“เก๋” ทิ้งปริศนา เจ้าของทำร้ายปอม “เจคอป” หรือไม่ อนาถมนุษย์อุบาทว์ ข่มขืน “หมา”

“เก๋ ชลดา” แถลงข่าวกรณี สุนัขปอม “น้องเจคอป” โดนทำร้ายตัดเอ็นขา ขอยุติการช่วยเหลือเพราะเจ้าของไม่ต้องการรับความช่วยเหลือ ไม่ออกความเห็นกรณีที่สังคมสงสัยว่าเจ้าของสุนัขเป็นผู้ทำหรือไม่ แต่ตำรวจยืนยันว่าไม่พบสิ่งผิดปกติกล้องวงจรปิด วอนนายกฯ ผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันทารุณกรรมสัตว์ คืนความสุขให้ทุกชีวิตด้วย อุบาทว์เดี๋ยวนี้มีพวกตั้งแก๊งข่มขืนหมา

สู้ตายเรื่องช่วยเหลือสัตว์สำหรับ “เก๋ ชลดา เมฆราตรี” ประธานมูลนิธิ The Voice เสียงจากเรา ที่ตกเป็นข่าวใหญ่โตล่าสุดก็คือกรณีเข้าไปช่วยเหลือสุนัขพันธุ์ปอม “น้องเจคอป” ที่มีผู้แจ้งว่าถูกทำร้าย แต่ไปๆ มาๆ เรื่องราวกับบานปลาย เพราะจากแถลงการณ์ของตำรวจไม่พบสิ่งปกติในกล้องวงจรปิด คำถามต่อมาก็คือ แล้วใครทำร้ายเจคอป อาจะเป็นคนใกล้ตัวใช่หรือไม่

ในฐานะประธานมูลนิธิที่ติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นเก๋ก็ได้เปิดแถลงข่าวพร้อมกับ “โรเจอร์ โลหนันท์” เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย และ น.สพ.ณัฐกาญจน์ แกล้วเขตต์การ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ประกาศยุติความช่วยเหลือคดีเจคอป เพราะเจ้าของไม่ขอรับความช่วยเหลือ ส่วนเรื่องของคดีว่าใครเป็นคนร้ายให้เป็นเรื่องของตำรวจ จะขอเดินหน้าผลักดัน พ.ร.บ.ป้องกันทารุณสัตว์ ฉบับประชาชน ให้ คสช. พิจารณาผ่านกฎหมายต่อไป เพื่อที่จะได้นำคนผิดมาลงโทษ ไม่ใช่มีโทษปรับแค่ 1,000 บาท พอปรับเสร็จก็คืนสัตว์เลี้ยงที่โดนทำร้ายให้เจ้าของ

เก๋ : “สำหรับข่าวน้องเจคอปเป็นข่าวที่สะเทือนขวัญสะเทือนใจหลายๆ คน เหตุการณ์สุนัขพันธุ์ปอมโดนทำร้ายตอนนี้ยังหาตัวคนร้ายไม่ได้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม โดยเก๋กับทีมงานได้ไปที่บ้านของเจ้าทุกข์วันที่ 19 สิงหาคม หลายคนอาจจะสงสัยว่าเก๋เกี่ยวข้องยังไง เก๋ทำงานช่วยเหลือดูแลรักษาสัตว์ที่เจ็บป่วยยากไร้ และตอนนี้ได้ขยายไปถึงเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ยากไร้ เรายินดีจะหยิบยื่นเข้าไปช่วยเหลือ”

“เราได้รับแจ้งเหตุทางอินบ็อกซ์เฟซบุ๊ก ได้ทราบข่าวจาก ชัญญ่า, อั้ม พัชราภา, โย ยศวดี และ ตอง ภัครมัย ที่แท็กมา แจ้งขอให้ลงไปช่วยเหลือน้องเจคอป นอกจากนั้นแล้ว ก็ยังได้รับการติดต่อจากน้องเมย์ ซึ่งเป็นสมาชิกรักปอมประเทศไทย แจ้งขอความช่วยเหลือว่า ใครมีสัตวแพทย์อยากจะขอความช่วยเหลือให้ไปช่วยน้องเจคอป เราก็พยายามติดต่อไปที่เจ้าทุกข์ว่าเกิดเหตุการณ์อย่างไร”

“ทุกครั้งที่เราลงพื้นที่ไปหาเจ้าทุกข์ที่แจ้งเรื่องมา มันจะมี 2 แบบ คือ 1. เจ้าทุกข์เห็นเหตุการณ์เห็นคนร้าย และอยากให้เราตามตัวคนร้าย 2. เจ้าของสัตว์เลี้ยงทำร้ายสัตว์เลี้ยงตัวเอง สำหรับประเทศไทยสัตว์เลี้ยงก็เหมือนสมบัติสิ่งของ ของเจ้าของ เขาไม่มีชีวิตเป็นของตัวเอง คุณจะสามารถทำอะไรกับเขาก็ได้ หลายกรณีที่เราเข้าไปช่วยเหลือและก็มีผู้รับไปเลี้ยง อย่างน้องเชียร์ ทิฆัมพร ก็รับไปเลี้ยง น้องมาร์ค มาคุส ก็รับไปเลี้ยง และอีกหลายต่อหลายคนที่รับไปเลี้ยง ซึ่งสุนัขที่พวกเขาเหล่านั้นเราไปเลี้ยงนั้นต่างเป็นสุนัขที่มีเจ้าของนะคะ แต่ทุกครั้งที่เราลงพื้นที่เจ้าของจะยกให้มูลนิธิเลย กรณีของเจคอปเราไม่ได้มาจับผู้ร้าย เราต้องการเข้าไปช่วยชีวิตและคุ้มครองไม่ให้เขาทุกข์ทรมานแบบนี้อีก”

เรียกร้องให้พิจารณา พ.ร.บ.ป้องกันทารุณสัตว์ ฉบับประชาชน เพื่อคุ้มครองสัตว์และลงโทษผู้กระทำความผิด
เวโรจน์ : “กฎหมายป้องกันการทารุณสัตว์ที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นกฎหมายลหุโทษ ห้ามมิให้ผู้ใดทำทารุณกรรมสัตว์ แต่ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องว่าทารุณสัตว์หรือไม่ กรณีเจคอปหาตัวผู้ทำผิดไม่ได้ ตำรวจก็ไม่มีอะไรจะสืบสาว ต่อให้มีการจับได้ก็ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือจำคุก 1 เดือน แต่ที่ผ่านมามีผู้ที่ถูกจำคุก 1 เดือนเพียงแค่คนเดียว”

ด้านศาลเองก็ไม่มีอำนาจในการริบสัตว์ ผมทำงานด้านนี้มา 20 ปี ศาลไม่มีอำนาจริบสัตว์ พอคดีจบก็ต้องคืนสัตว์ให้กับเจ้าของเหมือนเดิม ปรับ 1,000 บาท คือมันไม่ได้เป็นการคุ้มครองสัตว์อย่างแท้จริง อย่างถ้ามีสุนัขบ้านหนึ่งไปกัดไก่ของอีกบ้านหนึ่ง และสุนัขโดนเจ้าของไก่ฆ่าตาย ถ้าให้ใช้ดุลพินิจตำรวจที่รักสัตว์ก็ต้องบอกว่า เป็นการทารุณกรรมสัตว์ แต่ถ้าตำรวจที่ไม่รักสัตว์อาจจะบอกว่าไม่ทารุณสัตว์ เพราะมันมากัดไก่ก่อน และปรับ 1,000 บาท ฉะนั้นตำรวจจะมาใช้แค่ดุลพินิจไม่ได้”

“ตอนนี้มีกฎหมายป้องกันการทารุณสัตว์ที่กำลังจะผ่าน คสช. เป็นกฎหมายที่ใช้การจริงไม่ได้ มันเป็นกฎหมายที่มีมาตราเดียว ห้ามทารุณสัตว์ไว้มาตราเดียว แต่มีข้อยกเว้นให้ทำได้อีก 11 ข้อ ที่เรียกว่าไม่ทารุณ ตอนนี้ คสช. กำลังเอากฎหมายตัวนี้ไปพิจารณา กฤษฎีกาก็รู้ดีว่า มีฉบับประชาชนที่เรายื่นเรื่องเข้าไปอยู่แล้ว ทำไมถึงได้เอาฉบับเดิมมาให้สนช. (สภานิติบัญญัติแห่งชาติ 2557) กรณีเจคอปการลงโทษในกฎหมายเก่าก็คือปรับไม่เกิน 1,000 บาทและคืนเจ้าของ แต่ พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณสัตว์ฉบับประชาชนมันไม่ใช่”

เก๋ : “เพราะเราไม่มีกฎหมายฉบับคดีของน้องเจคอปถึงไปได้ไม่ไกลกว่านี้ เจ้าของเจคอปเขาบอกแล้วว่าไม่ต้องการความเชื่อเหลือเขาสามารถดูแลเองได้ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่รักษาแต่เราไม่สามารถหยิบยื่นให้กับสุนัขที่มีเจ้าของได้ ส่วนเรื่องของคดีใครทำร้ายเจคอปก็คงต้องเป็นเรื่องที่ตำรวจต้องจัดการ ก่อนหน้านี้ ตำรวจก็เคยแถลงการณ์แล้วว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบเห็นความผิดปกติ คนผิดจะถูกลงโทษหรือไม่ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ หน้าที่ของเดอะวอยส์ได้เสร็จสิ้นแล้ว เราได้ทำหน้าที่เราแล้ว ส่วนผู้ร้ายคนทำผิดขอมอบหน้าที่ให้ สน.โคกคราม เป็นคนจัดการ

เมื่อตำรวจแถลงจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบสิ่งผิดปกติ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า หรือจะเป็นคนในบ้านทำซะเอง เรื่องนี้เก๋บอกว่า...
“ตอนที่เราไปขอเจรจาในตอนแรกเพราะเราได้รับข่าวสารว่า มีการขอความช่วยเหลือด้านสัตวแพทย์ และบอกว่าขาดทุนทรัพย์ในการรักษา เราจึงได้ลงพื้นที่มาบ้านที่เกิดเหตุ และเข้าไปคุยกับคุณรันเจ้าของเจคอปเรื่องการรักษาเราอยากจะเข้าไปดูแล ซึ่งคุณรันก็ขอไปปรึกษากับครอบครัวและตอบกลับมาทางมูลนิธิว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งตรงนั้นมันก็จบหน้าที่เราแล้ว ต่อไปคุณรันจะดูแลเจคอปได้ไหมอย่างไร อันนี้เราคงตอบไม่ได้ ก็เหมือนที่คุณรันพูดในเฟซบุ๊กการดูแลสัตว์เลี้ยงมาตรฐานแต่ละคนไม่เท่ากัน เราไม่สามารถไปตัดสินเขาได้”

“หลังจากที่เข้าไปบ้านคุณรันในวันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณรันอีก แต่ได้คุยผ่านคนสนิทของครอบครัวคุณรัน เขาบอกว่า คุณรันไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมตอบคำถามเศร้าโศกและเสียใจอยู่”

เรื่องข้อมูลที่หลายคนมองว่ามีการให้สัมภาษณ์ไม่ตรงกัน เราเป็นมูลนิธิเราเป็นคนกลางเป็นคนที่เข้าไปช่วยเหลืออย่างเดียว ทางคุณรันเองก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ ตำรวจก็บอกแล้วว่าไม่มีความผิดปกติกล้องวงจรปิด ก็คงต้องเป็นหน้าที่ตำรวจในการสืบสวนต่อไป”

อุบาทว์หนักเดี๋ยวมีแก๊งร่วมเพศกับสัตว์ วอนทุกคนสนับสนุน พ.ร.บ.ป้องกันทารุณสัตว์ ฉบับประชาชน เพื่อคุ้มครองทุกชีวิต
“เดี๋ยวมันมีอะไรแปลกๆ ออกมาเยอะ มันมีเว็บไซต์หนึ่งที่เกี่ยวข้องกับเซ็กซี่ และก็มีป๊อปอัพคนที่มีพฤติกรรมทางเพศสังวาสกับสัตว์ เว็บนี้ถูกปิดแล้ว แต่ตอนนี้ก็ถูกเปิดขึ้นมาอีก มันแย่มากอวัยวะเพศของสัตว์กับของคนมันก็แตกต่างกันอยู่แล้ว สุนัขหรือแมวบางตัวที่โดนทำแบบนี้ ทำให้อวัยวะเพศฉีกขาดถึงขั้นเสียชีวิตเลย ถ้ามี พ.ร.บ.ป้องกันทารุณสัตว์จะสามารถคุ้มครองพวกเขาได้ อยากจะให้เหตุการณ์ร้ายๆ เหล่านี้หมดไป”

“เก๋อยากจะให้ พ.ร.บ. ฉบับนี้ได้รับการพิจารณา ปีนี้เราโชคดีมากที่ คสช. และท่านนายกฯ ก็รับเรื่องไว้แล้ว เก๋รอวันนี้มา 7 ปีแล้ว เก๋อยากให้ลูกหลานเก๋ได้มี พ.ร.บ. นี้ใช้ เพื่อคุ้มครองสัตว์ทำให้คนมีความเมตตา มาตรการต่อไปก็คงจะไม่มีอะไรคงจะไม่ไปประท้วงหรือกดดันเหมือนปี 56 ตอนนั้นที่ไปเดินขบวนเพราะรัฐบาลไม่รับร่าง พ.ร.บ. แต่ตอนนี้ คสช. รับร่างแล้ว ก็อยากจะให้ความฝันของคนรักสัตว์เป็นจริงซักที”

“ถ้า พ.ร.บ. นี้ผ่าน ถ้าคุณเห็นใครขับรถชนสัตว์แล้วไม่รับผิดชอบ แค่คุณจดทะเบียนนั้นไปแจ้งตำรวจ เจ้าของรถคันนั้นจะต้องมารับผิดชอบรักษาเขาจนหาย แต่ถ้า พ.ร.บ.นี้ไม่ผ่าน เก๋ก็จะสู้ต่อไป เราทำมาตั้งแต่ต้นแล้ว ก็ยืนยันจะทำต่อไป ถ้ารัฐบาลอยากให้หน้าตาบ้านเมืองเราไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนก็ต้องมี พ.ร.บ. นี้ เพราะเดี๋ยวนี้ต่างประเทศเขาก็มี พ.ร.บ. นี้ใช้แล้ว ฝากไปถึงท่านนายกฯ คืนความสุขให้ประชาชนแล้ว ก็อยากจะให้คืนความเมตตาให้ทุกชีวิตด้วยนะคะ”