เอเอฟพี - "ไมค์ นิโคลส์" ผู้กำกับดีกรีรางวัลออสการ์ เจ้าของผลงานที่ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในหนังที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรมหนังสหรัฐฯ "The Graduate" ได้เสียชีวิตลงแล้วด้วยวัย 83 ปี
ไมค์ นิโคลส์ ถือว่าเป็นผู้กำกับระดับตำนานของประวัติศาสตร์หนังอเมริกัน และมีผลงานมากมายตลอดการทำงานมา 5 ทศวรรษ อาทิ ภาพยนตร์เรื่อง Who’s Afraid of Virginia Woolf? และ Working Girl นอกจากนั้นเขายังเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่สามารถคว้าเกียรติยศ EGOT อันหมายถึงการรางวัลจาก 4 สถาบันสำคัญของอุตสาหกรรมบันเทิงสหรัฐฯ อันได้แก่ เอมมี, แกรมมี, ออสการ์ และรางวัลโทนี
โดย สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้กล่าวถึงการสูญเสียครั้งสำคัญนี้ว่า "นี่คือความสูญเสียอันใหญ่หลวง ... ไมค์ เป็นทั้งเพื่อน, เป็นนักคิด และปรมาจารย์ เขาคือผู้กำกับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของวงการหนังอเมริกัน และวงการละครเวที ถือเป็นคนที่ใจกว้างที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยรู้จักมา"
ไมค์ นิโคลส์ ยังเป็นสามีของ ไดแอน ซอว์เยอร์ ผู้ประกาศข่าวชื่อดังแห่งสถานีโทรทัศน์ ABC ซึ่งก็เป็น ABC นี่เองที่แถลงถึงข่าวเศร้าเกี่ยวกับการเสียชีวิตของเขาเป็นเจ้าแรก โดยข่าวระบุว่า นิโคลส์ สิ้นลมลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่นด้วยสาเหตุหัวใจหยุดทำงาน
แม้จะเป็นคนอพยพย้ายถิ่นฐานมาจากที่อื่น แต่ตลอดระยะเวลาการทำงานถึงครึ่งศตวรรษในวงการภาพยนตร์ ไมค์ นิโคลส์ ได้ชื่อว่าเป็นคนทำหนังที่มุ่งสำรวจความเป็นไปของสังคมอเมริกันมาโดยตลอด โดยเฉพาะผลงานที่ถือว่าโด่งดังที่สุดในชีวิตของเขาเรื่อง The Graduate ที่เล่าถึงเรื่องราว และทางเลือกในชีวิตของชาวอเมริกันยุคใหม่ โดยหนังเรื่องนี้ได้ส่งให้ นิโคลส์ คว้ารางวัลออสการ์ในปี 1968 เลยทีเดียว
นอกจากความสำเร็จในวงการภาพยนตร์แล้ว นิโคลส์ ยังคว้ารางวัลโทนีของวงการละครเวทีอีก 7 ครั้ง และรางวัลเอมมีสำหรับวงการโทรทัศน์อีก 2 ครั้ง นอกจากนั้นยังเคยคว้ารางวัลแกรมมี เมื่อปี 1961 มาแล้ว
เมอรีล สตรีฟ ที่ทำงานกับ ไมค์ นิโคลส์ ในหนังหลายๆ เรื่องได้กล่าวไว้อาลัยในวาระการจากไปของเขาว่า นิโคลส์ เป็นคนที่ "สร้างแรงบันดาลใจ และความสุขให้กับเรามากมาย ... เป็นเพื่อนที่เราแทบจะจินตนาการไม่ออกเลยว่าโลกจะเป็นอย่างไรหากไม่มีเขา เป็นคนที่คงจะไม่มีใครแทนที่ได้จริงๆ"
ส่วน ทอม แฮงค์ ที่เคยร่วมงานกับ นิโคลส์ ในหนังเรื่อง Charlie Wilson’s War เมื่อปี 2007 ก็ขอหยิบยกถ้อยคำที่ นิโคลส์ เคยกล่าวเอาไว้มาไว้อาลัยให้กับการจากไปของเขา "มองไปข้างหน้า, เราต้องมองไปข้างหน้าเสมอ ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะเป็นเราได้อย่างไร? ... ไมค์ นิโคลส์ คือคนที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของทุกคนที่รู้จักเขา, เปลี่ยนแปลชีวิตคนที่รักเขา และคนที่จะคิดถึงเขาด้วย"
ABC ได้เปิดเผยว่าครอบครัวของ นิโคลส์ จะจัดพิธีศพอย่างเป็นส่วนตัวขึ้นในปลายสัปดาห์นี้ ก่อนที่จะมีการจัดงานไว้อาลัยอย่างเป็นทางการขึ้นอีกครั้ง โดย เจมส์ โกลด์สตอน ประธานของ ABC News ได้กล่าวไว้อาลัยให้กับการจากไปของ นิโคลส์ เช่นเดียวกันว่า "เขาคือคนที่มีวิสัยทัศน์อย่างแท้จริง เป็นผู้ที่คว้ารางวัลเกียรติยศทางศิลปะมามากมาย ไม่ว่าจะจากการกำกับ, เขียนบท, สร้าง และการแสดงตลก"
ไมค์ นิโคลส์ หรือ มิคาอิล อีกอร์ เพชคาวกสี ซึ่งเกิดที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน โดยเขาเป็นลูกชายของนายแพทย์ชาวรัสเซียที่อพยพไปอยู่ในเยอรมันภายหลังการปฏิวัติในรัสเซีย ก่อนที่นาซีจะทำให้ครอบครัวของเขาต้องอพยพอีกครั้งในปี 1939 โดยครอบครัว เพชคาวกสี ได้เลือกตั้งรกรากอยู่ที่นิวยอร์กในตอนที่ ไมค์ นิโคลส์ อายุได้ 7 ขวบเท่านั้น
ชีวิตในวัยเด็กของ นิโคลส์ ถือว่าเติบโตขึ้นมาอย่างยากลำบากพอสมควร เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตลงขณะที่ นิโคลส์ อายุได้แค่ 12 ปี จนในวัยเด็กเขาต้องหาความสุขในชีวิตจากการไปชมภาพยนตร์ ก่อนจะตัดสินใจมุ่งสู่เส้นทางการทำงานในวงการภาพยนตร์อย่างจริงจัง และประสบความสำเร็จกลายเป็นคนทำหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งของโลกภาพยนตร์ในเวลาต่อมา
ในตอนแรกที่เข้าสู่วงการ ไมค์ นิโคลส์ เริ่มต้นสร้างชื่อจากการเล่นตลกด้วยการร่วมทีมกับดาวตลกหญิง อีแลน เมย์ ในการคิดมุก และเล่นตลกด้วยกัน 2 คนที่ว่ากันว่าเป็นการแสดงซึ่งสร้างแรงบันดาลใจให้กับดาวตลกรุ่นหลังมากมาย โดยเฉพาะการเล่นตลกแบบด้นสด
นิโคลส์ และเมย์ ยังร่วมกับตั้งคณะแสดง Compass Players ขึ้นที่ชิคาโก ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นสถาบันสำคัญของวงการบันเทิงสหรัฐฯ และมีส่วนปั้นดาวตลกคนดังให้กับวงการมากมาย อาทิ จอห์น เบลูชี, สตีฟ แคเรลล์ และ สตีเฟน คอลเบิร์ต
ในปี 1961 นิโคลส์ กับ เมย์ จึงยุติการทำงานร่วมกัน โดย เมย์ ได้หันไปทำงานเป็นนักเขียนบทภาพยนตร์, บทละครเวที และกำกับละคร นอกจากนั้นก็ยังรับงานแสดงต่อไป ส่วน ไมค์ นิโคลส์ ได้ค้นพบว่าสิ่งที่เขาถนัดที่แท้จริงแล้วคือการกำกับต่างหาก โดยนอกจากออสการ์จาก The Graduate แล้ว นิโคลส์ ยังมีผลงานที่ได้เสนอชื่อชิงรางวัลสูงสุดในวงการหนังสหรัฐฯ อีกมากมาย อาทิ Silkwood, Who’s Afraid of Virginia Woolf และ Working Girl ส่วนผลงานอื่นๆ อย่าง Catch-22, Carnal Knowledge, Heartburn, Postcards from the Edge, The Birdcage และ Primary Colors ก็เป็นภาพยนตร์ในหลากหลายแนวทาง ที่ผู้ชมภาพยนตร์ทุกยุคทุกสมัยยังคงจดจำได้ดี
ซึ่งก็ไม่ใช่ในวงการภาพยนตร์เท่านั้น ไมค์ นิโคล ยังมีผลงานการกำกับละครเวทีมากมาย โดยเฉพาะละครที่บรอดเวย์ โดยเขาสามารถคว้ารางวัลโทนีได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อ 50 ปีก่อนในผลงานการกำกับละครเรื่อง Barefoot in the Park จากบทของ นีล ไซมอน และคว้ารางวัลดังกล่าวได้อีกหลายครั้งจนถึงครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2012 จากการหยิบเอาบทละครเรื่อง Death of a Salesman ของ อาร์เธอร์ มิลเลอร์ กลับมาสร้างอีกครั้ง
เมื่อต้นปี 2014 ที่ผ่านมาสมาคมผู้กำกับแห่งอเมริกาได้มอบเกียติยศสูงสุดให้กับ นิโคลส์ ซึ่งตลอดการก่อตั้งสมาคมฯ มีผู้กำกับเพียง 30 คนเท่านั้นที่ได้รับรางวัลนี้ ... "ไมค์ นิโคลส์ คือตำนานแห่งวงการภาพยนตร์ และเป็นนักเล่าเรื่องที่ไม่มีใครเหมือนอีกแล้ว" แพรีส บาร์เคลย์ ประธานของสมาคมผู้กำกับฯ กล่าวไว้อาลัยให้กับการจากไปของ นิโคลส์
นิโคลส์ แต่งงานมา 4 ครั้ง โดยครั้งสุดท้ายเป็นการใช้ชีวิตคู่กับ ไดแอน ซอว์เยอร์ ที่ครองคู่กันมาได้ 26 ปี ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต โดยเขายังมีทายาทเป็นลูก 3 คน และหลาน 4 คน
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |