แต่คนเดียว
ความจริงทางตำรวจนั้น น่าจะเอาภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทั้งหมดมาให้เลือกดูเพื่อชี้ตัว แต่กลับเอาภาพใครที่ไหนก็ไม่รู้มาให้ตนชี้ตัว จึงทำให้ไม่สามารถทำการชี้ตัวเพื่อยืนยันได้ ซึ่งการติดตามตัวผู้ก่อเหตุในคดีนี้นั้น น่าจะทำได้อย่างรวดเร็วเพราะผู้ก่อเหตุนั้นเป็นตำรวจ ทั้งที่ตำรวจเองก็บอกว่ารู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว แต่กลับเอารูปคนอื่นมาให้ชี้ตัว ซึ่งความจริงนั้นตำรวจควรที่จะเรียกเจ้าของร้าน และสามีเจ้าของร้านมาทำการสอบปากคำ ซึ่งจะทำให้หาตัวคนร้ายได้ไม่ยาก
ขณะเดียวกัน ตนนั้นยังรู้สึกสงสัยด้วยว่า น่าจะมีการวางแผนเพื่อเตรียมการกันเอาไว้ก่อนล่วงหน้าโดยที่เจ้าของร้านนั้นเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็น เนื่องจากหากดูจากพฤติการณ์แล้ว เจ้าของร้านนั้นเป็นผู้ที่โทรศัพท์ตามตนให้เดินทางมาจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ โดยที่ได้นัดแนะให้กลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มนี้เข้ามารอเพื่อรุมทำร้ายตน โดยขณะเกิดเหตุนั้นเจ้าของร้านยังไม่ได้แสดงท่าทีที่จะห้ามปราม รวมทั้งพนักงานเสิร์ฟภายในร้านที่เดินผ่านขณะที่ตนกำลังถูกทำร้าย โดยทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกด้วย
นายธรรมวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในช่วงเช้าของวันรุ่งขึ้นตนได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังพนักงานสอบสวน หลังจากได้รายงานแจ้งให้แก่ทางบริษัทต้นสังกัดทราบแล้ว และทางบริษัทฯ ได้จัดส่งทนายความเข้ามาทำคดี ทางพนักงานสอบสวนกลับบอกปัดปฏิเสธที่จะให้พบ ทั้งยังบอกด้วยว่าหากมีอะไรก็ให้ติดต่อผ่านมาทางโทรศัพท์ และสามารถให้คำตอบได้หมดทุกประเด็นคำถามที่สงสัย
จนกระทั่งทางบริษัทต้นสังกัดได้มีการประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายจนทาง พ.ต.อ.ธนาวุฒิ จงจิระ ผกก. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยพนักงานสวนจึงได้เดินทางเข้ามาทำการสอบสวนถึงยังภายในห้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งนี้