“ดีเจเจ๊แหม่ม” เปิดใจอินเลิฟ “บอย” แฟนเด็กคบได้เดือนกว่า ไม่หวั่นโดนเด็กหลอกยันไม่ใช่ช่วงโปรโมชัน เผยอีกฝ่ายหลงตนมากถึงขั้นคุกเข่าขอเรียกที่รัก รับอยากแต่งงานริมทะเลจิบไวน์ใส่ชุดเจ้าสาว หลังลองใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว มั่นใจเป็นรักแท้ที่รอคอยมานาน 12 ปี บอกรักไม่จำกัดเพศ ไม่โฟกัสใครรุก ใครรับ!
สร้างความเซอร์ไพรส์ให้วงการบันเทิงและทำให้สาวๆ พากันอิจฉาได้ไม่เบา สำหรับ “ดีเจเจ๊แหม่ม” วินัย สุขแสวง หลังเปิดตัวแฟนหนุ่มหน้าตาดีนาม “บอย” ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 24 ปี ในอินสตาแกรมประกาศรักหวาน ล่าสุด เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจด้วยอาการอินเลิฟอีกครั้งผ่านรายการคนดังนั่งเคลียร์ ช่อง 2 สตาร์แม็กซ์ โดยเผยว่าดูใจแฟนหนุ่มได้เดือนกว่า พบรักที่สีลม ไม่หวั่นโดนหลอกเพราะตนไม่ได้หลงอีกฝ่าย แต่อีกฝ่ายที่หลงตนมากถึงขั้นลงทุนคุกเข่าขอเรียกว่าที่รัก มั่นใจรักครั้งนี้คือรักแท้ที่รอคอยมานาน 12 ปี หลังสูญเสียแฟนเก่า ลั่นรักจริงถึงขั้นอยากแต่งงานและลองใช้ชีวิตร่วมกันแล้ว ฟุ้งรักไม่จำกัดเพศ ไม่โฟกัสเรื่องเซ็กซ์
“ถ้าเห็นว่าดีก็ขอบคุณมาก คิดเสมอครับว่าอะไรที่เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับทุกเพศ เราว่าคนสมัยใหม่เข้าใจอะไรเยอะขึ้นไม่จำกัดเพศ สุดท้ายแล้วถ้าเรารักกัน ชวนกันไปทำสิ่งที่ดีมันก็คือดี เราอยู่กับสื่อเวลาเราพูดอะไรเราคิดอะไร เราก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เราพูดด้วย แล้วมันก็ไม่ใช่แค่พูด เราต้องทำให้เห็นด้วย”
“เขาเป็นนักเรียนนอก บ้านทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่อันนั้นมันเป็นเหตุผลข้างนอกเราก็ไม่ยุ่งกันอยู่แล้ว เราไปเที่ยวแล้วก็ไปทำรายการสดกับช่อง 9 เสร็จแล้วก็ไปเที่ยวเหนื่อยกับการทำงานไง แล้วก็ไปเจอกันที่สีลม ก็ไปนั่งสวยๆ ที่ร้านชิลๆ แบบเลิศๆ แล้วก็บังเอิญเจอกัน เขานั่งอยู่ข้างๆ เราไม่ได้เข้าไปจีบเขานะ เพราะกลัวว่าเขาจะว่าเราแรงเหมือนกับภาพที่เห็น แต่โชคดีว่าเขาก็ไม่ได้รู้จักเรา ก็ได้คุยกันนอกรอบเขาบอกถ้าเขารู้จักว่าเป็นเจ๊แหม่มเขาก็คงไม่เอา ถามว่าทำไมเขาก็บอกดูภาพพี่สิมันดูแรงดูก๋ากั่นดูบ้าผู้ชาย ทุกวันนี้ดีใจอยู่อย่างหนึ่งนะ เขาพูดเสมอว่าเขาไม่ได้รักเราที่เราเป็นเจ๊แหม่มอยู่หน้ากล้อง เขารักเราที่เราเป็นนายวินัยของเรานี่แหละ ซึ่งมันก็สะท้อนอะไรหลายๆ อย่างว่าเวลาที่เขามองเรื่องความรัก เขาก็ไม่ได้มองอะไรที่มันฉาบฉวย”
รับดูใจได้เดือนกว่า ฝันหวานอยากแต่งงานจิบไวน์กินเก๊กฮวยกินน้ำบ๊วยริมทะเล มั่นใจไม่ใช่ช่วงโปรโมชัน
“คบได้เดือนกว่าๆ ประมาณเดือนครึ่ง เขาไม่ใช่สเปกเลย คือถ้ามองแค่รูปลักษณ์เนี่ยเราประกาศชัดเจนเลยว่าเราชอบคนแก่ คือเราอยากได้ทั้งพ่ออยากได้ทั้งแฟน เพราะฉะนั้นเราจะมีความคิดของเราว่าเราไม่อยากได้เด็ก คือเด็กมันไม่นิ่งไง ความรักของเขามันอาจจะไม่เสถียร เราเคยเป็นมาก่อนเราจะรู้บางทีเราก็ไม่นิ่งเหมือนกัน แต่ว่าวันนี้เรารู้สึกว่าไม่นิ่งไม่ได้แล้วนะ ถ้าเราไม่นิ่งเราก็จะตายคนเดียวเราก็คิดแบบนี้ เราก็มีมุมมองความรักแบบหนึ่ง พอมาเจอเขาซึ่งมีทัศนคติความรักอีกแบบหนึ่งแบบที่เรียกว่าแก่กว่ากูอีก เขาดูโตดูเป็นผู้ใหญ่ บางเรื่องที่เขาคิดเราคิดไม่ได้ด้วยซ้ำ เราเลยรู้สึกว่าเปิดใจคุยกันหน่อย เดี๋ยวนี้การเจอคนที่มันจะใช่มันก็ยาก”
“ในมุมตัวเองเราพูดอยู่ตลอดตั้งแต่แฟนเก่าแล้ว ว่าชีวิตหนึ่งอยากมีปาร์ตี้แล้วก็ชวนเพื่อนสนิทสัก 10 คน กินเลี้ยงจิบไวน์กินน้ำเก๊กฮวยน้ำบ๊วยริมทะเลก็ว่ากันไป ก็ฝันเพ้อๆ ของเราไป พอมาวันนี้ปุ๊บเราก็ชัดเจนว่าคนที่เข้ามาจะมาเล่นๆ ไม่ได้ แต่เขาบอกเราว่าผมไม่เคยหลอกใครหรอก เขาเอาจริง เราก็แบบยืนยันได้ว่ามันไม่ใช่ช่วงโปรโมชัน แต่เราก็เคยแอบสงสัยนะ ว่ามันไปแอบเรียนการแสดงมาจากไหนวะ ใจเราก็คิดอย่างนั้นนะ เพราะว่าเราคิดอยู่เสมอว่ารักแท้มันไม่ได้เจอกันได้ง่ายๆ รักครั้งนี้ของเราในรอบ 12 ปีเลยนะ”
เผยรักไม่จำกัดเพศ ไม่โฟกัสใครรุก ใครรับ เพราะรักครั้งนี้ไม่เกี่ยวเซ็กซ์
“เรื่องแต่งงานมันก็ต้องอยู่ที่เขาด้วย เขาพูดมาว่าถ้าที่รักอยากจะทำอะไรเขาก็จะทำให้ เพราะถ้ามองว่าเราใช่ เขาก็จะไม่เสียเวลาไปมองหาคนอื่น เราก็เออเขาก็น่าจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เขาเด็กกว่าเราก็จริงแต่ความคิดเขาเป็นผู้ใหญ่ก็พอ เราว่ามันไม่เร็วเกินไปนะ เราอยู่จนจะตายอยู่แล้ว เราผ่านมาเยอะแล้ว เราแห้งมา 12 ปีแล้ว (หัวเราะ) สังเกตจากข่าวเราไม่มีข่าวเรื่องความรักเลย”
“คือเราก็ฝังใจเราก็มีอดีตรักของเรา สวยๆ ไป วันนั้นเราเจอคนดีแต่เราก็เสียใจที่เราไม่ได้ทำดีต่อเขาต่อคนที่เรารัก แล้วมันก็จำมาจนถึงทุกวันนี้ในการมองคนหรือการเลือกคบใครสักคน ถ้าสมมติว่ามันไม่ใช่เราจะไม่ให้โอกาสคนอื่นให้เข้ามาเลย เราจะท่องไว้แบบนี้ ถ้าให้ความหวังใครกลัวเขาเจ็บเราอาจจะไม่เจ็บ เราเข้าใจความรู้สึกของคนที่มีความหวัง เราก็เลยยึดถือมาตลอด พอมาถึงวันนี้เราเจอคนนี้ เรามีมุมมองความรัก มุมมองชีวิตที่เปลี่ยนไป อายุก็มากขึ้นเราก็เริ่มรู้สึกว่าความรักมันไม่ได้อยู่ที่เธอเพศอะไร เธอเป็นรุกหรือเป็นรับ เธอโบ๊ตหรือเธอเป็นอะไร เราไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้เลย คือเราชัดเจนไงคือถ้าเรามีลูกมีหลานเราจะสอนเขาว่าถ้ามีความรักเราอย่าไปใส่ใจเรื่องเซ็กซ์ เรื่องเซ็กซ์ก็สำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือการที่เราได้ตื่นขึ้นมาแล้วได้ชีวิตร่วมกัน อีก 23 ชม.ที่เราใช้ชีวิตร่วมกันมันสำคัญกว่าการเซ็กซ์เพียงแค่ 1 ชั่วโมง เราคิดแบบนี้จริงๆ คุณจะเลือก 1 ชั่วโมง หรือ 23 ชั่วโมงล่ะ ในมุมเราเราก็ต้องเลือก 23 ชั่วโมงสิ เพราะมันมีค่ากว่าไอ้ 1 ชั่วโมงอีก แต่ไม่ใช่เราไม่สนใจเรื่องนั้นนะ แต่ก็ต้องบริหารจัดการได้ แต่ความเข้าใจต้องมาก่อน”
สุดเขินอีกฝ่ายคุกเข่าขอเรียกที่รัก ไม่หวั่นโดนมองออกตัวแรงเกินไป
“คือพอคุยเรื่องแต่งงาน เขาก็บอกว่าที่รักขออย่างหนึ่งได้ไหม เขาขอเรียกตัวเองว่าที่รักได้หรือเปล่า เราก็แบบอีนี่มันบ้ารึเปล่าวะ บางทีเราก็กระดากหูเหมือนกันนะ จนกระทั่งเขาพูดชัดเจน เราก็ชอบคนชัดเจนอยู่แล้ว อยู่ๆ เขาก็คุกเข่าลงไปเรียกบอกเราว่าที่รักตั้งแต่วันนี้เราเรียกว่าที่รักนะพูดเลยว่าตอนนั้นจะอ้วก”
“คือเราใช้ชีวิตอยู่คนเดียวตลอด กินข้าวดูหนังฟังเพลงก็ไปคนเดียว พอมามีอีกคนหนึ่งเข้ามาในชีวิต ต่อให้ไม่ได้เป็นคู่ชีวิตเราก็จะรู้สึกแปลกๆ แล้วเราก็กลับมาถามตัวเองว่าเราออกตัวแรงไปรึเปล่าวะ ถ้าให้วิเคราะห์ตัวเองคือหนึ่งเราอาจจะตกใจกับคนที่เข้ามาดีจนทำให้เราระแวง ทีนี้พอเราระวังมากไปความรักมันก็พัง ก็เลยกลับตั้งสติว่าเราต้องอยู่บนพื้นฐานความจริง อย่าระแวงในสิ่งที่มันยังไม่เกิด ถ้ามันเกิดแล้วเขาแสดงออกในทางที่ไม่ดี นั่นแหละที่เราต้องระแวง แต่ ณ วันนี้มันดี เราอยู่กันด้วยความเข้าใจโดยที่เขาไม่เคยใช้คำว่ารักนะ คำว่ารักใช้เมื่อไหร่ก็ได้”
ลั่นยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งรักมากขึ้นทุกวัน เพราะอีกคนหนึ่งขาด ส่วนอีกคนมีจนล้น
“เรายังไม่ได้ท้องก่อนแต่งนะคะ (หัวเราะ) เราจะไม่ขอลูกใครมาเลี้ยง เพราะคิดว่าเรายังไม่รู้ว่าเราจะดูแลกันได้ดีไหมเรายังไม่รู้เราจะจากเป็นหรือจากตาย สิ่งที่เราต้องการคืออยู่ด้วยกันทุกวันแบบนี้ มันมีคำพูดที่เราชอบมากของเขา เขาพูดว่าทำไมเราอยู่ด้วยกันแล้วเรารู้สึกรักกันมากขึ้นทุกวัน เราห่วงใยกันมากขึ้นทุกวัน เราอาจจะเป็นคนหนึ่งที่โหยหาความรัก ดิ้นรนและขาด แต่เรายังไม่เจอคนนั้น ซึ่งเขาอาจจะเป็นคนที่มีความรักเยอะ จนล้นมากๆ จนไม่รู้จะเอาไปให้ใคร มันก็เลยมาเจอกันในจังหวะที่มันคลิกพอดี แล้วมันก็ทำให้เราคิดว่ามันมาจากความรู้สึก นี่แหละที่คนรักกัน"
“เราไม่คิดว่าเป็นโปรโมชันนะเพราะเรามีพร้อมแล้ว ต่อให้วันนี้เราไม่มีเขาเราก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ แต่ถ้าวันนี้เรามีคนดีๆ เดินเข้ามา ซึ่งวันนี้เรายังไม่เห็นอนาคตว่ามันจะเป็นยังไง”
บอกซ้อมอยู่ก่อนแต่งแล้ว ไม่หวั่นอีกฝ่ายเข้ามาหลอก และไม่ได้หลงอีกฝ่ายจนตาบอด
“ซ้อมๆ อยู่ค่ะ คือซ้อมใช้ชีวิตของเราไปทำงานด้วยกัน ตื่นตี 4 ครึ่งไปกับเราแล้วก็ขับรถให้ วันนี้ไม่ได้มาด้วยนะคะเพราะกลัวสื่อ เขาไม่รู้จะพูดยังไง พอเขาได้มาเห็นชีวิตเราแล้วเขารู้สึกสงสาร เขาอยากให้เราทำงานให้น้อยลงแล้วก็ให้เวลากับตัวเองให้มากขึ้น”
“ไม่ต้องกลัวเขามาหลอกครับเราเป็นคนที่ชัดเจน พอเจอคนเลวเราด่าเลย คือถ้ารู้ว่าอยู่ดีๆ มายืมเงิน 5 หมื่น ก็จะพูดเลยว่ามีมือมีเท้าทำงานหาเงิน อย่ามาทำแบบนี้ ไม่เอาไม่ชอบ แต่เท่าที่ผ่านมามันไม่มีเรื่องนี้เลย แม้กระทั่งเราจะขับรถไปส่งที่บ้าน เขาก็ไม่ให้ไปกลัวเราเหนื่อยแล้วเขาก็นั่งรถไฟฟ้ากลับเอง มันก็สะท้อนให้เราเห็นว่าเวลามีคนวิ่งมาหาเราด้วยผลประโยชน์ มันจะมาแบบหนึ่ง แต่เวลาคนที่เข้ามาด้วยความรู้สึกดีๆ มันจะมาแบบหนึ่ง ไม่ได้หลงค่ะตาสว่างมาก พูดเลยว่าตาสว่างจนบางทีเราก็คิดว่าเขาหลงเราด้วยซ้ำ”
เผยวางแผนแต่งงานจริงจัง วาดฝันใส่ชุดเดรสเป็นเจ้าสาว
“ตอนนี้คิดแล้ว และก็เริ่มวางแผนแล้วว่าจะเอายังไงดี แต่ในท้ายที่สุดเขาก็อยากให้เราทำธุรกิจก่อน อยากให้เราทำให้สำเร็จ เขามองว่าถ้าเรามีธุรกิจเป็นของตัวเองเราก็อาจจะเหนื่อยน้อยลง คุณก็จะมีเงินมากขึ้น พอวันนั้นมาถึงเราอยากมีความสุขเราก็จะแต่งงานเลย ใครจะไปรู้ว่าพี่อาจจะทำธุรกิจเดือนหน้าแล้วแต่งงานเลย หรือว่าจะเริ่มธุรกิจปีหน้าแล้วแต่งงานปีหน้า เพราะในท้ายที่สุดก็คือว่าความพร้อมของทั้ง 2 คน แต่เรื่องแต่งงานมันคือความฝันของเรา ซึ่งเขาก็พร้อมจะเข้ามาเติมความฝันให้เรา”
“ธุรกิจเป็นของเราคนเดียวแต่เขาก็จะช่วยวางแผนให้ เพราะเขาเรียนจบมาทางด้านการตลาด แต่เราไม่ได้ออกจากวงการนะ วงการนี้สนุกจะตาย แต่ในท้ายที่สุดเราก็อยากทำงานน้อยลง”
“ส่วนชุดเจ้าสาวเราก็อยากใส่ มันก็ตลกนะเวลาเจ้าบ่าวเจ้าสาวไปดูชุดแต่งงาน ฝ่ายชายอาจจะดูชุดของเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็จะดูชุดของเจ้าสาว แต่เราอาจจะสั่งตัดเดรส 2 ชุดพร้อมกันเลย มันเหมือนเป็นเพื่อนสาวไปนะ (หัวเราะ)”
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |