อัยการเล็งยื่นอุทธรณ์ ลุงโหดขว้างปามีดใส่สุนัขบาดเจ็บเย็บ 100 เข็ม ที่ จ.หนองคาย ชี้เจตนาทำร้ายสัตว์โดยไม่มีเหตุอันควร
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด วันนี้ (25 ก.พ.) นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลงข่าวกรณีนายคำดี โคตรถา อายุ 50 ปี ใช้มีดปาใส่สุนัขจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าเย็บกว่า 100 เข็ม เพราะบันดาลโทสะที่สุนัขจะเข้ากัดไก่ เจ้าของสุนัขได้แจ้งความไว้ที่ สภ.ท่าบ่อ จ.หนองคายว่า คดีนี้พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องนายคำดี เป็นจำเลยในความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ ต่อศาลจังหวัดหนองคายเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลพิพากษาจำคุกจำเลย 1 เดือน ปรับ 2 พันบาท แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 1 ปี โดยอัยการศาลสูงจังหวัดหนองคายได้พิจารณาแล้วเห็นว่าแม้ศาลจะพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจริง
แต่ตามข้อเท็จจริงของคดีสุนัขไม่มีนิสัยดุร้ายและไม่เคยกัดคนมาก่อน อีกทั้งตามเวลาที่เกิดเหตุไม่มีพฤติการณ์เห่าหรือเข้าทำร้ายจำเลยแต่อย่างใด ขณะที่จำเลยกลับใช้อาวุธมีดขว้างทำร้ายอย่างแรงเป็นเหตุให้สุนัขได้รับอันตราย แพทย์ต้องทำการรักษาเย็บบาดแผลให้ประมาณ 100 เข็ม แล้วจำเลยยังถือมีดวิ่งตามเพื่อทำร้ายอีก โดยผู้เสียหายได้เข้าห้ามปรามไว้ แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของจำเลยและเป็นการทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งสมควรลงโทษจำเลยโดยไม่รอลงอาญา เพื่อให้สมเจตนารมณ์ตามกฎหมายและเป็นตัวอย่างการทารุณกรรมสัตว์
โดยพนักงานอัยการได้เสนอเรื่องไปยังอธิบดีอัยการศาลสูงภาค 4 เพื่อขอให้รับรองอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิอาญา มาตรา 193 ตรี ซึ่งอธิบดีอัยการศาลสูงภาค 4 ได้รับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีนี้แล้ว วันนี้พนักงานอัยการจังหวัดหนองคายจะได้ยื่นอุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยหนักกว่า 1 เดือนโดยไม่รอลงอาญา
นายโกศลวัฒน์กล่าวอีกว่า คดีที่เกี่ยวกับการทารุณสัตว์คดีนี้ถือเป็นคดีแรกที่อัยการเห็นว่าควรอุทธรณ์ เนื่องจากนายคำดีเจตนาทำร้ายสุนัข เพราะดูจากสภาพของสุนัขตัวนี้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนศาลจะเพิ่มโทษตามที่อุทธรณ์หรือไม่ขึ้นอยู่ดุลพินิจของศาล ทั้งนี้ พ.ร.บ.ทารุณสัตว์ระบุว่า ห้ามทำร้ายหรือกระทำทารุณหากไม่มีเหตุอันสมควร เช่น หากสัตว์มุ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเรา แต่เราจำเป็นต้องทำร้ายสัตว์เพื่อป้องกันตัว ดังนั้นจะถือว่าไม่มีความผิด หากมีการแจ้งความอัยการก็จะไม่ฟ้อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว หากบุคคลกระทำโดยไม่สมควรอาจได้รับโทษตามกฎหมายจำคุก 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ