โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
ราชาเพลงป็อบอย่าง “ไมเคิล แจ็กสัน”(Michael Jackson) นับเป็นศิลปินที่สร้างปรากฏการณ์ได้ไม่เว้นแม้แต่การตายจากไป
เพราะหลังเขาลาลับ นอกจากเรื่องราวชีวิตอันมากสีสัน ท่าเต้นบันลือโลก วีรกรรมอันเพริศแพร้ว และผลงานเพลงอันทรงคุณค่ามากมายที่ได้จารึกฝากไว้ให้กับโลกนี้เมื่อยามมีชีวิตอยู่แล้ว MJ ยังมีมรดกทางดนตรีเป็นบทเพลงที่หลงเหลือไม่ได้เผยแพร่สู่สาธารณะอยู่ไม่น้อยเลย
นั่นจึงทำให้หลังไมเคิลเสียชีวิตในปี 2009 ยังคงมีผลงานของเขาออกมาอยู่เรื่อยๆ เฉลี่ยแล้วปีละครั้งซึ่งถือว่าถี่กว่าตอนมีชีวิตเสียอีก ไม่ว่าจะเป็น “This Is It” - ภาพยนตร์บันทึกการซ้อมการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของ MJ, “Immortal World Tour” - อัลบั้มประกอบการแสดง”, “MICHAEL” - อัลบั้มเพลงใหม่ และ “BAD25” อัลบั้มฉลอง 25 ปี
รวมไปถึง “Xscape” อัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งออกมาเมื่อเร็วๆนี้ โดย Epic Records ซึ่งเป็นการนำบทเพลงที่ตกหล่นของ MJ ที่ไม่เคยมีการเผยแพร่สู่สาธารณะมาก่อนรวม 8 เพลงมาสร้างสรรค์ใหม่
แอล.เอ.รีด(L.A. Reid) ผู้บริหารโปรเจ็คต์นี้ ได้เปิดเผยผ่านสื่อว่า “ไมเคิล ได้ทิ้งผลงานเพลงเอาไว้ ซึ่งพวกเราต่างรู้สึกภาคภูมิใจที่จะได้นำเสนอบทเพลงเหล่านี้ ผ่านมุมมองของโปรดิวเซอร์เพลง ทั้งคนที่เคยทำงานร่วมกันกับไมเคิลโดยตรง หรือโปรดิวเซอร์ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้ทำงานร่วมกับไมเคิล เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากและถือเป็นเกียรติที่จะได้นำเสนอบทเพลงนี้ให้กับคนทั้งโลก”
และด้วยความยิ่งใหญ่ของ MJ ความพิเศษของผลงานเพลง อัลบั้มนี้จึงเป็นการรวมโปรดิวเซอร์ชื่อดังหลายคนมาร่วมในโปรเจ็คต์ ได้แก่ ร็อดนีย์ เจอร์กินส์(Rodney Jerkins), สตาร์เกต(Stargate), เจอโรม "เจร็อก" ฮาร์มอน(Jerome “Jroc” Harmon) และ จอห์น แม็คเคลน(John McClain) โดยมี “ทิมบาแลนด์” เป็น เอ็กซ์คูซีฟ โปรดิวเซอร์
Xscape เปิดตัวกันด้วย “Love Never Felt So Good” ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มที่ไมเคิลได้ร่วมแต่งกับศิลปินชั้นครูอย่าง “พอล แองก้า”(Paul Anka) ไว้นานแล้ว
Love Never Felt So Good ขึ้นต้นมาด้วยเสียงคีย์บอร์ดลอยๆโน้ตสวยงามชวนให้นึกถึงเพลง (Heal the World) ก่อนจะเดินเรื่องเข้าเพลงกันในอารมณ์สนุกๆ กับอารมณ์เพลงป็อบกลิ่นอายยุค 80’s ดนตรีประกอบทั้งคีย์บอร์ดที่เล่นโอบอุ้มและเติมสีสัน กับกีตาร์ที่เล่นริทึ่มเสริมเติมแต่งนั้นเจ๋งมาก นับเป็นบทเพลงเพราะๆ เมโลดี้ฟังติดหู ในลายเซ็นของ MJ ที่ฟังเท่มากๆ
“Chicago” เดิมเพลงนี้ไมเคิลตั้งชื่อไว้ว่า “She Was Lovin’ Me” แต่งขึ้นในช่วงที่เขาผิดหวังในความรัก เป็นป็อบแด๊นซ์เปิดพื้นที่ให้ MJ ปล่อยพลังเสียงออกมาอย่างถึงอารมณ์ โดยมีคีย์บอร์ดเล่นโอบอุ้มสร้างไลน์ประสานแน่นๆ พร้อมกับเสียงต่ำๆของเบสเก๋ๆที่ทำให้เพลงฟังมีสีสันมากขึ้น
“Loving You” ขึ้นนำมาด้วยเสียงเปียโนหวานๆ ก่อนปลดปล่อยอารมณ์ไปกับป็อบแด๊นซ์เพราะๆจังหวะปานกลาง นับเป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นของอัลบั้ม
ต่อกันด้วย “A Place With No Name” มาในซาวนด์นอกโลกนิดๆกับซุ่มเสียงต่ำๆของคีย์บอร์ด เนื้อเพลงออกไปในแนวอุดมคติ พูดถึงดินแดนไร้ชื่อที่ผู้คนไร้ความเจ็บป่วยและมีความรักให้แก่กัน
“Slave To The Rhythm” ขึ้นต้นอินโทรมาด้วยซาวนด์ออร์เคสตร้าฟังยิ่งใหญ่สวยงาม ก่อนจะตบเข้าเพลงไปเป็นป็อบแด๊นซ์โจ๊ะๆ ฟังสนุกในแบบ MJ
“Do You Know Where Your Children Are” มาในแนว EDM ที่อัดแน่นไปด้วยเสียงคีย์บอร์ดแนวอิเล็กทรอนิกส์อันแน่นหนา ขณะที่ท่อนท้ายๆมีกีตาร์โซโลในทางร็อกเติมเข้ามาฟังมันทีเดียว
ส่วน “Blue Gangsta” เป็นป็อบแด๊นซ์อีกหนึ่งเพลงที่เปิดให้ MJ โชว์น้ำเสียงกันอย่างเต็มที่ แต่ว่า
ซาวนด์ดนตรีนั้นฟังเยอะไปหน่อย
จากนั้นมาปิดท้ายกันด้วย “Xscape” เพลงที่ถูกนำมาตั้งชื่ออัลบั้ม ซึ่งเป็นธรรมเนียมของ MJ ว่า จะตั้งชื่ออัลบั้ม ตามเพลงๆหนึ่งที่มีอยู่ในอัลบั้มชุดนั้นๆ
“Xscape” เป็นเพลงแด๊นซ์สนุกๆ มีจังหวะกระตุกๆ แถมมีกีตาร์สับคอร์ดลูกขัดออกไปทางฟังค์กี้ซะด้วย ถือเป็นซาวนด์ย้อนยุคในอารมณ์ร่วมสมัยที่ไม่ใช่แนวแด๊นซ์แบบ EDM ตามสมัยนิยม
และนั่นก็เป็น 8 บทเพลง ที่ตกหล่นของ ไมเคิล แจ๊กสัน ผู้ล่วงลับที่ถูกนำมารังสรรค์ทำใหม่ แบบเน้นและให้ความสำคัญ ไม่ใช่ประเภทเอาชื่อ MJ มาขายแล้วทำงานลวกๆหวังจะหลอกกิน หากแต่นี่เป็นงานเพลงตกหล่นที่ถูกนำมาสร้างสรรค์ใส่ดนตรีที่มากไปด้วยรายละเอียดและสีสัน มีการตกแต่งต่อเติม ปรับซาวนด์ดนตรีให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น แต่กระนั้นก็ไม่ทิ้งความเป็นลายเซ็นของ ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป็อบผู้ยิ่งยง
นับเป็นอัลบั้มที่แฟน MJ ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คืองานเพลงป็อบแดนซ์ชั้นดีที่ใส่ใจในรายละเอียด
ที่สำคัญคือ Xscape เป็นผลงานเพลงที่ฟังแล้วเหมือนกับว่า ไมเคิล แจ็กสัน ยังมีชีวิตอยู่
แกะกล่อง
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Ole Ole Ole
อัลบั้มแผ่นคู่ที่คัดสรรเพลงเต้นรำ สำหรับเทศกาลฟุตบอลโลก 2014 มีเพลงทั้งหมด 31 เพลง เน้นไปที่เพลงแด๊นซ์สนุกๆมันๆ และเพลงที่ให้อารมณ์ดนตรีของแดนแซมบ้า บราซิลประเทศเจ้าภาพ โดยมีเพลงน่าสนใจ อาทิ “2 Brazil” ของ เวนก้า บอยส์, “Talk Dirty” เพลงเต้นรำสุดฮิตจากเจสัน เดรูโล และทูเชนซ์, “Cola Song” ของอินนา กับเจ บัลวิน, “I Love It” เพลงดังจากไอโคนา ป็อบ และชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ รวมไปถึง “Let It Go” เพลงสุดฮอตแห่งปีที่มาในเวอร์ชั่นแดนซ์กระจาย สำหรับอัลบั้มชุดนี้มีวางจำหน่าย โดย Warner Music หรือดาวน์โหลดได้ทางไอทูนส์ สโตร์
คอนเสิร์ต
คอนเสิร์ต Virtuoso Violin
Jira Vodicka หนึ่งในนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งจะมาบรรเลงดนตรีร่วมกับวงทีพีโอ(TPO)ในบทเพลงของ Saint-Saens และ de Sarasate หลังจากนั้น Gudni A. Emilsson หัวหน้าวาทยากรจะนำเสนอบทเพลง Symphony No.4 ของ Beethoven บทเพลงของ James J. Ogburn อย่าง Epiphoneme (World Premiere) ก็รวมอยู่ในโปรแกรมคอนเสิร์ตในครั้งนี้
สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้จะแสดงในวันที่ ศุกร์ 4 กรกฎาคม 2557 เวลา 19.00 น. และ เสาร์ 5 กรกฎาคม 2557 เวลา 16.00 น. ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
บัตรราคา 500 / 300 / 100 บาท (สำหรับนักเรียนและนักศึกษาไม่เกินระดับปริญญาตรี)
ผู้สนใจสำรองที่นั่งที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร 02-262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com
ข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-8002525-34 ต่อ 153, 154 หรือ www.thailandphil.com
ราชาเพลงป็อบอย่าง “ไมเคิล แจ็กสัน”(Michael Jackson) นับเป็นศิลปินที่สร้างปรากฏการณ์ได้ไม่เว้นแม้แต่การตายจากไป
เพราะหลังเขาลาลับ นอกจากเรื่องราวชีวิตอันมากสีสัน ท่าเต้นบันลือโลก วีรกรรมอันเพริศแพร้ว และผลงานเพลงอันทรงคุณค่ามากมายที่ได้จารึกฝากไว้ให้กับโลกนี้เมื่อยามมีชีวิตอยู่แล้ว MJ ยังมีมรดกทางดนตรีเป็นบทเพลงที่หลงเหลือไม่ได้เผยแพร่สู่สาธารณะอยู่ไม่น้อยเลย
นั่นจึงทำให้หลังไมเคิลเสียชีวิตในปี 2009 ยังคงมีผลงานของเขาออกมาอยู่เรื่อยๆ เฉลี่ยแล้วปีละครั้งซึ่งถือว่าถี่กว่าตอนมีชีวิตเสียอีก ไม่ว่าจะเป็น “This Is It” - ภาพยนตร์บันทึกการซ้อมการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายของ MJ, “Immortal World Tour” - อัลบั้มประกอบการแสดง”, “MICHAEL” - อัลบั้มเพลงใหม่ และ “BAD25” อัลบั้มฉลอง 25 ปี
รวมไปถึง “Xscape” อัลบั้มล่าสุดที่เพิ่งออกมาเมื่อเร็วๆนี้ โดย Epic Records ซึ่งเป็นการนำบทเพลงที่ตกหล่นของ MJ ที่ไม่เคยมีการเผยแพร่สู่สาธารณะมาก่อนรวม 8 เพลงมาสร้างสรรค์ใหม่
แอล.เอ.รีด(L.A. Reid) ผู้บริหารโปรเจ็คต์นี้ ได้เปิดเผยผ่านสื่อว่า “ไมเคิล ได้ทิ้งผลงานเพลงเอาไว้ ซึ่งพวกเราต่างรู้สึกภาคภูมิใจที่จะได้นำเสนอบทเพลงเหล่านี้ ผ่านมุมมองของโปรดิวเซอร์เพลง ทั้งคนที่เคยทำงานร่วมกันกับไมเคิลโดยตรง หรือโปรดิวเซอร์ที่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้ทำงานร่วมกับไมเคิล เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากและถือเป็นเกียรติที่จะได้นำเสนอบทเพลงนี้ให้กับคนทั้งโลก”
และด้วยความยิ่งใหญ่ของ MJ ความพิเศษของผลงานเพลง อัลบั้มนี้จึงเป็นการรวมโปรดิวเซอร์ชื่อดังหลายคนมาร่วมในโปรเจ็คต์ ได้แก่ ร็อดนีย์ เจอร์กินส์(Rodney Jerkins), สตาร์เกต(Stargate), เจอโรม "เจร็อก" ฮาร์มอน(Jerome “Jroc” Harmon) และ จอห์น แม็คเคลน(John McClain) โดยมี “ทิมบาแลนด์” เป็น เอ็กซ์คูซีฟ โปรดิวเซอร์
Xscape เปิดตัวกันด้วย “Love Never Felt So Good” ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มที่ไมเคิลได้ร่วมแต่งกับศิลปินชั้นครูอย่าง “พอล แองก้า”(Paul Anka) ไว้นานแล้ว
Love Never Felt So Good ขึ้นต้นมาด้วยเสียงคีย์บอร์ดลอยๆโน้ตสวยงามชวนให้นึกถึงเพลง (Heal the World) ก่อนจะเดินเรื่องเข้าเพลงกันในอารมณ์สนุกๆ กับอารมณ์เพลงป็อบกลิ่นอายยุค 80’s ดนตรีประกอบทั้งคีย์บอร์ดที่เล่นโอบอุ้มและเติมสีสัน กับกีตาร์ที่เล่นริทึ่มเสริมเติมแต่งนั้นเจ๋งมาก นับเป็นบทเพลงเพราะๆ เมโลดี้ฟังติดหู ในลายเซ็นของ MJ ที่ฟังเท่มากๆ
“Chicago” เดิมเพลงนี้ไมเคิลตั้งชื่อไว้ว่า “She Was Lovin’ Me” แต่งขึ้นในช่วงที่เขาผิดหวังในความรัก เป็นป็อบแด๊นซ์เปิดพื้นที่ให้ MJ ปล่อยพลังเสียงออกมาอย่างถึงอารมณ์ โดยมีคีย์บอร์ดเล่นโอบอุ้มสร้างไลน์ประสานแน่นๆ พร้อมกับเสียงต่ำๆของเบสเก๋ๆที่ทำให้เพลงฟังมีสีสันมากขึ้น
“Loving You” ขึ้นนำมาด้วยเสียงเปียโนหวานๆ ก่อนปลดปล่อยอารมณ์ไปกับป็อบแด๊นซ์เพราะๆจังหวะปานกลาง นับเป็นอีกหนึ่งเพลงเด่นของอัลบั้ม
ต่อกันด้วย “A Place With No Name” มาในซาวนด์นอกโลกนิดๆกับซุ่มเสียงต่ำๆของคีย์บอร์ด เนื้อเพลงออกไปในแนวอุดมคติ พูดถึงดินแดนไร้ชื่อที่ผู้คนไร้ความเจ็บป่วยและมีความรักให้แก่กัน
“Slave To The Rhythm” ขึ้นต้นอินโทรมาด้วยซาวนด์ออร์เคสตร้าฟังยิ่งใหญ่สวยงาม ก่อนจะตบเข้าเพลงไปเป็นป็อบแด๊นซ์โจ๊ะๆ ฟังสนุกในแบบ MJ
“Do You Know Where Your Children Are” มาในแนว EDM ที่อัดแน่นไปด้วยเสียงคีย์บอร์ดแนวอิเล็กทรอนิกส์อันแน่นหนา ขณะที่ท่อนท้ายๆมีกีตาร์โซโลในทางร็อกเติมเข้ามาฟังมันทีเดียว
ส่วน “Blue Gangsta” เป็นป็อบแด๊นซ์อีกหนึ่งเพลงที่เปิดให้ MJ โชว์น้ำเสียงกันอย่างเต็มที่ แต่ว่า
ซาวนด์ดนตรีนั้นฟังเยอะไปหน่อย
จากนั้นมาปิดท้ายกันด้วย “Xscape” เพลงที่ถูกนำมาตั้งชื่ออัลบั้ม ซึ่งเป็นธรรมเนียมของ MJ ว่า จะตั้งชื่ออัลบั้ม ตามเพลงๆหนึ่งที่มีอยู่ในอัลบั้มชุดนั้นๆ
“Xscape” เป็นเพลงแด๊นซ์สนุกๆ มีจังหวะกระตุกๆ แถมมีกีตาร์สับคอร์ดลูกขัดออกไปทางฟังค์กี้ซะด้วย ถือเป็นซาวนด์ย้อนยุคในอารมณ์ร่วมสมัยที่ไม่ใช่แนวแด๊นซ์แบบ EDM ตามสมัยนิยม
และนั่นก็เป็น 8 บทเพลง ที่ตกหล่นของ ไมเคิล แจ๊กสัน ผู้ล่วงลับที่ถูกนำมารังสรรค์ทำใหม่ แบบเน้นและให้ความสำคัญ ไม่ใช่ประเภทเอาชื่อ MJ มาขายแล้วทำงานลวกๆหวังจะหลอกกิน หากแต่นี่เป็นงานเพลงตกหล่นที่ถูกนำมาสร้างสรรค์ใส่ดนตรีที่มากไปด้วยรายละเอียดและสีสัน มีการตกแต่งต่อเติม ปรับซาวนด์ดนตรีให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น แต่กระนั้นก็ไม่ทิ้งความเป็นลายเซ็นของ ไมเคิล แจ็กสัน ราชาเพลงป็อบผู้ยิ่งยง
นับเป็นอัลบั้มที่แฟน MJ ต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คืองานเพลงป็อบแดนซ์ชั้นดีที่ใส่ใจในรายละเอียด
ที่สำคัญคือ Xscape เป็นผลงานเพลงที่ฟังแล้วเหมือนกับว่า ไมเคิล แจ็กสัน ยังมีชีวิตอยู่
แกะกล่อง
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Ole Ole Ole
อัลบั้มแผ่นคู่ที่คัดสรรเพลงเต้นรำ สำหรับเทศกาลฟุตบอลโลก 2014 มีเพลงทั้งหมด 31 เพลง เน้นไปที่เพลงแด๊นซ์สนุกๆมันๆ และเพลงที่ให้อารมณ์ดนตรีของแดนแซมบ้า บราซิลประเทศเจ้าภาพ โดยมีเพลงน่าสนใจ อาทิ “2 Brazil” ของ เวนก้า บอยส์, “Talk Dirty” เพลงเต้นรำสุดฮิตจากเจสัน เดรูโล และทูเชนซ์, “Cola Song” ของอินนา กับเจ บัลวิน, “I Love It” เพลงดังจากไอโคนา ป็อบ และชาร์ลี เอ็กซ์ซีเอ็กซ์ รวมไปถึง “Let It Go” เพลงสุดฮอตแห่งปีที่มาในเวอร์ชั่นแดนซ์กระจาย สำหรับอัลบั้มชุดนี้มีวางจำหน่าย โดย Warner Music หรือดาวน์โหลดได้ทางไอทูนส์ สโตร์
คอนเสิร์ต
คอนเสิร์ต Virtuoso Violin
Jira Vodicka หนึ่งในนักไวโอลินที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งจะมาบรรเลงดนตรีร่วมกับวงทีพีโอ(TPO)ในบทเพลงของ Saint-Saens และ de Sarasate หลังจากนั้น Gudni A. Emilsson หัวหน้าวาทยากรจะนำเสนอบทเพลง Symphony No.4 ของ Beethoven บทเพลงของ James J. Ogburn อย่าง Epiphoneme (World Premiere) ก็รวมอยู่ในโปรแกรมคอนเสิร์ตในครั้งนี้
สำหรับคอนเสิร์ตครั้งนี้จะแสดงในวันที่ ศุกร์ 4 กรกฎาคม 2557 เวลา 19.00 น. และ เสาร์ 5 กรกฎาคม 2557 เวลา 16.00 น. ณ หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
บัตรราคา 500 / 300 / 100 บาท (สำหรับนักเรียนและนักศึกษาไม่เกินระดับปริญญาตรี)
ผู้สนใจสำรองที่นั่งที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ โทร 02-262-3456 หรือ www.thaiticketmajor.com
ข้อมูลเพิ่มเติม โทร 02-8002525-34 ต่อ 153, 154 หรือ www.thailandphil.com
