“จ๊ะจ๋า พริมรตา” โต้มือที่สาม ทำรัก “หนิม-จิ๊บ” ล่ม ยันไม่เคยทานข้าว ไม่เคยคุยไลน์กับฝ่ายชาย ปัดตอบฝ่ายหญิงโทร.เคลียร์ เมินเพื่อนหนิมแขวะแรง ยันไม่โกรธ ไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ เพราะตนไม่คิดแย่งของใคร ลั่นมีสติ มีหลักการใช้ชีวิตที่ถูกต้องตามศีล
ปมรักสามเส้าเกี่ยวกับมือที่สามที่นักร้องสาว “หนิม AF5” คะนึงนิจ ธนพิชชาภรณ์ ออกมาโพสต์ข้อความในอินสตาแกรมตัดพ้อต่อว่าแฟนหนุ่มรุ่นใหญ่ “จิ๊บ วสุ แสงสิงแก้ว” ว่าแอบคบหากับดาราสาวรายหนึ่ง อีกทั้งยังพาดพิงถึงหนิมในทางเสื่อมเสีย ส่วนมือที่สามอยากแต่งงานจัดจนไม่สนว่าจิ๊บมีใครมาก่อนหรือเปล่า ก่อนหลายรายพุ่งเป้าไปที่ “จ๊ะจ๋า พริมรตา เดชอุดม” เพราะเจ้าตัวลงภาพคู่จิ๊บในอินสตาแกรม แถมเพื่อนสนิทของหนิมได้โพสต์ข้อความเจาะจงชื่อของจ๊ะจ๋าโดยตรง งานนี้หลังจิ๊บได้ออกมาเคลียร์ตนเองเพื่อปกป้องจ๊ะจ๋า ก็ถึงเวลาที่เจ้าตัวต้องชี้แจงบ้าง โดยล่าสุดสาวจ๊ะจ๋าได้มาร่วมกิจกรรม Open Your World ที่ไฮเนเก้น ร่วมกับโรงภาพยนตร์ เอ็มบาสซี่ ดิโพสแมทสกรีน จัดขึ้น ณ เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ งานนี้เจ้าตัวได้ชี้แจงทุกข้อกล่าวหา ยืนยันว่าตนไม่ได้มีความสัมพันธ์กับจิ๊บเกินกว่าความเป็นพี่น้องและเพื่อนร่วมงาน และไม่เคยคิดเป็นมือที่สามของใคร เพราะมีสติและมีหลักการในการใช้ชีวิตที่ถูกต้องตามศีล ไม่โกรธโดนเพื่อนหนิมพาดพิงแรง
“วันนี้จ๊ะจ๋าได้มีโอกาสเจอพี่ๆ ทุกคนเยอะมากที่สุดในชีวิตนะคะ และอยากจะขอบคุณที่เปิดพื้นที่ให้จ๊ะจ๋าได้มีโอกาสชี้แจงนะคะ และไหนๆ วันนี้ก็มากันเยอะขนาดนี้ ก็อยากจะขออนุญาตพูดครั้งนี้ครั้งเดียวนะคะ อย่างแรกเรื่องความสัมพันธ์กับพี่จิ๊บ อันนี้เป็นความเข้าใจผิดนะคะ จากนิสัยของจ๊ะจ๋าเองที่เป็นคนสนุกสนานร่าเริง และได้มีโอกาสทำงานกับพี่จิ๊บในงานคอนเสิร์ตของไทยประกันชีวิต และต้องไปทัวร์กันทั่วประเทศถึงสิ้นปีเป็นคิวงานยาว ทีนี้จากวันแรกๆ ที่เคยเจอพี่เขาเมื่อหลายปีก่อน จนมาวันนี้ช่วงที่ได้สนิทสนมคุ้นเคยก็เป็นช่วงนี้แหละค่ะที่มีโอกาสเดินทางด้วยกัน”
“ด้วยนิสัยของเราที่เฟรนด์ลี่ และพี่ๆ ทุกคนก็ให้ความเอ็นดู ให้ความรัก ความเอาใจใส่ เพราะว่าผู้หญิงในทริปมีเราคนเดียว ก็เลยเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องสนิทสนมกัน แต่ถามว่าสนิทสนมเกินเหตุจนทำให้ใครเข้าใจผิดหรือเปล่า อันนี้จ๊ะจ๋าไม่สามารถตอบแทนใครได้นะคะ แต่สิ่งที่จ๊ะจ๋าตอบได้ก็คือจ๊ะจ๋าไม่ได้มีความคิดที่จะเข้าไปก้าวข้ามในความสัมพันธ์ของใคร ไม่ว่าจะเป็นทั้งเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม จ๊ะจ๋าเชื่อว่าเวลาเราทำงาน เรามุ่งมั่นกับการทำงานและเราก็เต็มที่ จ๊ะจ๋ามีความสุขมากๆ กับการที่จะได้ทำให้คนรอบข้างมีความสุข โดยที่จ๊ะจ๋าไม่ได้คิดว่าจะต้องข้ามไปในความสัมพันธ์ของใครค่ะ”
“แต่ถามว่าเพราะสนิทกับพี่จิ๊บที่สุดไหม จริงๆ แล้วสนิทกับคนอื่นมากกว่าอีกนะคะ (ยิ้ม) เพราะว่าจะมีคนที่มางานตลอด สำหรับพี่จิ๊บบางครั้งก็ไม่ได้มาบ้าง และจะบอกว่าท่านอื่นก็ให้ความเอ็นดูมีฝากของ มีพูดคุยสนิทสนมมากกว่าพี่จิ๊บก็มี เพียงแต่ไม่ได้เป็นประเด็นเท่านั้นเองค่ะ (ยิ้ม) แต่สำหรับความสนิทสนมกับพี่จิ๊บก็คือแค่ขั้นเพื่อนร่วมงาน เป็นขั้นพี่น้องธรรมดาทั่วไป เหมือนอย่างจ๊ะจ๋าได้มีโอกาสเล่นละครกับใครบ่อยๆ ก็มีช่วงๆ หนึ่งที่สนิทสนมคุ้นเคยกัน แต่พอวันที่ละครเรื่องนั้นจบ หรือว่างานอีเวนต์ช่วงนั้นจบไปเราก็ต้องไปเจอคนใหม่ๆ ก็คือเป็นการสนิทสนมจากการทำงาน”
ยันไม่เคยทานข้าวกันสองต่อสอง และไม่เคยคุยกันทางไลน์ ส่วนหนิมโทรศัพท์มาเคลียร์หรือไม่บอกจำไม่ได้
“ถามว่าเคยได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่จิ๊บสองต่อสองหรือคุยไลน์กันส่วนตัวไหม อันนี้จ๊ะจ๋าอยากให้พี่ไปถามพี่จิ๊บดูอันดับแรกเลยว่าพี่จิ๊บมีไลน์ไหม (ยิ้ม) ขอฝากคำถามเดียวเลยค่ะ ไม่เคยไปทานข้าวกันสองต่อสองด้วยค่ะ แต่จ๊ะจ๋าก็ไม่ทราบว่าทำไมเขาถึงต้องเข้าใจผิดอะไรขนาดนี้นะคะ กับพี่จิ๊บก็ไม่เคยมีคุยกันนอกรอบเลย”
“ส่วนน้องโทร.มาหาจ๊ะจ๋า อันนี้จ๊ะจ๋าขอไม่พาดพิงถึงน้องอีกแล้วกันค่ะ จ๊ะจ๋าจำไม่ได้แล้วค่ะ (ยิ้ม) เอาเป็นว่ายังไม่มีโอกาสพูดค่ะ แต่ถามว่าอธิบายหรือเคลียร์กับใครบ้าง ก็จะอธิบายกับครอบครัวก่อนอันดับแรกค่ะ ว่าสิ่งที่มันเกิดขึ้นมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดซึ่งมันเกินจริงไปมาก และคนใกล้ชิดจ๊ะจ๋าก็รู้อยู่แล้ว และทุกคนก็สงสัยว่ามันเกิดเรื่องนี้ขึ้นได้ยังไง แต่จ๊ะจ๋าก็จะอธิบายกับคนใกล้ตัวที่จ๊ะจ๋ารู้สึกเป็นห่วงเป็นใยและแคร์ก่อนอันดับแรก ส่วนคนอื่นๆ ที่ทยอยโทรกันมาเคลียร์หรือว่าสอบถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยก็ได้ชี้แจงกันไปค่ะ”
“แต่สำหรับพี่จิ๊บพอเป็นข่าวก็ยอมรับค่ะว่าเขามีการโทร.มา และบอกได้เลยว่า 80-90% ที่โทร.มาเป็นการขอโทษ เพราะเขาบอกว่าจ๊ะจ๋าไม่ควรจะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และแสดงความเสียใจ ซึ่งจริงๆ จ๊ะจ๋าเองรู้สึกขอบคุณและดีใจที่พี่เขาโตกว่าเรามาก และจ๊ะจ๋าเองก็เป็นเด็กเพิ่งเข้าวงการมาเอง คือไม่จำเป็นต้องขอโทษก็ได้ จ๊ะจ๋าเกรงใจ แต่พี่เขาบอกว่าไม่เป็นไร เรื่องนี้ถ้าเกิดเขาทำให้จ๊ะจ๋าไม่สบายใจหรือว่าทำให้จ๊ะจ๋าต้องมีข่าวที่มันเสียหายกับชีวิตหรือว่ารบกวนการทำงาน เขาขอโทษไม่ว่าจะเรื่องอะไร”
บอกไม่โกรธโดนหาว่าเป็นมือที่สาม เพราะไม่เคยเก็บมาเป็นอารมณ์
“เอาจริงๆ ถ้าเวลาเราพูดคุยกันหลังจากเลิกงานจะเป็นการพูดกันโดยรวมเป็นกลุ่ม การพูดถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเมือง ศาสนา ดินฟ้าอากาศหรือแม้แต่เรื่องความสัมพันธ์มันเกิดขึ้นได้อยู่แล้วในวงสนทนานะคะ ทีนี้การที่จะพูดถึงในเชิงดีหรือไม่ดีส่วนตัวที่จ๊ะจ๋าได้รับทราบพูดคุยก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น และเป็นเรื่องที่เป็นความจริง”
“เรื่องที่โดนกล่าวหาว่าเป็นมือที่สาม และเพื่อนของน้องโพสต์ชื่อเรา ก็ไม่โกรธหรอกค่ะ และไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ คือใครๆ ก็เรียกชื่อจ๊ะจ๋าได้ คือถ้าจ๊ะจ๋าเก็บมาเป็นอารมณ์ทุกประเด็น ทุกความคิด ทุกคำพูดที่คนอื่นพูดจ๊ะจ๋าคงจะแย่แน่ๆ เพราะเราเป็นคนทำงานที่ใช้ใจ จริงใจมากๆ เวลาที่เราต้องไปแคร์กับเสียงอะไรก็ไม่รู้มันก็ปวดหัว จ๊ะจ๋าถือคติว่าถ้าอะไรที่มันให้อภัยได้ ยกโทษกันได้ก็ให้อภัยกันไป วงการนี้มันแคบเดี๋ยวเราก็ต้องมาเจอกันอีก ทำงานกันอีก จ๊ะจ๋าว่าเราเข้ามาวงการนี้เรารู้ว่าเราเข้ามาเพื่ออะไร เราเข้ามาเพื่อทำงานเป็นนักแสดง มอบความสุขให้กับประชาชน จ๊ะจ๋าเป็นพิธีกรด้วย ร้องเพลงด้วย ทำหลายๆ อย่าง และการโคจรมาเจอกันเป็นเรื่องที่ได้เจอแน่ ส่วนอยากเป็นข่าวหรืออะไรใครอยากเป็นก็ปล่อยให้เป็นไป จ๊ะจ๋าไม่ขอที่จะอยู่ในข่าวเสียหายแบบนี้อีก”
“แต่ตอนแรกยอมรับว่าซีเรียสนะคะ เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่เกินจริงและไม่ใช่เรื่องจริง เพราะมันผิดหลักการในการใช้ชีวิตของจ๊ะจ๋ามากเลย จ๊ะจ๋าเองถึงแม้ว่าจะโสดก็จริง แต่จ๊ะจ๋าก็ไม่คิดที่จะเข้าไปแย่งของๆ ใคร ไม่คิดที่จะก้าวเข้าไปทำลายความสัมพันธ์ของใคร และถามว่าต่อไปจะต้องวางตัวยังไงบอกได้เลยว่าเรื่องของมาตรฐานในการทำงานของจ๊ะจ๋ายังคงเหมือนเดิม ร่าเริงยังไง สนุกสนานยังไง จ๊ะจ๋าก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม และส่วนถ้าเจอหน้าพี่เขาจะทำตัวยังไง มันไม่มีอะไรก็ไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนไปจากเดิม”
พร้อมร่วมงานหนิม และไม่ขอลดความเป็นคนขี้เล่นของตนเองเพราะเหตุการณ์นี้
“กับน้องร่วมงานได้เสมอค่ะ จ๊ะจ๋าอยากบอกว่าจ๊ะจ๋าไม่มีปัญหา และสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์ต่างๆ จากฝ่ายน้องหรือจากฝ่ายใครก็ตาม บอกเลยว่าจ๊ะจ๋าไม่เคยคิดจะถือโทษโกรธเลย ในความที่จ๊ะจ๋าเป็นพี่ เราโตกว่า บางทีเจอเรื่องที่มันหนักหนาสาหัสกว่านี้ตั้งเยอะตั้งแยะ และที่บ้านจ๊ะจ๋าสอนตลอดว่าเราควรจะให้อภัยสำหรับอะไรที่มันเกิดจากอารมณ์”
“แต่ถามว่าตอนนี้เคลียร์ลงตัวหรือตัว อันนี้ไม่ทราบ แต่ตัวจ๊ะจ๋าสามารถที่จะชี้แจงและพูดได้ว่าจ๊ะจ๋าเป็นยังไง แต่ถามว่าเคลียร์กับน้องแล้วจบด้วยดีไหมคือจ๊ะจ๋าไม่ได้เคลียร์อะไรขนาดนั้น แต่จ๊ะจ๋ามีความชัดเจนว่าเราไม่ได้มีความต้องการที่จะก้าวไปในความสัมพันธ์ของใคร แต่ถ้าจะบอกว่าเขายืนยันว่าเราเป็นมือที่สาม จ๊ะจ๋าขอเรียนว่าเรื่องของความสัมพันธ์มันเป็นเรื่องของคนสองคน จ๊ะจ๋าเป็นคนนอก ไม่ว่าความเข้าใจผิดของคนสองคนจะเกิดจากอะไรและจะมีผลกระทบออกไปสู่ใครก็ตาม ในฐานะที่เราเป็นคนนอกจ๊ะจ๋าจะไม่ขอออกความเห็นใดๆ กับเรื่องของเขาสองคนเด็ดขาด”
“ตอนนี้สิ่งที่เราทำได้คือมีสติควบคุมตัวของเราเอง ปัญหาทุกปัญหาถ้าเราจัดการมันด้วยอารมณ์ ผลกระทบมันก็จะเป็นในด้านของอารมณ์ แต่ถ้าเราจัดการด้วยเหตุและผลทุกอย่างมันก็จะอยู่ในทำนองคลองธรรมของเหตุและผล ต้องลดความขี้เล่นลงไหม เอาเป็นว่าจ๊ะจ๋ารู้ว่าตัวเราเป็นคนยังไง รู้ว่าสิ่งที่เรามีมันส่งผลดีผลเสียอะไรยังไง และถ้าจ๊ะจ๋าจะต้องลดความขี้เล่น ความสนุกสนาน ความร่าเริงจากสถานการณ์นี้จ๊ะจ๋าคิดว่ามันไม่ค่อยมีเหตุผล ถ้าจะลดก็คงด้วยวัยของเราที่โตขึ้นแล้วและลดลงไปเอง หรือบางทีเหนื่อยแล้ว แต่ว่าเรื่องนี้ ข่าวนี้จ๊ะจ๋าจะไม่ยอมให้มีผลกับการทำงานหรือความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานของจ๊ะจ๋าเด็ดขาด”
“ไม่มีผู้ใหญ่เรียกไปคุยเลยค่ะ เพราะถ้าเทียบกับข่าวทั่วไปมันก็คงเล็กน้อยมากจริงๆ และในข่าวที่ผ่านมาไม่ว่าจะเรื่องของใครจ๊ะจ๋าสามารถอธิบายได้ด้วยความเป็นจริงจากความจริงใจที่จ๊ะจ๋าได้ตอบคำถามพี่ๆ มาตลอด 10 ปีในวงการนี้”
บอกอายุ 30 แล้วไง เพราะการแต่งงานไม่ใช่จะคว้าใครมาก็ได้
“เขาบอกว่าเราอายุ 30 แล้วอยากจะหาคู่แต่งงานแล้วเหรอ โอ้โห เจ็บปวดมาก (หัวเราะ) คือชี้แจงตรงนี้เลยนะคะว่าเรื่องของคนสองคน เรื่องของชีวิตคู่ อย่าเอาอายุมามีอิทธิพลเลย ไม่อย่างนั้นคน 70 ก็ไม่ต้องแต่งงาน ไม่ต้องอินเลิฟกันสิ และส่วนตัวจ๊ะจ๋าเอง 30 แล้วยังไงล่ะ เอาเป็นว่านานาจิตตัง ใครอยากจะมองอะไรก็ปล่อยให้เขามองไป คือการอยากแต่งงานมันไม่ได้เกิดจากคนๆ เดียวนะ มันต้องเกิดจากคนสองคนที่ตกลงกันและมีความอยากร่วมกัน ไม่ใช่อยู่ๆ อยากจะมโนขึ้นมาคนเดียว จ๊ะจ๋าไม่ใช่คนที่อยากแต่งงานและคว้าใครก็ได้ เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะแซวล้อเล่นหรือว่าพูดถึงเรื่องอายุ ไม่มีผลค่ะ (ยิ้ม)”
“ยืนยันว่าไม่ได้เป็นมือที่สามค่ะ ขออนุญาตเรียนตรงนี้เลยว่าจ๊ะจ๋าอยู่ในวงการนี้มานาน และจ๊ะจ๋าเห็นความเป็นไปของข่าว จ๊ะจ๋าเข้าใจว่าการมีข่าว การมีกระแส การเล่นเรื่องความสัมพันธ์อะไรแบบนี้มันน่าสนใจ แต่ขออนุญาตไม่อยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้ เอาไว้ถ้าจ๊ะจ๋ามีแฟนหรือมีคนที่คุยๆ อยู่หรือกำลังจะคุยกับใครอยู่ให้แน่ใจ จ๊ะจ๋าเคยสัญญากับพี่ๆ เอาไว้ว่าจ๊ะจ๋าจะมาบอก ซึ่ง ณ วันนี้ยังไม่ได้มีใคร ยังโสด และที่เคยประกาศหาคู่ไปก็อย่าเพิ่งเข้ามานะคะ (หัวเราะ) ยังไม่พร้อมรับใครตอนนี้ ยังขออยู่นิ่งๆ และเรื่องความสัมพันธ์เรื่องมือที่สาม ยืนยันว่ายังมีสองมือ ไม่ได้เป็นมือที่สามของใครค่ะ (ยิ้ม)”
“ถามว่าเสียใจไหมที่ทำให้เขาเลิกกัน จ๊ะจ๋าไม่ขอออกความเห็นเรื่องของความสัมพันธ์นะคะ แต่ว่าพูดถึงความเสียใจจ๊ะจ๋าเสียใจที่ทำให้คุณแม่ ครอบครัว น้องสาวของจ๊ะจ๋าคิดมากมากกว่า คือแม่ก็จะเข้าใจว่าลูกเป็นนักแสดงเป็นดาราอยู่ในข่าว แต่ว่าบางทีความรู้เท่าทันสื่อก็ไม่มากเท่าเรา ก็อยากขอโทษครอบครัว ขอโทษคุณแม่ ขอโทษน้องจุ๊บแจง ขอโทษทุกคนที่ทำให้นอนไม่หลับ คุณยายจะโทร.มาตลอดถามว่า อาจ๊ะจ๋าลื้อกลับบ้านหรือยัง อั๊วคิดถึง (หัวเราะ) คืออยากจะบอกว่าขอโทษจริงๆ ที่ทำให้เป็นห่วงมากๆ แต่จ๊ะจ๋าแข็งแรง จ๊ะจ๋ายังคงมีสติ ยังมีหลักในการใช้ชีวิตที่ถูกต้องตามศีลทุกประการ”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |