น้องสาว “หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ” พร้อมทนายความแจ้งความกลับ “ไฮโซน้ำหวาน” ในข้อหาพยายามชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย ระบุไม่เคยคิดเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี แต่เพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง ด้าน ตร.ประสานผู้จัดการร้านอาหารฮาวีชั่น เพื่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด นำมาประกอบสำนวนคดี
วันนี้ (22 ก.ย.) เมื่อเวลา 18.00 น.ที่ สน.ทองหล่อ น.ส.ชุมพิชา หรือ แนน พัฒนาหิรัญ น้องสาวดารานักแสดงสาวชื่อดัง “หนิง-ปณิตา ธรรมวัฒนะ” พร้อมด้วย นายไพบูลย์ แก้วธรรมมา และนายภู่ไทย กลิ่นจันทร์ ทนายความ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.สิริศักดิ์ อินทร์สิทธิ์ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี น.ส.วรพรรณ พันธุ์คงชื่น หรือไฮโซน้ำหวาน ในข้อหาพยายามชิงทรัพย์และทำร้ายร่างกาย
น.ส.ชุมพิชา กล่าวว่า ที่เดินทางมาในวันนี้เพื่อแจ้งความกลับคู่กรณี เพื่อป้องสิทธิของตัวเอง หลัง น.ส.วรพรรณ ได้มอบอำนาจให้ทนายความแจ้งความตนเองในข้อหาทำร้ายร่างกาย ซึ่งยืนยันว่าเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้เป็นอย่างที่ น.ส.วรพรรณ ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งตนยังไม่ขอพูดในรายละเอียด เพราะเกรงจะส่งผลต่อรูปคดี แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน รวมทั้งไม่ได้ทำร้ายร่างกายอีกฝ่ายอย่างแน่นอน เพราะตนไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน ไม่เคยยุ่ง ไม่เคยเจอกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะไปรุมทำร้ายฝั่งตรงข้ามก่อนทั้งนี้ ไม่หนักใจที่ น.ส.วรพรรณ ขู่ว่าจะนำคลิปจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุออกมาเปิดเผย ซึ่งตนเองก็มีพยานที่สามารถยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้
“ส่วนที่อีกฝ่ายบอกว่าอยู่ดีๆ เราเข้าไปทำร้ายเขาเลยนั้น เชื่อว่าเรื่องนี้ประชาชนที่ติดตามข่าวสารมีวิจารณญาณมองออกว่าอะไรเป็นอะไร ตรงนี้ถ้าคิดว่าถ้าคนอยู่ดีๆ แล้วตรงเข้าไปทำร้ายกัน แสดงว่าคนนั้นคงมีปัญหาอะไรบางอย่าง คนสติดีคงไม่ทำอย่างนั้น ซึ่งหลังเกิดเรื่องมีประชาชนจำนวนมากให้กำลังใจทางอินสตาแกรม โดยส่วนตัวเชื่อว่าความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ใครทำอะไรก็รู้อยู่แก่ใจ จึงอยากให้เอาความจริงมาพูดกันดีกว่า ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีอะไร ตอนแรกคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรด้วยซ้ำ ส่วนข่าวต่างๆ ที่ออกมายืนยันว่าไม่ได้มาจากแนนอย่างแน่นอน” น.ส.ชุมพิชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุใดโทรศัพท์มือถือถึงไปโดนหน้าอีกฝ่าย น.ส.ชุมพิชา กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวนดีกว่า แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนทำร้ายอีกฝ่าย หรือเป็นฝ่ายเริ่มก่อนอย่างแน่นอน ซึ่งตรงนี้มีพยานยืนยันได้
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีหรือไม่ น.ส.ชุมพิชา กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรี โดยส่วนตัวไม่คิดอย่างนั้น ที่มาในวันนี้เพื่อออกมาปกป้องสิทธิของตัวเอง ส่วนทางด้าน น.ส.ปณิตา กับสามี ขณะนี้ทั้งคู่ยังรักกันดี ซึ่งลูกก็กำลังน่ารัก ครอบครัวก็อบอุ่นไม่ได้มีปัญหาอะไร
ด้าน พ.ต.อ.สัมฤทธิ์ เกตุแย้ม พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความไว้แล้ว สำหรับการหาหลักฐานเพิ่มเติมนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำหนังสือขอความร่วมมือกับทางผู้จัดการร้านอาหารฮาวีชั่น เพื่อขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด นำมาประกอบสำนวนคดี
