กลายเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่สร้าง "สีสัน" และอยู่คู่กับละครทีวีไทยหลายต่อหลายเรื่องไปแล้ว สำหรับเหล่าบรรดา "คนรับใช้" ฝ่ายหญิงหลากหลายรูปแบบทั้งที่เป็นตัวร้าย ฝ่ายดี และตัวตลก ฯ
แม้จะเป็นบทบาทที่มีสถานะเป็นตัวประกอบที่ดูไม่มีความสำคัญ ทว่าก็เป็นที่น่าสังเกตว่านักแสดงหลายต่อหลายคนที่ผูกขาดเล่นบทเหล่านี้ (จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ) จนเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีนั้น หลายคนต้องบอกว่ามีดีกรีตลอดจนเรื่องราวชีวิตที่ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย
โดยเฉพาะในอดีตกับดาราอาวุโสที่ตอนนี้ต่างก็เสียชีวิตไปแล้วหลายคน ทั้ง ป้าหอม มาลี เวชประเสริฐ(พ.ศ. 2453 - พ.ศ. 2535), ประพิศ พราวพรรณ, ชูศรี มีสมมนต์ (พ.ศ. 2472 - พ.ศ. 2535), ป้าแดง รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง (พ.ศ. 2475 - พ.ศ. 2549), มนัส บุญเกียรติ, วงศ์ทอง ผลานุสนธิ์ ฯ แต่ละคนในวัยสาวๆ ก่อนที่จะผันตัวเองมารับบทรอง บทตลก บทคนใช้นั้น ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีดีรีเป็นนางเอก-นางงามกันมาแล้วทั้งสิ้น
ถ้าจะว่าถึงบทคนรับใช้ในยุคแรกๆ ที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีก็คงจะหนีไม่พ้น "ป้าทอง สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต" (พ.ศ. 2463 - พ.ศ. 2535)
ชีวิตการแสดงส่วนใหญ่ของป้าทองแม้จะรับบทตามนางเอกกับบทคนใช้ ทว่าเจ้าตัวก็เคยรับบทนำกับเขาเช่นกันใน "กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่" (2523) แต่ที่สำคัญชีวิตจริงของป้าทองนั้นเจ้าตัวมีศักดิ์เป็นถึงหม่อมสุลาลีวัลย์ สุริยง ณ อยุธยา ชายาใน หม่อมเจ้าอติวงศ์วิวัสวัติ สุริยง นักแสดงอาวุโสเจ้าบทบาท มีชื่อเสียงในรุ่นเดียวกับ สุพรรณ บูรณพิมพ์ และ มาลี เวชประเสริฐ กันเลยทีเดียว
หนึ่งคน(รับ)ใช้ฝ่ายดีที่หลายคนคุ้นหน้าก็คงจะหนีไม่พ้นในรายของ ป้าเปี๊ยก "น้ำเงิน บุญหนัก" (สวง จารุวิจิตร) ที่เริ่มต้นเข้าสู่วงการครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง "ชาติเสือ" ในปี พ.ศ. 2500 ก่อนจะมีผลงานตามออกมาเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันแม้เจ้าตัวจะเป็นนักแสดงประกอบและนักแสดงสมทบเป็นหลักแต่ก็เคยได้รับรางวัลตุ๊กตาเงินสาขานักแสดงหญิงสมบทยอดเยี่ยม จากเรื่อง "นางสาวโพระดก" (พ.ศ. 2508) รวมถึงรางวัลตุ๊กตาทองสาขาเดียวกัน จากเรื่อง "กาเหว่า" ในปี พ.ศ. 2509 มาแล้ว
นอกจากจะคุ้นหน้ากันดีจากบท "ปอบ" กระนั้นการรับบทคนใช้ของ ป้าหน่อย "ณัฐนี สิทธิสมาน" ก็เป็นที่คุ้นตากันดีเช่นกัน แต่เห็นรับทบทเช่นนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ทว่าใครจะรู้บ้างว่าเจ้าตัวนั้นเคยได้ชื่อว่าเป็นนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแมาแล้ว ซึ่งแม้จะเรียนไม่สำเร็จก็ตามแต่ด้วยความเป็นคนพยายามและขวนขวายหาความรู้ของเจ้าตัวนั้นเองที่ทำให้ป้าหน่อยยังคงมีงานอยู่ในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ชื่อของป้าแมว "รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์" (กานดา นามแป้นแย้ม, รุ้งกานดา นามแป้นแย้ม) อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูมากนัก แต่รับรองว่าใครที่เคยดูละครไทยเรื่องที่ต้องมีบทคนรับใช้ รับรองว่าจะต้องผ่านตาอย่างแน่นอนกับผู้หญิงคนนี้
ว่ากันถึงชีวิตของป้าแมวต้องบอกว่าเหมือนกับละครชีวิต เพราะเมื่อไม่กี่ปีมานี้ขณะที่เธอล้มเจ็บด้วยสารพัดโรค ทั้ง หอบหืด นิ่วในถุงน้ำดี ต้อกระจก โดยไร้งานแสดง ป้าแมวยังต้องมาพบกับปัญหาเรื่องธนาคารจะยึดบ้านเพราะติดหนี้กว่า 5.5 แสนบาท แต่โชคดีที่มีนักธุรกิจยื่นมือเข้าช่วยด้วยการซื้อบ้านหลังดังกล่าวไว้โดยที่ป้าแมวจะใช้หนี้คืนในภายหลัง ซึ่งชีวิตในปัจจุบันของป้าแมวนั้นก็เริ่มดีขึ้นแล้วเพราะมีคนในวงการช่วยเหลือหางานให้เจ้าตัวอยู่เรื่อยๆ โดยผลงานที่จะเพิ่งลาจอไปก็คือละครเรื่อง "แค้นเสน่หา" นั่นเอง
อีกคนที่ดูเหมือนจะผูกขาดบทคนรับใช้ไปแล้วก็คือ "ก้อย ศิรินุช เพ็ชรอุไร" โดยนักแสดงหญิงคนนี้เริ่มต้นเข้าสู่วงการจากสายละครเวที ซึ่งเพียงแค่ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสได้โชว์ฝีมือในละครเวทีที่ร.ร.มณเฑียรเรื่อง "ขอโทษทีไม่มีนามบัตร" ชื่อของเธอก็ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลหน้ากากทองคำสมทบฝ่ายหญิงทันที ก่อนจะมีงานต่างๆ ตามออกมามากมาย ปัจจุบันคนรับบทคนรับใช้คนนี้นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้ว เจ้าตัวยังเป็นครูสอนการแสดงที่กันตนา ดรามา สกูล (กันตนา) โดยมีปริญญาโท ภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยการันตี
แต่ถ้าจะถามถึงคนที่รับบทเป็นตัวละครประเภท ยายเมี้ยน ยายแม้น แล้วมีดีกรียาวเป็นหางว่าวทั้งเรื่องการศึกษาและผลงานจริงๆ ก็คงจะต้องยกให้กับ ป้าจิ๊ "อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ"
เริ่มกันตั้งแต่มัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, ปริญญาตรี จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรับทุนจากบริติช เคาน์ซิล ไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่ University College สหราชอาณาจักร, ได้รับคัดเลือกให้เป็นศิษย์เก่าดีเด่น ของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นนักแสดงหญิงชาวไทย ได้รับรางวัลจากผลงานการแสดง ครบทั้ง 4 รางวัลหลักคือ รางวัลพระสุรัสวดี, รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์, รางวัลโทรทัศน์ทองคำ และรางวัลเมขลา เป็นนักเขียนหนังสือและปัจจุบันกับการเป็นครูสอนโยคะ
ว่ากันตามความเป็นจริงทั้งหุ่นตลอดจนลักษณะท่าทางจากบทตลกบ้าๆ บอๆ บอกไปก็คงยากจะเชื่อว่าคนที่รับบทเช่นนี้อย่าง "กอบสุข จารุจินดา" นั้นอีกหนึ่งบทบาทของเธอมีสถานะเป็นถึงผู้จัดละครคนดังที่มีผลงานมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ ประจัญบาน, ล่าผีปอบ, เทพธิดาปลาร้า, เสน่หาเงินตรา ฯ อย่างไรก็ตามถ้าดูจากนามสกุลของเธอแล้วก็คงจะไม่น่าแปลกใจสักเท่าไรว่าถ้าจะคลุกคลีอยู่กับถนนสายนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว
ว่ากันถึงบทคนใช้แล้ว สายหนึ่งที่เข้ามารับบทนี้กันเยอะที่สุดก็คงจะต้องยกให้กับบรรดานักแสดงที่มาจากสาย "ตลก" ทั้งหลาย และในบรรดาสายตลกหลายต่อหลายคนที่รับบทคนใช้ได้ดูเป็นธรรมชาติและบ่อยครั้งมากๆ นอกจาก "จอย ชวนชื่น" (แสงดาว ทรงแสง) แล้ว หนึ่งในนั้นก็คือตลกหญิง "นก เชิญยิ้ม" (วนิดา แสงสุข) ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายทีเดียวที่พรสวรรค์ของเธอนั้นต้องไร้ค่าไปในทันทีหลังเจ้าตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดกระทั่งถูกจับกุมจนกลายเป็นข่าวดังถึง 2 ครั้ง 2 ครา เรียกว่าแทบจะหมดอนาคตกันไปเลย
ไม่รู้เป็นเพราะเริ่มต้นจากการรับบทคนใช้จากโฆษณาชิ้นหนึ่งหรือเปล่าถึงได้ทำให้หลายคนจึงจดจำนักแสดงสาว "เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ" ในบทบาทที่ว่านี้มากกว่าบทอื่นๆ ซึ่งแม้ว่าทายาทของอดีตพิธีกรชื่อดัง "ธรรมรัตน์ นาคสุริยะ" ของบ้านเราคนนี้จะไม่มีรางวัลอะไรการันตีอะไรทว่าสำหรับคนที่รู้จักผู้หญิงคนนี้ก็จะรู้ว่าเธอเจ๋งจริงทั้งในเรื่องของบทบาทหน้าที่ในฐานะนักแสดง มุมมองทัศนะคติในเรื่องของสังคม บ้านเมือง รวมไปถึงการแสดงออกซึ่งความรักที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ โดยทุกครั้งที่มีข่าวความรุนแรงเกิดขึ้นในทางภาคใต้นักแสดงสาวคนนี้จะรีบหาโอกาสเอาของฝากไปให้กำลังใจกับเหล่าทหารกล้าที่นั่นเป็นประจำ
ถ้าจะหานักแสดงที่เกิดมาเพื่อบทคนรับใช้โดยเฉพาะ ชนิดที่เรียกว่า บอร์น ทู บี (BORN TO BE) หนึ่งในนั้นคงจะต้องยกให้กับนักแสดงสาวอย่าง "อุ่นเรือน ราโชติ" หรือที่ ลำดวน บางรักซอย 9" ซึ่งเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ผ่านนอตยสาร "สุดสัปดาห์" ว่า..."อาจเพราะด้วยความเด่นของหน้าตา เล่นเรื่องไหนคนก็จำได้ติดตาตลอด จนมีคนติดต่อให้เล่นละครเรื่องแรก หน้าต่างสีชมพู ประตูสีฟ้า เรื่องแรกก็โดนเลยค่ะ ถูกจับไปเป็น ‘ผู้จัดการบ้าน’ (แม่บ้าน) และหลังจากนั้นก็กลายเป็นบทประจำที่เล่นมาตลอด จนรู้สึกเลยว่า ‘ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ’ คิดดูสิคะ ขนาดเล่นโฆษณาเกือบทั้งหมด ยังไม่พ้นบทผู้จัดการบ้านเลย" โดยปัจจุบันเจ้าตัวนั้นกำลังมีความสุขอยู่กับสามีหนุ่มและลูกชาย-ลูกสาว "น้องคุณ - น้องอุ่น" และถ้าใครเข้าไปดูที่เฟซบุ๊กของเธอนั้นก็จะพบว่าน้องคุณนั้นมีแววหล่อตั้งแต่เด็กกันเลยทีเดียว
อีกหนึ่งนักแสดงที่เข้าวงการด้วยบทของคนรับใช้โดยตรงก็คือสาว "รุ้ง รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา" กับบทของ "หนูหิ่น" ในภาพยนตร์ "หนูหิ่น เดอะ มูฟวี่" ก่อนที่เธอจะคว้าเอารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ในปี พ.ศ.2549 จากบทที่ว่าไปครอง และถึงแม้จะเห็นหน้าไปโทนคนใช้เช่นนี้ใครกันจะรู้บ้างว่าสาวรุ้งเคยโดดมานั่งแท่นเป็นบรรณาธิการหนังสือแฟชั่นที่ชื่อว่า "เอลริช" (EL rich) มาแล้ว
ปิดท้ายกันที่สาวใช้ที่มาแรงและกำลังเป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดทางโลกออนไลน์ในตอนนี้คงจะต้องยกให้กับนักแสดงสาว "ละม่อม ไข่ตู้ม" จากละคร "ทองเนื้อเก้า" ที่รับบทโดย"เนย รตวรรณ ออมไธสง"
โดยหลังจากออกมาเพียงแค่ 2 ตอนในละครเรื่องที่ว่าเจ้าตัวก็โขมยซีนทั้งตัวละครอย่างลำยอง ทั้งวันเฉลิมไปในทันที มีการนำเอาเรื่องราวของเธอมาเผยแพร่มากมาย ซึ่งปัจจุบันนั้นเจ้าตัวกำลังอยู่ในระหว่างการทำวิทยานิพนธ์ในการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนกรณีของรถมินิที่ระบุว่าเป็นของเธอนั้น สาวเนยชี้แจงว่าเป็นของเพื่อน โดยนอกจากละครเรื่องนี้แล้วเจ้าตัวยังมีผลงานละครเรื่อง "The Sixth Sense" รวมถึง "เรือนกาหลง" ทางช่อง 7 ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความสามารถและบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของสาวเนยกระทั่งสร้างความนิยมให้เกิดขึ้นได้ชนิดเพียงชั่วข้ามคืนนั้นต้องบอกว่าอนคตของสาวคนนี้น่าจะสดใสทีเดียว
แม้จะเป็นบทบาทที่มีสถานะเป็นตัวประกอบที่ดูไม่มีความสำคัญ ทว่าก็เป็นที่น่าสังเกตว่านักแสดงหลายต่อหลายคนที่ผูกขาดเล่นบทเหล่านี้ (จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ) จนเป็นที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีนั้น หลายคนต้องบอกว่ามีดีกรีตลอดจนเรื่องราวชีวิตที่ไม่ธรรมดาเอาเสียเลย
โดยเฉพาะในอดีตกับดาราอาวุโสที่ตอนนี้ต่างก็เสียชีวิตไปแล้วหลายคน ทั้ง ป้าหอม มาลี เวชประเสริฐ(พ.ศ. 2453 - พ.ศ. 2535), ประพิศ พราวพรรณ, ชูศรี มีสมมนต์ (พ.ศ. 2472 - พ.ศ. 2535), ป้าแดง รัตนาภรณ์ อินทรกำแหง (พ.ศ. 2475 - พ.ศ. 2549), มนัส บุญเกียรติ, วงศ์ทอง ผลานุสนธิ์ ฯ แต่ละคนในวัยสาวๆ ก่อนที่จะผันตัวเองมารับบทรอง บทตลก บทคนใช้นั้น ต่างก็ล้วนแล้วแต่มีดีรีเป็นนางเอก-นางงามกันมาแล้วทั้งสิ้น
ถ้าจะว่าถึงบทคนรับใช้ในยุคแรกๆ ที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีก็คงจะหนีไม่พ้น "ป้าทอง สุลาลีวัลย์ สุวรรณทัต" (พ.ศ. 2463 - พ.ศ. 2535)
ชีวิตการแสดงส่วนใหญ่ของป้าทองแม้จะรับบทตามนางเอกกับบทคนใช้ ทว่าเจ้าตัวก็เคยรับบทนำกับเขาเช่นกันใน "กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่" (2523) แต่ที่สำคัญชีวิตจริงของป้าทองนั้นเจ้าตัวมีศักดิ์เป็นถึงหม่อมสุลาลีวัลย์ สุริยง ณ อยุธยา ชายาใน หม่อมเจ้าอติวงศ์วิวัสวัติ สุริยง นักแสดงอาวุโสเจ้าบทบาท มีชื่อเสียงในรุ่นเดียวกับ สุพรรณ บูรณพิมพ์ และ มาลี เวชประเสริฐ กันเลยทีเดียว
หนึ่งคน(รับ)ใช้ฝ่ายดีที่หลายคนคุ้นหน้าก็คงจะหนีไม่พ้นในรายของ ป้าเปี๊ยก "น้ำเงิน บุญหนัก" (สวง จารุวิจิตร) ที่เริ่มต้นเข้าสู่วงการครั้งแรกจากภาพยนตร์เรื่อง "ชาติเสือ" ในปี พ.ศ. 2500 ก่อนจะมีผลงานตามออกมาเรื่อยๆ ซึ่งปัจจุบันแม้เจ้าตัวจะเป็นนักแสดงประกอบและนักแสดงสมทบเป็นหลักแต่ก็เคยได้รับรางวัลตุ๊กตาเงินสาขานักแสดงหญิงสมบทยอดเยี่ยม จากเรื่อง "นางสาวโพระดก" (พ.ศ. 2508) รวมถึงรางวัลตุ๊กตาทองสาขาเดียวกัน จากเรื่อง "กาเหว่า" ในปี พ.ศ. 2509 มาแล้ว
นอกจากจะคุ้นหน้ากันดีจากบท "ปอบ" กระนั้นการรับบทคนใช้ของ ป้าหน่อย "ณัฐนี สิทธิสมาน" ก็เป็นที่คุ้นตากันดีเช่นกัน แต่เห็นรับทบทเช่นนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ทว่าใครจะรู้บ้างว่าเจ้าตัวนั้นเคยได้ชื่อว่าเป็นนิสิตคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแมาแล้ว ซึ่งแม้จะเรียนไม่สำเร็จก็ตามแต่ด้วยความเป็นคนพยายามและขวนขวายหาความรู้ของเจ้าตัวนั้นเองที่ทำให้ป้าหน่อยยังคงมีงานอยู่ในวงการบันเทิงอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ชื่อของป้าแมว "รุ่งกานดา เบญจมาภรณ์" (กานดา นามแป้นแย้ม, รุ้งกานดา นามแป้นแย้ม) อาจจะไม่เป็นที่คุ้นหูมากนัก แต่รับรองว่าใครที่เคยดูละครไทยเรื่องที่ต้องมีบทคนรับใช้ รับรองว่าจะต้องผ่านตาอย่างแน่นอนกับผู้หญิงคนนี้
ว่ากันถึงชีวิตของป้าแมวต้องบอกว่าเหมือนกับละครชีวิต เพราะเมื่อไม่กี่ปีมานี้ขณะที่เธอล้มเจ็บด้วยสารพัดโรค ทั้ง หอบหืด นิ่วในถุงน้ำดี ต้อกระจก โดยไร้งานแสดง ป้าแมวยังต้องมาพบกับปัญหาเรื่องธนาคารจะยึดบ้านเพราะติดหนี้กว่า 5.5 แสนบาท แต่โชคดีที่มีนักธุรกิจยื่นมือเข้าช่วยด้วยการซื้อบ้านหลังดังกล่าวไว้โดยที่ป้าแมวจะใช้หนี้คืนในภายหลัง ซึ่งชีวิตในปัจจุบันของป้าแมวนั้นก็เริ่มดีขึ้นแล้วเพราะมีคนในวงการช่วยเหลือหางานให้เจ้าตัวอยู่เรื่อยๆ โดยผลงานที่จะเพิ่งลาจอไปก็คือละครเรื่อง "แค้นเสน่หา" นั่นเอง
อีกคนที่ดูเหมือนจะผูกขาดบทคนรับใช้ไปแล้วก็คือ "ก้อย ศิรินุช เพ็ชรอุไร" โดยนักแสดงหญิงคนนี้เริ่มต้นเข้าสู่วงการจากสายละครเวที ซึ่งเพียงแค่ครั้งแรกที่ได้มีโอกาสได้โชว์ฝีมือในละครเวทีที่ร.ร.มณเฑียรเรื่อง "ขอโทษทีไม่มีนามบัตร" ชื่อของเธอก็ถูกเสนอเข้าชิงรางวัลหน้ากากทองคำสมทบฝ่ายหญิงทันที ก่อนจะมีงานต่างๆ ตามออกมามากมาย ปัจจุบันคนรับบทคนรับใช้คนนี้นอกจากจะเป็นนักแสดงแล้ว เจ้าตัวยังเป็นครูสอนการแสดงที่กันตนา ดรามา สกูล (กันตนา) โดยมีปริญญาโท ภาควิชาศิลปการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยการันตี
แต่ถ้าจะถามถึงคนที่รับบทเป็นตัวละครประเภท ยายเมี้ยน ยายแม้น แล้วมีดีกรียาวเป็นหางว่าวทั้งเรื่องการศึกษาและผลงานจริงๆ ก็คงจะต้องยกให้กับ ป้าจิ๊ "อัจฉราพรรณ ไพบูลย์สุวรรณ"
เริ่มกันตั้งแต่มัธยมจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา, ปริญญาตรี จากคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยรับทุนจากบริติช เคาน์ซิล ไปศึกษาต่อปริญญาโท ที่ University College สหราชอาณาจักร, ได้รับคัดเลือกให้เป็นศิษย์เก่าดีเด่น ของคณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ เป็นนักแสดงหญิงชาวไทย ได้รับรางวัลจากผลงานการแสดง ครบทั้ง 4 รางวัลหลักคือ รางวัลพระสุรัสวดี, รางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์, รางวัลโทรทัศน์ทองคำ และรางวัลเมขลา เป็นนักเขียนหนังสือและปัจจุบันกับการเป็นครูสอนโยคะ
ว่ากันตามความเป็นจริงทั้งหุ่นตลอดจนลักษณะท่าทางจากบทตลกบ้าๆ บอๆ บอกไปก็คงยากจะเชื่อว่าคนที่รับบทเช่นนี้อย่าง "กอบสุข จารุจินดา" นั้นอีกหนึ่งบทบาทของเธอมีสถานะเป็นถึงผู้จัดละครคนดังที่มีผลงานมาแล้วหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ ประจัญบาน, ล่าผีปอบ, เทพธิดาปลาร้า, เสน่หาเงินตรา ฯ อย่างไรก็ตามถ้าดูจากนามสกุลของเธอแล้วก็คงจะไม่น่าแปลกใจสักเท่าไรว่าถ้าจะคลุกคลีอยู่กับถนนสายนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว
ว่ากันถึงบทคนใช้แล้ว สายหนึ่งที่เข้ามารับบทนี้กันเยอะที่สุดก็คงจะต้องยกให้กับบรรดานักแสดงที่มาจากสาย "ตลก" ทั้งหลาย และในบรรดาสายตลกหลายต่อหลายคนที่รับบทคนใช้ได้ดูเป็นธรรมชาติและบ่อยครั้งมากๆ นอกจาก "จอย ชวนชื่น" (แสงดาว ทรงแสง) แล้ว หนึ่งในนั้นก็คือตลกหญิง "นก เชิญยิ้ม" (วนิดา แสงสุข) ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายทีเดียวที่พรสวรรค์ของเธอนั้นต้องไร้ค่าไปในทันทีหลังเจ้าตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งเสพติดกระทั่งถูกจับกุมจนกลายเป็นข่าวดังถึง 2 ครั้ง 2 ครา เรียกว่าแทบจะหมดอนาคตกันไปเลย
ไม่รู้เป็นเพราะเริ่มต้นจากการรับบทคนใช้จากโฆษณาชิ้นหนึ่งหรือเปล่าถึงได้ทำให้หลายคนจึงจดจำนักแสดงสาว "เหมี่ยว ปวันรัตน์ นาคสุริยะ" ในบทบาทที่ว่านี้มากกว่าบทอื่นๆ ซึ่งแม้ว่าทายาทของอดีตพิธีกรชื่อดัง "ธรรมรัตน์ นาคสุริยะ" ของบ้านเราคนนี้จะไม่มีรางวัลอะไรการันตีอะไรทว่าสำหรับคนที่รู้จักผู้หญิงคนนี้ก็จะรู้ว่าเธอเจ๋งจริงทั้งในเรื่องของบทบาทหน้าที่ในฐานะนักแสดง มุมมองทัศนะคติในเรื่องของสังคม บ้านเมือง รวมไปถึงการแสดงออกซึ่งความรักที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และประเทศชาติ โดยทุกครั้งที่มีข่าวความรุนแรงเกิดขึ้นในทางภาคใต้นักแสดงสาวคนนี้จะรีบหาโอกาสเอาของฝากไปให้กำลังใจกับเหล่าทหารกล้าที่นั่นเป็นประจำ
ถ้าจะหานักแสดงที่เกิดมาเพื่อบทคนรับใช้โดยเฉพาะ ชนิดที่เรียกว่า บอร์น ทู บี (BORN TO BE) หนึ่งในนั้นคงจะต้องยกให้กับนักแสดงสาวอย่าง "อุ่นเรือน ราโชติ" หรือที่ ลำดวน บางรักซอย 9" ซึ่งเจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์ผ่านนอตยสาร "สุดสัปดาห์" ว่า..."อาจเพราะด้วยความเด่นของหน้าตา เล่นเรื่องไหนคนก็จำได้ติดตาตลอด จนมีคนติดต่อให้เล่นละครเรื่องแรก หน้าต่างสีชมพู ประตูสีฟ้า เรื่องแรกก็โดนเลยค่ะ ถูกจับไปเป็น ‘ผู้จัดการบ้าน’ (แม่บ้าน) และหลังจากนั้นก็กลายเป็นบทประจำที่เล่นมาตลอด จนรู้สึกเลยว่า ‘ฉันเกิดมาเพื่อสิ่งนี้จริงๆ’ คิดดูสิคะ ขนาดเล่นโฆษณาเกือบทั้งหมด ยังไม่พ้นบทผู้จัดการบ้านเลย" โดยปัจจุบันเจ้าตัวนั้นกำลังมีความสุขอยู่กับสามีหนุ่มและลูกชาย-ลูกสาว "น้องคุณ - น้องอุ่น" และถ้าใครเข้าไปดูที่เฟซบุ๊กของเธอนั้นก็จะพบว่าน้องคุณนั้นมีแววหล่อตั้งแต่เด็กกันเลยทีเดียว
อีกหนึ่งนักแสดงที่เข้าวงการด้วยบทของคนรับใช้โดยตรงก็คือสาว "รุ้ง รุ้งลาวัลย์ โทนะหงษา" กับบทของ "หนูหิ่น" ในภาพยนตร์ "หนูหิ่น เดอะ มูฟวี่" ก่อนที่เธอจะคว้าเอารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติ สุพรรณหงส์ ในปี พ.ศ.2549 จากบทที่ว่าไปครอง และถึงแม้จะเห็นหน้าไปโทนคนใช้เช่นนี้ใครกันจะรู้บ้างว่าสาวรุ้งเคยโดดมานั่งแท่นเป็นบรรณาธิการหนังสือแฟชั่นที่ชื่อว่า "เอลริช" (EL rich) มาแล้ว
ปิดท้ายกันที่สาวใช้ที่มาแรงและกำลังเป็นที่พูดถึงกันมากที่สุดทางโลกออนไลน์ในตอนนี้คงจะต้องยกให้กับนักแสดงสาว "ละม่อม ไข่ตู้ม" จากละคร "ทองเนื้อเก้า" ที่รับบทโดย"เนย รตวรรณ ออมไธสง"
โดยหลังจากออกมาเพียงแค่ 2 ตอนในละครเรื่องที่ว่าเจ้าตัวก็โขมยซีนทั้งตัวละครอย่างลำยอง ทั้งวันเฉลิมไปในทันที มีการนำเอาเรื่องราวของเธอมาเผยแพร่มากมาย ซึ่งปัจจุบันนั้นเจ้าตัวกำลังอยู่ในระหว่างการทำวิทยานิพนธ์ในการศึกษาระดับปริญญาโทด้านการละคร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนกรณีของรถมินิที่ระบุว่าเป็นของเธอนั้น สาวเนยชี้แจงว่าเป็นของเพื่อน โดยนอกจากละครเรื่องนี้แล้วเจ้าตัวยังมีผลงานละครเรื่อง "The Sixth Sense" รวมถึง "เรือนกาหลง" ทางช่อง 7 ซึ่งเมื่อพิจารณาจากความสามารถและบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ของสาวเนยกระทั่งสร้างความนิยมให้เกิดขึ้นได้ชนิดเพียงชั่วข้ามคืนนั้นต้องบอกว่าอนคตของสาวคนนี้น่าจะสดใสทีเดียว