“ดีเจเจ๊แหม่ม” ไม่แคร์แฟนเด็กโดนแฉลูกครึ่งปลอม ย้ำชัดถึงแฟนหนุ่มจะเป็นลูกครึ่งหรือไม่ตนก็รัก เพราะเป็นคนดีและเอาใจใส่ ส่วนใครอยากเมาท์ยังไงก็เชิญ เผยแฮปปี้มาก ลั่นปีหน้าแต่งแน่เพราะดูฤกษ์ไว้แล้ว โวอีกไม่นานเกินรอพร้อมจูงมือแฟนแถลงข่าว
เพิ่งเปิดเผยว่าคบแฟนเด็กได้ไม่นาน “ดีเจเจ๊แหม่ม” วินัย สุขแสวง ก็โดนขาเมาท์ออกมาตั้งวงแฉซะแล้วว่าแฟนหนุ่มที่เจ้าตัวออกมาบอกว่าชื่อ “บอย” อายุ 24 ปี เป็นลูกครึ่งไทย-อเมริกันนั้น แท้จริงแล้วหนุ่มคนนี้ชื่อ “โจ้ก” อายุ 31 ปี และไม่ได้เป็นลูกครึ่งแต่อย่างใด โดนเมาท์จัดหนักขนาดนี้ผู้สื่อข่าวจึงได้ตามไปสัมภาษณ์ดีเจเจ๊แหม่มที่งาน “สี่ขาขาจร - Give a chance 2014” ณ โซน Eden ชั้น 3 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งเจ้าตัวก็เผยว่า ไม่ว่าแฟนตนจะเป็นลูกครึ่งหรือไม่ หรือว่าจะโดนเมาท์ยังไงก็ตาม แต่เป็นคนดีและเอาใจใส่ ตนก็รักแล้ว
“คือต้องบอกว่าเขาก็ไปอยู่อเมริกา แต่ในส่วนของครอบครัวเขา เราก็ไม่ได้ไปถามเขาเยอะนะ ซึ่งมันก็เป็นเรื่องของครอบครัวเขา เพราะท้ายที่สุดเวลาเราอยู่ด้วยกัน เราก็ไม่ได้คุยเรื่องครอบครัวของเขาหรอก เราก็ไม่ไปก้าวก่าย เขาก็ไม่ได้มายุ่งอะไรกับเราเยอะ ดังนั้น ถ้ามันมีข่าวเรื่องครอบครัวเขา เราก็ไม่ได้สนใจนะ เพราะรู้สึกว่าเขาดูแลใส่ใจเราอย่างดี ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้ไปพึ่งพิงกันและกัน แต่มันเป็นความรัก ถ้าเราตอบแบบตรงๆ ก็คือมันไม่ใช่ประเด็น ต่อให้เขาจะเป็นหรือจะไม่เป็น หรือจะศัลยกรรม หรือจะอะไรก็ตาม มันไม่ใช่ประเด็นสำหรับเราแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นอะไร แต่เขาเป็นคนดีก็พอแล้ว เราแคร์ตรงที่เขาเป็นคนดีมากกว่า”
บอกปลายปีนี้แฟนหนุ่มเตรียมบินกลับไปหาครอบครัวที่เมืองนอก และกลับมาเตรียมมีข่าวดีแน่นอน
“ไม่ห่วงนะว่าคนจะมองว่าเราโม้ว่าเป็นลูกครึ่งหรืออะไร ไม่แคร์เลย ท้ายที่สุดก็คือเขาแฮปปี้กับเรา เรารักเขา เขารักเราก็จบ ซึ่งความสัมพันธ์ตอนนี้แฮปปี้ดีมากครับ ซึ่งเขาจะบินไปเมืองนอกประมาณปลายปีนี้ เขากำลังดูเรื่องที่ทาง เดี๋ยวคงจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ (ยิ้ม) เขาตั้งใจที่อยากจะให้มันเป็นชีวิตคู่ มันก็เป็นเรื่องที่ดี และเป็นเรื่องปกติที่คนจะต้องมอยด์กันไปมอยด์กันมา บางทีเรายังแอบไปมอยด์คนอื่นเลย แต่สุดท้ายถ้าเขารักกันก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ดีออก มีคนมอยด์ก็มอยด์ไป ยิ่งทำให้เรายิ่งรู้ว่าพอมีคนมอยด์มาก เขาก็ยิ่งต้องแสดงอะไรให้เห็นว่าจะมอยด์ก็มอยด์ไป ฉันรักเธอ เธอรักฉันก็จบ”
เผยอีกไม่นานนี้เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าว บอกอยากทำให้เป็นตัวอย่างของความรักที่ไม่จำกัดเพศ
“ก็ตั้งใจจะจัดเป็นงานแต่งอย่างเป็นทางการเลย แต่รอแถลงข่าวทีเดียวดีกว่า เพราะเราเองก็อยากจะเป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่รักกันโดยที่ไม่ต้องมานั่งมีเหตุผลใดๆ เรื่องเพศ เรื่องฐานะ หรือมาคอยเช็กผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน เราเองก็ผ่านอะไรมาเยอะกว่าครึ่งชีวิตแล้ว ฉะนั้นถ้าเรารู้สึกว่าคนไหนที่มันใช่ด้วยทัศนคติที่ตรงกันมันก็โอเค เราจะมองข้ามช็อตทุกอย่างไปหมดเลย จะไม่ค่อยสนใจ เพราะว่าถ้าเรารักกันมันก็แฮปปี้”
“แต่คนจะมอยด์ก็มอยด์ได้อยู่แล้ว เราก็ไม่ได้ห้าม มันก็มีสิทธิที่เขาจะพูดได้ แต่เราก็ไม่ค่อยแคร์นะ เพราะเรารู้สึกว่าเขาจะลูกครึ่งใช่หรือไม่ใช่ เขาจะมีหลักฐานใดๆ ว่าเป็นลูกครึ่งหรือเปล่าเราไม่ได้มองตรงนั้นเลยนะ มองแค่ว่าเขาใส่ใจเรา แค่นั้นจบเลย เราชอบคนใส่ใจ (ยิ้ม)”
“ส่วนงานจะอลังการขนาดไหน เอาเป็นว่าเราก็เป็นคนที่คนให้ความสนใจกับเราเยอะในมุมนั้น เดี๋ยวขอออกมาพูดอีกที แต่เวลาเราจะทำอะไรเราก็คิดเสมอว่าเราต้องทำให้มันเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้องๆ ฉะนั้นต่อให้เรารักกันไม่ว่าจะด้วยเพศหรืออะไรก็ตาม คิดว่าถ้ามันยืนบนพื้นฐานของความรัก การใส่ใจซึ่งกันและกัน หรือการให้เกียรติซึ่งกันและกันก็จะทำให้เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมให้ได้ คิดอย่างนี้จริงๆ นะ ก็เลยตัดประเด็นอะไรทั้งหลายที่มันเป็นข่าว เราก็เป็นข่าวเยอะแยะไปหมด บางทีเราก็ต้องมองข้ามไป เพราะว่าถ้าเรามัวแต่ไปสนใจตรงนั้นมากมายนัก เราก็จะทำอย่างอื่นไม่ได้”
เผยแต่งปีหน้าชัวร์ เพราะปีนี้ไม่มีฤกษ์ดีเลย
“งานอาจจะต้องเป็นปีหน้า เพราะว่าฤกษ์ดีปีนี้ไม่มีเลย คิดว่าถ้าแต่งแล้วก็คงทำงานหนักน้อยลง คือเราก็ยังต้องทำงานปกติแหละ เพราะงานคือชีวิต แต่ไม่หนักเหมือนเดิม เพราะตอนนี้งานหลักๆ เราเหนื่อยมาก ทำอะไรเยอะ ซึ่งมันก็สนุกนะ แต่ในขณะเดียวกันวันหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่าถ้ามีคนเดินเข้ามาในชีวิตแบบที่พร้อมจะเป็นคนรักที่ดี เราก็ต้องบาลานซ์เวลาให้กับเขาเหมือนกัน โดยที่งานเราก็ต้องมี คนรักที่ดีก็ต้องมี เพราะคนรักดีๆ ก็ไม่ได้เจอกันง่ายๆ เราก็จะไม่ทิ้งโอกาสของตัวเรา”
“เราเองก็อยากมีครอบครัวน่ารักๆ และเราก็อยู่คนเดียวมานาน มันเหมือนขาดความอบอุ่นอยู่ในระยะหนึ่งนะ พอวันหนึ่งมีคนเข้ามาดูแล อย่างน้อยทำให้เราหายเหนื่อยจากการทำงาน ชีวิตขอแค่นี้พอแล้ว เงินไม่ใช่เหตุผล หน้าตาทางสังคมไม่ใช่เหตุผล แต่สิ่งที่มันเป็นเหตุผลคือการดูแลกัน นี่คือสิ่งที่เราขาด และเขาเข้ามาเติมเต็ม เรากลับรู้สึกว่าทำไมมาทำให้ฉันมากกว่าที่ฉันทำให้เธออีก (ยิ้ม) เพราะเขาพูดมาคำหนึ่งว่า เพราะบ้านเขาดูแลมาแบบนี้ บ้านเราก็เหมือนกัน คือลุยๆ ไม่สนใจ ไม่ต้องพูดคำว่ารัก พูดไม่เป็น แต่แสดงออกว่ารัก มันก็คงเหมือนกัน คนเรามาจากต่างที่ต่างทางเพราะฉะนั้นก็มีวิธีการแสดงออกต่างกัน หรือคนที่เม้าท์เราเขาก็อาจจะเป็นแบบนั้น เขาอาจจะพูดสนุกปากเราก็ไม่ได้คิดอะไร”
“แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วล่ะว่าถ้าแต่งก็ต้องโดนเม้าท์อีก แต่เราจะทำให้คนที่เม้าท์รู้ว่านี่คือความรักจริงๆ ดีออก สนุกดี เราต้องขอบคุณคนที่เม้าท์เรานะ จริงๆ ไม่ได้ประชดนะ หนึ่งคือเขาให้ความสนใจเราจริงๆ เพราะถ้าเขาไม่สนใจเราเขาจะไม่พูดถึงเรา เราก็ต้องแสดงออกซึ่งความรักที่ดีต่อกัน ถ้าวันหนึ่งเขายังพูดถึงเราอยู่ นี่แหละคือสิ่งที่แฮปปี้ ดีกว่าเขาไม่พูดถึงเราเลย”