หนังผีจีนที่รวมความสยอง, ตลก และดุเดือดเผ็ดมันของคิวบู๊เอาไว้ครบ และเคยโด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อน กำลังจะถูกนำมาแปลงโฉมใหม่อีกครั้ง ด้วยด้วยการเพิ่มดีกรีความรุนแรง และถึงเลือดถึงเนื้อลงไป จากฝีมือของนักแสดงหนุ่มมาแรงชาวฮ่องกงที่ยืนยันเขาก็แฟนตัวจริงของหนัง “ผีกัด” คนหนึ่งเช่นเดียวกัน
Rigor Mortis ที่มีความหมายว่า “สภาพศพแข็งทื่อ” ถูกนำมาตั้งเป็นชื่อหนังของ จูโน่ มั๊ก นักร้อง/นักแสดงหนุ่ม ที่ขอลองงานกำกับภาพยนตร์เป็นครั้งแรก ด้วยการหยิบหนังสุดโปรดของตัวเองในวัยเด็กกลับมาสร้างใหม่
ฟังดูผ่าน ๆ ก็ชวนให้เข้าใจว่า Rigor Mortis น่าจะเป็นหนังผีอีกเรื่อง ที่ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากหนังแนวนี้ที่สร้างออกมากันให้ดูเรื่อย ๆ ทุก ๆ ปี และพร้อมที่จะลืมเลือนกันไปในเวลาอันรวดเร็ว เพื่อรอคอยความสยองสำเร็จรูปจากหนังผีเรื่องต่อไป แต่ถ้าบอกว่านี่คือหนัง “ผีกัด” ตระกูลหนังที่เคยโด่งดังในฮ่องกงเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ที่ถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง แฟน ๆ ที่คุ้นเคยหนังแนวนี้กันมานานก็อาจสนใจขึ้นมาบ้าง
หนังแนว “ผีกัด” เป็นงานประเภทที่โด่งดังอยู่ในยุค 80s มีผลงานที่ใคร ๆ ในยุคนั้นคุ้นเคยกันดีอย่าง “ผีกัดอย่ากัดตอบ” (หรือ Mr. Vampire ที่เอาเข้าจริง ๆ แล้วน่าจะเรียกว่า “ซอมบี้” มากกว่า “แวมไพร์”) ที่เล่าเรื่องของนักพรตเต๋า ที่ได้รับหน้าที่ให้จัดการกับพิธีกรรมด้านการทำศพ, สุสาน และคนตาย แต่ในบางครั้งความแค้น, อาถรรพ์ และความชั่วร้าย ก็ทำให้ศพที่แต่งกายในชุดข้าราชการแบบยุคราชวงศ์ชิงฟื้นคืนชีพขึ้นมาอาละวาด กระโดดกัดคอผู้คน จนนักพรตที่มักจะปรากฏตัวในชุดสีเหลือง มีวิทยายุทธและศาสตร์วิชาเต๋าเป็นอาวุธสำคัญ พร้อมด้วยอุปกรณ์นานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น กระจกแปดทิศ, ดาบไม้ และกระดาษยันต์ ต้องรับหน้าที่กำราบเหล่าผีร้ายพวกนี้
อันที่จริงต้องบอกว่าหนังประเภทผีกัด เป็นงานของเหล่านักแสดงบู๊โดยแท้จริง แต่ละเรื่องจะอุดมไปด้วยดารากังฟูยอดฝีมือ อย่างในชุด ผีกัดอย่ากัดตอบ ก็มีชื่อของ หงจินเป่า นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการสร้างด้วย ส่วนใหญ่ผู้กำกับหนังแนวนี้ก็เติบโตมาจากสายบู๊ด้วยกันทั้งนั้น แต่ละเรื่องจะอุดมไปด้วย “กฎ, กติกา, มารยาท” ว่าด้วยการปราบ และหนีผี ที่นำมาซึ่งฉากบู๊ปนตลกมากมาย อาจจะพูดได้ว่าเป็นหนังตระกูลย่อยของหนังแนวกังฟูก็ว่าได้
ความสำเร็จของ ผีกัดอย่ากัดตอบ ทำให้ผู้สร้างทีมเดียวกันเข็นหนังภาคต่อตามออกมาอีกหลายตอน เช่นเดียวกับบรรดาผู้สร้างรายอื่น ๆ ก็แห่สร้างหนังแนวนี้ออกมาเต็มตลาดกันไปหมด ที่โดดเด่นเป็นพิเศษก็เห็นจะเป็นหนังจากฝั่งไต้หวัน ที่ยิ่งสร้างก็ยิ่งหลุดโลกมีจุดขายแปลก ๆ ออกมามากมาย ทั้งหนังผีกัดที่ใช้นักแสดงเด็กเป็นจุดขายอย่าง “ผีแพ้ตี๋” หรือหนังบางเรื่องก็จับ ผีกัดมาฟัดกับผีตะวันตกอย่าง แดร็คคูล่า ก็มีมาแล้ว
ปลุกชีพผีกัด
อย่างไรก็ตามหลังพ้นยุค 90s เป็นต้นมาหนังแนวนี้ก็เริ่มหายไปจากวงการภาพยนตร์ ซึ่ง จูโน่ มั๊ก ที่ยอมรับว่าเขาคือแฟนคนหนึ่งของหนัง "ผีกัด" เช่นเดียวกัน เชื่อว่าหนังแนวนี้น่าจะกลับมาเกิดได้อีกครั้ง
อันที่จริงแล้วหนังผีกัดก็ไม่ได้หายไปโดยสิ้นเชิง แม้จะผ่านยุคความรุ่งเรืองของหนังแนวนี้ในยุค 80s มาแล้ว ก็มีการสร้างหนังผีกัดออกมาเป็นระยะ หรือบางครั้งก็ถูกหยิบไปสร้างเป็นสีสันของหนังแนวอื่น ๆ แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะประสบความสำเร็จ หรือได้รับความสนใจอะไร แม้แต่ผู้กำกับระดับขาใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์ฮ่องกงอย่าง ฉีเคอะ ที่เคยพยายามปลุกชีพให้หนังผีกัด ก็ยังทำไม่สำเร็จ
แต่ดูเหมือนว่า จูโน่ มั๊ก จะตั้งใจทำให้หนังผีกัดของเขาแตกต่างจากหนังแนวนี้ในอดีตโดยสิ้นเชิง ผู้กำกับหนุ่มเปรียบเทียบว่าหนังซอมบี้ หรือแวมไพร์ของตะวันตกก็ยังสามารถแจ้งเกิดได้เรื่อย ๆ แถมยังถูกพัฒนาจากที่เคยเป็นหนังเกรดบี จนกลายเป็นหนังระดับบันเทิงกระแสหลักมาแล้ว หนังผีกัดก็น่าจะกลับมาเกิดได้แบบเดียวกัน แต่แน่นอนว่าต้องมีอะไรบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป
Rigor Mortis จะไม่ได้เป็นภาคต่อ, ภาคก่อนหน้า หรือ ผีกัดอย่ากัดตอบฉบับรีเมก แต่อย่างใด แต่นี่จะเป็นยุคใหม่ของหนังแนวผีกัด ที่เล่าเรื่องด้วยความจริงจัง ไม่มีท่าทีทีเล่นทีจริงให้เห็นกันอีกแล้ว หนังจะเต็มไปด้วยฉากถึงเลือดถึงเนื้อ และบรรยากาศความดำมืด เพื่อนำเสนอเรื่องราวของอาถรรพ์ และเรื่องเหนือธรรมชาติให้ออกมาสมจริงสมจังที่สุด
อาจจะพูดได้ว่าหนังผีกัดได้ถูกรื้อโครงสร้างเดิมเพื่อประกอบร่างเข้าไปใหม่จนออกมาเป็น Rigor Mortis โดยการตัดองค์ประกอบสำคัญอย่างภาคของความตลกออกจนไม่เหลือ แม้อารมณ์ขันจากมุกตลกเจ็บตัวจะเป็นเอกลักษณ์สำคัญของหนังชุดผีกัด แต่ผู้กำกับก็อธิบายว่าอารมณ์แบบนั้นคงจะไม่เข้ากับหนังในยุคนี้อีกต่อไปแล้ว
นักแสดงเครื่องหมายการค้า
แม้จะเปลี่ยนแปลงอะไรไปมากมาย แต่ Rigor Mortis ก็ยังจะรักษาองค์ประกอบของหนังผีกัดในอดีตเอาไว้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะเหล่านักแสดงที่ถือเป็นเครื่องหมายการค้าของหนังชุดนี้ไปแล้ว ที่ จูโน่ มั๊ก เปิดเผยว่าเขาพยายามจะตามตัวนักแสดงรุ่นใหญ่ที่เคยรับบทนำในหนังชุดเก่า ให้มาปรากฏตัวกันใน Rigor Mortis ให้ได้มากที่สุด แม้นักแสดงนำบางคนจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม
ผู้กำกับหนุ่มยืนยันว่าสิ่งแรกที่เขาคิดถึงเมื่อจับปากกาเขียนบท Rigor Mortis ขึ้นมาก็คือ หนังต้องมีนักแสดงจากหนังผีกัดภาคก่อนมารับบทเด่นด้วย แต่แน่นอนว่าหนังคงจะไม่มี เครื่องหมายการค้าอันดับ 1 ของหนังผีกัดอย่าง หลินเจิ้งอิง มาแสดงนำแน่ เพราะเขาเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 1997 แล้ว แต่อย่างน้อย จูโน มั๊ก ก็ยังมี สวีคุนอิง หรือ ริกกี้ ฮุย ที่รับบทเป็นลูกศิษย์จอมเซ่อ (ที่คนไทยเรียกชื่อติดปากกันว่า “ไอ้อ่ำ”) อยู่
น่าเสียดายที่ระหว่างเขียนบทหนัง ริกกี้ ฮุย ก็มาด่วนจากไปอีกคน สุดท้าย “ผีกัด 2013” จึงเหลือแค่ เฉินเสี่ยวเห่า พระเอกของหนังผีกัดต้นฉบับเพียงคนเดียวเท่านั้น จนตัวผู้กำกับเองก็ยังยอมรับว่าหากจะมีอะไรที่เขารู้สึกคาใจในการสร้างหนังเรื่องนี้ก็คือเรื่องนักแสดงนี่เอง
สุดท้าย จูโน่ มั๊ก ก็ยังพยายามตามตัวเหล่านักแสดงในหนัง ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาคแรกชุดเดิม ให้มาปรากฏตัวใน Rigor Mortis เพิ่มจนได้ แม้จะไม่ได้นักแสดงที่รับบทนำในหนังผีกัดตอนเก่า ๆ แต่แฟน ๆ ของหนังชุดนั้นก็น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตา และยินดีกับการได้พบเพื่อนเก่าสองคนนี้อีกครั้งใน Rigor Mortis อยู่ไม่น้อย
แอนโทนี เฉิน กับ บิลลี หลิว คือ 2 นักแสดงจากหนัง ผีกัดอย่ากัดตอบ ภาคแรก ที่จะร่วมปรากฏตัวใน Rigor Mortis แม้เขาทั้งสองจะต่างเกษียณตัวเองจากวงการหนัง และย้ายไปอาศัยอยู่ต่างประเทศแล้ว โดยแทบจะไม่ได้ติดต่อใครในวงการภาพยนตร์ฮ่องกงอีก จนต้องหว่านล้อมกันอยู่นาน ทั้งคู่จึงตอบตกลงที่จะมาเป็นส่วนหนึ่งในหนังผีกัด 2013 จนได้
Rigor Mortis เพิ่งจะลงโรงที่ฮ่องกงไปเมื่อปลายเดือนก่อน และสามารถขึ้นอันดับ 1 ของตารางหนังทำเงินประจำสัปดาห์ได้อย่างสวยงามถึงตอนนี้ทำเงินไปเกิน 10 ล้านเหรียญฮ่องกงแล้ว เป็นบทพิสูจน์ว่าส่วนผสมทั้งเก่าและใหม่ของ “จูโน่ มั๊ก” ดูจะได้ผลจริง ๆ
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ ""ซ้อ 7"ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |