หลังประกาศแผนการเลิกฉายหนังด้วยฟิล์มไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ล่าสุด Paramount เปิดเผยว่าทางบริษัทไม่ได้จะเลิกฉายหนังด้วยฟิล์มไปโดยสิ้นเชิง แต่จะเปิดช่องสำหรับการฉายหนังด้วยวิธีแบบดั้งเดิม สำหรับภาพยนตร์บางเรื่อง ซึ่งหนังบางเรื่องที่ว่าก็หมายถึงผลงานของ ผกก.ดัง “คริสโตเฟอร์ โนแลน” ที่ชอบถ่ายทำหนังโดยไม่ใช้เทคนิคพิเศษแบบพร่ำเพรื่อ และนิยมการฉายหนังด้วยฟิล์มมากกว่าระบบดิจิตอลนั่นเอง
Paramount คือสตูดิโอระดับเมเจอร์ของฮอลลีวูดเจ้าแรก ที่ได้ตัดสินใจยุติการฉายหนังด้วยฟิล์มไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเชื่อกันว่าสตูดิโอใหญ่แห่งอื่นๆ คงจะเดินตามรอยนี้ในอีกไม่ช้า และจะทำให้ธุรกิจภาพยนตร์เข้าสู่ยุคสมัยของดิจิตอลอย่างเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดผู้บริหารของ Paramount ยอมรับว่านโยบายดังกล่าวคงไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เพราะทางบริษัทจะอนุญาตให้หนังในเครือบางเรื่องฉายทั้งในระบบฟิล์ม และดิจิตอลไปพร้อมๆ กันในบางกรณี
“ถึงเราคาดหวังว่าหนังส่วนใหญ่ในอนาคตของสตูดิโอ จะฉายในสหรัฐฯ ด้วยระบบดิจิตอลเพียงอย่างเดียว แต่ก็จะมีการยกเว้นสำหรับหนังบางเรื่อง” ร็อบ มัวร์ รองประธานของ Paramount Pictures กล่าว ซึ่งเว็บไซต์ Indie Wire เปิดเผยว่าหนึ่งในหนังที่จะได้รับการยกเว้นให้ฉายในระบบฟิล์มด้วยในอนาคตอันใกล้นี้ก็คือ Interstellar ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน เจ้าของไตรภาค Batman นั่นเอง
เป็นที่รู้กันดีว่า คริสโตเฟอร์ โนแลน เป็น ผกก.ที่พิสมัยการถ่ายทำหนังด้วยฟิล์ม และฉายด้วยฟิล์มเช่นเดียวกัน โดยหนังเรื่องล่าสุดของเขาที่ชื่อ Interstellar จะถ่ายทำบางฉากของเรื่องด้วยฟิล์ม 35mm เพื่อฉายในระบบ IMAX เช่นเคย แม้การฉายหนังในระบบเดิมจะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าเดิม แต่ทาง Paramount Pictures ก็คงไม่อยากจะมีปัญหากับคนทำหนังแถวหน้าของวงการหนังยุคปัจจุบันอย่าง โนแลน
โดยตามข่าวของ LA Times ระบุว่า The Wolf of Wall Street ผลงานเรื่องล่าสุดของ มาร์ติน สกอร์เซซี คือหนังเรื่องแรกของ Paramount เข้าโรงฉายด้วยระบบดิจิตอลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วน Anchorman 2: The Legend Continues คือหนังเรื่องสุดท้ายของสตูดิโอ ที่จะเปิดฉายด้วยระบบฟิล์มควบคู่ไปกับดิจิตอล
นับว่านี่คือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของฮอลลีวูด ที่ก่อนหน้านี้งานที่ฉายเฉพาะในระบบดิจิตอลจะเป็นหนังประเภทสารคดี และหนังสั้นเท่านั้น แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ โรงฉายหนังดิจิตอลก็เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยจากข้อมูลก็อปปี้ของหนัง 1 เรื่องในระบบดิจิตอลจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 100 เหรียญฯ ต่อก็อปปี้เท่านั้น แต่หากเป็นฟิล์มหนัง 1 ก็อปปี้ต้องใช้เงินถึง 2,000 เหรียญฯ เลยทีเดียว
ถึงตอนนี้ Paramount ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์ถึงเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตามคนในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูด ก็เชื่อว่าการตัดสินใจของ Paramount จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของวงการ และในอนาคตสตูดิโอระดับเมเจอร์ทุกแห่งก็คงต้องปรับตัวเน้นการฉายหนังในระบบดิจิตอลเป็นหลักเช่นเดียวกัน โดยทาง 20th Century Fox เคยประกาศว่าจะลดการฉายหนังด้วยฟิล์มมาตั้งแต่ปี 2011 แล้ว เช่นเดียวกับ Disney ที่มีนโยบายแบบเดียวกัน
LA Times รายงานว่าตอนนี้โรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ มีจำนวน 92% ที่ฉายหนังด้วยระบบดิจิตอล อย่างไรก็ตาม การฉายหนังระบบฟิล์มคงจะไม่หายจากโลกภาพยนตร์ไปง่ายๆ เพราะการติดตั้งเครื่องฉายหนังดิจิตอลยังมีราคาค่อนข้างสูง โรงหนังในต่างประเทศอย่างประเทศแถบอเมริกาใต้จึงดูจะยินดีฉายหนังด้วยฟิล์มแบบดั้งเดิมไปอีกพักใหญ่
Interstellar ผลงานใหม่ของ “โนแลน”
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |