“จ๊ะจ๋า พริมรตา” เปิดศึกน้ำลาย “หนิม AF5” ซัดอีกฝ่ายโกหก รับหนิมโทร.เคลียร์จริง แต่ตนไม่ได้ตอกกลับแรง ถามกลับทำไมไม่จบ แนะอย่าพูดทุกอย่างที่คิด หากไม่คิดก่อนพูดหรือใช้อารมณ์ ชีวิตมีแต่เจ๊งกับเจ๊ง วอนอย่าดึงตนไปเกี่ยวอีก เพราะเป็นข่าวไม่สร้างสรรค์ ไม่ทำให้เกิดความภูมิใจในอาชีพ บอกอยากเอาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ใจ แต่ไม่รู้ว่าทำแล้วได้อะไร
ดูท่าเรื่องราวจะไม่จบลงง่ายๆ เสียแล้ว สำหรับเรื่องราวรักสามเส้ากรณีนักแสดงสาว “จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม” เข้าไปแทรกกลางความรักของ “หนิม AF5” คะนึงนิจ ธนพิชชาภรณ์ กับนักร้องหนุ่มรุ่นใหญ่ “จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว” จนรักล่ม เพราะล่าสุดหนิมออกมาให้สัมภาษณ์ว่าได้มีการโทรศัพท์เคลียร์กับจ๊ะจ๋า แต่กลับโดนอีกฝ่ายตอกกลับด้วยถ้อยคำรุนแรงชนิดที่ตัวเองก็นึกไม่ถึง และตอนนี้ก็ได้ยุติความสัมพันธ์กับจิ๊บไปเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสเจอจ๊ะจ๋าในงานประกาศเกียรติคุณ รางวัล “แม่ดีเด่นแห่งปี” และ “ลูกตัวอย่างกตัญญู” และรางวัล “ผู้บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม” ครั้งที่ ๒ ประจำปี ๒๕๕๗ ณ ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เจ้าตัวก็ยอมรับว่าอีกฝ่ายโทร.มาเคลียร์จริง แต่ตนไม่ได้มีพฤติกรรมอย่างที่เป็นข่าว ซัดอีกฝ่ายโกหก พร้อมวอนอย่าดึงตนไปพาดพิงถึงเรื่องนี้อีก
“จ๊ะจ๋าว่าคำพูดของคนเรามันสามารถจะพูดจริง พูดเกินจริง หรือว่าพูดโกหกก็ได้ แต่ว่าสุดท้ายแล้วใจของเราจะรู้ตัวเองว่าความจริงเป็นยังไง สำหรับจ๊ะจ๋าบอกได้ว่าไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้น โดยเฉพาะกับคนที่จ๊ะจ๋าไม่ได้รู้จักและไม่ได้สนิทสนม และยิ่งเป็นความอ่อนไหวแบบนี้ยิ่งไม่มีทางที่จ๊ะจ๋าจะทำแบบนั้น ทีนี้ขอความกรุณาอย่าเอาจ๊ะจ๋าไปเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์อะไรแบบนี้เลย จ๊ะจ๋ารู้สึกว่ามันเกินไปมากแล้ว และการที่เราได้เคลียร์พูดอะไรไปอย่างชัดเจนมันก็น่าจะจบแล้ว และไม่ควรจะมีประเด็นอะไรต่อที่โยงไปเกาเหลาผู้หญิงกับผู้หญิง ซึ่งมันไม่ใช่สิ่งที่ควรจะทำ”
“คือเราไม่จำเป็นต้องพูดทุกอย่างที่เรารู้ที่เราคิด เราเป็นคนในสื่อสารมวลชน คำพูดของดารานักแสดงกับคำพูดของประชาชนทั่วไปมันต่างกัน เวลาที่เราเป็นนักแสดงสิ่งที่เราพูดออกไปคือสิ่งที่ต้องเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย รับผิดชอบต่อคนที่รับข่าวสารด้วย เวลาจ๊ะจ๋าเจอพี่ๆ นักข่าวก็จะบอกในสิ่งที่จ๊ะจ๋าเป็น และพูดความจริงด้วยความจริงใจ ก็ขออนุญาตอย่าเอาจ๊ะจ๋าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยไม่ว่าจะเป็นข่าวใดๆ ก็ตามจ๊ะจ๋าเห็นหมด ขอบคุณทุกคอมเมนต์ ทุกคำติชม ขอบคุณที่มีคนมาบอกว่าพอได้แล้ว จบได้แล้ว มันไม่ได้ช่วยให้สังคมเรามีอะไรที่ดีขึ้น มันไม่ได้สร้างสรรค์อะไรเลยกับข่าวแบบนี้”
ไม่หวั่นเรื่องไม่จบ เพราะคนอยากรู้ว่าใครพูดจริง ใครโกหก
“จ๊ะจ๋าเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้มันจะไม่เกิดกับจ๊ะจ๋ากับคนรอบข้างแน่นอน เพราะว่าตัวจ๊ะจ๋ารู้ดีว่าเราเป็นคนยังไง และคนรอบข้างจ๊ะจ๋าโดยเฉพาะครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน คนในกองถ่าย ขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ เขาก็จะรู้จักเราดีว่าเราเป็นคนยังไง สุภาพยังไง เอาเป็นว่าคนที่วิจารณ์เรา คนที่ตีความเรา เขาเป็นคนที่ไม่รู้จักเรา เพราะฉะนั้นเราควรจะแคร์คนที่รู้จักหรือไม่รู้จักล่ะ แล้วการที่มีเรื่องราวแบบนี้ออกมาจ๊ะจ๋าถามว่าข่าวนี้สร้างสิ่งที่ดีให้กับอาชีพของเราหรือเปล่า สร้างสิ่งที่ดีให้กับความภูมิใจในตัวเราหรือเปล่า หรือสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคมหรือเปล่า คำตอบนี้ขอให้คนที่ได้รับฟังใช้วิจารณญาณเอาเองค่ะ”
ยันไม่โกรธหนิม แต่ถ้าไม่มีสติก่อนพูดก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง
“ไม่โกรธหรอกค่ะ จ๊ะจ๋าว่าเราเป็นพี่นะ อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าพี่ยังไงก็เป็นพี่วันยังค่ำ ในวงการบันเทิงพี่น้องเพื่อนฝูงก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถ้าเกิดเราแก้ปัญหาด้วยเหตุและผลทุกอย่างก็จะเป็นเหตุผล แต่ปัญหาใดๆ ก็ตามที่ไม่ได้คิดก่อนพูดหรือว่าใช้อารมณ์นำแก้ปัญหา มันก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเรารู้ตัว เรามีสติอะไรที่มันถาโถมเข้ามาเราก็ยืนเฉยๆ แล้วก็แค่บอกว่าเราเป็นยังไงเท่านั้นเอง ไม่ต้องไปหวั่นไหวกับมัน เอาเป็นว่าจ๊ะจ๋าและคนรอบข้างทั้งหมดรู้ว่าอะไรเป็นอะไร”
บอกยังคุยกับ “จิ๊บ วสุ” ตลอด แต่คุยแค่เรื่องงาน รับแคร์แฟนคลับหวั่นเข้าใจผิด บอกอยากเอาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ ใจแต่ตนไม่รู้ว่าทำแล้วได้อะไร
“ก็ได้คุยกับพี่จิ๊บค่ะ และยังคงคุยกันถึงประเด็นเรื่องข่าวพวกนี้แหละว่ามันเป็นยังไงถึงไหนกัน คืออายุของข่าวตามความเข้าใจของเรามันก็ควรจะมีเวลาของมัน สัมภาษณ์ไปแล้วอีก 2-3 วันเป็นข่าวทำงานและข่าวก็จะจบไป ก็ยังสงสัยว่าวงจรของข่าวนี้มันกระเพื่อมแรงจังนะ เพราะอะไร คำตอบที่จ๊ะจ๋าคิด คำตอบที่หลายๆ คนคิดก็อาจจะตรงกันหรือไม่ตรงกันก็ได้ แต่จ๊ะจ๋าขออนุญาตไม่อยู่ในวัตถุประสงค์อื่นใดที่ไม่เป็นความจริงหรือมีอะไรที่แอบแฝง”
“แต่พี่จิ๊บจะไปเคลียร์กับเขาหรือเปล่าอันนี้จ๊ะจ๋าตอบไม่ได้หรอกค่ะ เพราะเราไม่ได้พูดคุยกันเพื่อเคลียร์ เราพูดคุยกันในเชิงของการทำงานร่วมกัน แล้วก็มีโอกาสมีเวลาว่างก็นั่งคุยกันพี่เป็นยังไง น้องเป็นยังไง แล้วก็ไม่ใช่คุยกันสองคน แต่เป็นการคุยร่วมกันหลายคน เหมือนกับว่าตอนนี้มีที่ปรึกษาเยอะแยะมากมายที่บอกเราว่าเราควรจะทำยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งมันก็ตรงกับที่จ๊ะจ๋าคิดว่าถ้าเรายืนอยู่จุดไหนแล้วเรามั่นคง เราไม่จำเป็นต้องก้าวออกจากจุดนี้ไป เราอยู่กันคนละจุดอยู่แล้วในทุกๆ คน”
“จ๊ะจ๋าจะกังวลเรื่องความรู้สึกของคนที่อ่านข่าวมากกว่า จ๊ะจ๋าแคร์คนที่เป็นแฟนละคร แคร์คนที่ติดตามข่าวสารเรา และเด็กๆ หลายคนเห็นเราเป็นไอดอล แล้วข่าวแบบนี้มันเป็นข่าวที่ไม่ดี เขาก็จะตั้งคำถามว่าจริงหรือเปล่า ซึ่งเขาก็มีสิทธิจะตั้งเพราะว่าเขาไม่ได้รู้จักเรา ทีนี้เราเป็นนักแสดงเป็นคนของประชาชน ส่วนหนึ่งเราอยู่ได้เพราะแรงสนับสนุนจากพวกเขา แล้วจ๊ะจ๋าไม่มีโอกาสที่จะบอกว่าจริงๆ มันเป็นยังไง อยากจะเอาหลักฐานทุกอย่างมายืนยันตรงหน้าเลย แต่ว่าทำแล้วได้อะไร”
บอกไม่รู้ตนถูกใช้เป็นเครื่องมือโปรโมตอะไรหรือเปล่า
“คิดว่าเราตกเป็นเครื่องมือไหม ดิฉันคือเหยื่อเหรอคะ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าสิ่งที่ทุกคนคิดหรือสิ่งที่คนอื่นคิดจ๊ะจ๋าไม่สามารถจะบอกได้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ จริงหรือไม่จริง เพราะมันคือความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่จ๊ะจ๋าอยากจะบอกในฐานะที่ตัวเองอยู่ในวงการทำงานมานานแล้วนะคะ คือการที่เราจะก้าวไปสู่ในจุดที่มันมากกว่านี้ก็คือคุณภาพของงาน การที่เราตั้งใจทำงาน มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับนักข่าว กับเพื่อนในกองถ่าย มีความจริงใจกับสิ่งที่เราทำในเรื่องของงาน จ๊ะจ๋าว่ามันสำคัญกว่าและมันอยู่ยั่งยืนกว่าการที่เรามีข่าวในเรื่องแบบนี้ ไม่อย่างนั้นจ๊ะจ๋าก็คงมีข่าวตั้งแต่เข้าวงการแล้วล่ะ (ยิ้ม)”
“แต่ถามว่ากระทบกับภาพลักษณ์ของเราไหม อันนี้กระทบแน่นอนเพราะว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ถามว่าจ๊ะจ๋าหวั่นไหวไหม ก็ถ้าเรามั่นใจในความถูกต้องความจริงใจของเราก็ไม่ต้องกลัว สักวันหนึ่งข่าวเรื่องนี้มันก็จะผ่านไปเอง อย่างที่บอกว่ามันเหมือนลม ถ้าเราไปอ่อนไหวกับมัน เราก็จะกลายเป็นเครื่องมือของมัน เพราะฉะนั้นถ้าเรามีสติเราก็จะรู้ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไรค่ะ”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |