ย้อนชมลีลาเดินเบส-ลีดกีตาร์ของสองสาวสุดเท่ “พลอย - เพลิน” แฝดสาวสุดที่รักของนายกฯคนล่าสุดของไทย “บิ๊กตู่” ในนามของวงทริโอหญิง BADZ เผยมี “เดอะ บีเทิลส์” เป็นแรงบันดาลใจ
นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของบ้านเราไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรือที่ใครๆ เรียกกันอย่างติดปากว่า “บิ๊กตู่”/
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจใหม่ๆ ในฐานะของหัวหน้า คสช. นายทหารคนนี้เคยสร้างความฮือฮามาแล้วกับลีลาการเขียนเนื้อร้องเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ซึ่งถึงทุกวันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตติดหูไปแล้ว...
“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา”
อย่างไรก็ตาม หากมองไปถึงครอบครัวของบิ๊กตู่แล้วต้องบอกว่าเป็นครอบครัวนักดนตรีคงไม่ผิดนัก
เฉพาะอย่างยิ่ง 2 ลูกสาวฝาแฝดอย่าง “พลอย ธัญญา” และ “น้องเพลิน นิฏฐา” ที่ชื่นชอบและฝันจะเป็นนักดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่ความฝันของทั้งสองจะเป็นจริงระหว่างเรียนนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ (จบ 3 ปีครึ่ง) หลังรวมตัวกันตั้งวงดนตรีหญิงทริโอ ในนามของ BADZ สังกัด จีโนม เรคคอร์ด เครืออาร์เอสฯ ออกมาเมื่อราว 7- 8 ปีก่อน โดยสาวเพลินรับหน้าที่เล่นเบส, พลอย-กีตาร์ และ นิค (นิติญา อ่ำสกุล) ร้องนำ
ทั้งนี้ กับการก้าวเดินบนถนนสายดนตรีของทั้งสองกับวง BADZ นั้น แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานแต่ก็ต้องถือว่าสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงของบ้านเราพอสมควร ทั้งแนวดนตรีและแฟชั่นการแต่งตัวที่มีกลิ่นอายของความเป็นพังก์อยู่นิดๆ รวมไปถึงเพลงช้าที่ชื่อ “ไม่ขอเป็นคนสุดท้าย” ซึ่งถูกปล่อยออกมาหลังจากซิงเกิ้ลแรกจังหวะสนุกๆ “อยากเจอเธอเหลือเกิน” ก็ขึ้นแท่นเพลงฮิตติดหูคนฟังในช่วงเวลานั้นกันเลยทีเดียว
โดยในตอนนั้นทั้งสาวพลอยและสาวเพลินเคยให้สัมภาษณ์ว่าพวกเธอชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ และวงที่เป็นวงโปรดของเธอก์คือ “The Beatles” นั่นเอง...“เรื่องการเล่นดนตรีพลอยและเพลินหัดเล่นกันมาตั้งแต่อายุ 14 แล้วค่ะ แต่ว่ามาเรียนอย่างจริงจังก็ตอนอายุ 15 ซึ่งเรื่องการเล่นดนตรีของเรามันเริ่มมาจากตอนที่เราเข้าสู่วัยรุ่นอายุประมาณ 13-14 โดยเริ่มจะสนใจการฟังเพลงเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น มีการไปหาเพลงหลายๆแนวมาฟัง แล้วก็เอาไปแลกกันฟังกับเพื่อนๆ บ้าง ตอนนั้นจำได้ว่าเราสองคนสนุกกันมากเลยค่ะเพราะว่ามีเพลงให้ฟังเยอะแยะไปหมด”
“ซึ่งพลอยกับเพลินก็ฟังได้หมดทุกแนว ทั้งเพลงไทยและต่างประเทศ ซึ่งช่วงนั้นเราฟังเพลงกันเยอะมากๆ ก็เลยทำให้เรามีโอกาสได้ฟังเพลงของ The Beatles (เดอะ บีเทิลส์) จำเลยว่าตอนที่ฟังครั้งแรกก็โดนเลยค่ะ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน (ยิ้ม) มันมีความรู้สึกว่าฟังเพลงวงนี้แล้วมันมีความสุข ฟังกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อ เป็นเพลงที่เป็นอมตะจริงๆ และหลังจากที่เรารู้แนวดนตรีที่ชอบแล้ว เราก็เลยไปหาซื้อผลงานของเดอะ บีเทิลส์มาดูแล้วก็หัดเล่นตาม”
“โดยพลอยเล่นกีตาร์ ส่วนเพลินเล่นเบสค่ะ เราสองคนหัดเล่นกันตั้งแต่ยังไม่ได้ไปเรียนจริงจังเลยนะคะ แต่ว่าหลังจากหัดเล่นกันเองซักพักเราก็ไปขอคุณแม่ไปเรียนอย่างจริงจังเพราะเราอยากเล่นเพลงของเดอะ บีเทิลส์ให้ได้ ก็ถือว่าวงเดอะ บีเทิลส์นี่แหละค่ะ ที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้พลอยและเพลินอยากเป็นนักดนตรีค่ะ”
ถือโอกาสที่ผู้เป็นพ่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารประเทศคนใหม่ ลองย้อนกลับไปในวันวานชมฝีไม้ลายมือทางด้านดนตรีของ 2 แฝดสาวสุดเท่คู่นี้กันดู
นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 ของบ้านเราไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรือที่ใครๆ เรียกกันอย่างติดปากว่า “บิ๊กตู่”/
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ายึดอำนาจใหม่ๆ ในฐานะของหัวหน้า คสช. นายทหารคนนี้เคยสร้างความฮือฮามาแล้วกับลีลาการเขียนเนื้อร้องเพลง “คืนความสุขให้ประเทศไทย” ซึ่งถึงทุกวันนี้ได้กลายเป็นหนึ่งในเพลงฮิตติดหูไปแล้ว...
“เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา”
อย่างไรก็ตาม หากมองไปถึงครอบครัวของบิ๊กตู่แล้วต้องบอกว่าเป็นครอบครัวนักดนตรีคงไม่ผิดนัก
เฉพาะอย่างยิ่ง 2 ลูกสาวฝาแฝดอย่าง “พลอย ธัญญา” และ “น้องเพลิน นิฏฐา” ที่ชื่นชอบและฝันจะเป็นนักดนตรีมาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่ความฝันของทั้งสองจะเป็นจริงระหว่างเรียนนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ (จบ 3 ปีครึ่ง) หลังรวมตัวกันตั้งวงดนตรีหญิงทริโอ ในนามของ BADZ สังกัด จีโนม เรคคอร์ด เครืออาร์เอสฯ ออกมาเมื่อราว 7- 8 ปีก่อน โดยสาวเพลินรับหน้าที่เล่นเบส, พลอย-กีตาร์ และ นิค (นิติญา อ่ำสกุล) ร้องนำ
ทั้งนี้ กับการก้าวเดินบนถนนสายดนตรีของทั้งสองกับวง BADZ นั้น แม้จะเป็นช่วงเวลาไม่นานแต่ก็ต้องถือว่าสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการเพลงของบ้านเราพอสมควร ทั้งแนวดนตรีและแฟชั่นการแต่งตัวที่มีกลิ่นอายของความเป็นพังก์อยู่นิดๆ รวมไปถึงเพลงช้าที่ชื่อ “ไม่ขอเป็นคนสุดท้าย” ซึ่งถูกปล่อยออกมาหลังจากซิงเกิ้ลแรกจังหวะสนุกๆ “อยากเจอเธอเหลือเกิน” ก็ขึ้นแท่นเพลงฮิตติดหูคนฟังในช่วงเวลานั้นกันเลยทีเดียว
โดยในตอนนั้นทั้งสาวพลอยและสาวเพลินเคยให้สัมภาษณ์ว่าพวกเธอชอบดนตรีมาตั้งแต่เด็กๆ และวงที่เป็นวงโปรดของเธอก์คือ “The Beatles” นั่นเอง...“เรื่องการเล่นดนตรีพลอยและเพลินหัดเล่นกันมาตั้งแต่อายุ 14 แล้วค่ะ แต่ว่ามาเรียนอย่างจริงจังก็ตอนอายุ 15 ซึ่งเรื่องการเล่นดนตรีของเรามันเริ่มมาจากตอนที่เราเข้าสู่วัยรุ่นอายุประมาณ 13-14 โดยเริ่มจะสนใจการฟังเพลงเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น มีการไปหาเพลงหลายๆแนวมาฟัง แล้วก็เอาไปแลกกันฟังกับเพื่อนๆ บ้าง ตอนนั้นจำได้ว่าเราสองคนสนุกกันมากเลยค่ะเพราะว่ามีเพลงให้ฟังเยอะแยะไปหมด”
“ซึ่งพลอยกับเพลินก็ฟังได้หมดทุกแนว ทั้งเพลงไทยและต่างประเทศ ซึ่งช่วงนั้นเราฟังเพลงกันเยอะมากๆ ก็เลยทำให้เรามีโอกาสได้ฟังเพลงของ The Beatles (เดอะ บีเทิลส์) จำเลยว่าตอนที่ฟังครั้งแรกก็โดนเลยค่ะ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน (ยิ้ม) มันมีความรู้สึกว่าฟังเพลงวงนี้แล้วมันมีความสุข ฟังกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อ เป็นเพลงที่เป็นอมตะจริงๆ และหลังจากที่เรารู้แนวดนตรีที่ชอบแล้ว เราก็เลยไปหาซื้อผลงานของเดอะ บีเทิลส์มาดูแล้วก็หัดเล่นตาม”
“โดยพลอยเล่นกีตาร์ ส่วนเพลินเล่นเบสค่ะ เราสองคนหัดเล่นกันตั้งแต่ยังไม่ได้ไปเรียนจริงจังเลยนะคะ แต่ว่าหลังจากหัดเล่นกันเองซักพักเราก็ไปขอคุณแม่ไปเรียนอย่างจริงจังเพราะเราอยากเล่นเพลงของเดอะ บีเทิลส์ให้ได้ ก็ถือว่าวงเดอะ บีเทิลส์นี่แหละค่ะ ที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้พลอยและเพลินอยากเป็นนักดนตรีค่ะ”
ถือโอกาสที่ผู้เป็นพ่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารประเทศคนใหม่ ลองย้อนกลับไปในวันวานชมฝีไม้ลายมือทางด้านดนตรีของ 2 แฝดสาวสุดเท่คู่นี้กันดู
