เอเจนซี - เตรียมนับถอยหลังสู่ความโหดร้ายทารุณของเทศกาล ‘กินหมา’ ในเมืองอี้ว์หลิน เขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง มณฑลก่วงซี ที่ผู้คนจำนวนมากทั่วโลกกำลังเรียกร้องให้ยุติการจัดงาน เพื่อรักษาชีวิตเจ้าตูบสี่ขาพ้นขุมนรกทั้งเป็น
สำนักข่าวต่างประเทศเผย (18 มิ.ย.) สิบเหตุผลความเหี้ยมโหดผิดมนุษย์มากที่สุดในโลก ของประเพณีการรับประทานเนื้อสุนัข เมืองอี้ว์หลิน ที่จะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ (21) ซึ่งตรงกับวันครีษมายัน โดยคาดว่าสุนัขหลายพันตัวจะถูกสังหารอย่างทุกข์ทรมานจนสิ้นชีวิต ก่อนเสิร์ฟเป็นอาหารแกล้มลิ้นจี่ให้กับชาวบ้านท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี ผู้คนจำนวนมากทั่วโลกโดยเฉพาะคนดังในแวดวงต่างๆ ก็ออกมาแสดงท่าทีต่อต้านผ่านโลกออนไลน์ รวมถึงการล่ารายชื่อผู้คัดค้านเพื่อเสนอต่อผู้นำจีน เรียกร้องให้ยุติการจัดงานเทศกาลที่เป็นการทารุณกรรมสัตว์นี้ลง
(วันครีษมายันเป็นช่วงที่เวลากลางวันยาวที่สุดในกลุ่มประเทศแถบซีกโลกเหนือ ดวงอาทิตย์จะอยู่สูงเลยเส้นศูนย์สูตรฟ้าไปทางทิศเหนือมากที่สุด และหากแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ก็จะพบว่าดวงจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าปกติ เนื่องจากโคจรอยู่ใกล้กับเส้นศูนย์สูตร)
10 เหตุผล ทำไมเทศกาลกินหมาเมืองอี้ว์หลิน จึงเป็นเรื่องเลวร้ายดั่งขุมนรกของสัตว์ตาดำๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์
1) ในปี 2554 เทศกาลฯ ถูกจัดขึ้นเป็นเวลา 10 วันเต็ม มีสุนัขมากกว่า 15,000 ตัว ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมก่อนนำไปปรุงเป็นอาหาร โดยตัวเลขดังกล่าวเป็นเพียงค่าประมาณการซึ่งมีแนวโน้มสูงกว่านั้นอีกมากในความเป็นจริง
2) สุนัขที่ร่างกายผอมซูบเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก จะถูกฉีกทึ้งร่าง ทุบด้วยค้อน ตัดด้วยเลื่อย รวมถึงต้มในน้ำเดือดและย่างสดกลางเปลวไฟทั้งที่ “ยังมีชีวิต” อยู่ โดยคนที่เข้าร่วมเทศกาลฯ ต่างยื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพฤติกรรมทารุณสัตว์เหล่านี้ด้วยจิตใจหยาบช้าอย่างเปิดเผย
3) ไม่ใช่แค่สุนัขจรจัดเท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อ แม้แต่สุนัขเลี้ยงที่สวมปลอกคอแสดงความมีเจ้าของก็ยังถูกลักขโมยมาจากทั่วประเทศ โดยทุกปีจะมีเนื้อสุนัขถูกบริโภคมากกว่า 200,000 กิโลกรัม ซึ่งภายในเมืองอี้ว์หลินนั้นมีโรงเชือดสุนัขกว่า 100 แห่ง คอยปลิดชีพสุนัขมากกว่า 2,000 ตัว ในแต่ละวันตลอดเทศกาล
4) ชะตากรรมแรกเริ่มของสุนัขนั้นก็แสนทรมาน พวกมันจะถูกจับยัดรวมกันในกรงขนาดเล็กที่ส่งมายังเมืองอี้ว์หลิน โดยสุนัขหลายพันตัวจบชีวิตลงขณะเดินทางเพราะขาดน้ำและอาหาร รวมถึงความแออัดยัดเยียดเกินขนาด ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการระบุยอดสุนัขที่สังเวยชีวิตตั้งแต่เริ่มเทศกาลครั้งแรกอย่างแน่นอนออกมา
5) ชาวจีนบางส่วนเชื่อว่าการรับประทานเนื้อสุนัข รวมถึงแมว จะช่วยกระตุ้นความอบอุ่นภายในร่างกาย นำพาสุขภาพแข็งแรง และความโชคดีมีชัยมาให้ ซึ่งกลายเป็นแรงผลักดันให้เกิดเทศกาลนี้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
6) ประเทศจีนยังไม่มีการออกกฎหมายคุ้มครองสัตว์อย่างจริงจัง แม้ทั่วโลกจะส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหู แต่ทางการจีนก็ตอบสนองเพียงบอกให้ประชาชนเมืองอี้ว์หลินหยุดใช้คำ ‘เนื้อหมา’ และนิ่งเฉยกับการเดินหน้าเทศกาลนี้ต่อไป
7) ประเพณีกินสุนัข-แมว ที่อี้ว์หลิน ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแห่งเดียวในประเทศจีน โดยปี 2554 ก็มีการจัดเทศกาลรับประทานเนื้อสุนัขจินหวา หูโถว แต่ก็ถูกสังคมแบนจนล้มเลิกไปในไม่กี่วัน
8) แม้รัฐบาลจีนอ้างว่าได้ตักเตือนชาวเมืองอี้ว์หลินแล้ว แต่คนจำนวนมากก็เชื่อว่า เทศกาลฯ ปีนี้อาจจะถูกจัดขึ้นเร็วกว่ากำหนดเดิม เพื่อหลบเลี่ยงการเข้าแทรกแซงจากฝักฝ่ายต่างๆ
9) เทศกาลรับประทานเนื้อสุนัขยังเป็นต้นเหตุหลักของปัญหาผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าในเมืองอี้ว์หลินเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีกด้วย
10) มีการคาดการณ์กันว่าสุนัขอย่างน้อย 15,000 ตัว จะถูกสังหารจนดับแดดิ้นในเทศกาลสุดแสนสะเทือนขวัญสั่นประสาทของปีนี้
คลิกอ่านข่าว “ไอ้โคตรโหด! นรกของน้องหมา น้องแมว ที่อี้ว์หลิน (ชมภาพ-โปรดใช้วิจารณญาณในการชมภาพ)”