“บอย - เต็นท์” วิพากษ์เดือด “พลอย เฌอมาลย์” ขาดการควบคุมอารมณ์ สร้างคาแรกเตอร์เหวี่ยงวีนไว้เป็นมาตรฐานตนเอง บอกอยู่ในวงการมานาน ต้องรู้จ้กมารยาทสังคม ยันนักข่าวไม่แบนพลอย แต่ต้องถอยกันคนละก้าว แนะพลอยต้องมองย้อนตนเองว่าทำอะไรผิดไปหรือเปล่า ต้องเปิดใจให้กว้างเพื่อรับฟังเสียงวิจารณ์บ้าง
ในฐานะที่เคยทำงานเป็นนักข่าวมาก่อน จนได้เขยิบไปนั่งในตำแหน่งพิธีกรรายการไนน์เอ็นเตอร์เทน และสร้างความฮือฮากับการลุกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ นางเอกคนดัง “พลอย เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” แบบถึงพริกถึงขิง กับกรณีกระชากแขนนักข่าวและการตั้งคำถามกลับนักข่าว หลังโดนโยงกรณีโพสต์ภาพนิ้วจิ้มเค้ก ว่าตั้งใจอวยพรถึง “ไฮโซอุ๊ สกุลไทย” หรือเปล่า จนสาวพลอยปรี๊ดแตกถามหาแหล่งข่าวจนสะท้านไปทั้งวงการ ล่าสุด “บอย - เต็นท์” พิธีกรไนน์เอ็นเตอร์เทน ก็ได้ออกมาเปิดใจกลางรายการ คนดังนั่งเคลียร์ ทางช่อง 2 สตาร์แม็กซ์ ยันไม่ได้ออกมาพูดแทนนักข่าว แต่มาในฐานะคนที่อยู่ในวงการบันเทิงมานาน แนะ พลอย เฌอมาลย์ ต้องเปิดใจรับคำวิจารณ์ เพราะเป็นคนของประชาชน
บอย : “วันนี้ต้องบอกก่อนว่าไม่ได้มาในฐานะตัวแทนนักข่าว แต่มาในฐานะที่อยู่ในวงการมา 14 - 15 ปี อาจจะมีมุมมองอะไรบางอย่างที่จะช่วยให้อาจารย์ยิ่งศักดิ์เข้าใจอะไรมากขึ้น”
เต็นท์ : “ผมว่านักข่าวไม่ได้ถามคาดคั้นอะไรพลอยเลย ผมเห็นพลอยพูดเยอะกว่านักข่าวอีก”
บอย : “นักข่าวถามประโยคเดียวเอง ถามนุ่มๆ ด้วยไม่ได้ถามกระโชกโฮกฮาก”
เต็นท์ : “ก็ต้องยอมรับว่านักข่าวที่พูดง่ายๆ กวนประสาทก็มี แต่ดูแล้วพฤติกรรมน้องนักข่าวเดลินิวส์คนนั้นเนี่ย ก็ไม่ได้มีพฤติกรรมไร้มารยาท”
บอกพลอยสร้างมาตรฐานให้ตนเองด้วยการเป็นคนวีนเหวี่ยงทั้งที่สามาารถตอบคำถามแบบให้เกียรติกันได้
บอย : “ไม่ได้รู้สึกว่าเหวี่ยง รู้สึกว่าเป็นมาตรฐานของน้องพลอย แต่มีความรู้สึกว่านี่คือการไม่ให้เกียรติการทำงานของนักข่าว ซึ่งคำว่าแหล่งข่าวมันแปลว่าฉันได้ยินมา ซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่าคนนี้มันคือใคร เขาไปโพสต์กันในเฟซบุ๊กบ้าง หรือไปเมาท์กันในเว็บบอร์ดบ้าง ว่าพลอยกำลังจะทิ่มเค้กที่มีนิ้วกลางให้กับคนนั้นคนนี้ซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกเหมือนกันว่าเป็นใครสำหรับคนโพสต์ ซึ่งเขาก็โพสต์ว่าเป็นคนนั้นคนนี้ เราก็แค่จะถามความจริงว่าอะไรที่ทำให้ระดับนางเอกอย่างพลอยปรี๊ด แล้วก็สามารถที่จะแสดงกิริยาโชว์นิ้วกลางออกมาได้”
เต็นท์ : “มันต้องไม่ธรรมดานะ คนเราอยู่ดีๆ จะยกนิ้วกลางใส่ใคร เหมือนที่เรามาเคลียร์วันนี้ ถามมาอยากรู้อะไรเราก็ตอบ ถามได้ทุกเรื่อง อย่างคนเป็นดาราเจอเผชิญโลกมาตั้งเท่าไหร่แล้วสำหรับพลอย เพราะฉะนั้นนักข่าวถามเนี่ยผมมองว่าเป็นการให้โอกาสนะที่ได้ชี้แจงว่ามันจริงหรือไม่จริง อย่างที่เขามโนกันไปว่าพลอยทิ่มนิ้วกลางในวันเกิดของคนนั้น ซึ่งมันตรงกับวันเกิดของคนนั้นพอดี ก็ถามดีๆ ก็มีอยู่ 2 อย่าง ใช่ ไม่ใช่ หรือไม่ตอบก็ได้”
บอย : “เด็กนักข่าวคนนั้น ก็เป็นนักข่าวคนใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในวงการได้ไม่กี่เดือน เขาทำงานที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ในโต๊ะข่าวบันเทิง ซึ่งก็ไม่ได้รู้จักน้องคนนี้เป็นการส่วนตัว แต่ภาพรวมของคนที่เป็นนักข่าวมันก็รู้สึกว่าทำไมน้องพลอยไม่ให้เกียรติการทำงาน จริงๆ แล้วคำถามถามนุ่มนวล วันนั้นน้องพลอยอาจจะหงุดหงิดถ้าเปลี่ยนวิธีการตอบคำถามเปลี่ยนไหมเป็น อุ้ย อย่าถามอย่างนี้สิคะเดี๋ยวจะทำให้เขาเข้าใจผิดว่าทะเลาะกันเอาเป็นว่าไม่ใช่คนนี้ จบไหม”
ยันแม่พลอยและผู้จัดการยกหูเคลียร์นักข่าว แต่พลอยอาจไม่รู้เรื่องจนหลุดปรี๊ดแตกอีกรอบ
บอย : “คือเราเนี่ยไม่ได้รับโทรศัพท์จากแม่ แต่เรารู้จากเพื่อน ซึ่งก็เป็นระดับ บก. หัวหน้าข่าวของเดลินิวส์ ซึ่งเขาก็โทร.ไปจริง คนทั้งบันเทิงเดลินิวส์เขาก็ยืนยันว่าโทร. ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าคุณแม่เห็นภาพไม่ค่อยดี เห็นข่าวไม่ค่อยดีเลยโทรศัพท์ไปแล้วก็ไม่ได้บอกลูก ลูกก็เลยไม่รู้พอวันรุ่งขึ้นลูกมาออกงาน นักข่าวไปถามว่าแม่ได้โทร.ไปขอโทษ ก็เลยปรี๊ดอีกว่าไม่ได้โทร.”
เต็นท์ : “พลอยบอกว่าไม่จริง ซึ่งพี่โอ๋ เดลินิวส์ก็ได้โพสต์ลงไอจีส่วนตัว ว่าคุณแม่พลอย มีชื่อ มีเวลาชัดเจน คุณปลาบู่ ผู้จัดการคุณพลอยโทร.ไล่กันมายังไง แล้วก็แถมแท็กไปที่คุณเฌอมาลย์อีกด้วย”
บอกถอยกันคนละก้าว แต่ยันนักข่าวไม่แบนพลอย
บอย : “เราก็คิดในมุมว่าเขาอาจจะมีอารมณ์ประมาณว่าหงุดหงิดเรื่องอื่นมาแล้วบังเอิญมาถามเรื่องนี้พอดี จังหวะไม่ถูกต้อง เอาตรงๆ นะวันนี้ สถานการณ์มา 3 - 4 วัน น่าจะประมาณถอยคนละก้าว นักข่าวก็คงถอยมาตั้งหลักก่อนว่าเขาทำแบบนี้กับฉัน ฉันควรทำยังไงดี ส่วนน้องพลอยเองที่อาจจะพูดเร็ว ใจเร็ว ก็อาจจะถอยมาก้าวหนึ่งแล้ว ที่เคยขึ้นว่าสู้ก็ถอยมา วันนี้ทั้ง 2 ฝั่งก็ถอยแล้ว แต่เราต้องมานั่งพิจารณากันอีกทีว่าใครจะเดินเกมยังไง แต่คงไม่แบนหรอก ดาราไม่ต้อง พินอบพิเทานักข่าว และนักข่าวก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปกดหรือข่มเหงดารา”
ยันนักแสดงไม่มีสิทธิ์แสดงอารมณ์ ส่วนใครทำตัวไม่น่ารัก นักข่าวไม่ปลื้มจะไม่มีสิทธิ์แจ้งเกิด
บอย : “ไม่ได้ แสดงอารมณ์ไม่ได้ ถ้าเธอทำกับคนอื่นยังไง นักข่าวก็เป็นแบบนั้น ถ้ามารยาทสังคมบอกว่าการพูดจากับคนอื่น บุคคลที่ 3 ที่ 4 ซึ่งไม่ใช่บุคคลในครอบครัวคุณยังไง คุณก็ต้องปฏิบัติอย่างนั้น มันคือการทำงาน”
เต็นท์ : “คือไม่ต้องทำตัวให้นักข่าวรัก เป็นธรรมดา เป็นธรรมชาติของตัวเอง ที่บอก อันนี้พูดภาพรวมของวงการบันเทิง ดารามีอยู่หลายคน คนที่เป็นแบบนี้ ดีเสมอต้นเสมอปลาย ก็จะได้รับการปฏิบัติดีเสมอต้นเสมอปลาย ใครมาร้ายใส่ก็จะได้รับการปฏิบัติแบบนั้นกลับไป”
บอย : “ทุกคนทุกอาชีพ ต้องการสื่อสารและต้องการทำงานกับคนที่ให้เกียรติคนอื่น การที่คุณซื้อขนมไปให้ตามโต๊ะข่าว ไปเยี่ยมสื่อ เอาดาราไปสวัสดีแนะนำตัวก็ถือเป็นมารยามทางสังคมที่ต้องทำ เพราะคุณต้องการที่จะแนะนำคนของคุณ ประโยชน์ของคุณให้กับสื่อ มันเป็นเรื่องของมารยาททางสังคม ถามว่าคุณเปิดตัวครั้งแรก คุณไปยืนด่าเขา เยอะไปไหม เพราะฉะนั้นสังคมไทยก็ยังอะลุ่มอล่วย กันอยู่ เรื่องของมารยาทและความเหมาะสมมันเป็นเรื่องที่ต้องพูดถึงกัน นักข่าวบางคนบางเล่มก็กร่าง เราก็ยอมรับ บางคนก็นิสัยไม่ดี นักข่าวบางคนก็รับเงินเขียนข่าว มันก็มีหลากหลายแบบ แต่เราเชื่อมั่นว่านักข่าวโดยรวม 80% ยังทำงานภายใต้จรรยาบรรณอยู่”
บอกนักข่าวไม่ควรทำตัวสนิทกับดาราเกินเหตุ เพราะทำให้ทำงานยากขึ้น
เต็นท์ : “ไม่เคยครับ”
บอย : ก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหาก็ไม่เคยโทร.หาดาราคนไหน เคยบอกไปครั้งหนึ่งตอนนั้นจำได้ไหมว่า เป็นนักข่าวไม่ควรจะสนิทสนมกับดารา เพราะเมื่อมีปัญหาเราจะไม่กล้าที่จะนำเสนอข้อเท็จจริง หรือไม่กล้าที่จะเขียนลงไป เรื่องมีปากกาอยู่ในมือ ก็เหมือนมีอำนาจ ไม่จริง ถ้าคุณเป็นคนดี ถ้าดารา พ. เป็นคนดี หนังสือพิมพ์ 20 ฉบับจะเขียนว่าคุณเลว เป็นไปไมได้ มีฉบับหนึ่งเขียนดี อีก 20 เขียนไม่ดี ก็เป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันเป็นเหมือนๆ กันหมด ไม่สามารถด่าใครได้ในเล่มเดียว ด่าอยู่นั่นแหละด่าคนเดียวไม่ได้ ทั้งหมดภาพรวมต้องเหมือนกัน เขาสะท้อนความจริงเหมือนกันหมด”
เต็นท์ : “เป็นไปไม่ได้หรอก มันมีขั้นมีตอน อยู่ดีๆ นักข่าวจะไปเขียนอย่างนั้น มันมีกระบวนการตัดต่อ กระบวนการรีไรต์ ตรวจสอบ”
บอย : “นักข่าวภาคสนามเองส่งข่าวเข้ามารีไรต์ก็ต้องดู รีไรต์เสร็จหัวหน้าข่าวก็ต้องดูจะเอาข่าวไหนออก มันมีกระบวนการเยอะแยะไปหมด ถ้าเป็นนักเลงคีย์บอร์ดเขียนตามเว็บไซต์อันนั้นน่ะใช่”
เต็นท์ : “วันหนึ่งวงการบันเทิง สมมติมี 10 อีเวนต์ ไม่ใช่ว่า 10 ข่าวมันจะมาออกได้หมดทุกอย่าง”
ไขปริศนาทำไมนักข่าวไม่ปลื้มพลอย ต้องมองย้อนตัวเองว่าตนผิดตรงไหนหรือเปล่า
เต็นท์ : “ก็วิธีคิด กระบวนการตอบโต้ ประชดประชันเสียดสี ใครมอง เอาใจเป็นกลาง สมมติถ้าถูกถามแบบกวนประสาทพูดง่ายๆ นักข่าวก็ถูกมองไม่ดี คนที่ดูคนที่ชม คนที่เห็นก็จะว่านักข่าว แต่เคสต์นี้นักข่าวก็ไม่ได้ถามด้วยความไม่สุภาพ หรือว่าไปบีบคั้นอะไรหัวใจ แต่อยู่ดีๆ ก็สวนกลับมาแบบนั้น เวลานักข่าวโดนด่าก็ไม่น้อยใจในมุมมองผมนะ อาชีพอะไรก็ตาม มวลชนหรือทำงานใกล้ชิดประชาชน หรือทำงานใกล้ชิดคนหมู่มากมีนอ่อนไหวมีสิทธิ์จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ หมอ ตำรวจ สื่อมวลชน หรือาชีพอะไรก็ตามที่มันใกล้ชิดประชาชนพื้นฐานจรรยาบรรณ หรือการวางตัวมันต้องระมัดระวัง ความน้อยเนื้อต่ำใจไม่มี เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก แต่มันเกิดขึ้นและแก้ไขอย่างไรมากกว่า แล้วคนคนนั้นเปลี่ยนปรับยังไงมากกว่า อย่างที่บอกถอยคนละก้าว หรือมานั่งมองตัวเองว่าเราผิดอะไรตรงไหนไหม”
บอย : “เราอยู่ในแสงไฟ อย่างเรา 2 คนเป็นพิธีกรข้างหน้า อาจจะต้องโดนมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ เราเป็นนักข่าวด้วย เราต้องยอมรับว่านักข่าวเนี่ย ต้องยอมรับและเปิดใจที่จะให้คนอื่นวิจารณ์เรา เพราะเราเองก็ทำหน้าที่วิจารณ์คนอื่น”
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
