ได้เวลา "รัน แรน รัน" (Run Ran Run)

อาจจะไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไรมากมายในวงกว้าง แต่ถ้าว่ากันถึงคุณภาพและความสามารถแล้วคงจะไม่ใช่เรื่องเกินเลยไปนักหากจะรวมเอา "Run Ran Run" เข้าไปเป็นหนึ่งในวงดนตรีของบ้านเราที่มีคุณสมบัติที่ว่า...

หลังส่ง "Sweetheart" และ "อย่าเซ" ออกมาให้ฟังกัน ล่าสุดสมาชิก ณ ปัจจุบันที่ประกอบไปด้วย เบียร์ สุขวิทย์ เต็งแย้ม (ร้องนำ), บี ไวภพ เต็งแย้ม (กลอง), เทสต์ วรรษธร ไกเยอร์ (เบส) และ หนึ่ง เฉลิมรัตน์ พฤกษาจันทนา (กีตาร์) พร้อมแล้วกับผลงานที่ 3 "นิทานเรื่องเก่า" ที่ได้รุ่นพี่สุดเก๋า "เล็ก พราว" (สุรชัย กิจเกษมศิลป์) เข้ามาร่วมรับเชิญ

แต่กว่าซิงเกิลที่ว่านี้จะออกมาได้นั้นต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยทีเดียว



Run Ran Run : ก็รวมวงกันตั้งแต่สมัยมัธยมครับ พอย้ายมาเรียนมหาวิทยาลัยก็ได้มีโอกาสไปเจอกันที่คณะดุริยางคศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร แต่ตอนนั้นวงเหลือ 3 คน ก็ไม่ครบ ทีนี้ก็ไปเจอมือเบสซึ่งก็เป็นเพื่อนกันนี่แหละครับ พออยู่ไปก็เข้ากันได้ เลยชวนกันมาทำวง พอมาอยู่ค่ายโมโนฯ ก็ชวนคุณวิน (วรุตม์ อ่อนอุ่นจิตร) มาร่วมด้วย ออกซิงเกิลแรกไปก็คือสวีทฮาร์ท ซิงเกิลที่ 2 คืออย่าเซ ซึ่งตอนนี้คุณวินมีโปรเจ็กต์แยกออกไปทำเดี่ยวแล้วกับสหภาพดนตรี"

กว่าจะออกแต่ละเพลงได้ค่อนข้างจะนานเหมือนกัน
Run Ran Run : "เพลงนี้เป็นเพลงที่เหมือนรอนานมากนะ เพราะก่อนหน้าที่จะทำก็มีทั้งปัญหาบ้านเมือง บวกกับน้ำท่วมอีก คือช่วงน้ำท่วมเป็นช่วงที่เรากำลังจะเดินสายตามคลื่นวิทยุก็เลยไม่ได้รับเพลงเราเท่าไหร่ ก็เลยเหมือนจะแป้กๆ พอหลังจากนั้นวงก็สมาชิกเปลี่ยนแปลงอีก ก็เลยต้องรื้อเพลงที่ทำกันใหม่อีก บวกกับโปรดิวเซอร์เราที่เป็นชาวอิตาลีเขารู้สึกอิ่มตัว เขาเลยย้ายไปมาเลเซีย วงเราเลยเป็นวงที่ไม่มีโปรดิวเซอร์ ช่วงนั้นเหมือนเป็นช่วงเท้งเต้งมาก..."

แล้วช่วงนั้นทำอะไรกัน?
Run Ran Run : "จริงๆ ก็ทำเพลงตลอดแหละนะ แต่ตอนนั้นก็คือเราก็ไปเน้นเล่นดนตรีเลย คิดว่าทำยังไงก็ได้ให้คนรู้จักแล้วก็เชื่อในสิ่งที่เราเล่น ซึ่งมันน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด เพราะสื่อทางทีวีหรือของวิทยุเราไม่มีเลย ร้านที่เล่นก็เป็นร้านที่เราคิดว่าเขามาฟังเพลงจริงๆ อย่าง พวกคอสมิก, ปาร์คกิ้งทอย, โซฟาแดง ก็จะเล่นเพลงเราด้วยเพลงสากลด้วย"

"ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงที่เราเรียนเราก็ได้เล่นร้านพวกนี้อยู่แล้ว ก็ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง และได้รู้ว่าอะไรที่เหมาะกับเรา อะไรที่ไม่ถนัด...จริงๆ วงเราไม่อยากเป็นวงที่เล่นดนตรีตอนกลางคืนเลย ไม่ใช่จุดมุ่งหมายในชีวิตเลย แต่ว่ามาถึงจุดๆ นึงเราต้องเลี้ยงตัวเองให้ได้ ต้องยืนให้ได้ คือส่วนใหญ่เพลงที่ทำออกมาก็จะมีนักดนตรีที่ฟังและบอกว่าโหดีจัง ชอบจัง แต่คนที่ฟังเฉยๆ ก็ไม่เข้าใจ เรามก็มาคิดว่าเพลงของวงเรามันเป็นเพลงที่คนทั่วๆ ไปฟังยากหรือเร็วไปไหม แต่ช่วงนี้จุดพอดีของวงกับคนฟังเริ่มที่จะชัดเจนขึ้น ก็เลยเริ่มที่จะมีกระแสตอบรับชัดเจนขึ้นครับ"

รู้สึกแย่มั้ยเวลาที่เราคิดว่าเราตั้งใจจะนำเสนอสิ่งที่เรามองว่าดีมันเจ๋งแต่คนทั่วไปไม่ตอบรับ?
Run Ran Run :"ในบ้านเราเหมือนกับว่ามันต้องสร้างความศรัทธาให้คนให้ได้ เกิดว่ามีสักเพลงสองเพลงที่คนหันมาสนใจหลังจากนั้นไม่ว่าจะทำอะไรคนก็เปิดรับง่ายขึ้น เหมือนกับว่าหาจุดที่พอดีได้...อาจจะเป็นเพราะเราวัยรุ่นเราคิดว่าแบบนี้มันเจ๋งมากเราเลยทำแบบนั้นไป เพราะเราอยากนำเสนอแบบที่มันเจ๋งๆ พอเราเปิดไปคนก็เลยไม่อยากจะเปิดรับสักเท่าไหร่ ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่าเราเป็นใครก็ไม่รู้ด้วย แต่พอหลังจากนั้นวงใหญ่ๆ ทำเพลงแนวนี้บ้างแล้วคนตอบรับ รวมทั้งคนฟังเพลงที่เปิดกว้างขึ้นด้วย"

จะเกี่ยวกับที่เราเรียนดนตรีมาโดยตรงมั้ย เวลาคิดอะไรมันเลยดูมีขั้นมีตอนมีแบบมีแผนคนเลยมองว่ามันอาจจะเข้าใจยาก?
Run Ran Run : "มันอยู่ที่ความชอบมากกว่าครับ ไม่ได้อยู่ที่ว่ายากหรือง่าย สมมุติว่าเป็นนักดนตรีอาจจะมีโอกาสคลุกคลีกับดนตรีมากขึ้นขณะที่คนส่วนใหญ่ฟังดนตรีในแนวที่ตัวเองชอบ ก็เลยอาจจะไม่คุ้นชินกับเสียงที่ได้ยิน ก็อาจจะเลยรู้สึกว่าแปลกจัง ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยถามตัวเองมาแล้วว่าจะสำเร็จไหมแต่เหมือนเราเคยผิดหวังมาแล้วตอนนี้เราเลยเฉยๆ และเราได้ทำงานของเราต่อโดยที่ไม่มีอะไรมาขวางกั้นเราก็โอเคแล้ว"

อะไรคือจุดเด่นของวงเราที่จะเป็นจุดขายได้?
Run Ran Run : "ความเป็นวงนะ คือผมว่าน้อยมากที่วงจะอยู่รวมกัยมา10 ปี อยู่กันอย่างนี้จริงๆ อย่างวงอื่นๆ ปกติเหมือนทางค่ายจับมารววมกัน แล้วของเราเนี่ยมันเหมือนกับว่าเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นมีความเป็นตัวของมันเอง คือถ้าคนฟังจะรู้..."

ทุกวันนี้คิดว่าคนสวนใหญ่รู้จัก Run Ran Run สักแค่ไหน?
"คิดว่ารู้จักขึ้นเยอะนะ เพราะว่าปล่อยซิงเกิลวันแรกผลตอบรับเริ่มมาทันที กระแสดีกว่า 2 เพลงแรกที่ปล่อยออกมา อาจจะเป็นเพราะเพลงก็น่าจะฟังง่ายขึ้นด้วยก็น่าจะมีคนรู้จักมากขึ้น อย่างแรกๆ เพลงเราอาจจะส่วนตัวไปหน่อย ตอนนี้เราเริ่มจะนึกถึงการสื่อสารเรื่องราวให้คนฟัง บวกกับว่ารอบนี้มีครูดีๆ มีโค้ชเยอะ มีพี่เล็กด้วย มีอาจารย์เจษฎา หันช่อเป็นโปรดิวเซอร์เรา และเพลงนี้ก็ได้พี่ต้น ซิลลี่ฟูลส์มามิกซ์ให้ มีพี่หรั่ง ซิลลี่ฟูลส์มาทำเอ็มวีฯ คือขอยืมพลังจากรุ่นพี่มาช่วยเยอะเลย (หัวเราะ)"

พร้อมจะมีอัลบั้มหรือยัง?
Run Ran Run : "จริงๆ เราจริงจังมาตลอด อยากทำอัลบัมมาตลอด คือเรามีเพลงเยอะมากที่รู้สึกว่า ณ เวลานี้มันดี มันเอามาใช้ได้ สามารถตอบโจทย์คนฟัง แต่สำหรับกับตัววงอาจจะคิดว่ามันไม่ใช่ แล้วเราไม่ชอบ ก็มีเหมือนกัน ซึ่งเราเสียดายเพลงที่เราแต่งแล้วทิ้งพวกนี้เหมือนกัน"

"ตอนนี้วงการเพลงมันพลิกเร็วมากผมรู้สึกว่ามันเปลี่ยนเร็วมาก แล้วกลายเป็นว่าทุกคนเปิดรับได้หมดเลย มีอินเทอร์เน็ต สามารถดูได้ตลอดก็เลยกลายเป็นทางเลือกที่เป็นโอกาสสำหรับเราที่จะเข้าหาคนฟัง...ที่คุยๆ กันไว้เหมือนว่าจะเป็นปีหน้าคือตอนนี้แพลนไว้ว่าซิงเกิลนี้อาจจะเป็นซิงเกิลที่ 1 ในอัลบั้มอะไรทำนองนี้"

คิดว่าจะมีอุปสรรคเรื่องลมฟ้าอากาศอะไรอีกมั้ย?
Run Ran Run : "ถ้ามีก็ต้องลุยแล้วแหละครับ ทั้งภัยคนภัยธรรมชาติ เคยมีคนบอกนะว่ารัน แรน รัน มีทุกอย่าง ยกเว้นโชค(หัวเราะ)..."