“เก้า” ควงแม่เปิดแถลงถูกเบี้ยวค่าตัวที่พม่า คู่กรณีอ้างเป็นองค์กรกุศลดัง ซัดนอกจากจะเบี้ยวค่าตัวแล้วยังจัดงานล่าช้าจนทำให้ตนกลับมาทำงานที่รับไว้ที่เมืองไทยไม่ทัน เสียหายเป็นแสน แฉอีกฝ่ายปิดเครื่องติดต่อไม่ได้ เผยให้ทนายจัดการแล้ว พร้อมวอนอย่าเอาโครงการดีๆ มาบังหน้าหากินแบบนี้อีก รับเข็ดต่อไปคงระวังในการรับงานมากกว่านี้
ทำเอานักแสดงหนุ่ม “เก้า จิรายุ ละอองมณี” จุกต้องควงคุณแม่ออกมาเปิดใจกับสื่อในงาน “สรรเสริญพระบารมี 100 ปี ร่วมร้อยใจไทย” ที่ พารากอนฮอลล์ ชี้แจงกรณีที่เจ้าตัวโดนกลุ่มคนที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ยูนิเซฟ ว่าจ้างให้ไปโชว์ตัวที่ประเทศพม่า แต่สุดท้ายเบี้ยวไม่ยอมจ่ายเงินแถมยังปิดเครื่องหนี หนำซ้ำวันไปทำงานยังจัดงานเลตจนนักแสดงหนุ่มกลับมาทำงานที่รับไว้ก่อนหน้านี้ที่เมืองไทยไม่ทัน จนเสียหายเป็นแสน เผยตอนนี้โยนเรื่องให้ทนายจัดการแล้ว
เก้า : “มีคนติดต่อมาให้ไปทำงาน ซึ่งผมก็รู้แค่ว่าเป็นงานที่ประเทศพม่า ที่เชียงตุงครับ เป็นโครงการเกี่ยวกับวัฒนธรรมเพื่อเยาวชน เป็นโปรไฟล์ค่อนข้างดี เป็นงานเพื่อสังคม เราได้ยินดังนั้นก็ตกลงทำ คือส่วนหนึ่งอยากไปเที่ยวพม่าอยู่แล้วครับเพราะไม่เคยไป เรื่องของค่าใช้จ่ายค่าตัวไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเรื่องใหญ่เลย คือตกลงกันไว้เป็นราคาที่ค่อนข้างพิเศษครับเพราะว่าผมรู้สึกว่ามันเป็นโครงการที่ดีและเราอยากไปอยู่แล้ว ก็เลยตกลงกัน และในข้อตกลงก็มีการตกลงกันไว้หลายๆ อย่าง เรื่องของค่าตั๋วเครื่องบิน เรื่องการเดินทางเป็นยังไง”
“แต่ว่าพอถึงเวลาใกล้ๆ วันที่ต้องเดินทาง มีเรื่องไม่ตรงกับที่ตกลงกันไว้หลายอย่างมาก ขออนุญาตไม่บอกทุกอย่างเพราะมันเยอะครับ อย่างเช่น มีการจองตั๋วเครื่องบินไป แต่ไม่มีตั๋วเครื่องบินกลับ แล้วจะกลับยังไงละครับทีนี้ เท่าที่ฟังมาคือผมไม่ได้เป็นคนคุยโดนตรงนะครับ แต่เท่าที่รู้มีปัญหาเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะครับ เราก็ตัดสินใจแล้วว่าอย่างน้อยเราก็ทำหน้าที่ของเราไปก่อน ถึงแม้ว่าเขาอาจจะต้องมีการบกพร่องบ้าง ผมก็เห็นใจ อย่างหลายๆ งานที่ผ่านมาช่วยอะไรได้เราก็จะช่วยครับ ถึงเวลาเดินทางไป เราก็ไปที่เชียงรายก่อนครับ แล้วค้างคืนหนึ่ง เช้าถึงจะเดินทางไปที่เชียงตุงได้ ไปถึงก็นั่งคิดนอนคิดไปคืนหนึ่งเขาก็ยังไม่ทำตามข้อตกลงหลายๆ อย่างครับ เช่น การอธิบายเรื่องของการเดินทาง มันไม่ชัดเจน”
แม่ : “เรื่องแรกเลยเพราะว่าเป็นคนรับ มีการตกลงว่าจะมีการเดินทางไปทำงานวันที่ 27 มีนาคม ทำงานวันที่ 28 แล้วเดินทางกลับและจะมีการชำระเงินล่วงหน้าครึ่งหนึ่งก่อนเดินทางนะคะ ปรากฏว่าไม่เป็นตามที่ตกลงทุกอย่างแต่ก็มีข้ออ้าง เขาบอกมาว่าตอนนี้เขาต้องสแตนด์บายอยู่ที่พม่าเพราะต้องคุยกับพม่าตลอด ซึ่งเขาก็อยู่พม่าจริงนะคะ แต่พอเงินไม่เข้าเขาก็บอกเขามีปัญหาเกี่ยวกับการโอนเงินนู่นนี่ สุดท้ายคือส่งตั๋วให้เรา เราก็คุยกันบอกว่าหรือว่าเราจะไม่ไป แต่เราก็ขอเช็กก่อนว่ามีงานนี้จริงหรือเปล่า คือก่อนที่เราเดินทางจากกรุงเทพเราเช็กก่อนเลยว่ามีงานไหม ปรากฏว่ามี มีโปสเตอร์ที่เป็นหน้า เก้า จิรายุ เชิญชวนคนไทยที่มีนักเรียนไทยไปจากประเทศไทยประมาณ 300-400 คน มีการจองทัวร์ที่แม่สาย ไกด์เต็มหมด”
“งานทุกอย่างเกิดขึ้นตามปกติ เพื่อไปทำงานที่เชียงตุง เพราะฉะนั้นเรารู้แล้วว่ามีงานแน่นอน ที่นี้ก็อยู่ที่การตัดสินใจ เราก็หันคุยกันบอกว่า มี 2 เคส คือ ไปกับไม่ไป ก็เลยคุยกัน ถ้ามันเป็นงานที่นี่ประเทศไทยเวลาเราไม่ไปงานพรุ่งนี้เช้าเราจะออกมาพูดกับพี่ๆ สื่อมวลชนได้ว่า อ่อ มีเหตุนี้ เกิดเหตุนี้ขึ้น เขาไม่ได้โอนเงิน เขาตุกติก เราก็เลยไม่ไปงานนี้ เรามีโอกาสบอกพี่ๆ ให้พี่ๆ ช่วยเราได้”
เก้า : “แต่ว่าถ้าเราทำอย่างนั้น มันก็เป็นไปได้ว่ามันจะเสีย ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวครับ ต้องบอกก่อนว่าทีมงานทุกอย่างที่ไปจัดเป็นของคนไทย เป็นโครงการของคนไทย คนที่ติดต่องานมาก็คือคนไทย เพราะฉะนั้นถ้ามันมีความเสียหายเกิดขึ้น อย่างเช่น ถ้าผมไม่ไปเราสามารถอธิบายกับพี่ๆ ได้ แต่ว่าคนที่นู่นเขาจะเหมารวมไปเลยว่าคนไทยมาทำงานเละ ไม่เป็นไปตามสัญญา ไหนบอกดาราไทยจะมาแล้วก็ไม่มา ผมรู้สึกว่ามันไม่ใช่แค่ตัวผมคนเดียวที่เสียหาย ที่สำคัญคือแฟนๆ ผมหลายๆ คนหลายร้อยหลายพันคนที่ไปรออยู่ที่นู่น เขาจะต้องผิดหวัง เราก็ไม่รู้ว่ามันจะออกมาเป็นไปในรูปแบไหน คือไม่ได้จะหล่อนะครับ(หัวเราะ) แต่ว่ามันถึงเวลาเราคิดว่าอย่างน้อยเราทำหน้าที่ของเราให้ดีก่อน”
แม่ : “ถามว่ารู้ว่ามีปัญหาแต่ทำไมถึงไป ไม่ได้จ่ายเงินแล้วทำไมยังไป นี่คือเหตุผลที่น้องบอกเมื่อกี้ พอเราไปถึงแล้วสาเหตุที่เราไปเพราะเขายืนยันกับเราว่าเนี่ยมาเถอะเราจะจ่ายตังค์ให้ตรงหน้าด่าน ก่อนที่เราจะเดินทางข้ามไปวันที่ 28 การตกลงครั้งแรกเดินทาง 28 ทำงานตอนบ่ายแล้วตีรถกลบเลย ปรากฏว่าพอไปถึงจริง เขาบอกงานเรากลับไม่ทันเพราะว่างานเสร็จค่อนข้างเย็น เลต ถ้าเดินทางกลับมันจะเป็นอันตรายน้องคงกลับไม่ได้ เราไม่รู้เราไม่เคยไปเชียงตุง เราไม่รู้ว่าเส้นทางเป็นยังไง”
เก้า : “ตอนแรกบอกว่าเดินทางไปนั่งรถชั่วโมงเดียวบอกอย่างนี้ครับ ตอนหลังนั่งเข้าไปจริงๆ 3 ชั่วโมงครึ่งครับ แล้วเป็นถนนขึ้นเขาครับ น่ากลัวเหมือนกัน พอไปถึงงานเขาก็ยังไม่ได้จ่ายตังค์ แต่เราก็ทำงานก่อนครับ ทำงานก่อน ไปถึงตรงนั้นแล้วมีคนรอเต็มแล้ว ผมก็ทำงานก่อน ซึ่งพอขึ้นไปทำงานจริงๆ ก็เหมือนงานโชว์ตัวปกติครับ ไม่ได้มีความรู้สึกว่าเป็นงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมเลย ผมก็มองไม่เห็นว่าเขาไม่ชัดเจนในจุดนั้น พอเสร็จงานแล้วผมก็กลับมา กลายเป็นว่ากลับเลย ไม่ได้ต้องนอนค้าง แต่เขาไม่ยอมให้กลับ ต้องรอถึงเช้าอีกวันหนึ่งถึงจะได้กลับ กลายเป็นว่าเราทำงานที่นู่น 3 วันเลย”
แม่ : “แล้วเราต้องแคนเซิลงานที่เมืองไทยวันที่ 29 ประเด็นคือเราเกิดการเสียหายที่นี่ด้วย เพราะเรากลับไม่ได้ เราก็แคนเซิลงานเรา ก็ต้องคืนเงิน แต่ถามว่าทำไมถึงตัดสินใจไป ตรงนั้นเขาไม่จ่ายตังค์แล้วทำไมยังไป ก็คือเหตุผลที่น้องเก้าบอก คือคนที่โน่นไม่รู้ว่าคำตอบคืออะไร แต่สิ่งเดียวที่เราทำได้ในฐานะนักแสดง เราต้องไปแสดง เราต้องไป”
เสร็จงานแล้วคู่กรณีปิดเครื่องหนีหายไปเลย ติดต่อไม่ได้
แม่ : “เขาปิดโทรศัพท์หายไปเลยค่ะ ตอนนี้คือติดต่อไม่ได้เลย เรามีการเซ็นสัญญาทุกอย่างนะคะว่ากลับมาเขาจะจ่ายเงินให้ พอกลับมาเขาก็บอกยังไม่ได้จริงๆ แต่เขารับปาก เราเลยบอกอีก 2 วันนะ แต่อีก 2 วันที่ผ่านมาเขาไม่รับโทรศัพท์เลย เขาปิดโทรศัพท์”
เก้า : “เงิบครับ (หัวเราะ) วันกลับเขามาส่ง แต่ว่าพอกลับมาถึงแล้วเขาไม่รับโทรศัพท์”
แม่ : “ก่อนวันเขาเอาค่าเดินทางมาให้เรา ก่อนที่เราจะเดินทางข้ามไปค่ะ แล้วเขาอ้อนวอนเรา เขารับปากเลยว่าพรุ่งนี้ภายในเที่ยงเขาจะจ่ายเงินให้แน่นอน เขาจะไปเอทีเอ็มน้องไปเดินทางเขาก็เดินไปเดินมาเป็นชั่วโมงเลยค่ะ จนเราจะตกเครื่องแล้ว เราถึงบอกว่าเรากลับเถอะ แต่จริงๆ แล้วต้องบอกว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องเงิน บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องเงินเพราะตอนที่เก้าบอกว่ามีงานจริงหรือเปล่า เราบอกมีงานจริงนะเก้า แล้วคนรอเราอยู่จริง ก็ถามเก้าเอาไง ก็นั่งคุย แล้วเก้าบอกว่าผมต้องรับผิดชอบ ไปเถอะเพราะเราต้องทำตามหน้าที่ของเรา เพราะว่ามันไม่ใช่แค่ว่าหลังจากวันนี้เขาก็ไปพูดกันที่ประเทศพม่าว่าศิลปินคนนี้คนไทยคนนี้เบี้ยวงาน ไม่มางานแล้วเสียถึงชื่อของประเทศไทย”
“ตอนนี้ก็ยังติดต่ออะไรไม่ได้เลยค่ะ ที่ออกมาพูดวันนี้บางทีอาจจะมีคนอื่นๆ ที่เคยเจอเหตุการณ์นี้แต่เชื่อว่าถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะคิดว่าทำไมไป เราบอกเรามีเหตุผล”
ตอนนี้ให้ทนายเป็นคนดำเนินการอยู่
แม่ : “ตอนนี้มอบให้ทนายให้ผู้ใหญ่ช่วยดูว่ายังไง จริงๆ ประเด็นเราไม่คิดอยู่แล้วว่าเราจะได้เงิน แต่เรื่องที่อยากบอกคืออยากให้ช่วยเหลือกันเพราะว่าเรามีโครงการดีๆ เยอะมาก มีโครงการที่เราพร้อมจะช่วยเหลือ และคนที่เสียโอกาสที่สุดคือเด็กๆ เด็กๆ ที่เขาถูกอ้างมาเป็นชื่อว่าโครงการชุมชนนู่นนี่และก็เอาเราไปช่วยรับสปอนเซอร์มา แม่บอกเลยว่าเอกสารที่ส่งให้เรามีองค์กรต่างๆ ซึ่งมีชื่อเสียงและสปอนเซอร์สนับสนุนใหญ่ๆ ทั้งนั้น”
“จริงๆ ค่าตัวน้องบอกเลยว่าไม่เยอะเลย ไม่ได้เป็นตัวเลขที่เยอะเลย เราไปทำงานกับเงินที่เราสูญไปเอาจริงๆ
ตามคิวน้องคือคิวเต็มด้วยนะ อันนี้คือเรารับแค่ 50% แต่ตอนนี้เราไม่ได้รับเงิน แถมเรายังต้องคืนเงินในส่วนที่เราไปงานให้เขาไม่ได้ทัน ปัญหาคือตรงนี้ เงินที่ต้องเสียไปก็หลักแสนค่ะ”
ยังไม่อยากเปิดเผยว่าคู่กรณีคือใคร บอกหลังจากนี้คงได้รู้กันเอง
แม่ : “แม่ว่าหลังจากวันนี้ทุกคนอาจจะรู้ ตอนนี้เราอย่ามาพูดตรงนี้เลยเนาะ แม่ยังมีความรู้สึกว่าถ้ามีโครงการอยู่จริง แล้วเขากล้าที่จะมาพูดความจริงกับเรา ให้เราเอาเงินที่ได้ไปช่วยโครงการเขา ก็จะไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร”
เก้า : “เอาเป็นว่าผมไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะต้องโกหกนะครับ (หัวเราะ) การที่จะไปแจ้งความจับเขา ผมว่ามันไม่ได้ช่วยเท่ากับสิ่งที่ตอนนี้ที่พี่กำลังสัมภาษณ์อยู่แล้วให้ผมได้มีโอกาสพูด ผมเชื่อว่ามีนักแสดงหลายๆ คนที่โดนแบบนี้นะครับ ผมอาจจะไม่ใช่คนที่โดนหนักที่สุดด้วยซ้ำ ที่อยากจะพูดก็คือใครหลายๆ คนที่ทำแบบนี้อยู่ เอาโครงการของเด็กๆ เยาวชนหรือโครงการเพื่อวัฒนธรรมดีๆ มาบังหน้า แล้วทำอย่างอื่นซึ่งเราไม่รู้มันไม่โปร่งใส ผมว่าอย่าทำแบบนี้อีกเลยครับ มันไม่ดีครับ”
แม่ : “รายละเอียดจะต้องให้ทางผู้ใหญ่ช่วยถ้ามันสุดทางจริงๆ เอกสารมีทุกอย่างค่ะ ถ้ามันจะต้องมีผลทางกฎหมายเกิดขึ้นการที่เราเอาเขามากลายเป็นว่าเดี๋ยวจะหมิ่นประมาทเขาไปก่อนค่ะ จริงๆ อย่างแรกอยากให้ตรวจสอบว่าโครงการนี้มันจริงหรือเปล่า เพราะเราทำหน้าที่เราเราคิดว่ามันเป็นเรื่องของคนไทยที่ต้องกลับมาคุยกันที่ประเทศไทย แต่ตอนนี้เขาไม่กลับมาคุยกับเราค่ะ เขาไปไหนก็ไม่รู้ เขาหายสาบสูญ”
โดนหลอกครั้งนี้คงต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น
เก้า : “บอกเลยครับว่างานที่ผ่านๆ มาที่ดีๆ ก็มีคนที่เราทำงานด้วยเขาบริสุทธิ์ใจ เขาทำสิ่งที่เขารักษาสัญญาทุกอย่าง มันก็ดีอย่างนี้เราก็ให้ใจ แต่ว่าในขณะเดียวกันมันก็จะต้องมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอยู่แล้ว ถามว่าเข็ดไหม เราก็อาจจะต้องระวังตัวมากขึ้น คงไม่ถึงกับไม่ทำอะไรอีกแล้วครับ ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกครับ แต่ว่าอันนี้จะหนักหน่อย มันค่อนข้างเซนซิทีฟ”
แม่ : “ก่อนหน้านี้ให้ทำมาจ่ายเงินทีหลัง ไปถึงหน้างานแล้วจะขึ้นเวทีอยู่แล้วไม่จ่ายตังค์ เงินไม่มา ต้องรอ ทุกอย่างโดนมาหมดแล้วว่าเรื่องมากเรื่องเยอะขอนู่นขอนี่ วันนี้อยากจะบอกว่าประเด็นบางครั้งมันไม่ใช่เรื่องของเงินจริงๆ ค่ะ เป็นเรื่องของการตกลงที่มันไม่ตรงไปตรงมา วันนี้ที่ไป ตอนที่นั่งรถกันไป เรารู้ว่าเราไม่ได้ตังค์นะ คิดจริงๆ นะว่ามาทำไมๆ แต่เราต้องรับผิดชอบคนที่เขารอเราอยู่ที่โน่น และเราไม่มีโอกาสอธิบายให้เขาได้ยินคำหนึ่งที่เก้าบอก ผมต้องรับผิดชอบคนที่รอผมแล้วสิ่งที่เราไปถึงบอกได้จากหัวใจตรงนี้เลยว่าเก้าแกรู้สึกยังไง”
หลังจากข่าวที่ออกไปหลายคนจะมองเก้าใจหล่อมาก?
“ผมไม่ได้อยากจะหล่อนะครับ ตั้งแต่ข่าวก่อนๆ หน้านี้แล้วนะครับ ไม่ได้จงใจนะครับ ไม่ได้จะบอกว่ามันหล่อเองช่วยไม่ได้ ก็ไม่ใช่นะครับ ที่ผมอยากจะบอกคือสิ่งที่ผมทำไป ผมไม่ได้ทำอะไรเกินกว่าหน้าที่ของผมเลย ผมไม่ได้เป็นฮีโร่ครับ ผมแค่ทำในสิ่งที่ผมรักษาสัญญาไว้ ผมชอบคนรักษาสัญญาครับ ถ้าเป็นไปได้ผมพยายามที่จะไม่ทิ้งสัญญาใครครับ แค่รักษาหน้าที่ของตัวเองเท่านั้นเอง”
พร้อมฝากถึงคู่กรณี
เก้า : “ไม่ได้ว่าอะไรครับ (หัวเราะ) เขาอาจจะโทรศัพท์เสียนะครับ ไม่ว่ากัน ฝากไปถึงที่เชียงตุงขอบคุณคนที่นู่นเขาร้องเพลงได้ทุกเพลงเลย อย่างน้อยผมไม่ได้เงินมันไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยครับ ผมไปได้กลับมามันมีสิ่งที่อย่างน้อยเราได้เห็นว่าคนที่นู่นเขาก็รู้จักเรา เขาร้องเพลงของเราได้ เขามีความสุขกับเราได้ มันมีค่ามากกว่าเงินที่เราไม่ได้อีกครับผม”
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
| เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |
