xs
xsm
sm
md
lg

“โย” ปาดน้ำตา! ลั่นวาจาขอเคลียร์ “บี” ครั้งสุดท้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โย ยศวดี” น้ำตาร่วง เคลียร์ทุกข้อกล่าวหา “โกง-หน้าด้าน” ลั่นตรวจสอบได้ ทุกอย่างโปร่งใส ย้ำ “บี น้ำทิพย์” ไม่เข้าใจธุรกิจ เชื่อไม่มีความสุขเพราะแตกหักกันด้วยอารมณ์ บอกขอให้ลดอคติอย่าอาฆาต ปัดตอบ “ฮิม อิสริยะ” เสี้ยมอยู่เบื้องหลัง ย้ำหลังจากนี้จะไม่สนใจธุรกิจโยบีอีก



มหากาพย์เพื่อนรักนางแบบที่เคยเป็นคู่น่ารักของวงการ กำลังสะบั้นกลายเป็นคู่กัดคู่ฟัดที่น่ากลัวอีกคู่หนึ่งของวงการบันเทิง เหตุต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง จนแฟนๆ พากันมึนว่าคำกล่าวอ้างของใครเป็นเรื่องจริง และข้อมูลของใครคือเรื่องเท็จ! งานนี้หลังจากที่ “บี น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์” ได้ออกมาเคลียร์ใจด้วยคำตอบที่ทิ่มแทงใจ “โย ยศวดี หัสดีวิจิตร” วันนี้ (20 ตุลาคม 2557) โยก็ได้ออกมาเปิดใจโต้อีกฝ่ายด้วยน้ำตา ยันยังรักเหมือนเดิม ไม่เคยโกงบี ทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพราะมีหลักฐาน ก่อนย้ำจะขอเคลียร์เรื่องปัญหาดังกล่าวเป็นครั้งสุดท้าย และขอโอกาสสังคมให้ตนได้ทำธุรกิจต่อไป

“วันนี้ขอบคุณมากนะคะ จริงๆ ปัญหานี้มันเป็นปัญหาเล็กมาก และควรแก้กันด้วยคนสองคน ไม่ใช่มาแก้กันต่อหน้าสื่อเยอะแยะแบบนี้ แต่โอเคไม่เป็นไร ถ้าคุณบีอยากให้เรื่องนี้คุยกันแบบนี้ โยก็จะขอพูดครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าโยแถลงแล้ว ทุกคนทราบเรื่องหมดแล้ว คุณบีออกมาแถลงอะไรต่างๆ ก็ตาม จะไม่เห็นโยออกมาพูดแบบนี้อีก เพราะวันนี้โยจะเอาให้จบ”

“เรื่องแรกเลยเรื่องที่คุณบีคิดว่าโยดิสเครดิตเขา ในคำสัมภาษณ์ของโยครั้งที่แล้วที่เกี่ยวกับคำว่าหุ้นลมหรือจ้างมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ไปดูดีๆ นะคะ โยไม่เคยพูดว่าหุ้นลม และไม่เคยพูดว่าจ้างมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ประโยคในวันนั้นเพราะว่าครั้งแรกที่คุณบีได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ว่ามีปัญหาในเรื่องธุรกิจ มีปัญหาการเงิน และมันกระทบอะไร โยพูดต่อเป็นประโยคนะคะๆ สังคมรอบด้านตัดสินว่าโยโกงเขา ตัดสินว่าคุณบีลงทุนแล้วเจ๊งไม่ได้เงินคืน ทำไมเรื่องราวถึงมาเป็นแบบนี้ ถ้าไม่ได้เปิดมาจากคำพูดบี โยพยายามชี้แจงจากจุดนี้นะคะ ไม่ได้ต้องการจะไปฉีกหน้าใคร หรือบอกว่าเป็นหุ้นลมใดๆ ชี้แจงว่าต่อให้ลงทุนหรือธุรกิจเจ๊งอะไรก็ตาม คุณบีก็ปลอดภัย เพราะธุรกิจนี้มีแต่ผลกำไรนะคะ ไม่มีขาดทุนฉะนั้นเลยมองว่ายังไม่เห็นมีอะไรที่มันเดือดร้อน ที่นำมาในวันนี้เป็นเอกสารการเงินทั้งหมด ตั้งแต่สัปดาห์แรกจนสัปดาห์สุดท้ายที่ปิดกิจการคือ 4 ตค.เอกสารฉบับนี้จะบอกว่าคุณบีลงทุนจริงหรือไม่ เงินก้อนแรกเป็นเงินที่ลงทุนพร้อมกัน ต้องอธิบายว่าการเปิดบริษัทและการลงทุนจะมีการลงทุนมูลค่าห้าแสนหรือล้านหนึ่ง แต่ธุรกิจนี้ไม่มี เงินลงทุนที่คุณบีเข้าใจอาจเป็นเงินลงทุนที่เราจ่ายมาตรงกลางในตอนที่เราจ่ายถ่ายแบบครั้งแรก ถ่ายแบบแอดโฆษณาโยบี ซึ่งมีเงินของบี 4.3 หมื่น ของโย 6.9 หมื่น แค่นี้เท่านั้นนะคะที่บอกว่าเป็นเงินก้อน”

“พอถ่ายแบบเสร็จเรียบร้อย เงินทั้งสองก้อนตรงนี้ก็ถูกคืนกลับสู่กรรมการและไม่ได้รับเงินใดๆ อีกจนวันสุดท้ายของการทำธุรกิจ คราวนี้จะพูดในเรื่องเงินลงทุน มันมีเงินลงทุนจริง เงินลงทุนหมุนเวียนแล้วแต่ โยมีเงินลงทุนตรงนี้ 4.5 แสน และสามารถพิสูจน์ได้ จากใบการเงินที่โยนำมา ถ้าคุณบีลืมหรือจำไม่ได้จริงๆ โยพร้อมนะให้คุณบีมาคุยกันตัวต่อตัว นำการเงินที่คุณบีซึ่งโยเชื่อว่ามันไม่น่าจะหายากขนาดนี้และการเงินที่คุณบีบอกว่าเป็นพรรคพวกเดียวกับโย จริงๆ เขาได้ลาออกไปแล้วนะคะพอปิดกิจการ โยได้เอาการเงินคนใหม่ สามารถพิสูจน์ได้ว่ามาทำงานไม่ถึงสามสัปดาห์ เพื่อเอามาเช็กดูว่าสิ่งที่คนเก่าคิดถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้เป็นการแฟร์กับคุณบีว่าไม่ใช่พรรคพวกของเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้โกรธ เพราะคุณบีไม่ได้มายุ่งเกี่ยวกับบริษัทหลายเดือนมาก อาจจะยังไม่ทราบถึงการเคลื่อนไหวจริงๆ ก็อยากจะชี้แจงในเรื่องที่คิดว่าเราไปดิสเครดิตว่าเราไม่เคย และยังพูดได้เลยว่าชวนคุณบีมาร่วมทำงานแต่เรามีหน้าที่ที่แตกต่างกัน โยยินดีที่จะบริหาร และเป็นคนลงทุนเอง ไม่ได้ต้องการไปทำให้คุณบีเสียหน้าใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยากให้ฟังคำสัมภาษณ์ให้ชัดเจนกว่านี้”

“การลงทุนในตอนนั้นเป็นเรื่องการถ่ายแบบค่ะ จำนวนหนึ่งแสนกับนิดๆ ค่ะ เดี๋ยวย้อนให้ฟังว่าที่มาที่ไปจริงๆ คือโยไปกับแฟนกับครอบครัวแฟนไปเที่ยวอังกฤษด้วยกันหนึ่งเดือน แล้วก็ชวนคุณบีไปด้วย ไม่ได้มีแพลนไปดูธุรกิจ เราไปเที่ยวปกติเลยหนึ่งสัปดาห์ก่อนกลับมา โยเห็นโฆษณาไดเอตฟู้ดส์ เป็นคนเห็นแอดโฆษณาก็รู้สึกว่าอาหารแบบนี้คนกินด้วยเหรอที่นี่ ก็คุยกับคุณบีตั้งแต่ตอนนั้น พอกลับมาเมืองไทยโยดำเนินงานของโยเรียบร้อยแล้ว มีการฟอร์มทีม เตรียมซัพพลายเออร์ทุกอย่าง ก็ชวนคุณบีทำ ซึ่งคุณบียังตกใจเลยว่าเตรียมงานเสร็จแล้วเหรอ ซึ่งเจตนาของโยแค่นี้ โยว่าคุณบีไม่ได้ทราบอะไรตั้งแต่แรก เราพยายามอธิบาย ตามที่เขาสัมภาษณ์เรื่องจริงที่เขาไม่รู้อะไรเลย แต่ไม่จริงนะคะ เพราะเราเรียกเขามาทำงาน เรียกมาประชุม ว่าเราไปทางไหน คนมาเซ็นเปิดธุรกิจจะมาบอกว่าไม่รู้เราก็ลำบากใจนะ มีคนรู้คนหนึ่งไม่รู้คนหนึ่ง”

เผยทำธุรกิจต้องเป็นหนี้ ส่วนหนี้ 9 แสนเกิดจากการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการส่งอาหาร และมีการปรับเปลี่ยนระบบการจ่ายเงินของซัปพลายเออร์
“หนี้ตัวนี้เป็นใบหนี้สินจริง ระหว่างโยกับเชฟ หนี้นี้เกิดขึ้นเดือนเมษา แต่เดือนมิถุนาเป็นใบที่ทางเชฟให้โยมาทำสัญญาทั้งหมด การทำธุรกิจจะไม่มีหนี้เป็นไปไม่ได้ วันนี้คุณบีทำให้คนสองคนลุกขึ้นมาไฟว์กัน แต่โยมั่นใจว่าเชฟเองไม่ได้อยากจะมาพูดเรื่องนี้ เพราะในระหว่างการทำอาหารมันมีปัญหาเยอะมาก ถ้าคนที่ได้ทานอาหารของเราจะรู้ว่าปัญหามันคืออะไร และเราได้แก้ไขกันมากี่ครั้ง แต่นั่นมันคือปัญหาภายในบริษัทของเรา เพราะอะไรการจ่ายเงินให้กับซัปพลายเออร์ถึงช้า คุณบีก็ไม่เคยเข้ามารับรู้ถึงปัญหาจริงๆ บุคคลากรต่างๆ ที่บอกว่าเป็นพรรคพวกเดียวกับโย บุคคลพวกนี้แหละค่ะที่ทำให้โยอยู่รอดมาได้ และผ่านมาได้แม้จะเจอเรื่องหนักๆ ที่เราต้องแก้ไขต่างๆ การส่งอาหารสดปัญหามีร้อยแปดพันอย่างนะคะ ทำยังไงถึงจะแก้ไขให้ดีที่สุด”

“วิธีแก้ไขของโยกับเชฟและซัปพลายเออร์ ยอมรับว่ามีปัญหาเยอะมาก ทะเลาะกัน ขัดใจกันจนเกือบเลิกจ้างกันหลายครั้ง คราวนี้หนี้สินตัวนี้ขึ้นมาเพราะอะไร เป็นเพราะบิลนี้ไม่ได้ถูกชำระ เพราะเเป็นบิลที่ซัปพลายเออร์เรียกเก็บย้อนหลัง ซึ่งการจ่ายตังค์เราจะวีกเว้นวีก ซึ่งเมื่อก่อนเราสามารถแอดวานซ์ได้ แต่พอเรามีปัญหากัน ยอมรับว่าเป็นปัญหาใหญ่ ระบบที่เชฟเปลี่ยนกับเราคือเราต้องแอดวานซ์เงินก่อน เงินเก้าแสนที่คุณบีบอกว่าตั้งแต่วันแรกเราไม่ได้จ่ายซัปพลายเออร์ ไม่ใช่นะคะ เป็นแค่สองสัปดาห์เท่านั้นในการปิดซัปพลายเออร์ ก็ลองคิดดูว่าจำนวนวีกแรกจนวีกสุดท้าย ซัปพลายเออร์ทำเงินกับเราเท่าไหร่ จริงๆ เกิดเรื่องแค่สามสัปดาห์ และถูกแก้ไขไปแล้วเรียบร้อยปิดบัญชีหนี้สินเรียบร้อยแล้ว การที่คุณบีนำใบหนี้สินเก่าที่ถือว่าโมฆะ ที่ไม่มีชื่อตัวเองอยู่ในนั้น จริงๆ มันเป็นเรื่องใหญ่นะ แต่นี่เห็นว่าคุณบี เราก็จะอธิบายตรงนี้และจบตรงนี้ไม่ให้เรื่องมันใหญ่ไปกว่านี้”

“นี่คือใบหลักฐานนะคะ บริษัทเดียวกันกับที่คุณบีถือ เป็นคนเดียวกันจริง เราได้ปิดทุกอย่าง ไม่มีหนี้สินใดๆ ถ้าจะบอกว่าเงินเก้าแสนที่โยโดนประณามทั้งประเทศ โกงเขาบ้าง เอาเงินเพื่อนไปบ้าง เรื่องนี้จะบอกว่าโทษคุณบีไหมไม่โทษค่ะ เพราะคุณบีอาจไม่รู้เพราะไม่ได้เข้าบริษัทนานมาๆ แล้วเวลาเรามีปัญหาส่งที่ดีที่สุดคือแก้ไขค่ะ ไม่ต้องออกมาโต้แย้งใดๆ จบโดยดี เงินก้อนนี้ไม่ได้หายนะคะ ไมได้ถูกนำไปใช้ จบสิ้น ถือว่าเคลียร์ แล้วคราวนี้ในเรื่องใบหนี้จบกิจการธุรกิจโยบีปิดวันที่ 4 ตค. ทุกอย่างเคลียร์ หมดเสร็จสิ้นวันที่ 3 ตค. จะมีค่าใช้จ่าย รายรับยังไง รายจ่ายยังไง กับบุคคลใดบ้าง ที่ถูกต้องตามกฎหมาย”

ลั่นหากอีกฝ่ายคิดว่าตนโกงเงิน ทำไมถึงปล่อยให้เรื่องยืดเยื้อถึง 5 เดือนเต็ม ส่วนที่บีบอกว่าดูบัญชี 3 รอบแต่ไม่เคลียร์เพราะอีกฝ่ายไม่ใช่เทพถึงจะได้ดูเรื่องตัวเลขแล้วเข้าใจได้ในทันที
“ถ้ามันเป็นปัญหาจริงๆ เรารู้ว่ามีปัญหา เงินหาย เป็นหนี้เพราะอะไร ทำไมต้องรอมาถึง 5 เดือน โดยไม่พูดอะไร ต้องเชื่อใจนะคะ เพราะถ้าไม่เชื่อใจโย ธุรกิจคงมาแบบนี้ไมได้ เพราะไม่มีใครอยู่เบื้องหลังไม่มีใครบริหาร บริหารเองทั้งหมด กิจการใหญ่ รับผิดชอบคนยี่สิบกว่าคน รายจ่ายเยอะ แต่สุดท้ายปิดตัวได้โดยปลอดภัย ไม่มีปัญหาไปถึงผู้บริหาร โยเลยไม่เข้าใจว่าจะเดือดร้อนเรื่องไหน ระยะเวลาห้าเดือนติดต่อบัญชีสามครั้ง โยคิดว่ามันน้อยมากนะคะ เพราะจริงๆ ทีมเราประชุมทุกสัปดาห์ที่สามารถมานั่งเคลียร์ปัญหาได้ทั้งหมด สามครั้งของคุณบีคือสามครั้งที่โยได้คุยกับคุณบีในเดือนสิงหา ว่าโยจะปิดกิจการแล้ว ใครจะพอใจหรือไม่พอใจก็ตาม โยจะปิดกิจการในวันที่ 4 ต.ค. คุณบีก็โอเค มานั่งดูรายละเอียด เวลานัดคุณบีมา คุณบีไม่พร้อม คุณบีไม่ว่าง แต่พอเขานัดมา การเงินโยไม่พร้อม ไม่ว่างก็เป็นปัญหา แต่เวลานั่งรอเขาก็ไม่เคยบ่น โยให้ดูแมสเซสไปแล้วว่ากี่ครั้งที่โยตามตัวคุณบีและได้รับการตอบรับจากคุณบีแบบไหน เราได้พยายามเต็มที่จริงๆ มองปัญหาที่ว่าถ้าคุณบีอึดอัดใจ มีการโกงเงินในบริษัท คิดไหมว่าต้องหาการเงินที่ดีที่สุดมาตรวจสอบ ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องมันยืดเยื้อจนต้องมานั่งตอบกันตรงนี้”

“เพราะไม่เคยดูบัญชีมาก่อนเลยในตลอดระยะเวลา 20 เดือนแล้วจะให้มานั่งเข้าใจวันแรกเลย อย่างว่าคุณบีไม่ได้เทพนะ มาเห็นตัวเลขก็ตาลายหมดแล้วนะ เพราะต้องมาเคลียร์ทีละจุดๆ ต่อให้เทพก็ไม่เข้าใจ จนครั้งสุดท้ายคุณบีมีผู้ช่วยมา ก็ดีขึ้นค่ะ เพราะผู้ช่วยเข้าใจ ค่าใช้จ่ายใดๆ บ้าง พอคุยกันครั้งสุดท้ายก็เคลียร์หลายจุด ก็บอกว่ารอไปเลยนะ เราเคลียร์ทุกอย่างไม่ต้องมานั่งปะติดปะต่อ จบ 3 ตค. 4 ตค.ปิด เราก็เห็นกันเลย ทุกอย่างก็จบเลย มันยังไม่เห็นชัด ตัวเลขก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไปดูสุดท้ายเลยค่าใช้จ่ายก็ยังมีอยู่ เลยบอกว่าให้ไปดูวันสุดท้ายเลย แต่นับจากสิงหาคม ยังไม่คุยกับคุณบีเลยค่ะ”

“มีพยานหลักฐานหลายท่านว่าเดือนสุดท้ายเดือนสิงหาคม มีคนนั่งอยู่จำนวนเยอะนะคะ พี่เอ (อัญชลี) ก็พูดว่าเพื่อความสบายใจ ให้นำการเงินมาเลย คนทำบัญชีจะได้มานั่งเคลียร์กัน จะได้รู้ว่าจุดไหนผิดหรือถูก แต่เขาบอกว่าเขาไม่พร้อม ไม่เป็นไรให้เราทำให้เสร็จเลยแล้วกัน 4 ตค.ก็มาคุยกันแม้กระทั่งตอนเปิดธุรกิจกันก็บอกว่าคุณบีมีญาติพี่น้องไหม ตอนแรกคุณบีส่งน้องสะใภ้มารับโทรศัพท์ช่วงสองสัปดาห์แรก แต่สุดท้ายไม่เอาหาคนใหม่ เราคุยกันแล้วถ้าตรงไหนไม่แฟร์ คุณบีหาคนมาเลย จริงๆ พรรคพวกไม่มีนะคะ พนักงานคนอื่นๆ ที่คิดว่าเป็นพรรคพวก เขามาตอนที่เราเปิดกิจการ เรารู้จักเขาพร้อมๆ กัน มาวันนี้ก็บอกว่าเป็นพรรคพวกเดียวกับโย คนฟังเขาก็เสียใจนะ เพราะธุรกิจไม่สามารถรันได้แค่คนๆ เดียว ต้องมีคนบริหาร มีเซลล์ขาย มีตัวรับตัวช่วย คนเหล่านี้คือแรงงานของเรา แรงงานที่หาเงินให้เราใช้ ก็อยากให้เข้าใจนิดหนึ่ง”

รับสงสัยทำไมเรื่องต้องมาเกิดเรื่องตอนที่ตนกำลังจะเปิดธุรกิจใหม่ ส่วนผลกระทบลุกลามโดนด่าหน้าด้าน ขี้โกง แถมพาลด่าถึงครอบครัว
เรื่องทัศนคติก็ไม่ตรงกันอยู่แล้วล่ะค่ะ ส่วนอคติก็รุนแรงมากๆ ถ้าเอาเรื่องนี้มาใช้เรื่องก็ไม่มีวันจบ โยเปิดใจจนไม่รู้จะเปิดยังไงแล้วค่ะ สิ่งที่แค่สงสัย มันมาอยู่ในจังหวะที่โยทำธุรกิจใหม่ ซึ่งโยต้องมีเวลาในการบริหารเพราะธุรกิจใหม่มาก เสียเงินเสียทองเยอะมาก แต่ทุกวันนี้ตื่นมายังไม่มีเรื่องอื่นเลยนอกจากเรื่องโยบี ทั้งที่มันปิดธุรกิจไปแล้ว ทำไมมีแต่เรื่องนี้ แล้วจะให้โยทำยังไงล่ะ”

“กระแสสังคมมาตลอดค่ะ แม้กระทั่งในไอจี ซึ่งตั้งแต่โยเปิดไอจีมา โยมีเรื่องราวกับคนอื่น แต่ปัญหาแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น และไม่เคยมีใครกล้าเขียนด่าหรือว่าเรา เพราะเขารู้ว่าเราใช้ชีวิตเป็นแบบไหน แต่ ณ เวลานี้เจอบุคคลไม่หวังดีเยอะแยะไปหมด แล้วก็ลามไปถึงน้องเอวี่ (ลูกสาวเอ) บุคคลที่ไม่มีแม้กระทั่งหน้าตาหรือชื่ออะไรเลย ต่อว่าเราด้วยคำแรงๆ โกงเพื่อนบ้าน หน้าด้านบ้าง พยายามอดทนแล้วนะ แต่ก็อยากให้ดูและตัดสินเรื่องความเป็นจริง วันนี้ก็ยังจะยืนยันว่าไม่ได้อยากออกมาหักล้างหรือฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง เพราะถ้าจะออกมาอย่างนั้นจริงๆ ป่านนี้เละเป็นผุยผง วันนี้ที่มาถ้าไม่มีเรื่องใบหนี้สินที่สามารถนำไปเป็นคดีความที่ไหนได้ก็จะไม่ออกมานั่งพูดตรงนี้เลย เพราะไม่อยากให้เขาเอาใบนี้ไปโชว์ที่ไหนอีกเพราะมันจะเป็นผลร้ายกับตัวเขาเอง เพราะใบต่างๆ ที่เขาเดือดร้อนเอามาโชว์มันไม่ได้มีชื่อเขา ถ้ามันมีชื่อเขา ก็จะไม่ว่านะคะ และจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วด้วย”

ยืนยันไม่โกง โปร่งใส ตรวจสอบได้ เผยให้อีกฝ่ายพาคนไว้ใจมาร่วมเป็นกรรมการ แต่บีกลับปฏิเสธ
“วันนี้ยินดีให้มาดูทุกอย่าง ถ้าถามว่าเป็นคนที่ดี เป็นคนตรงไปตรงมาร้อยเปอร์เซ็นต์หรือเปล่า ทุกอย่างทำเต็มที่เท่าที่คนๆ หนึ่งจะทำได้ และกล้ายืนยันว่าไม่โกงใดๆ ทั้งสิ้นแม้แต่บาทเดียว แต่จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อต้องเข้ามาตรวจสอบ คือรู้ว่าคุณบีรู้จักคนเยอะ สามารถนำพาใครมา โยเคยบอกว่าให้คุณแม่คุณบีเข้ามานั่งเป็นหนึ่งกรรมการในบริษัท แต่คุณบีปฏิเสธ ทุกคนทราบดี ทำไมเขาถึงมีคนรอบข้างที่ไว้ใจไม่ได้เลย ตัวโย มาบอกว่านำตัวพี่เอมาถือหุ้นทีหลัง เป็นไปไม่ได้นะคะ การเปิดบริษัท ต้องมีสามหุ้นในครั้งแรก ไม่สามารถมีสองชื่อในการเปิดบริษัท แต่พี่เอไม่เคยได้แบ่งสัดส่วนกำไรใดๆ ในการขายนอกจากเงินเดือน มาวันนี้คำพูดของคุณบีมันไม่เหลือว่าเคยมีความสัมพันธ์ดีๆ กับใครบ้าง ทุกคนเก็บไว้ทั้งหมดนะคะ ในการคุยกันในกรุ๊ปในกลุ่มไม่เคยมีปัญหานะ มันดีมาตลอด แต่ ณ เวลานี้โยไม่เข้าใจ อะไรๆ ก็ห้ามก็เก็บไว้หมด แต่เอามาพูดในวันที่ธุรกิจมันปิด และโยมีธุรกิจใหม่ ก็แล้วแต่”

ย้อนถามบีเข้าใจความรักจริงหรือเปล่า บอกถึงการกระทำไม่น่ารัก แต่ตนก็ยังรักเหมือนเดิม แม้อีกฝ่ายทำลายชื่อเสียงส่งผลต่อธุรกิจ
“คือคำที่คุณบีพูดว่าถ้ารักกันจริงคงไม่ทำแบบนี้ ก็สะท้อนกลับไปเลยนะว่าความรักคุณบีมีหรือเปล่า คุณบีเข้าใจความรักจริงหรือเปล่า เพราะหลายๆ ครั้งที่คุณบีกระทำ โยมองว่ามันไม่น่ารักไง แต่โยก็ยังรัก และยังไม่ทำอะไรเกินเลยไปกว่าสิ่งที่แก้ไขได้”

แม้กระทั่งมีคนบอกว่าการที่คุณบีแถลงไป เป็นเรื่องใหญ่นะ ทำลายชื่อเสียง ทำลายธุรกิจ มีผลต่อการทำธุรกิจ ณ ขณะนี้มีผลอย่างรุนแรงมากต่อการทำธุรกิจอาหารเสริมของโย กับตัวแทนต่างๆ ถ้าเขาว่าข่าวนี้ไม่เคลียร์จริงๆ ผลกระทบเยอะมาก วันนี้ต้องเคลียร์ให้ได้ ไม่ได้บอกว่าคุณบีคิดมุ่งร้ายนะคะ ยังเชื่อจริงๆ แบบไม่เสแสร้งว่าคุณบีไม่รู้ว่าเรื่องนี้เราจัดการกันแล้ว”

“จริงๆ การทำธุรกิจ โยกับคุณบีไม่เคยปิดกั้นนะ โยมั่นใจว่าสิ่งที่โยพูดไปเป็นเรื่องจริง ธุรกิจอาหารเสริมเราคิดกัน เขาพูดว่าถ้าไม่อยากทำตอนนี้ เขาทำเองแน่นอน ก็เลยบอกว่าถ้าแยกกันจริงๆ พี่ทำเลยนะ เขาก็บอกโอเคไม่เป็นไร ทำเลย เพราะในอนาคตบีก็จะทำเอง แต่ ณ วันนี้เขากลับบอกว่าธุรกิจอาหารเสริมมันขัดแย้งกับธุรกิจอาหารที่เราทำ อันนี้คำพูดแย้งกันแล้วนะคะ เพราะโยพูดเสมอว่าอาหารเสริมที่ทำ เราต้องมั่นใจว่ามีคุณภาพ และปลอดภัยไม่มีผลกระทบกับอาหารสด แต่วันนี้คุณบีพูดออกสื่อเลย เรียกว่าทำร้ายอาหารเสริมของโย ว่ามันเป็นของไม่ดี เราก็ถือว่าแล้วแต่ความคิดของแต่ละคน ในเมื่อคุณบีไม่อยากทำไม่เป็นไร แต่ควรให้เกียรติกับคนที่เขาทำบ้าง”

เผยไม่เคยขู่เรื่องจะส่งทนายจัดการ แต่เป็นเพราะคุยกับอีกฝ่ายไม่รู้เรื่อง และไม่ได้คำตอบชัดเจน
“ได้เห็นแมสเซสไหมคะ คิดว่าขู่ไหมคะ พูดดีก็แล้ว รักก็แล้ว ทำทุกอย่างก็แล้ว แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาถ้าโยเขียน 10 บรรทัดจะได้แค่สามตัวอักษรจากคุณบี พูดประโยคเดิมๆ ไม่ว่าง ฟังมานานมาก ก็เลยบอกว่าถ้าไม่อย่างนั้นจะให้ทนายส่งจดหมายไปและให้คุณบีมาเจรจา ถ้าประโยคนี้บอกว่าขู่ ตัวโยคงโดนขู่มานักต่อนัก เพราะหลายครั้งไม่เคยได้รับคำตอบที่ชัดเจนจากคุณบี คุณบีไม่เคยรับรู้เรื่องการปิดบริษัท เลยไม่รู้ว่าบริษัทเป็นหนี้และชำระไปแล้ว ตอนนี้สิ่งที่บัญชีทำมาและรู้สึกว่าตรงหนไม่ถูกต้อง ผลกำไรก็ต้องรอให้บีมาคุย”

“คุณบีอาจไม่เข้าใจจริงๆ เพราะหลายครั้งที่โอนเงินปันผลให้คุณแม่กับคุณบี สองคนไม่คุยกัน ยังทะเลาะกันเองเลย เพราะโอนให้คุณแม่ที คุณบีที พยายามที่จะเตือน พยายามที่จะสอน แต่ใบที่ให้คุณบีไป กลับบ้านก็คงไม่เคยดู ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่โทษนะคะ แค่ไม่เข้าใจประโยคสองประโยค เหมือนเราบังคับให้เซ็นยินยอมในการทำธุรกิจ คุณบีไม่ใช่เด็กแล้วนะคะคุณบีอายุเท่าไหร่แล้ว การทำทุกอย่างถามคำหนึ่ง ในชีวิตมีใครบังคับคุณบีได้บ้าง แม้แต่ตัวโยยังไม่เคยเตือนคุณบีได้แม้แต่เรื่องเดียว แล้วเรื่องแบบนี้เราจะบังคับคุณบีได้ไหม แต่คุณบีไม่ว่างจริงๆ ต้องถ่ายละครตลอด ที่เราเปิดธุรกิจมา สามเดือนแรกไม่มีคนทำบัญชีจริงๆ เราต้องนั่งทำกับเซลล์ คนที่ไปเบิกเงินส่วนใหญ่จะเป็นโยคนเดียว แต่มาวันนี้คุณบีบอกว่าไม่ไว้ใจ คุณบีต้องมาดูค่ะ บีเชื่อว่าสเตทเมนท์มันโกหกไม่ได้นะ เงินเข้าเงินออกมาดูได้ เรานัดกันครั้งสุดท้ายก่อนที่คุณบีจะออกมาแถลงค่ะ”

น้ำตาร่วง! ยืนยันยังรักบีเหมือนเดิม ขอโอกาสสังคมทำธุรกิจต่อไป
“จริงๆ คนทำธุรกิจไม่เป็นมีเยอะนะ แต่เราได้รับเงินจำนวนมากทุกเดือน แต่ธุรกิจมันรัน เป็นโยจะทุ่มเต็มที่เพื่อทำทุกอย่างได้ อาชีพนักแสดงไม่เคยยั่งยืน แต่เราไม่คิดว่าจุดจบจะเป็นแบบนี้ เราสร้างมาจากจุดเล็กๆ จนใหญ่โตแบบนี้แต่มันไม่เหลืออะไรเลย ตอนนี้หนี้สินไม่มีไม่ว่ากับใครหรือบริษัทใดๆ ทั้งสิ้น”

“ก็ได้ดูที่คุณบีพูด และพูดจากใจนะ ว่าเห็นใจ เราอาจไม่เข้าใจในมุมของเขาทุกมุมเพราะเขาไม่พูด ถ้าไม่ทะเลาะกันเลยจะไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงก่อนหน้านี้ไม่ได้ดูว่าเรามีปัญหาใหญ่ขนาดนี้ แต่มีแค่จุดที่ว่าเราคุยกันน้อยลง เราเริ่มไม่เจอกัน แล้วทำให้เป็นเรื่องปกติ จนวันที่ไอจีเราเริ่มนิ่งแล้วเพราะเราตกลงที่จะปิดกิจการ โยก็นำภาพเพาเวอร์ฟิตไปโปรโมต ก่อนหน้าทะเลาะกันสามวัน โยรับรู้ว่าคุณบีโกรธมาก จากผู้จัดการ เหมือนหักหน้าเขา ทำให้เขาเสียหน้าหลายๆ อย่าง ทำไมไม่ให้เกียรติกัน โยก็ติดต่อทันที คุยในไลน์ คุณบีก็ระบายมาทุกอย่าง โยโอเค เพราะเราก็สร้างมา ฐานเยอะขนาดนี้มันก็ไม่ง่ายนะ แต่บีบอกว่าไม่ได้ในเมื่อสร้างมาสองคน ก็ต้องปิด พอเราเปลี่ยนชื่อด้วยเขาก็บอกว่ารู้สึกเหมือนโดนเหยียบหน้า เราเปลี่ยนชื่อไม่ถึงครึ่งชม. นะคะ ในวันนั้น เพราะลูกน้องคิดว่าคุยกันแล้วโอเค เป็นการเข้าใจผิด รีบบอกให้เขาเปลี่ยนทันทีว่าคุยกันตกลงกันไม่ได้ และให้รีบปิดทันทีโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เกี่ยวกับโยบี เฟซบุ๊กต้องใช้เวลาสามวันในการที่มันจะชัตดาวน์ แต่ไอจีปิดได้เลย ก็คิดว่าน่าจะจบแล้ว แต่คิดว่าเขาคงจะเจ็บปวดจริงๆ ถ้าอะไรที่โยทำ(ร้องไห้) ยังยืนยันคำเดิมว่ารักเขาเหมือนเดิม คำขอโทษที่พูดพูดมาจากใจ อะไรที่ทำร้ายจิตใจคุณบีจริงๆ เราก็รู้สึกไปด้วย แต่อะไรที่คุณบีทำร้ายโย คุณบีรู้สึกไหม แต่วันนี้สิ่งที่ต้องการเคลียร์คือไม่เคยโกงใครนะคะ ทำทุกอย่างด้วยความสัตย์จริงและขอโอกาสในสังคมนี้ ในการทำธุรกิจนี้ต่อ แบกภาระทุกอยางที่ทำ คุณบีพูดว่าแบกลูกน้องมาคนเดียว แต่แบกมาทั้งหมดด้วย 9 ชีวิตนะคะ แล้วเป็นลูกน้องคุณบีด้วย แม้แต่คำพูดคุณบีในวันนี้ ลูกน้องทุกคนก็ยังบอกว่ายังรักคุณบีเหมือนเดิม เพราะเชื่อว่าเป็นเรื่องของอารมณ์ และมั่นใจว่ามันจะดีขึ้น เพราะพื้นฐานจริงๆ มันไม่ได้มีอะไรเลย แค่ขอให้มาคุยกันจริงๆ”

เชื่ออีกไม่นานบีจะแยกแยะเรื่องส่วนตัวจากธุรกิจได้ ส่วนความสัมพันธ์ไม่มีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีก
“หลายๆ อย่างค่ะ ไม่เข้าใจในตัวโยด้วย เรามีปัญหาเรื่องส่วนตัวนะ แต่ปัญหาเรื่องส่วนตัวจะขอละไว้ที่เป็นเรื่องของเราจริงๆ เชื่อว่าอีกไม่นานคุณบีจะแยกแยะได้ในเรื่องส่วนตัวกับธุรกิจ (เป็นเพราะฮิมด้วยหรือเปล่า) จะไม่เอ่ยถึงบุคคลที่สาม แต่โยมั่นใจว่ามา ณ เวลานี้คุณบีจะตัดสินใจทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง และอยากให้เป็นแบบนั้น ถ้าวันนี้จะเลิกคบและแตกหักจริงๆ ก็อยากให้มาจากการตัดสินใจของคุณบีคนเดียวหลังจากที่คุยกันแล้ว จริงๆ ไม่เคยปัญหาอะไรกับแฟนคุณบีนะคะ และยืนยันคำเดิม แต่อยากให้เป็นเรื่องของโยกับคุณบีจริงๆ ที่จะมานั่งคุยกันตัวต่อตัว โดยไม่ผ่านใคร ไม่ผ่านสื่อแบบนี้อีก เพราะพอผ่านสื่อการลงข่าวทุกครั้งอาจไม่ได้ลงคำพูดโยหมด พอไปอ่านคุณบีก็ปรี๊ดอีก อ่านในสิ่งที่พูดทั้งหมด อยากให้ใช้อารมณ์ให้น้อยที่สุด และให้มีเหตุผล วันนี้พูดเลยว่ามันไม่เหมือนเดิมแน่ๆ แล้วสังคมจะตัดสินอะไรอีกไม่ทราบ จะเปลี่ยนฝั่งไปเปลี่ยนฝั่งมาอีกหรือเปล่า แต่ไม่อยากให้ตัดสินว่าใครผิดใครถูกตอนนี้ เพราะเป็นเรื่องของเราสองคนจริงๆ ไม่ใช่เรื่องประชาชนหรือใครทั้งสิ้น เชื่อว่าคนรักเราและคาดหวังให้กลับมาเหมือนเดิมสำหรับโยธุรกิจเรามองว่าเราสองคนเติบโตมาได้ด้วยดีนะ มันมีหลายๆ อย่างที่ทำด้วยกันแล้วดูแมซเหมาะสม วันนี้ต่อให้ปิดลงหรือไม่ได้ทำด้วยกันแล้ว เราก็ไม่ได้เกลียดกัน ไม่มาด่าทอผ่านกันไปมาแบบนี้”

บอกบีใช้อารมณ์ในการตัดสิน ส่วนเรื่องขุดคุ้ยอดีต หากเป็นห่วงจากใจจริงตนก็ซึ้งใจและขอบคุณมาก รับอยากให้อีกฝ่ายลดอคติ ลดอาฆาต ปัดตอบ “ฮิม อิสริยะ” เสี้ยมอยู่เบื้องหลัง
“ไม่โกรธค่ะ ถ้ารักบีและคบบีมาได้นานขนาดนี้ต้องรู้จักบีจริงๆ วันนี้เชื่อว่าบีใช้อารมณ์ในการตัดสินจะรับฟังจากใครมาเราไม่ทราบ ปกติเขาเป็นคนรับฟัง แต่วันนี้ทำไมไม่รับฟังอะไรเลย คำพูดหลายอย่างเชื่อว่าไม่ตั้งใจพูดออกมา แม้กระทั่งเรื่องอดีตของโยที่บีพูดมาถ้าพูดด้วยความจริงใจ โยจะซึ้งใจมากและขอบคุณจริงๆ เพราะหลายครั้งที่เขาปกป้องแต่อยากให้บีพูดด้วยความรู้สึกนั้นจริงๆ ไม่มี่สิ่งอื่นแอบแฝง วันนี้อยากจะบอกเหมือนเดิมว่ายังรักในความที่เป็นบี แต่เชื่อว่าการกลับมาคบกันคงเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว และจะดีที่สุดถ้าเราดำเนินชีวิตของเรากันเอง โดยลดอคติ ลดความโกรธ ลดอาฆาตทุกอย่าง เอาไว้ตรงนี้ ถ้ามีสิ่งไหนที่บีคิดว่าล่วงเกินเขาอีก และทำให้มาถึงจุดนี้ ขอให้บอกมาเลย เราพร้อมขอโทษและยินดีแก้ไข แต่วันนั้นเป็นสิ่งที่บีรู้สึกจริงๆฟ วันนี้โยได้มาพูดในเรื่องของธุรกิจนะคะว่าธุรกิจโยบีได้ปิดตัวแล้ว โกงไม่โกงจะรู้ได้ก็ต่อเมื่อคุณบีมานั่งดู ตัวโยกล้ายืนยันว่าไม่เคยโกงใคร (มีคนคอยเสี้ยม) ขอไม่พูดนะคะแต่คุณบีที่โยเคยรู้จักไม่ได้เป็นแบบนี้ (เป็นเพราะฮิมไหม) อันนี้ไม่ทราบจริงๆ”

เผยหลังจากนี้จะไม่ขอรับรู้เรื่องโยบีอีก ขอเดินหน้าลุยธุรกิจใหม่
“โยว่าน่าจะสรุปได้ลงตัวนะ ถ้าดูตั้งแต่แรกคงไม่มีสามสี่รอบแบบนี้ ทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยไปนานแล้วค่ะ จริงๆ เวลานี้ไม่อยากตั้งเดตไลน์แล้ว แต่ให้การเงินกับการเงินคุยกัน วันนี้จะมาเป็นวันสุดท้าย จะมีเรื่องโยบีในหัวเป็นวันสุดท้าย หลังจากเดินออกไปจากที่นี่จะมีแค่เรื่องงานเรื่องโย เรื่องเพาเวอร์ฟิตกับทีมโย เราต้องจัดการตัวเราให้ได้ก่อน จะไม่รับรู้เรื่องโยบีอีกแต่ถ้าเขาจะจัดการอะไรแบบไหนก็แล้วแต่ ส่วนเรื่องรายได้จากการทำโยบีไดเอตฟู้ดส์ ถามว่าถึง 40 ล้านไหม ไม่ขอพูดถึงตัวเลขผ่านตรงนี้นะคิดว่าน่าจะคำนวณกันได้นะจากสิ่งที่พูดไปทั้งหมด”

รับอึดอัดต้องร่วมงานกัน เพราะทำให้คนรอบข้างอึดอัดไปด้วย ส่วนตนอยากถามว่าทุกวันนี้มีความสุขหรือเปล่า
“อึดอัดค่ะ เบื้องหลังเป็นยังไง โยว่าคนรอบข้างเราเขาอึดอัดมาก เวลาเดินไปคุยกับใครที อีกคนจะมอง มันไม่ควรเป็นแบบนี้ ยอมรับว่าโยบีเคยเป็นสีสันทุกที่ที่เราไป มันมีแต่ความสนุก มีแต่ความตลก แต่ตอนนี้เรานั่งกันคนละมุม พร้อมฟัดกันตลอดเวลา สำหรับโยจบนะคะ แล้วแต่คุณบีเลยว่าอยากจบตรงนี้หรืออยากจบที่หน้าสื่อ”

“ส่วนตัวยังไม่ได้นัดเคลียร์กันค่ะ แต่การเงินได้โทร.หาไปหา คุณบีก็ยังยืนยันคำเดิมว่าไม่มีการเงินมาคุย ต้องรอการเงินของคุณบีก่อน ถ้าเร็วได้ก็จะดีค่ะ รออยู่ค่ะ”

“สิ่งที่อยากฝากจริงๆ อยากเห็นบีมีความสุขจริงๆ อยากเห็นสิ่งที่เขาทำแล้วมีความสุข เพราะทุกวันนี้เชื่อว่าคุณบีทำไม่มีความสุข เพราะคนรอบข้างบอกว่าคุณบีโทร.หาใครบ้าง คุณบีกลุ้มใจอะไรบ้าง ดึกๆ คุณบีก็ไม่หลับ ถ้าคุณบีมีความสุข ต้องนอนหลับได้ ใช้ชีวิตมีความสุขได้ ให้ถามตัวเองว่าคุณบีต้องการอะไร ถ้าสิ่งนั้นโยให้ได้ โยยืนยันเลยว่าจะให้ทุกอย่างค่ะ”











ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม



เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

กำลังโหลดความคิดเห็น