พูดเป็นหนังคนละม้วนมาโดยตลอดตั้งแต่เกิดกรณีการกิ๊กกันระหว่าง “จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ” สามีของ “หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ” กับไฮโซ “น้ำหวาน วรพรรณ พันธ์คงชื่น” ที่ต่างฝ่ายต่างพูดกันไปคนละทิศคนละทาง หลังจากที่เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นปี ความร้อนแรงของเรื่องนี้ก็ค่อยๆ ลดลงไปเพราะจินเป็นฝ่ายยอมรามือกลับไปคืนดีกับหนิง ในขณะที่น้ำหวานออกมาประกาศชัดว่าไม่คิดที่จะเอาจินเป็นผัว เพราะลำพังลูกกับเมียตัวเองยังดูแลไม่ได้ หลังจากนิ่งเงียบมานาน จู่ๆ ก็เกิดกรณีตบกันสนั่นเมืองระหว่าง “แนน ชุมพิชา พัฒนาหิรัญ” น้องสาวของหนิงที่ออกโรงตอบโต้กับน้ำหวานมาโดยตลอดตั้งแต่ที่เกิดเรื่องในช่วงแรกกับ “น้ำหวาน” ที่ฝ่ายหลังหอบใบหน้าฟกช้ำเข้าโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมาพร้อมกับเปิดใจว่าถูก “แนน” และพรรคพวกเกือบ 10 คนเข้ามารุมตบ เปิดฉากศึกสงครามระหว่างฝ่ายหนิงกับไฮโซน้ำหวานรอบที่สองอย่างเป็นทางการ
ในขณะที่ภาพจากกล้องวงจรปิด ณ ที่เกิดเหตุยังไม่ได้ถูกนำมาเผยแพร่ว่าใครกันแน่ที่ผิดหรือถูก สังคมก็ทำได้เพียงพิจารณาคำให้การประกอบกับพฤติกรรมที่ผ่านมาของทั้งสองฝ่าย งานนี้น้ำหวานได้เปรียบเพราะคนส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่ความร้ายกาจของสองศรีพี่น้อง “หนิง - แนน” เพราะแม้น้ำหวานจะมาทีหลังในลักษณะของ “ชั้นรักผัวเขา” แต่ก็แตกต่างจากกรณีน้องชมพูอย่างสิ้นเชิงเพราะน้ำหวานอ้างมาตลอดว่าจินเป็นฝ่ายบอกเธอและใครต่อใครว่าแยกทางกับหนิงมาระยะหนึ่งแล้วแต่ไม่ได้แถลงข่าวเพราะไม่อยากให้คนรู้เยอะ และนั่นก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้น้ำหวานยอมเปิดใจกับหนุ่มพ่อลูกอ่อนคนนี้ในฐานะศึกษาดูใจ
แต่เรื่องก็มาแดงว่าแท้จริงแล้วจินยังไม่ได้เลิกกับหนิงแต่อย่างใด ทั้งสองยังคงคบหา และใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันตามประสาผัวเมีย แต่จากประวัติการร่อนเร่โผไปซบอกสาวๆ เป็นระยะของจินก็ทำให้เห็นว่าที่ผ่านมาเขามีจิตใจโลเลไม่เคยคิดจะหยุดใจไว้ที่หนิงแต่อย่างใด ประกอบกับประวัติของสาวหนิง ที่หลายคนขนานนามเธอว่า “นางร้ายนอกจอ” เพราะเคยช่วยเพื่อนรุมตบกิ๊กแบบถึงอกถึงใจมาแล้วในอดีต พอมาถึงคราวสามีตัวเองหนิงกลับใช้กลยุทธ์นิ่ง แต่ให้น้องสาวสุดที่รัก “แนน” ออกโรงแทน โดยที่เธอนั่งบัญชาการ IG โจมตีและด่าทอน้ำหวานแทน
เมื่อฝ่ายจินมีประวัติเรื่องความเจ้าชู้ ใครต่อใครจึงเทความเชื่อไปทางฝ่ายน้ำหวานที่มี “ตั้ม สมประสงค์ สิงหวนวัฒน์” ช่วยออกมายืนยันว่าได้ยินจินประกาศกลางโต๊ะอาหารว่าเขากับหนิงแยกทางกันอยู่มาสักระยะแล้ว ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าตอนนี้เขาโสดจึงสามารถที่จะเปิดใจคบหาน้ำหวานได้โดยบริสุทธิ์ใจ ประกอบกับทางฝั่งแนน น้องสาวหนิงก็ออกโรงโจมตีน้ำหวานอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน ทั้งในโซเชียลมีเดียและช่องทางอื่นๆ โดยเธอเคยออกมาบอกว่าคนที่เข้าข้างน้ำหวานนั้นได้รับเงินค่าจ้างโพสต์จากน้ำหวานในราคาหัวละ 2,000 บาท ยิ่งทำให้บรรดากองเชียร์กองแช่งทนไม่ไหวที่ถูกดูถูกจึงยิ่งต่อต้านแนนกับหนิงเพิ่มมากขึ้น
ส่วนไฮโซน้ำหวานที่แม้ชื่อจะคล้ายตัวละครที่ตอแ-ล สุดๆ แต่กลับดูมีภาษีดีกว่า แม้จะเป็นฝ่ายที่เข้ามาทำให้ครอบครัวธรรมวัฒนะสั่นคลอน แต่เธอก็ฉลาดพอที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคนแบบจินเธอไม่เคยคิดที่จะเอามาทำผัวอย่างแน่นอน
“กับสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกเหนื่อย ไม่อยากให้เอาครอบครัวมาเกี่ยวข้อง หวานสงสารคุณแม่ตอนที่เป็นข่าวหนักๆ พี่ชายอยู่เมืองนอกกันหมดเลย หวานก็อยู่เมืองนอก คนละทิศคนละทางคุณแม่นั่งเครียดกับข่าวอยู่คนเดียว พอลงเครื่องมาคุณแม่ก็ว่าหวานก่อนเลยทำไมเป็นแบบนี้ หวานก็อธิบายให้แม่ฟัง แม่ก็สั่งห้ามเลยเพราะคนที่ดูแลลูกเมียไม่ได้จะให้มายุ่งกับเราไม่ได้นะ” น้ำหวานยืนยัน
แล้วเรื่องก็เงียบไปนานหลายเดือน ก่อนที่จะมาเป็นข่าวอีกครั้งเมื่อน้ำหวานพาใบหน้าอันบอบช้ำไปรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช โดยเธอเล่าว่าเป็นฝ่ายถูกแนน น้องสาวของหนิงกับพรรคพวกกว่า 10 คนเข้ามารุมทำร้าย โดยที่เธอไม่ได้ตอบโต้อะไรไปแม้แต่นิดเดียว โดยเธอถูกแนนใช้โทรศัพท์มือถือฟาดเข้าที่ใบหน้าเต็มแรงจนกลายเป็นแผลฟกช้ำและบวมเป่งขณะที่เธอกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ น้ำหวานบอกว่าแนนตรงดิ่งเข้ามาต่อว่าเธอและจัดการใช้โทรศัพท์ฟาดเข้ามาที่ใบหน้าของเธอ หลังจากนั้นแนนก็แกล้งทำเป็นล้มลงโดยที่เธอไม่ได้แตะตัวแนนแต่อย่างใด ก่อนที่หนิงจะวิ่งเข้ามาแล้วร้องโวยวายว่าน้ำหวานทำร้ายร่างกายน้องสาวของเธอ
ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์บอกว่าวันนั้น “ชาย อานันท์ทวีป” เจ้าหนี้ของพี่ชายน้ำหวานซึ่งเคยตกเป็นข่าวเกรียวกราวในช่วงต้นปีได้มานั่งเจรจาทวงเงินจากน้ำหวาน ซึ่งชายมีคนกลุ่มหนึ่งมาด้วย ขณะนั้นแนนกำลังคุย Whatsapp กับเพื่อนอยู่บริเวณนั้นเหลือบมาเห็นเหตุการณ์จึงยกโทรศัพท์ขึ้นถ่ายเอาไว้ น้ำหวานหันมาเห็นเข้าพอดีจึงเกิดเหตุการณ์ยื้อแย่งโทรศัพท์กันวุ่นวาย ในขณะที่เกิดการชุลมุนนี้เองที่เป็นเหตุให้ทั้งน้ำหวานและแนนได้รับบาดแผลกันไป ทางด้านแนนมีแผลที่บริเวณแขนเล็กน้อย ส่วนน้ำหวานนั้นถูกโทรศัพท์ฟาดเข้าที่ใบหน้าจนฟกช้ำอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหลังจากเกิดการตะลุมบอนครั้งนี้ หนิงก็วิ่งเข้ามาหาและร้องโวยวายว่าน้ำหวานทำร้ายร่างกายน้องสาวของเธอ
คำบอกเล่านี้สอดคล้องกับคำแถลงข่าวของจินที่ยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดเริ่มต้นจากการที่น้ำหวานกำลังถูกคุณชายทวงเงิน และแนนเข้ามาเห็นพอดีจึงยกโทรศัพท์เพื่อจะถ่ายวิดีโอ แต่น้ำหวานหันมาเห็นเลยเข้ามายื้อแย่ง ซึ่งแนนบอกว่าเธอไม่ได้ยกโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อถ่ายวิดีโอแต่กำลังคุย Whatsapp กับเพื่อนอยู่เท่านั้น
หลังจากนั้นแนนกับหนิงก็ควงกันมาแจ้งความว่าถูกน้ำหวานทำร้ายร่างกาย หลังจากที่น้ำหวานแจ้งความในข้อหาเดียวกันกับแนนไปแล้วในตอนแรก ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุดังกล่าวซึ่งมีคนแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายกันทั้งสองฝ่าย ตำรวจก็ติดต่อขอภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านเพื่อนำมาพิจารณา แต่ทางร้านกลับปฏิเสธไม่ยอมส่งภาพจากกล้องวงจรปิดให้ตำรวจดู
เมื่อเรื่องราวได้รับการบอกเล่าแบบหนังคนละม้วนเช่นนี้ แถมร้านอาหารที่เกิดเหตุซึ่งแหล่งข่าววงในบอกว่าเป็นของเพื่อนชายคนสนิทของน้ำหวานก็ไม่ยอมให้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดเช่นนี้ ก็คงต้องบอกว่ายากที่จะสรุปเรื่องราวที่แท้จริง ถึงอย่างไรการที่เจ้าของร้านเป็นเพื่อนสนิทของน้ำหวานแล้วไม่ยอมให้ตำรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดก็อาจทำให้ใครหลายคนสรุปกันไปได้ว่าเรื่องนี้ใครผิด ใครถูก?!!
.............................................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 208 วันที่28 กันยายน -4 ตุลาคม 2556