ร้าวยาว! ศึกสัมพันธ์ครอบครัวข้ามสัปดาห์ยังคงถูกพูดถึงมากทีเดียวสำหรับ เรื่องราวของ “กุ้ง วิภาวี เจริญปุระ” พี่สาวต่างมารดา ของ “ทราย เจริญปุระ” พิมพ์ด่าเด็กเปรต ดูแลพ่อสร้างภาพ ในเฟซบุ๊กของ “เตชะ ทับทอง” แล้วพาดพิงถึงน้องสาวต่างมารดาในทำนองตำหนิ ซึ่งแน่นอนว่า ร้อนถึงทรายต้องโพสต์โต้ตอบและให้สัมภาษณ์เปิดใจกับทีมข่าวบันเทิงของ “ซูเปอร์บันเทิง” อย่างถึงพริกถึงขิง ที่ว่ากันว่าศึกนี้คงไมใช่เรื่องของการคิดเห็นทางการเมือง แต่เป็นเรื่องส่วนตัวล้วนๆที่เก็บปะทุข้างในจนลามไปถึงเรื่องราวของพ่อ “รุจน์ รณภพ” ที่งานนี้ปฏิบัติการ “แขวะ” ผ่านสื่อ จึงเกิดขึ้น แบบต่อต่อตา ฟันต่อฟัน!
แซบ!ไม่แพ้ข่าวบันเทิงข่าวอื่น และแรงสมการโต้ตอบ มาทีหลังแต่ก็ไม่ยั้งในความสัมพันธ์ แม้ว่าจะเป็นพี่น้องตระกูลพ่อเดียวกัน แต่คนละแม่ และแน่นอนว่ารอบนี้ ทราย จัดหนักและจัดเต็ม ก่อนหน้านี้ ทราย เจริญปุระไม่นิยม ให้สัมภาษณ์ พูดถึงเรื่องครอบครัวเท่าใดนัก แต่ดูเหมือนรอบนี้ หลังจากกุ้ง วิภาวี พี่สาวของใหม่ เจริญปุระ พี่สาวต่างมารดา ของทราย ออกมาพาดพิงถึงในเฟซบุ๊กที่โพสต์ลงในชื่อของ “เตชะ ทับทอง” ซึ่งทรายโพสต์ถึงเรื่องแฟชั่นป๊อปคอร์นจนทำให้ลุงเสื้อแดงโดนยิงเป็นอัมพาต ทรายยืนยันว่าสาเหตุทางการเมืองทำให้เธอโพสต์และแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาเช่นนี้ และน้อมรับคำติชมทุกอย่าง แต่รอบนี้ดูเหมือนจะหนักหนา เมื่อพี่สาวต่างมารดาจัดหนักด่าเด็กเปรตและไม่รู้จะแสดงอาการขอโทษต่อการแสดงออกความคิดเห็นทางการเมืองของน้องสาวต่างมารดาอย่างไร กุ้ง วิภาวี จึงโพสต์ข้อความด่าไปว่าสร้างภาพดูแลพ่อ น่าได้ตุ๊กตาทอง ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะทราบดีถึงเสียงตอบรับที่ได้รับทั้งแง่บวกและแง่ลบเป็นอย่างดีสำหรับทราย กระทั่งการลงชื่อเห็นด้วยกับ กฎหมายมาตรา 112 ออกมา กระแสเสียงโดนโจมตีเรื่องแดงล้มเจ้า ทรายยังบอกอีกว่า ห้ามคนคิดไม่ได้ แต่ยังคงถวายงานในหลายๆพระองค์ ซึ่งยังเล่นหนังในประวัติศาสตร์อย่างตำนานสมเด็จพระนเรศวรฯ นั่นคือคำตอบของทรายที่ยืนยันว่าใครจะมองว่าเป็นดาราเสื้อแดง หรือด่าควายแดงอย่างไรนั้นเธอไม่โกรธ หากแต่รอบนี้ พี่สาวต่างมารดา กลับพาดพิงถึงการดูแลพ่อ และสถานภาพของคนในครอบครัวจึงทำให้ทรายตัดสินใจออกมาโต้ตอบกลับแบบไม่ลดละเช่นกัน
ซึ่งแน่นอนว่าในเรื่องที่นอกเหนือไปจากเรื่องราวของการเมืองที่ว่ากันว่าในครอบครัวก็มีสีเสื้อต่างสีกันไป หากแต่บ้านเจริญปุระ อาจจะมีมุมมองในเรื่องของการเมืองที่ไม่เหมือนกันและที่ผ่านมาก็ยังไม่มีใครออกมาตำหนิติติงเรื่องราวของทราย ผ่านสื่อ ซึ่งทรายเองก็ไม่เคยเกาเหลากับดารานักแสดงท่านอื่นที่ตำหนิติติงเรื่องการเมือง และในบรรดานักแสดงนั้นก็ยังไม่มีใครพาดพิงหรือมีปากเสียงกันเรื่องนี้ มีเพียง “ม้า อรนภา กฤษฎี” ที่เคยพาดพิงถึงทราย ในกรณีข่าวการถอดหลักสูตรนาฏศิลป์ ออกจากระบบการศึกษาไทยของรัฐบาลชุดนี้ แต่ทรายก็น้อมรับฟังโดยดี และไม่ได้โต้ตอบสิ่งใดรุนแรงเหมือนรอบนี้ ที่มีทั้งดรามา น้ำตาและพาดพิงกันด้วยเรื่องส่วนตัวที่แน่นอนว่ามากกว่าการเมืองไปเสียแล้ว
ซึ่งบอกถึงสถานภาพของครอบครัวแล้วยังตอกย้ำได้ว่าที่ผ่านมา 2 ครอบครัวไม่ได้มีโอกาสสนิทหรือพูดคุยกัน ไม่มีปัญหากันแต่ไม่ได้ไปมาหาสู่กัน และแน่นอนว่า ในการดูแลพ่อนั้น ทรายออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมว่า น้องชายต้องเสียสละลาออกจากงานเพื่อมาดูแลพ่อ ซึ่งคนที่หาเลี้ยงครอบครัวคือตัวทรายเพราะมีรายได้ที่มากกว่าพี่น้องคนอื่นในบ้าน นั่นคือน้องสาวและน้องชายที่เกิดจากแม่เดียวกัน รวมทรายด้วยเป็นทั้งหมด 3 คน ซึ่งไม่ค่อยได้มีโอกาสออกสื่อเท่าที่ผ่านมา
ตุ๊กตาทอง - เคยได้แล้ว มั่นใจว่าฉาวน้อยกว่า
ข้อหาสร้างภาพดูแลพ่อที่กุ้งโพสต์พาดพิงนั้น ทรายบอกเพียงว่าดาราตุ๊กตาทองนั้นตนเคยได้แล้ว หาเลี้ยงพ่อคือการโดนมองว่าเป็นคนเลวก็คงห้ามความคิดใครไม่ได้ และต่างคนต่างรู้ความจริงดีอยู่ว่าคืออะไร ซึ่งในการป่วยของ “รุจน์ รณภพ” นั้น ทรายยืนยันว่าอีกบ้านไม่เคยดูแลช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายมีเพียงในงานศพที่ออกค่าอาหารนิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งถ้าคิดว่าดูแลได้ไม่ดีเท่า ทรายถึงกับตัดพ้อว่าทำไมไม่มารับไปดูแลเองถ้าคิดว่าดูแลได้ดีกว่า เรียกว่ารอบนี้จัดหนักกันถึงพริกถึงขิงชนิดที่การเมืองทำให้สะเทือนถึงเรื่องส่วนตัว
ความน้อยเนื้อต่ำใจของทรายนั้นเจ้าตัวบอกเพียงว่าแม่ของเธอรู้สึกเป็นห่วงในสภาพจิตใจของลูก และทราบถึงเรื่องข่าวเป็นอย่างดี แม้ว่าทรายจะยืนยันว่าไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด แต่สงสารน้องชายที่เป็นคนดูแลพ่อตัวจริงต้องเสียใจ
ประโยคบาดใจคงจะอยู่ที่เรื่องแขวะกลับไปว่า หากจะแฉกันด้วยเรื่องส่วนตัว ทรายมั่นใจว่าทรายมีน้อยกว่า อย่างน้อยก็ไม่มีภาพโป๊หน้า 1 ไม่มีเรื่องแต่งๆ หย่าๆ แขวะซึ่งหน้าแบบนี้ เห็นทีบ้านเจริญปุระทั้งสองหลังคงจะเพิ่งได้ฤกษ์ร้าวฉาน จัดเกาเหลากันเต็มๆชามก็คราวนี้ คล้ายกับว่าปัญหาที่ผ่านมานอกจากจะปะทุข้างใน ไม่มีใครพูดถึง การเมืองกลายเป็นเรื่องสะกิดติ่งให้ทั้งสองบ้านต้องจัดหนักใส่กัน ซึ่งแน่นอนว่ามากกว่าเรื่องราวในครอบครัว และหลายเรื่องก็โดนขุดคุ้ยขึ้นมาอีกครั้งหลังศึกสายเลือดแบ่งสี เกิดขึ้น
เรื่องป๊อปคอร์น สงสัยจะไม่จบที่ป๊อปคอร์น รอบนี้ยาวไปถึงซดเกาเหลา เจอหน้าจะไหว้กันมั้ยยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ มวยถูกคู่ ศัตรูนามสกุลเดียวกัน สาวกันไปจะมีใครได้ดี การเมืองในครอบครัวมันรุนแรงแบบนี้นี่เอง!?
...........................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 233 วันที่ 22-28 มีนาคม 2557