คอลัมน์เพลงวาน โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
สำหรับผม เพลงเก่าที่คุ้นหู เปรียบดังเพื่อนผู้คุ้นเคย
วันนี้นับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้นิยมเพลงไทยเก่าๆอีกครั้งหนึ่งเมื่อทางค่าย “สไปร์ซซี่ ดิสก์”(Spicydisc) ได้คัดสรรเพลงเก่าชื่อดังในอดีตมาปรุงแต่งทำใหม่ สร้างสรรค์ใหม่ ตีความใหม่ ในชื่อชุด “Past Forward”(พาส ฟอร์เวิร์ด)
Past Forward เป็นอัลบั้มโปรเจคพิเศษที่ทาง “พิชัย จิราธิวัฒน์” ผู้บริหารค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์ ได้จับมือกับ “ก้อ- ณฐพล ศรีจอมขวัญ” มือเบสแห่งวง “Groove Riders”(กรู๊ฟไรเดอร์) คัดสรรบทเพลงเก่าในระดับตำนาน มาให้ศิลปินร่วมสมัยมากหน้าหลายตา เป็นผู้นำเสนอถ่ายทอดบทเพลงเก่าขึ้นหิ้งเหล่านั้นออกมาตามสไตล์ถนัดของแต่ละคน
โปรเจค Past Forward ได้ทยอยนำเพลงเก่าดังๆมาทำเป็นซิงเกิ้ลส่งออกมาชิมลางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้นับจากมีซิงเกิ้ลแรกออกมาก็กินเวลากว่า 3 ปีแล้ว นับเป็นโปรเจคอัลบั้มที่ใช้เวลาทำนานเป็นอย่างยิ่ง กว่าอัลบั้มเต็มจะคลอดออกมาให้แฟนเพลงที่ถูกยั่วให้อยากสดับรับฟังกัน
สำหรับอัลบั้มเต็มของชุดนี้มาในแพกเกจทึมๆตัวหนังสือกลืนไปกับสีแบ็คกราวนด์ของกระดาษอ่านยากเป็นบ้า เหมือนกับทางผู้ผลิตต้องการให้แฟนเพลงซื้อฟังอย่างเดียว โดยไม่ต้องไปสนใจกับเนื้อหาประกอบที่บอกถึงที่มาที่ไปและศิลปินต้นตำรับในเพลงต่างๆ
อัลบั้ม Past Forward มีทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน เปิดประเดิมกันด้วย “ให้”จากวง“รอยัลสไปรท์” เจ้าพ่อเพลงดิสโก้เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว
เพลงนี้เป็นเพลงช้าในจำนวนไม่กี่เพลงของรอยัลสไปรท์ ซึ่งได้เจ้าพ่อเพลงโรแมนติกแห่งยุค คือ “แสตมป์ - อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข” มาเป็นผู้ถ่ายทอดในอารมณ์เพลงป็อบร่วมสมัย มีกีตาร์ขึ้นนำมาในอารมณ์ I'm Yours ของ เจสัน มราซ ก่อนที่แสตมป์จะร้องถ่ายทอดในแบบร่วมสมัย สบายๆ ฟังเพลิน กับดนตรีเน้นอะคูสติกเป็นหลัก ฟังมีสีสันมีลูกเล่นดีทีเดียว
แทรคที่ 2 “คอย” กับบทเพลงดังอันดับต้นๆของวง“ฟรีเบิร์ด” วงขวัญใจวัยรุ่นในอดีต ที่ถูกนำมาคัฟเวอร์ใหม่โดย 2 หนุ่มคู่หูตัว ต. “ตุ้ย-โต้ง” โดย“ตุ้ย - ธีรภัทร สัจจกุล” มาเป็นคนร้องนำ ส่วน “โต้ง - Save Da Last Piece” เป็นคนเรียบเรียง ดนตรีฟังเด่นด้วยกลิ่นของบริชป็อบร่วมสมัย เสียงร้องของตุ้ยฟังเนิบๆไม่หวือหวาแต่ก็ฟังไม่เสียอรรถรสของเพลงๆนี้
ต่อด้วย “รักไม่ได้” เพลงนี้ต่างจากเพลงอื่นตรงที่เป็นเพลงดังร่วมยุคร่วมสมัยของวง “Groove Riders”(กรู๊ฟไรเดอร์) ซึ่งทางค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์ สลับมิติด้วยการให้พี่“ปั่น - ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” มาขับร้อง โดยมีมือกีตาร์กรู๊ฟไรเดอร์ คือ “กั้ง”(Kungsnowa) มาเป็นคนเรียบเรียงดนตรีและร่วมเล่นกีตาร์
เพลงรักไม่ได้ เวอร์ชั่นนี้ฟังเหงาเศร้าในแบบรุ่นใหญ่ กับน้ำเสียงนุ่ม ซึ้ง โรแมนติกของพี่ปั่น ขณะที่ภาคดนตรีก็เหงา โศกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะไลน์เครื่องสายที่เล่นประสานรองพื้น กับเสียงโซโลแฮมมอนด์ออร์แกนนั้น กรีดลึกบาดอารมณ์คนที่แอบรักเขาแต่ต้องสะกดใจเพราะรักเขาไม่ได้ดีแท้
เปลี่ยนมาโหมดใสๆกับเสียงใสๆของวง“อะลองฟอง” กับเพลง “ฝันลำเอียง” ของพี่“แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์” เพลงนี้เป็นป็อบเท่ๆฟังสบาย เสียงร้องของน้องอร นักร้องนำแม้ฟังสดใสน่ารักติดตะแง๊วๆ แต่ก็เจือแฝงไว้ด้วยอารมณ์ของความเศร้าตามเนื้อหาของเพลง
นับเป็นฝันลำเอียงในแบบละอองฟองที่กลายเป็นหนึ่งในบทเพลงประจำตัวของวงนี้ ที่สร้างชื่อดังกว่าหลายๆบทเพลงของวงละอองฟองเสียอีก
ตามต่ออารมณ์พี่แจ้และอารมณ์เพลงใสๆกันด้วย “น้ำค้าง” อีกหนึ่งเพลงเด่นของวง“แกรนด์เอ็กซ์” สุดยอดวงดนตรีแห่งยุคสมัยเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ซึ่งมีพี่แจ้เคยเป็นอดีตนักร้องนำ(ในยุคทอง)ที่มีชื่อเสียงเป็นอมตะค้างฟ้ามาจนทุกวันนี้
เพลงน้ำค้างถือเป็นซิงเกิ้ลแรก เปิดตัวอัลบั้ม Past Forward ที่ทำออกมากว่า 3 ปีมาแล้ว เพลงนี้ถูกถ่ายทอดโดยวง“บลิซโซนิค”(Blissonic) เป็นป็อบเท่ๆ มากไปด้วยกลิ่นอิเลกทรอนิก ท่อนโซโลกีตาร์ผสมทางบริชร็อกเข้ามาได้อย่างน่าฟัง
น้ำค้างแม้จะเป็นเพลงที่ยังคงไว้ด้วยกลิ่นของความเป็นแกรนด์เอ็กซ์ แต่ด้วยเสียงร้องใสๆติดตะแง๊วของนักร้องนำบลิซโซนิคก็ทำให้เพลงนี้กลายเป็นน้ำค้างที่ฟังแตกต่างจากต้นตำรับไม่น้อยเลย
“วันเวลา” เป็นการนำเพลงที่มีโทนอารมณ์ที่แตกต่างมาร่วมผสมกับเพลงรักทั้ง 9 เพราะเพลงนี้เป็นเพลงเพื่อชีวิตอันสุดคลาสสิกของ “น้าหมู - พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ” ที่ถูก “บอย - ตรัย ภูมิรัตน” มาตีความใหม่ ถ่ายทอดออกมาในแบบป็อบร่วมสมัย มีเสียงอูคูเลเล่มาเล่นนำเปิดเพลง ซึ่งด้วยเนื้อหา ภาษาสวยๆของเพลงที่ให้กำลังใจ เสียงอูคูเลเล่ที่เล่นนำมาโดดๆมันฟังก๊องแก๊งไปนิดนึง แต่เมื่อมีการเสริมเสียงเครื่องสาย และเติมเครื่องดนตรีอื่นๆเข้ามาก็ช่วยอุ้มให้เพลงนี้ฟังอบอุ่น กลายเป็นเพลงเพื่อชีวิตในแบบโรแมนติก
แทรคต่อมาเป็น “ไกลเท่าเดิม” เพลงดังจาก 2 หนุ่ม ป้าง&ปอนด์ แห่งวง“ไฮดร้า” วงที่แม้จะมีผลงานเพลงออกมาเพียงชุดเดียว แต่ก็กลายเป็นวงอมตะกับอัลบั้มอมตะ“อัศเจรีย์”(2535)ที่ยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้
ไกลเท่าเดิม ได้สามสาว กิ๊ฟ,ฝน และ นุ้ย จากวง“โมโนโทน” มาขับร้องถ่ายทอดอารมณ์ในกลิ่น อาร์แอนด์บี ที่เด่นไปด้วยการผลัดกันร้องนำ การโชว์ลีลาการประสานในสไตล์ของโมโนโทน
ส่วน “รอรัก” เพลงป็อบแจ๊ซชื่อดังของคู่หูดูโอ “เบิร์ดกะฮาร์ท” ถูกนำมาทำใหม่โดยวง “สควีซ แอนนิมอล” (Sqweez Animal) เพลงนี้ต้นฉบับนั้นทำได้เท่มาก แต่สควีซ แอนนิมอลก็นำมาคัฟเวอร์ทำออกมาได้เท่มากเช่นกัน กับซาวนด์ร่วมสมัยที่นำทั้งป็อบ แจ๊ซ ฟังก์ และบริชร็อกมาผสมรวมกันได้อย่างกลมกล่อมลื่นไหล ฟังระรื่นหู ถือเป็นคารวะบทเพลงต้นตำรับได้มีสีสัน
“เพราะเรานั้นคู่กัน” จากอดีตเพลงประกอบโฆษณาสุดดัง ที่กลายมาเป็นเพลงบัลลาดร็อกอมตะของวง“คาไลโดสโคป” ถูกนำมาคัฟเวอร์ใหม่โดย “เราระบาย”(Lullaby) ในแบบอัลเทอร์เนทีฟกระเดียดไปทางกลิ่นโคลด์เพลย์ กับซาวนด์กีตาร์ดิบๆหยาบๆดนตรีหลอนๆ นับเป็นการนำเพลงนี้มาตีความใหม่ที่ฟังแตกต่างไปจากของเก่า คือไม่เน้นความโรแมนติกหวานซึ้งหากแต่เน้นในพลังความหนักแน่นและความมันแทน
ปิดท้ายกันด้วย “เข้าใจ” บทเพลงหวานซึ้งของวงเฉลียง ที่ถูกนำมาขับขานใหม่โดย“กรู๊ฟไรเดอร์” ภาคดนตรี และเสียงร้องทำออกมาในสไตล์ของกรู๊ฟไรเดอร์
นับเป็นเข้าใจในแบบกรู๊ฟไรเดอร์ที่ฟังแล้วชวนให้นึกถึงเฉลียงเป็นอย่างยิ่ง
และนี่ก็เป็น 10 บทเพลงคัฟเวอร์ 9 เพลงเก่ากับ 1 บทเพลงร่วมสมัย ในสไตล์และมุมมองที่แตกต่างไปจากต้นฉบับ แต่ว่าก็ไม่ถึงกับฉีกโครงสร้าง ฉีกแนวไปจนไม่เหลือเค้าของเดิม หากแต่เป็นการนำความคลาสสิกมาผสมกับความร่วมสมัยได้อย่างมีเสน่ห์ ชวนฟัง
นอกจากนี้อัลบั้ม Past Forward ยังมีจุดเด่นตรงความหลากหลายในแต่ละเพลงกับสไตล์ของศิลปินแต่ละคน ที่แม้บางเพลงจะฟังโดดไปบ้าง หรือเสียงของนักร้องสาวในบางเพลงจะฟังงุ้งงิ้งไปบ้าง แต่ก็สามารถมาร้อยเรียงเชื่อมต่ออารมณ์เพลงอย่างกลมกล่อม ลื่นไหล ฟังไม่สะดุด
นับเป็นอัลบั้มเพลงเก่าในรสใหม่ที่ทำออกมาได้มีชีวิตชีวาน่าฟัง คุ้มค่ากับการรอคอยกว่า 3 ปี ที่โปรเจคอัลบั้ม Past Forward ได้เริ่มถือกำเนิดขึ้นมา
*****************************************
คลิกชมและฟังบทเพลงทั้งสิบในอัลบั้ม Past Forward
สำหรับผม เพลงเก่าที่คุ้นหู เปรียบดังเพื่อนผู้คุ้นเคย
วันนี้นับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับผู้นิยมเพลงไทยเก่าๆอีกครั้งหนึ่งเมื่อทางค่าย “สไปร์ซซี่ ดิสก์”(Spicydisc) ได้คัดสรรเพลงเก่าชื่อดังในอดีตมาปรุงแต่งทำใหม่ สร้างสรรค์ใหม่ ตีความใหม่ ในชื่อชุด “Past Forward”(พาส ฟอร์เวิร์ด)
Past Forward เป็นอัลบั้มโปรเจคพิเศษที่ทาง “พิชัย จิราธิวัฒน์” ผู้บริหารค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์ ได้จับมือกับ “ก้อ- ณฐพล ศรีจอมขวัญ” มือเบสแห่งวง “Groove Riders”(กรู๊ฟไรเดอร์) คัดสรรบทเพลงเก่าในระดับตำนาน มาให้ศิลปินร่วมสมัยมากหน้าหลายตา เป็นผู้นำเสนอถ่ายทอดบทเพลงเก่าขึ้นหิ้งเหล่านั้นออกมาตามสไตล์ถนัดของแต่ละคน
โปรเจค Past Forward ได้ทยอยนำเพลงเก่าดังๆมาทำเป็นซิงเกิ้ลส่งออกมาชิมลางอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันนี้นับจากมีซิงเกิ้ลแรกออกมาก็กินเวลากว่า 3 ปีแล้ว นับเป็นโปรเจคอัลบั้มที่ใช้เวลาทำนานเป็นอย่างยิ่ง กว่าอัลบั้มเต็มจะคลอดออกมาให้แฟนเพลงที่ถูกยั่วให้อยากสดับรับฟังกัน
สำหรับอัลบั้มเต็มของชุดนี้มาในแพกเกจทึมๆตัวหนังสือกลืนไปกับสีแบ็คกราวนด์ของกระดาษอ่านยากเป็นบ้า เหมือนกับทางผู้ผลิตต้องการให้แฟนเพลงซื้อฟังอย่างเดียว โดยไม่ต้องไปสนใจกับเนื้อหาประกอบที่บอกถึงที่มาที่ไปและศิลปินต้นตำรับในเพลงต่างๆ
อัลบั้ม Past Forward มีทั้งหมด 10 เพลงด้วยกัน เปิดประเดิมกันด้วย “ให้”จากวง“รอยัลสไปรท์” เจ้าพ่อเพลงดิสโก้เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว
เพลงนี้เป็นเพลงช้าในจำนวนไม่กี่เพลงของรอยัลสไปรท์ ซึ่งได้เจ้าพ่อเพลงโรแมนติกแห่งยุค คือ “แสตมป์ - อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข” มาเป็นผู้ถ่ายทอดในอารมณ์เพลงป็อบร่วมสมัย มีกีตาร์ขึ้นนำมาในอารมณ์ I'm Yours ของ เจสัน มราซ ก่อนที่แสตมป์จะร้องถ่ายทอดในแบบร่วมสมัย สบายๆ ฟังเพลิน กับดนตรีเน้นอะคูสติกเป็นหลัก ฟังมีสีสันมีลูกเล่นดีทีเดียว
แทรคที่ 2 “คอย” กับบทเพลงดังอันดับต้นๆของวง“ฟรีเบิร์ด” วงขวัญใจวัยรุ่นในอดีต ที่ถูกนำมาคัฟเวอร์ใหม่โดย 2 หนุ่มคู่หูตัว ต. “ตุ้ย-โต้ง” โดย“ตุ้ย - ธีรภัทร สัจจกุล” มาเป็นคนร้องนำ ส่วน “โต้ง - Save Da Last Piece” เป็นคนเรียบเรียง ดนตรีฟังเด่นด้วยกลิ่นของบริชป็อบร่วมสมัย เสียงร้องของตุ้ยฟังเนิบๆไม่หวือหวาแต่ก็ฟังไม่เสียอรรถรสของเพลงๆนี้
ต่อด้วย “รักไม่ได้” เพลงนี้ต่างจากเพลงอื่นตรงที่เป็นเพลงดังร่วมยุคร่วมสมัยของวง “Groove Riders”(กรู๊ฟไรเดอร์) ซึ่งทางค่ายสไปร์ซซี่ ดิสก์ สลับมิติด้วยการให้พี่“ปั่น - ไพบูลย์เกียรติ เขียวแก้ว” มาขับร้อง โดยมีมือกีตาร์กรู๊ฟไรเดอร์ คือ “กั้ง”(Kungsnowa) มาเป็นคนเรียบเรียงดนตรีและร่วมเล่นกีตาร์
เพลงรักไม่ได้ เวอร์ชั่นนี้ฟังเหงาเศร้าในแบบรุ่นใหญ่ กับน้ำเสียงนุ่ม ซึ้ง โรแมนติกของพี่ปั่น ขณะที่ภาคดนตรีก็เหงา โศกไม่แพ้กัน โดยเฉพาะไลน์เครื่องสายที่เล่นประสานรองพื้น กับเสียงโซโลแฮมมอนด์ออร์แกนนั้น กรีดลึกบาดอารมณ์คนที่แอบรักเขาแต่ต้องสะกดใจเพราะรักเขาไม่ได้ดีแท้
เปลี่ยนมาโหมดใสๆกับเสียงใสๆของวง“อะลองฟอง” กับเพลง “ฝันลำเอียง” ของพี่“แจ้-ดนุพล แก้วกาญจน์” เพลงนี้เป็นป็อบเท่ๆฟังสบาย เสียงร้องของน้องอร นักร้องนำแม้ฟังสดใสน่ารักติดตะแง๊วๆ แต่ก็เจือแฝงไว้ด้วยอารมณ์ของความเศร้าตามเนื้อหาของเพลง
นับเป็นฝันลำเอียงในแบบละอองฟองที่กลายเป็นหนึ่งในบทเพลงประจำตัวของวงนี้ ที่สร้างชื่อดังกว่าหลายๆบทเพลงของวงละอองฟองเสียอีก
ตามต่ออารมณ์พี่แจ้และอารมณ์เพลงใสๆกันด้วย “น้ำค้าง” อีกหนึ่งเพลงเด่นของวง“แกรนด์เอ็กซ์” สุดยอดวงดนตรีแห่งยุคสมัยเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว ซึ่งมีพี่แจ้เคยเป็นอดีตนักร้องนำ(ในยุคทอง)ที่มีชื่อเสียงเป็นอมตะค้างฟ้ามาจนทุกวันนี้
เพลงน้ำค้างถือเป็นซิงเกิ้ลแรก เปิดตัวอัลบั้ม Past Forward ที่ทำออกมากว่า 3 ปีมาแล้ว เพลงนี้ถูกถ่ายทอดโดยวง“บลิซโซนิค”(Blissonic) เป็นป็อบเท่ๆ มากไปด้วยกลิ่นอิเลกทรอนิก ท่อนโซโลกีตาร์ผสมทางบริชร็อกเข้ามาได้อย่างน่าฟัง
น้ำค้างแม้จะเป็นเพลงที่ยังคงไว้ด้วยกลิ่นของความเป็นแกรนด์เอ็กซ์ แต่ด้วยเสียงร้องใสๆติดตะแง๊วของนักร้องนำบลิซโซนิคก็ทำให้เพลงนี้กลายเป็นน้ำค้างที่ฟังแตกต่างจากต้นตำรับไม่น้อยเลย
“วันเวลา” เป็นการนำเพลงที่มีโทนอารมณ์ที่แตกต่างมาร่วมผสมกับเพลงรักทั้ง 9 เพราะเพลงนี้เป็นเพลงเพื่อชีวิตอันสุดคลาสสิกของ “น้าหมู - พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ” ที่ถูก “บอย - ตรัย ภูมิรัตน” มาตีความใหม่ ถ่ายทอดออกมาในแบบป็อบร่วมสมัย มีเสียงอูคูเลเล่มาเล่นนำเปิดเพลง ซึ่งด้วยเนื้อหา ภาษาสวยๆของเพลงที่ให้กำลังใจ เสียงอูคูเลเล่ที่เล่นนำมาโดดๆมันฟังก๊องแก๊งไปนิดนึง แต่เมื่อมีการเสริมเสียงเครื่องสาย และเติมเครื่องดนตรีอื่นๆเข้ามาก็ช่วยอุ้มให้เพลงนี้ฟังอบอุ่น กลายเป็นเพลงเพื่อชีวิตในแบบโรแมนติก
แทรคต่อมาเป็น “ไกลเท่าเดิม” เพลงดังจาก 2 หนุ่ม ป้าง&ปอนด์ แห่งวง“ไฮดร้า” วงที่แม้จะมีผลงานเพลงออกมาเพียงชุดเดียว แต่ก็กลายเป็นวงอมตะกับอัลบั้มอมตะ“อัศเจรีย์”(2535)ที่ยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้
ไกลเท่าเดิม ได้สามสาว กิ๊ฟ,ฝน และ นุ้ย จากวง“โมโนโทน” มาขับร้องถ่ายทอดอารมณ์ในกลิ่น อาร์แอนด์บี ที่เด่นไปด้วยการผลัดกันร้องนำ การโชว์ลีลาการประสานในสไตล์ของโมโนโทน
ส่วน “รอรัก” เพลงป็อบแจ๊ซชื่อดังของคู่หูดูโอ “เบิร์ดกะฮาร์ท” ถูกนำมาทำใหม่โดยวง “สควีซ แอนนิมอล” (Sqweez Animal) เพลงนี้ต้นฉบับนั้นทำได้เท่มาก แต่สควีซ แอนนิมอลก็นำมาคัฟเวอร์ทำออกมาได้เท่มากเช่นกัน กับซาวนด์ร่วมสมัยที่นำทั้งป็อบ แจ๊ซ ฟังก์ และบริชร็อกมาผสมรวมกันได้อย่างกลมกล่อมลื่นไหล ฟังระรื่นหู ถือเป็นคารวะบทเพลงต้นตำรับได้มีสีสัน
“เพราะเรานั้นคู่กัน” จากอดีตเพลงประกอบโฆษณาสุดดัง ที่กลายมาเป็นเพลงบัลลาดร็อกอมตะของวง“คาไลโดสโคป” ถูกนำมาคัฟเวอร์ใหม่โดย “เราระบาย”(Lullaby) ในแบบอัลเทอร์เนทีฟกระเดียดไปทางกลิ่นโคลด์เพลย์ กับซาวนด์กีตาร์ดิบๆหยาบๆดนตรีหลอนๆ นับเป็นการนำเพลงนี้มาตีความใหม่ที่ฟังแตกต่างไปจากของเก่า คือไม่เน้นความโรแมนติกหวานซึ้งหากแต่เน้นในพลังความหนักแน่นและความมันแทน
ปิดท้ายกันด้วย “เข้าใจ” บทเพลงหวานซึ้งของวงเฉลียง ที่ถูกนำมาขับขานใหม่โดย“กรู๊ฟไรเดอร์” ภาคดนตรี และเสียงร้องทำออกมาในสไตล์ของกรู๊ฟไรเดอร์
นับเป็นเข้าใจในแบบกรู๊ฟไรเดอร์ที่ฟังแล้วชวนให้นึกถึงเฉลียงเป็นอย่างยิ่ง
และนี่ก็เป็น 10 บทเพลงคัฟเวอร์ 9 เพลงเก่ากับ 1 บทเพลงร่วมสมัย ในสไตล์และมุมมองที่แตกต่างไปจากต้นฉบับ แต่ว่าก็ไม่ถึงกับฉีกโครงสร้าง ฉีกแนวไปจนไม่เหลือเค้าของเดิม หากแต่เป็นการนำความคลาสสิกมาผสมกับความร่วมสมัยได้อย่างมีเสน่ห์ ชวนฟัง
นอกจากนี้อัลบั้ม Past Forward ยังมีจุดเด่นตรงความหลากหลายในแต่ละเพลงกับสไตล์ของศิลปินแต่ละคน ที่แม้บางเพลงจะฟังโดดไปบ้าง หรือเสียงของนักร้องสาวในบางเพลงจะฟังงุ้งงิ้งไปบ้าง แต่ก็สามารถมาร้อยเรียงเชื่อมต่ออารมณ์เพลงอย่างกลมกล่อม ลื่นไหล ฟังไม่สะดุด
นับเป็นอัลบั้มเพลงเก่าในรสใหม่ที่ทำออกมาได้มีชีวิตชีวาน่าฟัง คุ้มค่ากับการรอคอยกว่า 3 ปี ที่โปรเจคอัลบั้ม Past Forward ได้เริ่มถือกำเนิดขึ้นมา
*****************************************
คลิกชมและฟังบทเพลงทั้งสิบในอัลบั้ม Past Forward
