เปิดหัวใจบุญ “อ้อยใจ แดนอีสาน” นางฟ้าของสรรพสัตว์ ช่วยจนหมาให้โชคถูกลอตเตอรี!

“อ้อยใจ แดนอีสาน” แม่พระของสรรพสัตว์ช่วยเหลือสัตว์ทุกชนิดมานาน 30 ปี เที่ยวออกตระเวนเลี้ยงหมาจรจัดตามสถานที่ต่างๆ เป็นร้อยๆ ตัว ดึกดื่นแค่ไหน ไม่ว่าจะฝนตกแดดออกหรืออันตรายยังไงก็ดั้นด้นไปด้วยหัวใจเมตตา หมดเงินไปกับการซื้ออาหารเลี้ยงหมาวันละ 1,200 บาท แต่ตัวเองใช้แค่วันละ 200 บาท ทุกครั้งที่ไปร้องเพลงจะเอาถังติดตัวไปด้วยเพื่อขอเศษอาหารที่เหลือจากโต๊ะจีนห่อกลับบ้าน ขนาดลูกน้องที่ไปด้วยกันยังอายไม่กล้าทำแต่อ้อยใจไม่อายขอให้หมาอิ่มท้อง เท่านั้นไม่พอยังช่วยสัตว์ทุกชนิด เคยไปเหมาซื้อกบกับไก่ที่แม่ค้าซื้อมาขายที่ตลาดไปปล่อยเป็นกระสอบๆ ทั้งที่ตัวเองก็จนไม่มีเงิน สุดอึ้งช่วยหมาพิการจนหมามาให้โชคถูกลอตเตอรี

“อ้อยใจ แดนอีสาน” อดีตนักร้องลูกทุ่งผู้โด่งดังเจ้าของอัลบั้ม “เบรกแตก” ที่หลายคนรู้จักกันดีเมื่อหลายปีก่อน แต่เพราะชะตาชีวิตพลิกผันทำให้ต้องวางไมค์หันหลังให้วงการเพลงไปเปิดร้านขายยำแหนมสดเล็กๆ ย่านพุทธมณฑลสาย 4 มีชีวิตหาเช้ากินค่ำ แต่ถึงจะยากจนไม่ได้มีเงินอู้ฟู่อ้าฟ่าเหมือนตอนเป็นนักร้องหน้าไมค์ แต่เจ้าตัวกลับใช้ชีวิตได้อย่างน่ายกย่อง เงินที่หามาได้ทุกวันนี้พูดได้เลยว่าแทบทุกบาทเทหน้าตักให้ “น้องหมา” หมด เที่ยวออกตระเวนช่วยเหลือหมาจรจัดตามสถานที่ต่างๆ เป็นร้อยๆ ตัว ไม่ว่าจะฝนตกแดดออกหรือดึกดื่นแค่ไหน อันตรายยังไงก็ดั้นด้นไปด้วยหัวใจเมตตา ทำแบบนี้มา 30 กว่าปี วันนึงหมดเงินไปกับค่าอาหารหมากว่า 1,200 บาท ในขณะที่ตัวเองกินแค่วันละ 200 บาท นอกจากนี้ ยังช่วยสัตว์ทุกชนิด เคยไปเหมาซื้อกบกับไก่ ที่แม่ค้าซื้อมาขายที่ตลาดไปปล่อยเป็นกระสอบๆ ทั้งที่ตัวเองก็จนไม่มีเงิน สุดอัศจรรย์ช่วยหมาพิการจนหมามาให้โชคถูกลอตเตอรี หัวใจประเสริฐจนอยากปรบมือให้กับเธอดังๆ

ช่วยสัตว์ทุกชนิดมา 30 กว่าปี ถึงขนาดไปเหมาซื้อกบกับไก่ ที่แม่ค้าซื้อมาขายที่ตลาดไปปล่อยเป็นกระสอบๆ เพราะสงสารไม่อยากให้ถูกฆ่าตาย ทั้งที่ตัวเองก็จนไม่มีเงิน ช่วยหมาโดนรถชนจนไปร้องเพลงไม่ทัน ถูกเจ้าภาพด่าแถมปรับเงิน เวลาตัวเองไม่มีเงินของเน่าก็กินแต่กับหมาทำอาหารสดใหม่สะอาดให้กินทุกวัน
“ทำมา 30 กว่าปีแล้วตั้งแต่ก่อนเข้าวงการอีก ถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กๆ ช่วยสัตว์ทุกชนิด เลี้ยงทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นตัวเงินตัวทอง ลิง ไก่ เต่า ปลาไหล กบ ปลาดุก เราจะให้อาหารเขากินเพราะสงสาร ไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่หรอกเพราะเวลาได้เงินมาก็จะไปหาซื้อกบตามตลาดนัดที่เขากำลังจะฆ่า เราก็ซื้อเหมามาหมดเลยซื้อทีเป็นกระสอบ คิดถึงเราคงทรมานนะ ไก่ที่เขาต้มน้ำร้อนกำลังจะเชือดเราก็ไปซื้อมาและไม่ต่อราคาด้วย ขายเท่าไหร่ก็เท่านั้น คือเราเชื่อว่าถ้าเราไม่ต่อราคา เขาก็จะต่อชีวิตเรา ยิ่งพ่อค้าแม่ค้ารู้ว่าเราจะซื้อไปปล่อยเขายิ่งเรียกราคาสูง ต่อไม่ได้”

“งูก็ช่วยเหมือนกัน เคยมีครั้งนึงกลับจากไปแสดงคอนเสิร์ตตอนตีหนึ่งแล้วเห็นงูนอนกลางถนนไม่กระดุกกระดิก แต่ไม่มีบาดแผลนะ แล้วตัวใหญ่มาก เรากลัวรถเหยียบเขาก็ช่วยกันอุ้ม 3 คน เพราะหนักมาก ก็หามไปไว้ข้างถนนก็บอกเขาไปเถอะลูกเดี๋ยวรถชน ทั้งที่เราเป็นคนกลัวงู คางคกเราก็ช่วยนะเห็นเขาอยู่กลางถนนเรายกมือไหว้ขอให้รถที่ขับมาจอดเพราะไม่งั้นเหยียบแน่นอน เราก็ขออนุโมทนาเถอะ ก็เอาคางคกไปส่งข้างถนน มีครั้งนึงขับรถมอเตอร์ไซค์ไปให้อาหารหมานี่แหละแล้วไปเหยียบกิ้งกือหัวแบะเลย โห..ใจไม่ดีเลยนะ กลับมาบ้านนอนไม่หลับเลยคิดว่าถ้าเราโดนแบบนี้เราก็คงทรมานนะ พออีกวันก็กลับไปดูเขาตรงที่เราเหยียบแต่เขาตายแล้ว เราก็นั่งยกมือไหว้เลยนะเสียใจที่ทำให้เขาตาย ก็เลยนั่งสมาธิและใส่บาตรให้เขาบอกอย่าถือโทษโกรธแม่เลยนะ แม่ไม่เห็นจริงๆ”

“อย่างช่วยหมา บางทีเราไปต่างจังหวัด เราเห็นเขาโดนรถชนก็ลงไปช่วย คนที่ไปด้วยเขาเป็นห่วงก็บอกอย่าลงไปเลยมันดึกแล้วเขากลัวมีอันตรายเพราะบางทีรถวิ่งมาเร็วๆ อาจจะชนเราก็ได้ แต่เห็นแล้วมันไม่ช่วยไม่ได้ไง ถึงจะไปร้องเพลงไม่ทันก็ช่าง เคยลงไปช่วยหมาจนไปร้องเพลงไม่ทันบ่อยมาก โดนเจ้าภาพด่าและปรับเงิน เคยพาหมาไปหาหมอแล้ว แล้วหมอถามว่าฉีดยาให้เขาไปเลยมั้ยเพราะอาการเขาสาหัสมาก เราก็บอกไม่ได้ต้องรักษาเขาให้หาย แต่สุดท้ายเขาก็ตายนะเพราะสาหัสจริงๆ แต่ถ้าเป็นอย่างนี้เราโอเคไงอย่างน้อยได้ช่วยก่อน ไม่ใช่ไม่ช่วยแล้วปล่อยให้เขาตายไปเฉยๆ ตัวนั้นจ่ายเงินค่ารักษาไป 8,000-9,000 พัน เวลาไปร้องเพลงต่างจังหวัดจะหุงข้าวไปครึ่งกระสอบและทำกับข้าวสำหรับหมาไปด้วย จอดให้ตามรายทางเลย จะไม่ให้ของสกปรกเขากินเพราะอย่างเรายังอยากกินของสะอาดๆ เลย แต่บางทีที่ไม่มีจะกินของเน่าๆ เราก็กินนะเพราะเราจน แต่กับหมาเราก็ทำดีที่สุดแล้วเท่าที่ทำได้”

“หมาที่เขาโดนรถชนแล้วนอนพะงาบๆ รถผ่านไปกี่คันๆ ก็ไม่มีใครจอดช่วยเขาเลย พอเราลงไปช่วยเขามองตาเราน่าสงสารมากนะ เราเคยเสี่ยงชีวิตลงไปช่วยหลายครั้งรถขับมาเร็วๆ เราก็กลัวพุ่งมาชนเรานะ แต่ก็คิดว่าแล้วแต่เวรแต่กรรมก็แล้วกัน ยกมือไหว้ขอให้เขาเบรกรถ ดึกดื่นแค่ไหนก็ต้องช่วย บางทีเราเอาหมาที่โดนรถชนขึ้นรถเพื่อจะพาไปส่งโรงพยาบาล แต่บางตัวตายบนรถเราก็มี ตัวไหนตายเราก็ไปขุดหลุมฝังทำศพให้เรียบร้อย”

หมดเงินไปกับการซื้ออาหารเลี้ยงหมาวันละ 1,200 บาท แต่ตัวเองใช้แค่วันละ 200 บาท เรียกว่าทุกวันนี้หาเงินเพื่อหมา ทุกครั้งที่ไปร้องเพลงจะเอาถังติดตัวไปด้วยหลายๆ ใบเพื่อขอเศษอาหารที่เหลือจากโต๊ะจีนกลับมาให้หมา ขนาดลูกน้องที่ไปด้วยกันยังอายไม่กล้าทำแต่อ้อยใจไม่อายขอให้หมาอิ่มท้อง
“กิจวัตรประจำวันจะตื่นตี 5 ทุกวันแล้วก็ไปตลาด ไปซื้อของที่จะมาทำยำแหนมขาย เสร็จแล้วก็กลับไปทำของไว้เพื่อเตรียมมาขาย 5 โมงเย็น เสร็จแล้วก็กลับไปตลาดอีกรอบนึงเพื่อไปซื้อของมาทำกับข้าวให้หมา ซื้อประจำก็จะเป็นซี่โครงไก่เพราะไม่อยากซื้อเนื้อสัตว์มาทำเพราะไม่อยากสนับสนุนให้ฆ่าสัตว์ แล้วเอาไปต้มปรุงรสให้อร่อยๆ แล้วก็หุงข้าววันละครึ่งกระสอบหุงน้อยกว่านี้ไม่พอ ข้าวก็ต้องซื้อเอา อาหารทำไปให้หมาเราต้องซื้อหมด เสร็จแล้วก็เอาใส่รถพ่วงไปแจกจ่ายให้เขากิน ไปตามสนามหลวง 2 ไปตามถนนต่างๆ ของพุทธมณฑลสาย 4 ที่หมาจรจัดเขาอยู่กัน บางที่ก็เป็นป่าต้นไม้ต้นหญ้ารกๆ ให้แล้วเราจะยืนดูก่อนว่าเขากินเสร็จรึยัง ยืนดูเขากินมีความสุข มันเหนื่อยนะเพราะเราต้องขายของด้วยแต่ถ้าเราไม่ไปเขาจะนั่งรอเพราะไม่มีใครให้เขากิน บางวันเราก็ซื้อนมข้นไปจิ้มกับขนมปังให้เขากินด้วย บางคนเขาหมาไปปล่อยในป่า เราเห็นก็สงสารไปเดินตามหา เอาเขาไปทิ้งแบบนั้นเขาอดอยากนะ”

“หมดกับค่าอาหารหมาวันละ 1,200 บาท ทำแบบนี้ทุกวัน ส่วนเราใช้เต็มที่ก็วันละ 200 บาท กินข้าวมื้อเช้ากับมื้อเย็นแค่นั้นแหละ เรากินไม่เท่าไหร่หรอกให้หมากินหมด (หัวเราะ) ถ้าเอาเงินที่ไปซื้ออาหารให้หมามาเก็บคงมีเยอะแล้ว แต่ช้างมันเถอะ คนเราเอาแน่นอนไม่ได้ เป็นเศรษฐีอยู่ดีๆ ก็อาจจะตายก็ได้ แค่ไม่เจ็บป่วยก็พอแล้ว ตอนนี้เราแข็งแรงพอหาได้อยู่ก็ให้พวกเขากินละกัน ทุกวันนี้เหมือนหาเงินให้หมา เรากลัวเขาอดอยาก มีไม่มีก็ต้องไปหาเงินให้ได้ วันที่ไม่มีจริงๆ ก็จะมีอะไรมาทำให้เราหาเงินมาได้อัตโนมัติ อย่างเวลาไปร้องเพลงก็จะมีคนให้ทิปเพราะเราก็จะบอกแขกว่าเลี้ยงสัตว์เลี้ยงหมาจรจัดอยู่เป็น 100 ตัวค่ะ เขาก็จะให้ทิป 10 บาทบ้าง 100 บาทบ้าง บางทีไปร้องโต๊ะจีนเราก็เอาถังไปด้วย 3 - 4 ใบไปใส่อาหารที่แขกกินเหลือกลับมาให้หมาด้วย ลูกน้องที่ไปด้วยยังไม่กล้าไปเอานะเพราะเขาอาย แต่เราไม่อาย คนก็มองหน้าโห…อ้อยใจเป็นขนาดนี้เลยหรอ แต่ไม่สนใจเพราะเราเอามาเลี้ยงหมา เราเป็นคนไม่โกรธไม่อิจฉาใครอยู่แล้วใครจะว่ายังไงก็เลยไม่สนใจ เราพอใจในสิ่งที่เรามี”

“ก่อนออกไปร้องเพลงเราก็จะพูดกับเขา (หมา) จะลูบหัวเขาทุกครั้งว่าอย่าให้แม่อดนะลูกนะ ถ้าแม่อดแม่ไม่มีเงินมาซื้ออาหารให้พวกเรานะ พอจะอดมันก็ไม่อด จะมีเจ้าภาพติดต่อมาจ้างงานตลอด จ้างเท่าไหร่เราก็ไป ต่างจังหวัดก็ไปงานนึงก็หลักหมื่นแต่หักโน่นหักนี่ก็พอได้มาจุนเจือตัวเอง ดูแลแม่ แล้วก็เลี้ยงหมา ส่วนรายได้จากขายแหนมวันนึงมันได้มีกี่ตังค์หรอกเพราะเราทำดีกำไรก็เลยไม่เยอะไม่ค่อยมีกำไร ตั้งแต่ขายมายังไม่เห็นกำไรเลยนะ (หัวเราะ) อย่างวันนึงลงทุนไป 2,000 บาท แต่ขายได้ 1,400 บาท ก็ขาดทุนอยู่แล้วใช่มั้ย แต่เราชอบเวลามีคนมาซื้อแล้วบอกอร่อย ไปกินที่ไหนก็สู้ของพี่อ้อยใจไม่ได้ วันไหนไม่ขายลูกค้าก็จะมาถามหาแล้วเราก็มีความสุข บางทีลูกค้าบอกอยู่กัน 5 คนขอเยอะๆ หน่อยนะ เราก็แถมให้ ขายแถมให้มันก็เลยไม่ค่อยมีกำไร คนเห็นขายดีคิดว่าเรามีกำไรเยอะ จริงๆ ไม่ใช่เลย แล้วด้วยความที่เมื่อก่อนเราขายอยู่ป้ายรถเมล์หน้าโลตัสร้านเดียวจนดึกใช่มั้ย บางทีขายๆ อยู่โดนขี้ยาจี้เอาเงินก็มี แต่ตอนนี้มีร้านผัดไทยมาขายข้างๆ กันก็เลยไม่มีพวกนี้มาก่อกวนแล้ว”

ที่ต้องทำขนาดนี้เพราะสงสาร ต้องออกไปให้อาหารหมาทุกวันวันไหนไม่ได้ไปมันนอนไม่หลับและความรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ได้กินข้าว ถึงจะดึกดื่นเที่ยงคืนตีหนึ่งและกลัวทุกครั้งว่าไปแล้วตัวเองจะรอดปลอดภัยได้กลับมาหาแม่มั้ยก็ต้องไป เคยขับมอเตอร์ไซค์ฝ่าทั้งฝนและลมแรงก็บ่ยั่น ประเสริฐจริงๆ
“ต้องไปทุกวันวันไหนไม่ได้ไปมันนอนไม่หลับ ทุกวันนี้อันตรายนะยิ่งดูในข่าวก็กลัวเหมือนกันเพราะเราไม่รู้ว่าเราออกไปแล้วต้องไปเจออะไร มีอันตรายอะไรหรือเปล่า อย่างบางวันเราต้องรอขายของเสร็จก่อนค่อยไป กว่าจะขายเสร็จก็ 3-4 ทุ่มไป บางวันเที่ยงคืนตีหนึ่ง อย่างเวลาต้องออกไปให้อาหารหมาดึกๆ แล้วฝนตก คนข้างบ้านก็บอกพี่อ้อยใจไปทำไมมันน่ากลัวนะ ขนาดมอเตอร์ไซค์รับจ้างยังไม่ไปเลย เราก็คิดว่าแล้วแต่เวรแต่กรรมเถอะ มีครั้งนึงไปให้อาหารหมาตอนตีหนึ่งกว่าไปเจอคนขี้เมาสักลายตามตัวถือไม้แส้มาด้วยอันนึง เราก็กำลังก้มให้อาหารหมาอยู่ หมาก็กำลังรุมกินอาหาร แล้วอยู่ดีๆ เขาก็ตะโกนว่าอีสัตว์ทำอะไร เราก็ตกใจกะละมังใส่ข้าวให้หมาหกหมด หมาก็เห่า มันก็ไม่ยอมไป เรานี่สั่นเลยนะวิ่งไปหลบตรงเสาไม่รู้จะโทร.หาใคร แล้วก็ไม่กล้าออกไปเอารถมอเตอร์ไซค์ ตอนนั้นก็ยกมือท่วมหัวขออย่าให้เราเป็นอะไรนะเราคิดดีทำดีนะ เรานั่งรอนานมากกว่ามันจะไป ฝนก็ตก ลมก็แรง แต่ก็ไม่เข็ดเพราะกลัวพวกเขาไม่ได้กิน”

“เราใจไม่ดีถ้าวันไหนไม่ได้ไปให้อาหารเขาเหมือนเราไม่ได้กินข้าว พวกเขาก็คงรอว่าแม่เขาไปไหน เราก็เลยทิ้งเขาไม่ได้ เหมือนเราถ้าไม่กินอยู่ได้มั้ยล่ะ ก่อนออกจากบ้านก็ท่องพุทโธ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน ข้าพเจ้าคิดดีทำดีขออย่าให้มีภัย ขอให้ลูกปลอดภัยทั้งไปและกลับ แต่เรากลัวไงเห็นข่าวแล้วก็กลัว แต่ไม่ออกไปก็ไม่ได้ ออกไปทีก็คิดว่าจะได้กลับมาบ้านมั้ยก็ต้องระวังตัว เคยเจอ 5 คนลงจากรถปิ๊กอัพเดินมาหาเราแล้วตอนนั้นตีหนึ่งกว่า แล้วตรงนั้นก็เป็นป่ารกๆ เราก็ตกใจ ตายแล้วเสร็จแน่กู แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ ปรากฏว่าเขามาถามทาง (หัวเราะร่วน) คิดเลยนะว่าจะร้องให้ใครช่วยได้วะเนี่ย พอเขาขึ้นรถไปก็ยกมือสาธุเลยนะ ใจหายใจคว่ำหมด (หัวเราะ) แล้ววันนั้นแต่งตัวเปิ๊ดสะก๊าดมากเพราะกลับมาจากร้องเพลงเปลี่ยนชุดไม่ทันต้องรีบออกไป ชุดวิบๆ วับๆ ยังกะผีพุ่งใต้เลย คนที่ถามทางเขายังแซวเลยว่าแต่งตัวขนาดนี้เลยเหรอมาให้อาหารหมา เขาคงนึกว่าเราเป็นคนบ้า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเราต้องทำขนาดนี้ รู้แค่เราสงสาร”

ทุกวันนี้กินแค่เนื้อหมูอย่างเดียว และตั้งปณิธานจะเลิกกินเนื้อสัตว์ทุกชนิดเพราะไม่อยากสนับสนุนให้คนฆ่าสัตว์
“เราไม่ฆ่าสัตว์ มดกับยุงยังไม่ฆ่าเลย ทุกวันนี้ไม่ค่อยกินเนื้อสัตว์ รู้สึกผิดเวลากิน ทุกวันนี้กินหมูอย่างเดียว และตั้งใจจะเลิกกินเนื้อสัตว์หมดทุกอย่างเลย แต่เราขายยำแหนมมันก็ต้องใส่หมูใช่มั้ย เคยมีพระมาทักว่าโยมขายดียังไงก็ไม่รวยหรอกเพราะเป็นคนใจบุญ โยมไม่อยากฆ่าสัตว์ เราคิดไงว่าถ้าเราไม่กินเนื้อสัตว์เขาก็ไม่ฆ่า ยำแหนมของเรามันขายดี สูตรเราไม่เหมือนใคร เคยคิดจะทำเป็นมังสวิรัติทำเป็นข้าวทอดแต่มีสูตรที่ทำให้อร่อยโดยที่ไม่ต้องใส่หมูแต่ก็คิดนะว่าคนจะซื้อมั้ย ก็เลยคิดอยู่ว่าจะทำยังไงดี ไปร้องเพลงเห็นเขาขนหมูใส่รถไป เราอยากช่วยมากเลยนะ แต่ไม่มีที่ทางเอาเขามาเลี้ยง เคยคิดถ้าเรามีเงินเยอะๆ อยากซื้อวัว ควาย หมู ที่เขาจะเอาไปฆ่ามาเลี้ยง แต่ไม่ฆ่าไม่ขายเขานะ เลี้ยงไว้เฉยๆ”

เชื่อว่าบุญกุศลจากการช่วยหมาทำให้ตัวเองสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วยทั้งที่อายุปาเข้าไปจะ 50 ปีแล้ว
“เราคิดดีทำดี สังเกตตัวเองไม่ค่อยเจ็บป่วยนะ ไม่เคยป่วยจนต้องไปหาหมอ ไม่ไอ ไม่เป็นไข้ แล้วเราก็ดูแลตัวเองด้วย ไปตรวจสุขภาพทุกปี หมอยังบอกเลยว่าอายุ 49 ปูนนี้แล้วทำไมไม่มีโรคประจำตัวเลย เราเป็นคนไม่มีญาติ มีพี่น้อง 5 คน อีกคนอยู่เมืองนอก ที่เหลือตายหมดแล้ว เราอยู่กับแม่ 2 คน ไม่มีเพื่อน ไม่มีครอบครัว ในชีวิตเราไม่เคยแต่งงานเพราะอยู่คนเดียวสบายใจ อยู่บนเวทีเป็นคนสนุกสนานก็จริงแต่ลงเวทีเราเป็นคนไม่ค่อยพูดไม่ชอบสุงสิงกับใคร แล้วกลัวเจอคนไม่จริงใจเพราะคนรอบข้างไม่มีใครประสบความสำเร็จเรื่องความรักเลย แล้วเราไม่ใช่คนมีเงินถ้ามีลูกแล้วสามีทิ้งเราก็ต้องแบกรับภาระคนเดียว เราสู้ของเราเองมาตลอด อยู่แบบนี้ดีแล้ว ทุกวันนี้ปลงแล้ว ในชีวิตไม่เคยเที่ยว ไม่กินเหล้าเมายา ชีวิตจะอยู่กับสัตว์ต่างๆ มาตลอด เราก็เลยไม่ซีเรียสว่าต้องมีเพื่อนฝูง ไปไหนมาไหนก็ไปคนเดียว”

อึ้ง! ช่วยหมาพิการจนหมามาเข้าฝันให้โชคถูกลอตเตอรี
“เหตุการณ์นี้ 20 ปีได้แล้วแหละ วันนั้นจะไปร้องเพลงแล้วไปเห็นหมาตัวนี้โดนรถชน คนแถวนั้นบอกโดนชนมา 2 วันแล้ว เขานอนอ้าปากพะงาบๆ อยู่แล้วท้องด้วย แล้วคิวที่ต้องขึ้นร้องเพลงประมาณ 1 ทุ่ม เราก็พาไปส่งโรงพยาบาลกำแพงแสน หมอก็บอกสงสัยจะไม่รอดแล้ว เราก็บอกไม่เป็นไรให้ช่วยชีวิตก่อน วันนั้นมีเงินติดตัวพันกว่าบาท แต่ค่าหมอ 8,000 บาท เราก็บอกหมอว่าไปร้องเพลงแล้วจะเอาตังค์มาจ่ายนะ ร้องเพลงเสร็จเราก็กลับมาดู หมอบอกต้องตัดแขนตัดขาเขานะทั้ง 4 ข้างเลย ปรากฏเขารอด เราก็เอากลับมาเลี้ยงที่บ้านต้องคอยดูแลแผลอย่างดี เราก็ดูแลเขาอยู่ 9 ปี”

“แล้วด้วยความที่บ้านเราติดถนน มีวันนึงเขากระดึบๆ ออกไปฉี่แล้วรถก็มาชนซ้ำอีก อาการหนักแต่เราก็รักษาเขาเท่าที่จะทำได้ วันที่เราออกไปร้องเพลงก็บอกเขาว่าแม่ไปร้องเพลงหาเงินมารักษาหนูนะ ขอให้แม่วิ่งรอกงานทัน 3 งานจะได้เงิน 1 แสนมารักษาหนูนะ ปรากฏวิ่งทันทั้ง 3 งานจริงๆ ทั้งที่ข้ามเขตเลยนะ เสร็จกลับมาบ้าน 7 โมงเช้า ดีใจมากได้เงินไปรักษาหมาแล้ว แต่พอมาถึงบ้านคนข้างบ้านบอกเขาจะตายแล้วแต่เหมือนเขาไม่ยอมไป เขารอพี่อ้อยใจอยู่ เราก็เลยไปกอดเขาบอกถ้าทรมานมากถ้าหนูจะไปก็ไปดีๆ นะ เราพูดจบเขาก็หลับตาจนสุดท้ายเขาก็ตาย เราก็เอาเขาใส่โลงและนิมนต์พระมาสวดให้เขา 1 รูป แล้วก็เอาเขาไปฝังตรงที่ร้าง”

“ผ่านไปเกือบเดือนเขาก็มาเข้าฝัน ในฝันพูดกับเรารู้เรื่องเหมือนภาษาคน เขาบอกเราว่าแม่เจ้าของที่ไม่ให้หนูอยู่ที่นั่นเขาไล่ตีหนูไม่ได้หลับได้นอนเลย พูดเป็นตุเป็นตะเลย แม่พาหนูไปอยู่ศาลพระภูมิได้มั้ยหนูอยากอยู่กับพ่อภูมิ ตื่นเช้ามาเราก็ไปเดินหาศาลพระภูมิก็ไปเจอ เราก็เลยจ้างคนเก็บขยะไปขุดศพหมาย้ายไปฝังข้างศาลให้ ตอนแรกเขาไม่ทำเพราะกลัวเหม็นแต่พอบอกให้ 500 บาทถึงยอม เราก็ไปจุดธูปบอกหมาว่าอย่าให้มีกลิ่นนะเดี๋ยวเขาจะไม่เอาหนูขึ้นมานะ ตอนไปขุดปรากฏว่าเนื้อตัวหมายังดีปกติไม่เหม็นเลยทั้งที่ตายมาเป็นเดือน พอฝังข้างศาลเสร็จเขาก็มาเข้าฝันรอบ 2 ก็คุยกันรู้เรื่องอีก เขาบอกพ่อภูมิใจดีหนูมีความสุขมากเลย เขาบอกสงสารแม่ หนูอยากให้แม่มีเงิน หนูจะยอมไม่ไปเกิดจะยอมชดใช้กรรม เพราะถ้าเขาให้ในสิ่งที่เขาอยากให้แล้วเขาจะยังไปเกิดไม่ได้เขาต้องบาปต่อ เราก็บอกไม่เอาหนูไปเกิดเถอะ แต่เขาก็ยืนยันว่าแม่ต้องเอานะ ให้แม่ไปเสี่ยงโชคซื้อลอตเตอรี่ ตื่นเช้ามาเราก็แอบคิดนะว่ากูบ้ารึเปล่าวะเนี่ย (หัวเราะ)”

“แต่เราเป็นคนไม่เคยเล่นหวยหรือซื้อลอตเตอรีเลย เขาบอกก่อนซื้อให้เราไปใส่บาตรก่อน แล้วให้ไปซื้อกับผู้หญิงท้องตัวไหนก็ได้ ตื่นเช้ามาเรายังคิดว่าเพ้อเจ้อรึเปล่า แต่ก็ลองดูไปหาซื้อแต่มีแต่ผู้ชายขายไม่มีผู้หญิงขายเลย รอจน 1 ทุ่มจนคิดว่าจะไม่ซื้อแล้วจะกลับบ้านแล้ว อยู่ดีๆ มีผู้หญิงท้องเดินจูงลูกมาด้วยคนนึง ร้องไห้มาด้วย เรียกเราขอให้ซื้อลอตเตอรีให้หน่อยมี 2 ใบ สามีหนูตายอยู่โรงพยาบาลตำรวจหนูต้องไปรับศพ แต่หนูไม่มีเงิน เขาบอกใบละร้อยกว่า เราก็บอกโห…ไม่ซื้อ แพงเสียดายเงิน เพราะเราปฏิญาณไว้ไงว่าจะไม่เล่นการพนันไม่เล่นหวยก็เลยไม่เอา ยังถามเขาเลยว่าถ้าถูกจะไปรับเงินที่ไหน เราก็เลยช่วยซื้อ 1 ใบ พอวันหวยออกก็ให้เพื่อนที่เป็นแม่ค้าตรวจให้ปรากฏถูกรางวัลจริงๆ ก็เลยรู้สึกว่าเงินนี้เป็นกำลังใจเนอะ แต่มันแลกกับเขายอมไม่ไปเกิด เราก็เลยไม่ค่อยมีความสุขเท่าไหร่กับเงินนี้”

จนแต่ใจบุญ ช่วยเหลือหมา ช่วยเหลือสัตว์มาตลอดชีวิต สิ่งที่ขอไม่ได้ขอให้ตัวเองร่ำรวย แต่ขอให้ตัวเองมีสุขภาพแข็งแรงจะได้มีแรงไปช่วยหมาช่วยสัตว์ได้
“ทุกวันนี้สิ่งที่ขอคือสุขภาพขอให้ตัวเองแข็งแรงเพราะถ้าเป็นอะไรไปเราไม่มีครอบครัวดูแล และขอให้ตัวเองเป็นคนจิตใจดี ขออย่าให้ตัวเองอย่าไปอิจฉาคนที่เขารวยกว่า สำหรับเลี้ยงหมาถ้าวันนึงเราไม่มีแรงแล้ว เราไปไม่ได้เหมือนเดิมแล้วก็คงต้องปล่อยไปตามชะตากรรม แต่ในวันที่ยังมีแรงสู้อยู่เราก็จะให้เขาจนกว่าชีวิตจะหาไม่ เราเป็นคนจนแต่เป็นคนใจดี ใจกว้าง แต่กับตัวเองยังไงก็ได้ ปลาทูตัวเดียวก็กินได้ และถ้าชาติหน้ามีจริงขอเกิดเป็นลูกแม่คนนี้ เกิดมาได้ทำแค่นี้เรามีความสุขแล้ว ได้ทำแหนมไปขาย ได้ไปเลี้ยงหมาไปนั่งคุยกับเขา วันไหนว่างก็ไปเดินซื้อเสื้อผ้าแต่งตัวแบบนี้ใครจะว่าเราบ้าๆ บอๆ ก็ช่างเพราะเป็นความสุขเรา ไม่เคยทำให้ใครเดือดร้อน ชีวิตนี้พอใจแล้ว”




ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live

ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th

ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก