ทนาย “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” ยันหลังจดทะเบียนหย่า “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” ทุกอย่างจบดี นางเอกดังไม่ขอแบ่งสินสมรส ไม่ต้องการค่าเลี้ยงดู เพราะต้องการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ส่วนตนเดินสายออกรายการชี้แจงแทนเจนี่แค่พูดในสิ่งที่รับรู้ เผยนางเอกดังทวงคืนรถปอร์เช่ทั้งที่เป็นเจ้าของ เพราะอดีตสามีถือสิทธิ์นำไปครอบครอง ปัดเป็นตัวการปล่อยภาพเจนี่โดนทำร้าย
ยังคงเป็นประเด็นที่ร้อนแรงจริงๆ สำหรับความรักที่จบลงด้วยใบหย่าของอดีตมาดามปากน้ำ “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ” กับ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ถึงแม้ตอนนี้ฝ่ายหญิงจะหลบไปเลียแผลใจอยู่สหรัฐอเมริกา แต่ก็ยังมีกระแสข่าวต่างๆ หลุดออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นรถปอร์เช่ว่าสรุปฝ่ายชายได้คืนให้เจนี่แล้วหรือไม่ ในขณะที่วานนี้ (4 สิงหาคม 2557) “อ.ประมาณ เหลืองวัฒนะวณิช” ทนายความส่วนตัวได้โฟนอินในรายการตื่นมาคุย ที่ดำเนินรายการโดย “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ระบุว่าฝ่ายชายคืนรถหรูให้เจนี่เรียบร้อยแล้ว ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (5 สิงหาคม 2557) ทนายความคนดังก็เดินสายให้สัมภาษณ์ในรายการ “สดใหม่ไทยแลนด์” ช่อง 2 ขอเคลียร์แทนเจนี่อีกครั้ง โดยยืนยันว่าตนแค่ออกมาพูดในสิ่งที่ได้รับรู้เท่านั้น ก่อนยันไม่ได้เป็นตัวการปล่อยภาพหลุดเจนี่โดนซ้อม
“จริงๆ ภาพใบหย่าที่ถ่ายเนี่ยไม่ได้ตั้งใจจะเอาไปโพสต์นะ พอถ่ายมาแค่ส่งไปที่สำนักงาน แค่แจ้งไปที่สำนักงานเฉยๆ ว่าเรียบร้อยแล้ว เราก็มีการปรึกษาหารือเรื่องหย่าล่วงหน้า ว่าคนเราเวลาเขาจะเลิกกันเขาทำยังไง ตอนนี้คือไม่อยากจะอยู่ด้วยกันแล้วแหละ พอไม่อยากอยู่ด้วยกัน อาจจะด้วยความคิดเห็นหรืออะไรต่างๆ ที่มันไม่สามารถจะไปกันได้ จะเลิกกันในทางกฎหมายต้องเตรียมการอะไรบ้าง”
“คุยล่วงหน้า 1 - 2 เดือนจริงๆ มันก็ไม่ได้นานหรอกครับ เพียงแต่ว่าเขาตั้งใจอยากจะแยกทางกัน ในทางกฎหมายมันต้องทำอะไรบ้าง ในฐานะที่เราเป็นทนายเป็นนักกฎหมาย เราก็ต้องแจ้งให้ทราบ คนเราพอเลิกกันไม่ว่าวันนี้พอไม่ถูกใจกัน แล้วพรุ่งนี้เลิกกันเลย มันไม่ใช่นะ”
เผยเหตุเจนี่ใช้เวลาตัดสินใจเรื่องหย่านาน เป็นเรื่องขั้นตอนของกฎหมาย
“มันไม่ได้ติดขั้นตอนอะไรหรอก เพียงแต่มันเป็นเรื่องของระยะเวลา คนเราเวลาจะแยกทางกันมันก็ต้องคิดว่าเราจะแยกทางกันยังไงแบบไหน หรือว่าเรายังมีโอกาสที่จะดีกันได้ไหม ก็ใช้เวลาหน่อย”
“เราก็แนะนำในเรื่องข้อกฎหมาย จะเลิกกันเนี่ยยังอยู่ด้วยกันได้ไหม ถ้ายังอยู่ด้วยกันได้ ให้อภัยกันได้ก็ลองดู ลองกลับไปเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้ก็ต้องแยกทางกัน พอแยกทางกันก็ต้องมาดูก่อนว่าเวลาเราเข้ามาอยู่ด้วยกันเนี่ย มีอะไรมาหรือเปล่า ทรัพย์สิน สินส่วนตัวของใครของมันต่างคนต่างมี ใครมีอะไรมาแยกกันก็แยกกันไป”
“สินสมรสก็แยกคนละครึ่ง สินสมรสมันเกิดขึ้นเวลาเราอยู่ด้วยกัน เช่น คุณมีโรงแรม รายได้ที่มันเกิดขึ้นมาระหว่างสมรส เขาเรียกสินสมรสทั้งหมด ตัวโรงแรมไม่ใช่ แต่รายได้จากโรงแรมใช่หมด แม้กระทั่งเงินฝากธนาคาร สมมติมีอยู่ 100 ล้าน ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นมาอีก 100 ล้าน ก็เป็นสินสมรส”
“ส่วนหนี้สมรสคือเวลาไปกู้หนี้ยืมสิน ก็ต้องไปเซ็นยินยอม เพราะอะไรรู้ไหม มันจะได้ผูกพันเป็นหนี้สมรส หนี้สมรสนี่ต้องช่วยกันรับผิดชอบนะ”
เผยจดทะเบียนหย่าสยบข่าวลือ จนทำให้ทุกอย่างจบดี อีกทั้งต่างฝ่ายต่างได้ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
“ข่าวที่บอกว่าไม่ขอเจอหน้ากันอีกก็คงต้องลือไปตามจังหวะของมัน แยกทางกันแล้วก็ต่างคนต่างไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ ถามว่าจบแบบแฮปปี้ไหม ก็แฮปปี้ ลองคิดดูนะถ้าเรื่องยังคาราคาซังอยู่ แล้วประโคมข่าวแบบนี้มันเป็นทุกข์ไง เนี่ยพอเราจดทะเบียนหย่าปั๊บ จบสยบข่าวเบาไปเลย”
“หลายคนสงสัยว่าเรามาเป็นทนายให้เจนี่ได้ไง ก็คุ้นเคยกับทางแม่เขามาก่อน คือคนเป็นพ่อแม่เวลาลูกอยากจะแยกทางกัน คนเป็นพ่อแม่ก็เป็นห่วงเป็นเรื่องธรรมดาครับ”
บอกเดินสายออกรายการ ตนแค่พูดในสิ่งที่รู้ และยืนยันเจนี่ไม่อยากได้อะไร นอกจากเริ่มต้นชีวิตใหม่
“มันคนละเรื่องกัน เราพูดในสิ่งที่เรารู้ แล้วสิ่งที่เราไม่รู้เราไปเดาเขาไม่ได้หรอก เท่าที่เราพบเราเห็นเราสัมผัสได้ เราก็พูดได้ อะไรที่เราไม่รู้ไม่เห็นให้เราไปเดาไม่ได้ เป็นทนายไปนั่งเทียนได้ยังไง”
“คือปกติเวลาคนจะเลิกกันสินสมรสก็ต้องแบ่งกันคนละครึ่ง ก็ต้องตรวจสอบทรัพย์สินที่มีอยู่ด้วยกัน ถ้าไม่รู้ว่าเป็นสินส่วนตัวหรือสินสมรสให้สันนิฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส คือน้องเจนี่เขาไม่อยากได้อะไรแล้วเขาอยากจะเริ่มต้นใหม่ ไม่อยากเอาอะไรแล้ว ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่ดีกว่า”
“คนจะเลิกกันมันจะมีปัญหาคือขอแบ่งสินสมรส บางทีสินสมรสอยู่ในผู้หญิง บางทีสินสมรสิอยู่ในผู้หญิง ผู้ชายมาขอแบ่ง หรือสินสมรสอยู่กับผู้ชาย ผู้หญิงอยากได้ขอแบ่ง ปัญหาอย่างนี้เป็นเรื่องที่ต้องไปว่ากันแล้วว่าสิทธิ์มีแค่ไหน ปัญหาล่าช้าในการหย่าคือเรื่องทรัพย์สิน”
ยันเจนี่ไม่ต้องการค่าเลี้ยงดู ส่วนรถปอร์เช่ที่เจนี่ต้องขอคืนเป็นเพราะอีกฝ่ายถือสิทธิ์นำไปใช้และครอบครอง
“สินสมรสคือทรัพย์สินที่เกิดขึ้นระหว่างแต่งงาน 2 คนต้องจัดการร่วมกัน ถ้าจะเลิกกันก็ต้องแบ่งกันคนละครึ่ง ส่วนค่าเลี้ยงดู คนเป็นสามีภายากันต้องอุปการะเลี้ยงดูกัน พอแยกกันแล้วทำให้อีกฝ่ายหนึ่งเขาอยู่ลำบากขึ้นก็ต้องให้ค่าอุปการะและเลี้ยงดูเขา ซึ่งในสังคมไทยวัฒนธรรมของสังคมไทยเวลาเลิกกันผู้ชายก็ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูผู้หญิง แต่น้องเจนี่ไม่ได้เป็นแบบนั้น”
“ทำไมเจนี่ต้องขอคืนในเมื่อรถเป็นของเจนี่ คือมันหมดสภาพแล้วไง ตอนที่อยู่ด้วยกันรถปอเช่เนี่ยพี่เอ๋เอาไปอัป เอาไปใช้ไงมันก็เลยอยู่ในความครอบครองเขา ก็แค่ขอคืนแค่นั้นเอง ถามตอนนี้ได้คืนหรือยัง ก็ได้แล้ว”
ยันไม่ได้ปล่อยภาพเจนี่โดนทำร้าย
“ผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ผมจะไปรู้เหรอครับ ถามว่าผมไม่ได้โพสต์ภาพใช่ไหม ภาพพวกนี้ผมไม่ได้เกี่ยวข้อง จริงๆ เรื่องทำร้ายร่างกาย ต่อให้เป็นสามีภรรยาก็ห้ามทำร้ายร่างกายกันและกัน นอกจากมีประมวลกฎหมายอาญาแล้วนะ เขายังมีพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวด้วย”
นอกจากนี้ อ.ประมาณ ยังมีคิวไปออกรายการคนดังนั่งเคลียร์ เพื่อให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องดังกล่าวในเวลา 12.00 น. ต่ออีกด้วย ในขณะที่สาวเจนี่ดูลั้ลลากับชีวิตใหม่ที่อเมริกา และเริ่มทยอยโพสต์ภาพลงอินสตาแกรมให้แฟนๆ ที่เมืองไทยได้หายคิดถึง
ติดตามรับชมช่อง “Super บันเทิง” ได้ที่ Super บันเทิง live
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |