เปิดชีวิตยิ่งกว่าละครของ “แบงค์ วีลแชร์แดนซ์” แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ปีล่าสุด ป่วยเป็นโปลิโอมาตั้งแต่เกิด ก่อนจะเคราะห์ซ้ำกรรมซัดโดนไฟไหม้จนพิการ เดินไม่ได้จะไปไหนต้องคลานเอา สุดน่าสงสารเคยถูกคนในหมู่บ้านเดียวกันกลั่นแกล้งเตะก้อนหินใส่จนเป็นปมในใจทำให้กลายเป็นเด็กเก็บกดกลัวไปหมดทุกอย่างไม่กล้าสู้หน้าคน แต่วันนี้เขาเปลี่ยนไปเป็นคนใหม่มีหัวใจสู้เกินร้อย ถีบตัวเองจนได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ แถมเป็นเด็กตัญญู อนาคตฝันเปิดร้านซ่อมคอมพ์ไว้หาเลี้ยงตัวเองเพราะไม่อยากเป็นภาระใคร ลั่นถึงจะพิการแต่ไม่เคยย่อท้อในโชคชะตา พร้อมให้กำลังใจคนที่เกิดมาครบ 32 ให้สู้อย่าท้อแท้
สร้างความประทับใจให้กับคนดูทั้งประเทศ สำหรับทีม “วีลแชร์แดนซ์” แชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ปีล่าสุด ของนักเรียนพิการ 8 คน จากโรงเรียนศรีสังวาลย์ จ.เชียงใหม่ ที่แสดงโชว์เต้นบีบอยและในโชว์ยังมีการนำเสนอแง่คิดให้กำลังใจคนที่กำลังท้อแท้ให้ลุกขึ้นสู้เหมือนพวกเขาที่สะท้อนให้เห็นว่า ถึงจะเกิดมาร่างกายพิการแต่ใจไม่ได้พิการตามไปด้วย กลายเป็นโชว์ที่ชนะใจคนไทยทั้งประเทศ
แต่กว่าน้องๆ จะมาถึงวันนี้ได้เส้นทางชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างแน่นอน ด้วยข้อจำกัดของร่างกายที่ไม่ได้พร้อมเหมือนคนปกติ อุปสรรคเหล่านั้นจึงกลายเป็นบททดสอบชิ้นใหญ่ของทุกคน ซึ่งหนึ่งในสมาชิกทีมที่มีเรื่องราวชีวิตยิ่งกว่าละครซึ่งน่าสนใจมากๆ ก็คือ “แบงค์ ภูมิรินทร์ วงค์ษา” หนุ่มวัย 18 ปี แบงค์ป่วยเป็นโรคโปลิโอมาตั้งแต่เกิด ทำให้เดินได้ไม่เต็มเท้าต้องเดินเขย่งมาตั้งแต่เด็กๆ เวลาไปไหนมาไหนส่วนใหญ่เลยต้องคลานไป แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดโดนไฟไหม้แขน-ขาตอน 6 ขวบ จนเดินไม่ได้ต้องนั่งวีลแชร์ตลอดชีวิต ถึงจะมีชีวิตแบบนี้แต่แบงค์กลับไม่เคยย่อท้อต่อโชคชะตา พยายามใช้ความสามารถที่ตัวเองมีให้ได้มากที่สุด จากเด็กเก็บกดไม่สุงสิงกับใครเพราะวัยเด็กมีปมเคยโดยคนเตะก้อนหินใส่ ซ้ำยังเคยน้อยใจพ่อกับแม่ที่ส่งให้ไปอยู่ที่อื่น แต่ทุกวันนี้แบงค์เป็นคนใหม่ไม่เหลือซากเด็กมีปัญหาคนเดิมอีกต่อไปแล้ว ปัจจุบันติดทีมชาติเป็นนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง และกำลังมุ่งมั่นกับการศึกษาเกี่ยวกับการซ่อมคอมพิวเตอร์ อนาคตอยากเปิดร้านซ่อมคอมพ์หวังเป็นอาชีพหาเลี้ยงตัวเอง
ป่วยเป็นโปลิโอมาตั้งแต่เกิดทำให้เดินลำบากต้องคลานเอา มีน้องสาวฝาแฝดโชคดีที่น้องเกิดมาสมบูรณ์แข็งแรง
“ผมเกิดที่เชียงราย ตอนนี้อายุ 18 ผมมาจากครอบครัวที่พ่อกับแม่ทำไร่ทำสวน ฐานะปานกลาง ผมมีพี่น้อง 2 คน ผมเป็นพี่คนโตและมีน้องฝาแฝดเพศหญิง 1 คน แต่น้องร่างกายปกติไม่ได้พิการเหมือนผม ผมเป็นโปลิโอตั้งแต่เกิด เกิดมาก็ท้องบวมต้องอยู่ตู้อบ น้องกับผมเข้าตู้อบพร้อมกันแต่ความแข็งแรงผมอ่อนกว่า น้องสามารถเดินได้แต่ผมเดินไม่ได้ต้องเดินแบบเขย่งๆ แต่ตอนเด็กไม่ค่อยรู้อะไรมากครับมารู้ว่าตัวเองไม่ปกติตอนอายุ 11-12 (ยิ้มเศร้า) ตอนแรกที่รู้ด้วยความที่เป็นเด็กก็เลยไม่ได้สนใจอะไร ผมก็คลานไปเรื่อยๆ”
เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจากที่ตอนแรกยังพอเดินเขย่งได้ แต่เกิดอุบัติเหตุโดนไฟไหม้แขนและขาจนกลายเป็นคนเดินไม่ได้ต้องนั่งวีลแชร์ตลอดชีวิต
“อุบัติเหตุเกิดช่วงก่อนที่ผมจะได้เข้าไปเรียนที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ เชียงใหม่ เป็นโรงเรียนของสมเด็จย่าครับ เป็นโรงเรียนคนพิการ ตอนนั้นอายุ 6 ขวบ ผมซน ผมไปเล่นไฟแช็กในที่นอนแล้วมันไหม้โดนแขน 2 ข้างและขา 2 ข้าง มันไปส่งผลก็คือยึดเส้นเอ็นของขา แต่ตัวไม่ไหม้เพราะที่ตามาช่วยไว้ก่อน คือตอนเด็กๆ ผมมาอยู่กับยายไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ยายจะเป็นคนทำทุกอย่างให้ผม ความรู้สึกตอนโดนไฟไหม้มันชาไปทั้งตัว ความร้อนมันอยู่ในตัวของผม หนังมันบวมขึ้นมาเลยครับ ก็ร้องไห้แต่ไม่ได้ร้องเพราะเจ็บแต่ร้องเพราะออกจากกองไฟไม่ได้ แต่ผมไม่คิดว่าตัวเองจะตายผมคิดว่าผมรอดเพราะผมรู้สึกว่าตัวเองเข้มแข็ง หลังจากนั้นมีโอกาสได้เข้ารับการผ่าตัด 2 ครั้งเพื่อให้เท้าติดกับพื้น หลังผ่าตัดทำให้ผมเดินได้นิดหน่อย 2 รอบแรกผมไม่ได้โดนเจาะหัวเข่า แต่พอครั้งที่ 3 กลายเป็นว่าผมโดนเจาะหัวเข่าแล้วทำให้ขามันแย่ลงจนเดินไม่ได้เลย ต้องนั่งวีลแชร์ตลอดตั้งแน่นั้นมา ก็เคยโดนล้อแต่ผมก็ปล่อยให้เขาว่าไป โกรธแต่ไม่ได้ตอบโต้เพราะยังไงก็สู้เขาไม่ได้ ฉะนั้นอยู่เฉยๆ ดีกว่า”
“ผมไม่เคยท้อกับชีวิตเพราะความผิดมันก็เป็นความผิดของผมด้วยที่ไปเล่นไฟแช็ก แต่ไม่เป็นไรครับถึงผมร่างกายพิการแต่หัวใจผมก็เต็มร้อยเหมือนคนปกติทั่วไป มันลำบากเพราะเคลื่อนไหวไม่ได้ คนอื่นวิ่งได้แต่เราวิ่งไม่ได้ ผมช่วยเหลือตัวเองได้ปกติ อาบน้ำ กินข้าว ใส่เสื้อผ้า จะพยายามช่วยเหลือตัวเองให้ถึงที่สุดก่อน อันไหนที่ทำไม่ได้ก็ค่อยขอให้คนอื่นช่วย อย่างเช่น หยิบของที่อยู่สูงๆ ในขณะเดียวกันคนที่เขาแย่กว่าเรา ถ้าเขาทำอะไรไม่ได้ผมก็จะไปช่วยเขา ซึ่งผมภูมิใจครับที่ได้ช่วยเพื่อนๆ กับน้องๆ ตอนนี้ผมเรียนอยู่ ม.3 เป็นโรงเรียนประจำ กิน-นอนในโรงเรียนเลย เรียนฟรี เสียแค่ค่าซักผ้าปีละ 500 บาท ถึงเวลาก็ปั่นวีลแชร์ไปเรียน โรงเรียนสอนในเรื่องของการดำเนินชีวิตของตัวเองและส่วนรวม”
เคยน้อยใจพ่อกับแม่คิดว่ารักน้องสาวมากกว่าถึงส่งตนเองไปอยู่ที่อื่นแต่น้องสาวกลับได้อยู่กับครอบครัว
“ตอนพ่อกับแม่ส่งไปเรียนที่โรงเรียนศรีสังวาลย์ก็มีส่วนที่ทำให้ผมน้อยใจนิดหน่อยครับ มันเหมือนกับว่าเราขาดอะไรไป แต่พอโตก็เข้าใจได้เองว่าแม่ต้องทำงานหาเงิน ส่วนเราก็ต้องไปเรียนหนังสือไปเพื่ออนาคตพ่อแม่จะได้ภูมิใจในตัวเรา ครั้งแรกที่พ่อแม่ไปส่งไว้ที่โรงเรียนผมเคยคลานตามพ่อกับแม่ไปตามถนน คลานไปร้องไห้ไปจนครูต้องมาพากลับไปโรงเรียน ผมไม่เคยห่างจากพ่อแม่เลยพอวันนึงต้องแยกกันอยู่คนละที่เราก็อยากตามกลับบ้าน ปีแรกร้องไห้ตลอด แต่เข้าปีที่ 2 ก็ไม่ร้องแล้วสนุกครับ ตอนนี้ไม่เคยคิดแบบนั้นเลย ผมภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่ แม่ทำให้ผมเป็นคนเข้มแข็งไม่อ่อนแอ พ่อแม่จะสอนเสมอว่าถ้าพ่อแม่ไม่อยู่ลูกต้องเข้มแข็งอย่าท้อ ผมก็เลยสู้มาจนถึงทุกวันนี้”
เป็นเด็กเก็บกดและเก็บตัวตั้งแต่เด็ก เพราะโดนคนในหมู่บ้านเดียวกันกลั่นแกล้งเตะก้อนหินใส่อย่างน่าสงสารทั้งที่ตอนนั้นก็เดินไม่ได้ต้องคลานไปกับถนน
“เมื่อก่อนผมเป็นคนพูดน้อยเก็บเนื้อเก็บตัวเพราะเป็นคนไม่กล้าแสดงออก ผมกลัวทุกอย่าง เวลามีคนมาหน้าบ้านผมจะไม่กล้าออกไปผมจะไปหลบอยู่ในห้องคนเดียว แล้วจะให้น้องดูให้ว่าคนไปรึยัง ผมถึงจะออกมา ไม่กล้าออกไปไหน ที่ไม่กล้าไม่ได้อายว่าเราเกิดมาพิการ แต่เพราะตอนเด็กๆ ผมเคยโดนคนในหมู่บ้านเดียวกันแกล้งเตะก้อนหินมาโดนตอนผมคลานกับพื้น มันก็เลยมีปมในใจ แต่พอโตมาก็ไม่กลัวแล้วสามารถไปไหนมาไหนได้ ความกลัวมันหายไปตอนผมได้เข้าโรงเรียนเพราะผมได้เห็นคนอื่นที่แย่กว่าผม โรงเรียนนี้เปิดโลกใหม่ให้ผม ตอนนี้ผมเป็นคนกล้าพูด ชอบเล่นสนุกๆ”
ถีบตัวเองจนตอนนี้ติดทีมชาติเป็นนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่ง
“ผมภูมิใจที่ได้มาเรียนที่โรงเรียนศรีสังวาล และได้เป็นนักกีฬาวีลแชร์เรซซิ่งของโรงเรียน ลักษณะก็คือเป็นวีลแชร์ 3 ล้อแข่งในสนามกรีฑา กติกาก็เหมือนคนวิ่งแต่เราเอาวีลแชร์มาแข่งกัน ผมแข่งในระยะ 100-200-400-800 เมตร คุณครูส่งผมไปแข่งกีฬาคนพิการที่ต่างจังหวัดแล้วกรมพละมาเห็นผมเขาก็เลยโทร.มาที่โรงเรียน ตอนนี้ผมติดทีมชาติในรุ่นเยาวชนมาได้ 2 ปีแล้วครับ แต่ผมเล่นในกีฬานักเรียนมา 5 ปีแล้ว ไอดอลของผมคือพี่สายชล คนเจน และพี่ ประวัติ วะโฮรัมย์(นักกีฬาทีมชาติ) ผมอยากทำให้ได้เหมือนพี่ๆ ก็เลยตั้งใจฝึกซ้อม ผมเคยเจอพี่เขาด้วยและได้เทคนิคจากพี่เขามาด้วย ความฝันของผมคืออยากขึ้นไปติดทีมชาติชุดใหญ่ เพราะผมอยากทำให้ครอบครัวผมและคนที่ดูถูกผมเห็นว่าผมสามารถทำได้ อย่างพ่อกับแม่ผมก็สนับสนุนให้เล่นกีฬา ผมไม่ได้ชอบแค่วีลแชร์เรซซิ่งอย่างเดียวแต่ชอบวีลแชร์บาสเก็ตบอลด้วย”
ฝันสูงสุดอยากติดทีมชาติชุดใหญ่และอยากเปิดร้านซ่อมคอมพ์ เหตุผลเพราะอยากสร้างรากฐานให้ตัวเองหากวันนึงที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้วต้องอยู่ด้วยตัวเองให้ได้
“เป้าหมายชีวิตผมคืออยากติดทีมชาติชุดใหญ่และอยากเปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ ตอนนี้ก็เริ่มเรียนรู้จากพี่ๆ ที่โรงเรียน เวลาพี่เขาซ่อมคอมพ์ผมก็จะไปถามว่าทำยังไงและเรียนรู้เอา 2 อย่างนี้เป็นเป้าหมายของผมเพราะถ้าอนาคตพ่อกับแม่ไม่อยู่แล้วผมจะได้ทำอาชีพนี้เพื่อเลี้ยงตัวเอง แล้วกีฬาก็ทำให้ผมมีเงินเดือน อย่างถ้าผมติดทีมชาติชุดใหญ่ผมจะมีหน้าที่ซ้อมและแข่งอย่างเดียว นอกจากนั้นเขายังจะรับเราเป็นพนักงานเซ็นทรัลหรือบิ๊กซีด้วย และถ้าราทำผลงานเขาก็จะมีค่าอัดฉีดให้ ซึ่งมันทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ครับ ถ้าวันนึงที่พ่อแม่ไม่อยู่แล้วผมก็ต้องฝึกอยู่คนเดียวให้ได้ ส่วนน้องสาวผมก็ปล่อยให้เขาตัดสินใจเอง แต่ก็มีบอกไว้ว่าถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอก เรื่องที่จะพึ่งพิงน้องก็คิดว่าจะไม่ไปอะไรมากเพราะผมอยากช่วยเหลือตัวเองก่อน เพราะถ้าหวังให้คนอื่นช่วยเราจะทำไม่เต็มที่”
น่านับถือสุดๆ นอกจากเป็นคนใจสู้แล้วยังกตัญญูมากๆ เก็บหอมรอมริบจนมีเงินเก็บอยู่ 3.5 หมื่น แต่ให้ยายหมดกระปุกหลังเห็นหลังคาห้องครัวที่บ้านยายทรุดโทรมเวลาฝนตกแล้วน้ำรั่วลงมา
“ผมวางแผนไว้คิดไว้ว่าถ้าเรียนจบ ม.3 อยากลองออกไปใช้ชีวิตเองข้างนอกดูว่าเป็นยังไง ส่วนจะประกอบอาชีพอะไรผมอยากรอให้มั่นใจก่อนว่าเราจะสามารถทำอะไรได้บ้างค่อยคิดอีกที แต่ยังไม่กลับบ้านครับเพราะอยากรอให้ตัวเองมีอนาคตที่ดีก่อน อีก 4-5 ปีใจผมอยากเปิดร้านคอมพ์ให้น้องสาวดูแล และเล่นกีฬาควบคู่ไปด้วย เวลามีแมตช์แข่งขันผมก็ไปแล้วให้น้องดูแลร้านแทน แต่ตอนนี้ขอเก็บตังค์ก่อน รายได้ผมมาจากกีฬา แต่กีฬาจะได้ก็ต่อเมื่อมีแมตช์แข่งขันตกเดือนละ 1-2 หมื่น ผมก็เก็บไว้ และเงินคนพิการเดือนละ 500 บาท จากพ่อแม่ก็แล้วแต่ท่านจะให้ผมไม่เคยเรียกร้องครับ ก่อนหน้านี้มีเงินเก็บ 3.5 หมื่นแต่ผมให้ยายไปทำห้องครัวหมดแล้ว ยายไม่ได้ขอผมเห็นครัวยายหลังคารั่วเพราะมันเก่าแล้วครับ เวลาฝนตกน้ำมันรั่วลงมาผมก็เลยให้เอง ตอนนี้ก็เริ่มเก็บใหม่”
เชื่อเป็นกรรมเก่าที่ทำให้เกิดมาพิการ ชาตินี้ก็เลยตั้งมั่นจะทำบุญเยอะๆ
“ผมไม่เคยน้อยใจโชคชะตาตัวเอง ถ้าถามว่าโทษอะไรมั้ยที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ คงเป็นกรรมเก่าครับ ชาติที่แล้วเราคงทำกรรมไว้ ชาตินี้ก็เลยต้องมาชดใช้กรรม ชาตินี้ก็ต้องทำบุญและใช้ชีวิตที่เขามอบให้อย่างดีที่สุด ถ้ามีโอกาสกลับบ้านผมก็จะไปทำบุญที่วัด แล้วก็สวดมนต์และแผ่เมตตา เสร็จแล้วก็นั่งสมาธิก่อนนอนเพราะโรงเรียนให้เราทำแบบนี้ทุกวันครับ”
ถึงจะเกิดมาไม่สมบูรณ์แบบเหมือนคนอื่นแต่กลับใช้ชีวิตได้น่าเอาเป็นแบบอย่าง นอกจากจะเล่นกีฬาเก่งจนติดทีมชาติแล้ว ล่าสุดยังเป็นเจ้าของแชมป์ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ปีล่าสุด เงินรางวัลที่ได้มาจะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ ให้ตัวเอง ให้โรงเรียน และให้เพื่อนพี่น้องผู้พิการที่โรงเรียน
“พวกเราเป็นคนชอบเต้น เริ่มจากเต้นแอโรบิครถเข็นและมีโอกาสไปแข่งขันซึ่งมีทั้งหมด 4 โรงเรียน แล้วพวกผมได้แชมป์มาตลอด แต่ทุกปีกรรมการจะให้เราได้แค่ 70 คะแนน แต่ปีนี้กรรมการให้เราได้ 95 คะแนน คุณครูที่โรงเรียนก็เลยคิดว่าอยากให้พวกผมก้าวไปแข่งในเวทีที่ใหญ่ขึ้นก็เลยมาแข่งไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ เรามีทักษะเต้นแอโรบิควีลแชร์อยู่แล้วครูที่สอนก็เลยเอาการเต้นบีบอยเข้ามารวมกัน เป็นทีมวีลแชร์แดนซ์ การซ้อมเราต้องมีพื้นฐานการทรงตัวบนรถเข็น เพราะถ้าเราทรงตัวบนรถเข็นไม่ได้เราจะไปท่าต่อไปไม่ได้ ท่าที่ยากที่สุดคือท่าต่อตัว ก็ต้องซ้อมหนัก แล้วก็ท่าพร้อมเพรียง ผมต้องเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองด้วยการยกเวททุกวันและดันพื้นเพราะต้องยกเพื่อนขึ้นไปอยู่ข้างบน 2 คน ผมเป็นฐานต้องมั่นใจเพราะต้องดูแลคนข้างบนด้วยไม่ให้เขาหล่น เคยพลาดหลายครั้งจำได้ว่าก่อนที่จะเต้นได้ผมเคยหัวน็อกพื้น 3 รอบ หัวโน การซ้อมของผมต้องซ้อมให้หนักกว่าคนปกติ 1 เท่า เคยซ้อมหนักจนล้าลุกไม่ไหวลงไปนอนเลย เจ็บตัวแต่ผมไม่เคยคิดอยากหยุดเล่นเพราะมันสนุก เรามีใจรักด้วย ชอบการเต้นกับเสียงเพลง”
“วันแข่งวันแรกผมตื่นเต้นมากจนพลาดล้มลงไป เป็นครั้งแรกที่ได้ออกทีวี แล้วเวทีก็ใหญ่คนดูเยอะ พอทำได้แล้วผมภูมิใจมากที่ทำให้คนดูในฮอลล์มีความสุข เงินรางวัล(10 ล้าน)ที่ได้จากการแข่ง ส่วนนึงจะเก็บไว้ให้ตัวเองเป็นทุนการศึกษา ส่วนนึงผมจะแบ่งไปทำสนามบาสเก็ตบอลให้โรงเรียนไว้ให้ทุกคนได้เล่นกีฬา และอีกส่วนนึงจะแบ่งให้น้องๆ ที่โรงเรียนเป็นค่ารักษาตัว อย่างบางคนต้องใส่แพมเพิร์สตลอดเวลา ผมอยากแบ่งไปช่วยตรงนั้นเท่าที่ผมจะทำได้ เป้าหมายเราที่มาแข่งไม่ได้คิดถึงขนาดจะได้แชมป์แต่มาเพราะอยากแสดงความสามารถให้คนไทยได้เห็นและสร้างกำลังใจให้คนที่ท้อแท้ คนที่เกิดมาครบ 32 อย่าไปท้อกับปัญหาครับลุกขึ้นมาสู้ดีกว่า พวกคุณสามารถทำอะไรได้มากกว่าพวกผมตั้งหลายอย่าง ขนาดพวกผมยังไม่ท้อเลย ส่วนคนที่เกิดมาพิการก็อย่าท้อถอยเลยครับ อย่าคิดว่าเราทำอะไรไม่ได้ ลองลุกขึ้นมาสู้กับมันก่อน สักวันมันจะมีทางออกของมันเอง ผมมีวันนี้ได้ผมอยากขอบคุณครูและพ่อแม่ พ่อแม่สอนให้ผมเข้มแข็ง คุณครูสอนให้พวกผมเป็นเด็กดีเป็นคนดีของสังคม”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |