xs
xsm
sm
md
lg

“พระแจ๊ส” จัดแน่นเทศน์ผับเกย์ ทำใจโดนวิจารณ์ พระตุ๊ดบุกผับเกย์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พระแจ๊ส” เข้าผับเกย์สอนธรรมะ ปลงโดนวิจารณ์ พระตุ๊ดเข้าผับเกย์ เผยชีวิตก่อนบวชและหลังบวช ลั่นจะสึกต่อเมื่อไม่มีพุทธศาสนา วันที่ธรรมะพึ่งไม่ได้ วันที่ไม่มีคนเดินเข้าวัด วันที่หมดศรัทธาในพุทธศาสนา และวันที่ศาสนาตายจากโลกนี้แล้ว

หลังจากที่ “แจ๊ส สรวีย์ นัดที” อดีตมิสทีฟฟานี่ปี 2009 ได้บวชที่วัดเลียบ จังหวัดสงขลา ได้ฉายา “พระมหาวิริโยภิกขุ” จนกลายเป็นข่าวหน้า 1 ไปทั่วประเทศแล้วนั้น ก็ได้เดินทางไปเทศน์ตามโรงเรียน โรงพยาบาล แล้วแต่ญาติโยมจะนิมนต์ จนล่าสุดพระมหาวิริโยภิกขุ หรือที่รู้จักกันดีในนามพระแจ๊ส ก็ได้เดินทางมาเทศน์สอนธรรมะที่ร้าน “จีสตาร์ พาวิลเลี่ยม” ซึ่งเป็นผับเกย์ ให้พนักงานในร้านฟัง

ซึ่งสมัยที่พระแจ๊สยังไม่ได้บวชก็ได้เดินทางมาที่นี่บ่อยๆ เพราะสนิทสนมกับ “หนุ่มจีสตาร์” เจ้าของผับ โดยหนุ่มจีสตาร์ได้เปิดเผยว่า ได้นิมนต์พระแจ๊สมาที่ดังกล่าวเป็นเวลา 1 เดือนแล้ว แต่พระแจ๊สมีกิจนิมนต์เยอะ เดินสายไปเทศน์หลายที่ไม่ว่าง กระทั่งมีกิจนิมนต์มาเทศน์ที่กรุงเทพฯจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เชิญพระแจ๊สมาให้ธรรมะกับพนักงานในร้าน

ทั้งยังเปิดเผยว่า พระแจ๊สเป็นคนที่มีซิกเซ้นส์ตั้งแต่ก่อนบวช และครั้งหนึ่งก็เคยเอาผ้าไตรมาให้ตนร่วมอนุโมทนาบุญและได้ทักว่า ให้ไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่บ้านบ้าง แรกๆ ก็ไม่สนใจแต่พระแจ๊สได้พูดย้ำบ่อยๆ จนเวลาผ่านไปไม่ถึง 20 วัน น้องชายก็โทร.มาบอกว่าพ่อป่วย จึงได้คิดถึงคำพูดของพระแจ๊สและโทร.ไปปรึกษา พระแจ๊สจึงถามว่า รับปากพระพุทธเจ้าได้ไหมว่า จะไปถือศีลที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่งที่วังน้ำเขียวกับพระแจ๊ส 3 วัน หนุ่มจีสตาร์จึงรับปาก และไปปฏิบัติธรรมไม่นานอาการป่วยของพ่อจากที่อยู่ไอ.ซี.ยู.ก็ดีขึ้นตามลำดับ

นอกจากนั้นแล้วหนุ่มจีสตาร์ยังบอกว่า พระแจ๊สศึกษาธรรมะมาหลายปีแล้วก่อนจะบวช ถ้าว่างจากงานก็จะไปถือศีลที่สถานปฏิบัติธรรมที่วังน้ำเขียวทุกครั้ง เป็นแบบนี้มาหลายปีจนคำพูดคำจาและการกระทำคล้ายพระสงฆ์ขึ้นไปทุกวัน ตนจึงได้เอ่ยปากให้พระแจ๊สไปบวชเถอะจะได้ปฏิบัติธรรมสืบทอดศาสนาสืบไป และไม่นานพระก็ขออนุญาตพ่อกับแม่บวชจริงๆ

และการที่ได้เชิญพระแจ๊สมาเทศน์ครั้งนี้ เพราะอยากจะให้พนักงานที่อยู่ในร้านได้ฟังธรรมะ ซึ่งไม่คิดว่าการที่พระมาสถานที่แห่งนี้เป็นสิ่งที่ผิด เพราะตนได้นิมนต์พระมาทำบุญที่นี่เป็นประจำ

หลังจากหนุ่มจีสตาร์ให้สัมภาษณ์เสร็จ พระแจ๊สก็เดินทางมาถึงผับจีสตาร์และได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวก่อนจะขึ้นเทศน์ โดยกล่าวว่าที่มาที่นี่เพราะอยากมาแสดงธรรมะพร้อมกับกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า พรุ่งนี้คงจะเป็นข่าว พระตุ๊ดเข้าผับเกย์ โดยการให้สัมภาษณ์ของพระแจ๊สนั้นล้วนแฝงไปด้วยการเทศน์และสอดแทรกธรรมะไปตลอดจนจบการสัมภาษณ์

“วันนี้มาเทศน์คือจริงๆ แล้วเป็นเรื่องงานหนักอยู่เหมือนกันที่มาเทศน์วันนี้ เพราะไม่รู้ว่าทุกคนคิดอะไรอยู่บ้าง แต่ความคิดคงไม่ต่างกันมาก แต่พอได้ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้วได้รู้ว่าคนเดินไปหาความตาย และที่นี่เป็นที่อโคจร ปฏิเสธไม่ได้ ไม่ต้องดูถูกกันว่าคนนี้ทำถูก คนนี้ทำชั่ว ดูตัวเองไม่ต้องดูคนอื่น เขาทำ (หนุ่มจีสตาร์) เพราะเขาเลี้ยงคนอื่นได้ และพนักงานทุกคนมีเงินส่งให้พ่อแม่ พ่อแม่มีบ้านมีรถใช้ก่อนตายเราทำได้ไหม เขาก็ไม่ได้อยากจะทำหรอก เขาสร้างเพื่อให้ทุกคนได้รู้ว่าบุญเป็นยังไง พ่อเขาไม่สบายบุญยังช่วยเขาไม่ได้เลย ต้องไปปฏิบัติธรรมกี่วัน แต่พ่อเขาสู้ได้ด้วยอัตภาพของตนเอง สู้ด้วยตนเอง พระพุทธเจ้าบอกพึ่งตนพึ่งธรรม”

“ลูกเมียที่นอนกอดกันทุกคืนสวยหล่อสุดท้ายคราวจนไม่มีกิน ผมหงอกผมดำมันก็ไม่เอากันถูกไหม พ่อแม่พอลูกตายร้องเป็นบ้าเป็นหลังอยู่หน้าเชิงตะกอนไม่มีใครสักคนกระโดดขึ้นไปบนเชิงตะกอนมีไหม เคยเห็นไหมใครเคยเห็นบ้างมีใครไหม ลูกตายพ่อแม่กระโดดตายตามในกองไฟ ไม่มีเลยใครใจเด็ดขนาดนั้นไม่มีสักคน สุดท้ายมันมีเหตุและปัจจัยของมันเอง”

“แล้วตัวอาตมาเองมาที่นี้ก็รู้ว่าจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เยอะ เพราะข่าวหน้าหนึ่งพระเยอะมาก อาตมานั่งคุยกับโยมมาส่งก็เผื่อใจไว้แล้วแหละว่า เดี๋ยวก็คงจะมีพาดข่าวหน้าหนึ่งว่าพระตุ๊ดเข้าบาร์เกย์ พระตุ๊ดเข้าบาร์เกย์สยบข่าวเณรคำชะงัก ไม่ใช่ไม่ได้เป็นแบบนั้น เจตนาฉันมาเพื่ออะไรเพื่อทุกคนที่นี่”

“อย่างซานติก้าผับโดนเผาตายวิญญาณอยู่ไหน แล้วฉันมาที่นี่เพื่ออะไร เพื่อให้เจ้าของร้าน พนักงานที่นี่และลูกค้าได้ฟัง ถ้าเธอหนีไม่ได้ต้องทำงานที่นี่ต้องเที่ยวที่นี่ เที่ยวยังไงให้จิตไม่ถอยไปกับกิเลสจิตไม่ไปนรกก่อน ตาหูจมูกลิ้นได้สัมผัสก่อนไปเลย มารู้ตัวอีกทีสายไปซะแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันมาเพื่ออะไร ให้เธอรู้ทันจิตของเธอ แม้เธอเที่ยวเธอเที่ยวยังไงไม่ให้ไปนรก เที่ยวยังไงให้ไกลเปรตเดรัจฉาน”

“วันนี้เราได้เกิดเป็นมนุษย์โชคดีมากทุกคน ทุกคนสามารถหารายได้ต่างกันไป โชคดีเท่าไหร่เกิดมาเป็นมนุษย์ มาเจอพระพุทธเจ้า เกิดมาเจอธรรมะที่แผ่ไปทั่วโลก แม้มีข่าวหน้าหนึ่งด่ากันมาก พระพุทธเจ้าบอกว่าสามสิ่งนี้คือสิ่งที่เกิดได้ยาก แม้แต่ใครจะด่าหรือว่าสำนักสงฆ์นักพุทธหรือใครมาด่าว่ายังไง ฉันก็ไม่สนใจเพราะว่าฉันเป็นลูกของพระพุทธเจ้า คนที่มีอิทธิพลต่อฉันคือพระพุทธเจ้า ฉันบวชมาฉันมีจีวรพระพุทธเจ้า ฉันมีบาตรหนึ่งใบหาเลี้ยงท้องฉัน ฉันขอข้าวเขากินเขาใส่บาตรฉันเพราะอะไรเพราะพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าให้ความเป็นอมตะ จิตเป็นอมตะไม่ใช่กาย ไม่ใช่สาวสองพันปีห้าพันปี ฉันมาเพราะฉันแคร์ในหลวง ก่อนพระพุทธเจ้าฉันแคร์พ่อกับแม่ฉันก่อน แม่อุ้มท้องฉันมา 9 เดือน วันที่ 23 มิ.ย.วันเกิดฉัน ฉันเกิดแม่ฉันตายได้นะ แม่กรีดเลือดอวัยวะเพศให้ฉันออกมา โผล่หัวออกมาลูกรอดแม่ตายก็ได้ แต่สุดท้ายก็รอดทั้งคู่โชคดีไป”

“แม้แต่ในสังคมนี้ใส่เงินมากให้กันก็สวยจังเลย แต่พอวันรุ่งขึ้นก็งุ้งงิ้งๆ และไหนจะเงินทองลาภยศสรรเสริญเสื่อมไหม อาตมาอวยพรวันนี้ขอให้คุณโยมทุกคนนะได้มีลาภยศสุขสรรเสริญและก็เสื่อมทั้งหมด มันเป็นความจริงไหม ขออวยพรด้วยให้ทุกคนตายตามลำดับ ไม่ต้องอวยพรให้อายุยืนสุขภาพแข็งแรงไม่ต้อง เธอไปควบคุมเขาได้เหรอ เธอกินอันนี้นะอันนี้นะ ไม่ต้อง มันตายแน่นอนแต่จะตายยังไงละตายตามลำดับ เด็กวัยรุ่นแก่ทำงานเป็นโรคก็ตายไม่เป็นโรคก็แก่ตาย ยังไงก็ตายแน่นอน พระไปโรงพยาบาลคุณโยมบอกจะตายอยู่แล้ว จะให้พระบอกว่าไม่ตายหรอกจะบ้าเหรอ ไม่ตายหรอก ก็ไม่ตายหลอกไง หลอกว่าไม่ตาย ก็เลยบอกว่าตายๆ อดทนนะ อดทนมีสติแล้วกำหนดลมหายใจตายแล้วไปไหนตั้งสติไว้นะ คิดไว้นะ แค่นี้ง่ายนิดเดียว วันนี้มีแต่คนเอาเงินกันอย่างเดียวไม่มีใครเอาอะไรเลย วันนี้เอาใหม่นะเอาใหม่”

ถึงมาเทศน์ที่ผับก็ไม่หวั่นโดนกระแสวิพากษ์วิจารณ์
“ตีแผ่กันเยอะๆ ในโลกนี้ไม่ได้มีที่เดียว พวกทำงานผับท่องเที่ยวพวกกินเหล้าเมายามีทุกคน แล้วจะทำยังไงเที่ยวยังไงให้มันมีปัญญา ไม่ได้เที่ยวโง่ๆ ก้มหัวก้มตาเที่ยวกันอย่างเดียว ทำงานเหนื่อยจะตายก้มหน้าก้มตาเที่ยวมาเจอกันปิ๊งๆ เสพสุขกัน แล้วจะเสพสุขกันยังไงให้ปลอดภัย ถ้าเธอห้ามความอยากของเธอไม่ได้ตัณหาเนี่ย ถ้าเธอห้ามตัณหาเธอไม่ได้อยากกินเหล้าอยากมีเซ็กซ์กับผู้ชายคนนั้นผู้หญิงคนนี้ ถ้าเธอห้ามไม่ได้เธอจะต้องทำยังไงสติ”

“พอห้ามไม่ได้เสร็จให้มันเริ่มมาที่สติ เธอเริ่มเกรงกลัวละอายน้อยลงๆ พอเริ่มมันก็จะน้อยลงๆ แต่จะให้เลิกสร้างผับมันไม่ใช่ พระพุทธเจ้าบอกแล้วว่ามันเป็นแบบนี้ สิ่งเหล่านี้มันเกิดขึ้นมันอยู่ของมันอยู่แล้ว แต่มันเกิดเพราะอะไร มันเกิดมาเพราะมันเกิดแก่เจ็บตาย เวียนตายเกิดกันยังไง ฉันมาเพื่อจะทำให้เธอรู้ว่าจะทำยังไงให้เธอพ้น ไม่ใช่ให้เธอเผาผับไม่ใช่ พระพุทธเจ้าไม่เคยสอน จุดไฟเลยราดน้ำมันเบนซินเผามันซะเลยไม่ใช่ นี่เป็นโอกาสดี เป็นที่แรกที่ฉันมาผับเพราะฉันไปที่คนแก่คนไม่ตายฉันไปที่อื่นมาหมดแล้ว แต่ทีนี่มาเพราะอะไร มาเพราะให้พวกที่เที่ยวพวกที่เปิดผับได้เข้าใจธรรมะ พระพุทธเจ้าไม่ห้าม คนจนนักการพนันเสพสุรายาเมาท่านไม่ได้ห้ามให้ฟังธรรมะสักคน กษัตริย์ แพศย์ พราหมณ์ ศูทร ท่านไม่ได้ห้ามให้ฟังเทศน์ไม่มีข้อแม้เลย”

“วันก่อนมีโจรจะมาปล้นอาตมาที่กุฏิ อาตมาก็ใจสู้ลองนั่งดูสิ มันก็เดินมาสองคน พระคุณเจ้ามีเรื่องจะคุยด้วย มีอะไรจะคุย สูบบุหรี่หรือเปล่า ถ้าสูบบุหรี่ออกไปข้างนอก บอกไม่สูบก็ได้ทิ้งเขวี้ยงปั๊บ ไล่เรียงความทุกข์ชีวิตให้ฟังเสร็จสรรพ สุดท้ายขอตังค์หน่อยครับพระคุณเจ้า (หัวเราะ) อาตมาเลยบอกว่าโยมฉันมีตังค์ ฉันเก็บตังค์ใต้บาตรนะ ฉันเหลืออยู่ไม่เกิน 320 อยากได้ไหม อยากได้ครับ ดูมันสิ ฉันก็พระคุณเจ้าเมตตา กรุณา มุติทา อุเบกขา ต้องให้ธรรมะไปก่อน เขาจะเข้าใจธรรมะไหมช่างหัวมัน เรามีหน้าที่พูดก็พูดไป”

“เธอนะก่อนเธอจะได้เงินไปมาคุยกับฉันก่อน เงินฉันได้มาจากไหน ได้มาจากญาติโยมฉันขึ้นสวดมนต์งานศพนะ พ่อเขาตายแม่เขาตาย ฉันย้ำแบบนี้เลยนะ วันหนึ่งถ้าพ่อเธอตายแม่เธอตาย มันขึ้นมามองหน้าฉัน ฉันบอกใจเย็นๆ ทุกคนตายหมดอย่างเพิ่งโกรธ วันก่อนพ่อเขาตายเขานิมนต์ฉันให้ไปสวดศพ ฉันได้ซองมาบางคนเป็นครอบครัวคนจนใส่ซองมาร้อยหนึ่ง เขาหาเงินมาด้วยความทุกข์ยากลำบากยากเข็ญของเขา ตากแดดบ้างตากแอร์บ้าง กว่าจะหาเงินมาได้ เพราะเขาเห็นว่าวัดและพระพุทธศาสนาพึ่งได้เอาบุญให้เขาได้ เขาพ้นทุกข์ให้เขาตายแล้วไปเกิดในสวรรค์ชั้นดี เขาฟังแบบนี้ฉันก็เลยบอกเขาเธอพร้อมไหมละ ทุกบาททุกสตางค์เป็นความทุกข์ของเขาเห็นความทุกข์ของเขา ถ้าเธอเอาไปเธอยกความทุกข์ของเขาไป พ่อตายแม่ตายยกหมดเลยนะเอาไหม เอาครับ”

“อาตมาไม่รู้จะเอายังไงละ เออเอาก็เอา แต่ก่อนเอาท่องตามอาตมานะ แล้วนึกตามนะ หากกรรมใดที่ข้าพเจ้ารับผลกรรมนี้จากเงินทุกบาททุกสตางค์จากญาติโยมที่รับเงินจากพระภิกษุสงฆ์องค์นี้มา ที่รับเงินผ่านจากพระภิกษุสงฆ์องค์นี้ไป ข้าพเจ้าได้รับเงินไปข้าพเจ้าขอน้อมรับกรรมทั้งหมด พอกรรมทั้งหมด บอกกรรมทั้งหมด (ทำเสียงค่อย) มันค่อยเสียงนะดูมันสิมันมีปัญญาฉลาดนะ บอกกรรมทั้งหมด มันก็กรรมทั้งหมด (ทำเสียงดังฟังชัด) ก็สะดุ้งเพราะเสียงดังขึ้น ฉันก็เอาอีกมันสู้ฉันก็สู้อีก ให้พ่อฉันแม่ฉันลูกฉันเมียฉันภรรยาฉันและตัวฉันรับกรรมนั้นด้วย มันพ่อแม่ญาติ จนมันพูดจบโยมดูมันสิ ฉันก็เออเอาไปเถอะตังค์ก็เอาให้จนหมด ฉันก็เอาให้จนหมด จนมันเห็นว่าหมด ครั้งหน้าจะได้ไม่ต้องมา”

“แต่ก็มีมาใหม่อีกเมื่อวานซีน คราวนี้ติดยา โอ้โห....ฉันไม่รู้จะทำยังไง บอกโยมวันก่อนอาตมาเพิ่งโดนปล้นไปตำรวจเพิ่งมาเช็คให้แล้วติดกล้องวงจรปิดทั่ววัดแล้ว เลิกปล้นเถอะวัดเลียบเนี่ย เงินทุกบาททุกสตางค์เข้าบัญชีหมดแล้ว แล้วก็จ่ายค่าน้ำค่าไฟหมดแล้ว อาตมามีแค่บาตรและจีวรบริหารท้อง ไม่มีอะไรเลย”

จะเดินสายเทศน์สอนต่อถ้ามีที่ไหนนิมนต์
“ก็ถ้านิมนต์ไปก็จะไป ถ้าไม่นิมนต์จะไปทำไมล่ะ ค่าเครื่องบินแพงจะตายใช่ไหมล่ะ แพงมากไปทำไมนั่งอยู่กับที่ แต่ถ้าเขานิมนต์ก็ไป ถ้าใครอยากเจอฉันไปเจอฉันที่วัด ตอนนี้ทำกุฏิใหม่แล้ว ปลูกต้นไม้แล้ว ให้พักผ่อนเย็นกายเย็นใจ ใครเหนื่อยไปได้เลยวัดเลียบนะ ไม่ต้องเอาเงินไปสักบาทไปแต่ตัว ฉันเลี้ยงเองข้าว ฉันบิณฑบาตรเลี้ยงเธอได้ ข้าวฉันเยอะอยากกินอะไรบอกฉัน ผัดสะตอมีทุกวัน”

เผยอยากบวชมาหลายปีแล้ว ขอพ่อแม่แต่ไม่ได้รับอนุญาต จนกระทั่งท่านอนุญาตดีใจมาก ถือว่าพ่อแม่ยิ่งใหญ่มากเพราะ “พระแจ๊ส” อายุพึ่งจะ 24 ยังหาเงินให้พ่อแม่ได้อีกเยอะ แต่พ่อแม่เสียสละให้เป็นลูกของพระพุทธเจ้า
“ก่อนที่จะบวชพระเตรียมตัวมาแล้วก่อนที่จะบวช 2 ปี เตรียมตัวกันมาตลอดทำบุญจนเขารำคาญที่วัดก็เหมือนกัน อุทิศส่วนบุญให้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้หมดเลย พระให้เขาหมดเลย ขอเชิญบิดามารดาทุกชาติทุภพที่นอนป่วยอยู่หรือปูย่าตายายเจ้านายลูกน้องที่ตายในผับในบาร์ต่างๆ แม้แต่คนที่กินเหล้ากับเราที่นี้ ออกไปตายนึกถึงเขามามาทำบุญ ฉันไม่มีอะไรให้เธอนะฉันมีบุญมาอย่างเดียว”

แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือวันที่อาตมาขอพ่อกับแม่ครั้งที่ 2 ครั้งแรกเคยขอแล้วตอนที่อาตมาอายุ 21 ขอบวชเขาไม่ให้บวช เพราะตอนนั้นเพิ่งได้ตำแหน่งยังเด้งยังสวยอยู่ยังหาเงินได้ก็อย่าเลย แต่วันนั้นทนไม่ไหวแล้ว เพราะปกติจะสวดมนต์ทุกวันแล้วตื่นมาใส่บาตรตอนเช้าทำแบบนี้มาตลอด วันนั้นก็สวดมนต์เจอบทสวดที่ว่าสิ่งนี้สิ่งนี้ต้องมี สิ่งนี้สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไม่มีสิ่งนี้ สิ่งนี้จะไม่มี เพราะอะไร เพราะการดับไปของสิ่งนี้ สิ่งนี้เลยดับไป มีก็ไม่มีเกิดดับเกิดดับ ใจคิดแต่เรื่องนี้อย่างเดียวเลยเกิดดับเกิดดับเลยโทรหาแม่ดีกว่า วัดดวงก็รู้คำตอบอยู่แล้วว่าไม่ได้บวชหรอก ก็เลยโทรไปลองวัดใจตัวเอง ก็ทำเสียงสั่นเครือเหมือนคนจะร้อง แม่บอกใจเย็นๆ นะลูก ขอคุยกับพ่อก่อน”

“โท.กลับมาอีกทีบ่ายโมง กลับมาอีกทีบอกว่าพ่อกับแม่ขออนุโมทนาบุญ โห...พันธนาการที่มันผูกมาตั้งแต่เกิดที่บอกตัวเองมาตั้งแต่เด็กว่าที่ตั้งใจเรียนหนังสือ ใฝ่คว้าเข้าไปเรียนที่ดีๆ ไปหาสังคมที่ดีๆ มีเงินเอาไปไหน ส่งไปให้เขาเก็บรายเดือนพาเขาไปเที่ยวที่เขาอยากไป พาไปขึ้นใบหยกพาไปล่องเรือพญาครุยส์ต่างๆ พาไปเที่ยวเชียงใหม่เหนือจรดใต้พาไปหมดเพื่ออะไรเพื่อเขา ก่อนเขาจะตาย ฉันไม่ต้องการอะไรแล้วเสื้อผ้าแบรนด์เนมฉันไม่ต้องการแล้ว ก่อนเขาจะตาย เพื่อนฉันใช้ไอโฟน 5 ฉันยังใช้โนเกียหมุนตูดอยู่เลย ถ้าท่านไม่ซื้อให้ (หนุ่มจีสตาร์) ฉันก็ไม่ซื้อหรอก แกเห็นกลัวฉันอายคนแกก็ซื้อให้ฉัน ถ้าไม่มีฉันก็ไม่เอาอยู่แล้วเพราะฉันไม่ได้อยากได้อะไรฉันทำเพื่ออะไรเพื่อพ่อกับแม่ฉัน”

“พ่อแม่ฉันยิ่งใหญ่มาก อาตมาอายุ 24 สามารถหาเงินได้อีกเดือนละไม่ต่ำกว่าแสน 20 ปีมีบ้านมีรถมาให้เขาพาเขาไปเที่ยวเล่นต่างประเทศได้เลย แต่เขายอมที่จะว่าไม่ให้เป็นลูกเขาแล้ว ยกลูกตัวเองให้เป็นลูกของพระพุทธเจ้า ตัดขาดความเป็นแม่ลูกกัน แม่กับพ่อต้องมากราบลูกตัวเองไม่มีสิทธิ์แล้วในลูกคนนี้ เพราะเป็นลูกของพระพุทธเจ้าแล้วมีศีล 227 ข้อ เราไม่มีสิทธิ์แตะต้องลูกเราเลย แม้แต่กอดลูกก็ไม่ได้ไม่มีสิทธิ์กอด ได้แต่จับพ่อจะกอดก็ไม่ได้ เขาเสียสละมากโดยการที่ไม่หวังในอนาคตของเขาแล้ว ไม่คาดหวังแล้วตอนนี้ไม่เอาสักบาทไม่เอาเลยให้ลูกมีแค่ตัวเปล่าๆ”

“ฉันเดินออกจากบ้านขายหมด ฉันขายทุกอย่างหมดเลยแล้วยกเงินให้แม่ฉัน ฉันมีทรัพย์สินแค่นี้แหละ แล้วที่เหลือฉันก็เดินเข้าวัดตัวเปล่าๆ ของฉันไป เขาเสียสละโดยไม่เอาอะไรเลยดูสิยิ่งใหญ่ไหม แค่นี้ฉันก็ถือว่าสุดๆ แล้วชีวิตฉัน วันที่เข้าโบสถ์ไม่ซึ้งเท่านี้นะ อันนี้สุดๆ เพราะมันติดใจฉันมานาน 3-4 ปีว่าฉันอยากบวชใจจะขาดอยู่แล้ว ฉันไม่อยากอยู่โลกนี้ ไม่ใช่ว่าฉันอกหักนะ ฉันไม่ได้ผิดหวังในการเงินการงานของฉัน ฉันไม่ได้เป็นอะไร ฉันอยากอยู่ที่ที่ฉันอยากอยู่ เพราะคนสองคนนี้หรอก ฉันกินไข่ต้มกี่เดือน ไข่ต้มราดซีอิ้วไม่อยากกินอะไรไม่อยากได้อะไรให้เขาสองคน แล้วตัวเองอยากไปอยู่วัดบ้าง ทำงานก็อยู่หน้าจอทีวีพูดไปปาวๆ พูดเท็จบ้างจริงบ้าง พอพูดเท็จก็ละอายต่อบาป จนไม่อยากทำงานแล้วฉันทำงานฉันก็ไม่แฮปปี้แล้ว เจ้านายก็เห็นความที่ฉันไม่แฮปปี้ในการทำงานมันมีผลไปหมดทุกอย่าง เพราะอะไรเพราะความอยากมี”

“บางคนอาจจะไปว่าที่ฉันไปออกรายการคนดังนั่งเคลียร์ อ.ยิ่งศักดิ์ ฉันก็พูดไปคนก็ด่าฉัน ฉันก็เครียดแรกๆ ก็ยอมรับความจริงกันหน่อยสิ ทำอะไรกันอยู่ยอมรับความจริงกันหน่อยว่าค้าประเวณีกันอยู่ ฉันมาพูดวันนี้ยอมรับความจริงกันหน่อยคนเกลียดฉันนะ แต่ฉันขอพูดหน่อยพระพุทธเจ้าบอกว่าการค้าประเวณีเป็นบาป เธอขายเลือดขายเนื้อตัวเองเธออย่าอ้างพ่ออ้างแม่สิ แต่คนที่ทำอยู่แล้วมีธรรมะอยู่ด้วย”

“การที่มาเที่ยวผับเปิดผับทำแล้วมีธรรมะอยู่ในใจ ธรรมะยังไงไม่ใช่ให้เธอไปปฏิบัติธรรมไม่ใช่ให้เธอไปโกนหัวเธอค้าประเวณีอยู่ ไม่ใช่ให้เธอหาเวลาว่าง 7 วันต่อเดือนให้เธอไปปฏิบัติธรรมมันไม่ใช่ เธอทำแล้วใจของเธอมันไม่ได้อยู่กับสิ่งที่เธอทำ จิตใจไปอยู่กับกุศลไม่ใช่อกุศล ที่ทำอยู่อย่างเถียงนะว่าไม่ใช่อกุศล พระพุทธเจ้าบอกว่านี่คืออกุศลนี่คือบาปนี่คือเปรตอสูรกายที่อาศัยร่างเราอยู่ แล้วทำยังไงปิดสิจิตอย่าไปจับมันจิตไปจับธรรมะไม่เบียดเบียนไม่อาฆาตต่างๆ มันปิดทุกอย่างได้นั่นเอง”

“ซึ่งพอท่านตัดสินใจให้ฉันบวชเสร็จบวช งานบวชก็บวชเงียบๆ กลองยาวก็ไม่มี แต่ตัวเองก็ชอบกลองยาวอยู่แล้วนะ ตอนแรกอยากให้พวกกะเทยสาวๆ ความคิดลมๆ แล้งๆ นะ ความคิดในที่ต่ำที่ฉันเหยียบไว้ เพราะฉันก็ต้องการตัวเอง ฉันไปอยู่วันนาป่าคงเดือนหนึ่งเต็มๆ ไม่มีใครรู้เลยว่าฉันเป็นใคร พอรายการตีท้ายครัวไก่ มีสุข ไปถ่ายที่วัดเพราะเขาไปเจอรักกันที่นี้ เจอรักแท้ที่นี้ เขาไปถ่ายฉันต้องแอบเลย ฉันออกมาไม่ได้ก้มหน้าก้มตาเดินแล้วแอบเลย ปิดตัวเดือนหนึ่งไม่มีคนรู้จักฉันเลยโกนหัวเอานมออกเรียบร้อย พอไปบวชเสร็จฉันกลัวนักข่าวรู้ก็สั่งห้ามเพื่อนทุกคนอย่าถ่ายขอร้องเลยนะ ฉันบอกแค่ญาติพี่น้องแค่คนสนิท แล้วคนที่มีบุญคุณกับฉันและที่ฉันนึกได้จริงๆ ที่พอจะป้องกันฉันได้”









“พอเข้าโบสถ์แล้วถ้านักข่าวไปจู่โจมขึ้นมาหมดเลย เธอก็รู้อยู่นิสัยของพวกเธอเป็นยังไงบุกอย่างเดียว ไม่ได้บอกว่าไม่ดีแต่มันยังทำไม่ถูก ในทางธรรมะก่อนนะ เพราะเคยมีช่องหนึ่งที่บุกเข้าไปฉันขอบิณฑบาตรความสงบแล้วเธอยังเอากันอีก ฉันบอกว่าเดี๋ยวขอให้ฉันตั้งสติได้ขอความสงบให้พ่อให้แม่ฉันหน่อยเพิ่งบวชได้วันเดียวขอให้บุญพ่อแม่ก่อน สึกก็สึกเดี๋ยวค่อยว่ากัน ค่อยมาถ่ายใหม่ค่อยมาสัมภาษณ์ใหม่แค่นี้ก็ให้ฉันไม่ได้ ฉันขอร้องแค่นี้ แต่โชคดีฉันมีธรรมะของพระพุทธเจ้าสุดท้ายฉันก็กลับมาได้กลับมาได้ บอกตรงๆ เลยถ้าฉันไม่มีธรรมะของพระพุทธเจ้าฉันตกเป็นเหยื่อของพวกเธอแล้ว พวกเธอก็คือเหยี่ยวตัวหนึ่งใครคาบเหยื่อตัวใหญ่ได้คือเยี่ยมมาก”

“โอ้โห..ไม่ใช่บอกไม่ดี มันคือการทำงานเรามาตามคำสั่งนาย นายสั่งไม่ทำแล้วเงินล่ะนักข่าวคนนั้นก็มาคุยกับฉันนั่งคุยไปคุยมา ฉันก็พูดให้เขาฟังขอร้องนะก่อนคุยกันเนี่ยฉันจะพูดด้วยสติ เธอก็จงฟังด้วยสติเธออย่ามาแค่หน้าที่ถ้าเธอไม่มีสติฉันจะไม่พูด เพราะจะไม่เกิดประโยชน์แก่ตัวเธอ เพื่อให้เธอได้สดับรับฟังฉัน พอพูดมาพูดไปธรรมะของฉันเรื่อยๆ เขากราบขอขมาฉันนะ ทั้งที่ฉันกำลังนั่งสวดอยู่บนโต๊ะนะพระผู้ใหญ่นั่งกันอยู่ 4 องค์นะ ฉันขึ้นไปวันนั้นก็คราวบุญของฉันเหลือเกินนะ ขึ้นไปโดยที่ฉันบวชได้แค่วันเดียวเอง ขึ้นไปเสร็จเขาบุกถ่ายเลยนะ โยมแม่เขาตายนะเขามาทำบังสุกุลกันทำไม่ถูกอ่ะ เขากำลังเศร้าโศกเสียใจกันแล้วบุกกันมาโอ้โห...แม่เจ้า ฝากทุกคนเลยอาตมาขอร้องเลย นี่คือความจริงโลกมันเป็นแบบนี้”

ยันไม่รู้สึกเสียดายอะไรที่ได้มาบวช
“ก็มานั่งดูรูปเก่าๆ พ่อก็ถามไม่เสียดายเลยเหรอลูก สวยนะเนี่ยดูรูปเก่าที่บ้านพ่อก็ถาม ถามตรงๆ นะรู้สึกอยากกลับไปไหม เสียดายอะไรไหม ก็บอกว่าหึ....เสียดายทำไมล่ะ วันหนึ่งฉันก็ถามกับตัวเองนะที่บวช วันนั้นที่นั่งสมาธิก่อนขอแม่ วันนี้ฉันอายุ 24 ฉันหารายได้แสนกว่าบาทส่งกลับบ้านได้อีก 10 ปี 20 ปีข้างหน้าฉันแก่เป็นกะเทยแก่หงัก หัวหงอกสิวขึ้น ตาตกโบท็อกซ์ไม่ได้ กระดูกฉันก๊อกแก๊กฉันทำงานไม่ได้ ฉันทำอะไรไม่ได้แล้วปากอ้าๆ พูดไปปาวๆ ไม่ได้แล้ว ถ้าถึงวันนั้นฉันจะหาเงินได้เท่าเดิมไหม แล้วผู้ชายก็เรื่องผู้ชายอีก ถ้าวันหนึ่งฉันมีผู้ชายหล่อๆ ถ้าวันนั้นฉันแก่ใครจะเอาฉัน แม้แต่ฉันยังเลือกคนหล่อเลย ทุกคนเลือกกันหมดเลยก็เลยอยากจะบอกว่าฉันพร้อมเลย 24 ฉันเทกระจาดคว่ำหมดเลย ฉันไม่เอาอะไรเลยฉันเอาตัวเปล่าเลย รถอะไรได้มาฉันขายหมดเลย เริ่มใหม่กับความไม่มี แล้วก็ตายกับความไม่มีนี่แหละ พระพุทธเจ้าเป็นกษัตริย์ยังเทคว่ำออกมาหมดเลย พ่อแม่ก็มีลูกก็มีเป็นแผ่นดินเจ้าเมืองยังไม่เอาเลย แล้วฉันเป็นใครพ่อขับมอเตอร์ไซต์วินแม่เป็นแม่บ้าน ตำแหน่งเหรอก็สามปีที่แล้ว ลาภยศสรรเสริญเหรอ วันนี้ฉันได้ดีก็ชื่นชมฉัน ไปนั่งประนบประน้อมกัน คราวที่ฉันหาเงินได้ชื่นชมฉันดีจังเลย พอฉันทำไม่ได้ล่ะเป็นยังไงล่ะก็ด่าฉัน”

สอนที่มีข่าวพระขึ้นหน้าหนึ่งเป็นเพราะความโง่ของคน
“จริงๆ แล้วข่าวฉันไม่ดูเพราะที่กุฏิไม่มีทีวี อินเตอร์เน็ตก็จะอัพเดทเฉพาะธรรมะ พออัพเดทได้แล้วก็ปิดเลย หนังสือพิมพ์ก็โชคดีได้พระกุฏิข้างๆ พระคุณเจ้าท่านเป็นเด็กใหม่ท่านก็ติดตามข่าวก็อาศัยได้ดูของท่าน ข่าวทุกวันเลยเนอะตั้งแต่กระแสพระมหาวิริโยภิกขุ พระกะเทยบวชยาวมาตลอดนั่นเลย ช่างเขาช่างหัวมันจบง่ายที่สุด เทคว่ำไปเลย แล้วข่าวก็จะคุ้ยพระรูปนี้รูปนั้น พระเชียงใหม่มาหมดเลย มันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้บอกว่าเขาชั่ว แต่พระพุทธเจ้าบอกว่าต่อไปพระพุทธศาสนา พระภิกษุสงฆ์จะเกิดความแตกแยกหาบิณฑบาตรจะหากินยาก แล้วถ้าจะหาความสงบในแผ่นดินนี้ในพระพุทธศาสนาจะหายากมาก และที่สำคัญภิกษุสงฆ์หรือสาวกผู้เดินตามพระพุทธเจ้าจะไม่เชื่อฟังพระพุทธเจ้าเลย พระพุทธเจ้าสอนอะไรจะไม่เชื่อเลย”

“อริยสัจ4 ทุกข์ สมุทัย นิโรจ มรรค ท่องจำกันแต่ไม่เข้าใจประเคนกันมาแค่เงินๆ ใส่ซองหนาขับรถเบนซ์มาหาที่จอดรถให้อย่างดีเลย เด็กหาที่จอดลานวัดให้ที่จอดเบนซ์คุณหญิงคุณนายเช็ดบันไดอย่างดีเลย หรือบางองค์ในโบสถ์เห็นหน้าตาเศร้ามามีทุกข์มาใช่ไหมก็ทำนายทายทักไปนั่งหมอดู บ้าเหรอ พระมาดูหมอดูดวงพระพุทธเจ้าบอกนั่นเป็นเดรัจฉานวิชา ไม่มีสิทธิ์พระมีสิทธิ์อะไร สิทธิ์ที่จะสอนคนให้คนพ้นทุกข์ไม่ใช่ไปหาทุกข์มากกว่าเดิม คุณต้องเข้าใจเจ็บตายเกิดเป็นยังไง ไม่ใช่ไปอยากได้โน่นอยากได้นี่ก็จะตายกันอยู่แล้ว พอพูดกันไปนโน่นนี่ไม่พ้นหรอก เลิกสามีอายุ 35 การศึกษาดีจะมีรักแรกพบ ช่วงอายุ 30 จะผิดหวังเรื่องการทำงานจะโดนเจ้านายไล่ออก ช่วง 40 ลูกผัวตายเมียตาย นี่ไง พอ 50 ลูกทิ้ง มันเป็นแบบนี้เดาได้ง่ายมาก เดาถูกก็จ๊ะจ๋ากันไปเดาผิดก็โดนเตะแน่”

“พอพูดไปพูดมา เอ้านะโยมหน้าวัดมีสังฆทานมีปล่อยปลาและก็มีดอกพวงมาลัยซื้อพวงมาลัยพวงนี้หน้าวัดร้านนี้ ถวายไฟ 8 ดวง 7 ดวง ตามอายุวันเกิดก็มันเป็นแบบนี้มันเลยมีข่าวเกิดขึ้น เราโง่เอง อาตมาก็โง่ โง่หมด พระพุทธเจ้าบอกทำยังไงให้ฉลาดเป็นมนุษย์ผู้ประเสริฐ ใครประเสริฐกายสุจริตใจสุจริตสุจริตกันไหม มันวัดกันที่ความคิดแล้วแหละใครอกุศลใครด่าฉันตาลงตาเหล่บ้างด่าไปเถอะนั่นแหละอกุศลเกิดแล้ว เธอไม่ต้องถวายสังฆทานไม่ต้องทำบุญไม่ต้องสร้างอุโบสถ แล้วเธอจะไม่โง่โดนเขาเอาไปกี่ล้านล่ะ พอเธอทุกข์เธอก็โทษคนอื่นเธอไม่เคยโทษตัวเอง ไม่เคยหยุดอยู่กับที่แล้วมองตัวเองว่าเรามาจากตรงไหน ทำไมตกงาน ทำไมสามีเลิก ทำไมยังไงเธอไปหาที่พึ่งผิดๆ”

“เชื่อเทวดาฟ้าดินศักดิ์สิทธิ์และไปเชื่อว่าพระศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่ฉันเธอก็ไม่ต้องเชื่อว่าฉันศักดิ์สิทธิ์ว่าฉันดี ลับหลังก็อาจจะสลัดจีวรแล้วอวิวสวายก็ได้ ไม่ต้องเชื่อฉันแต่เชื่อในปัจจุบันอยู่กับปัจจุบัน เราวัดกันที่ปัจจุบันเท่านั้น เราจะได้ไม่ต้องโดนหลอก เพราะฉะนั้นเลิกเป็นคนมาเป็นมนุษย์กันนะ เป็นมนุษย์เป็นได้ถ้าใจสูงเหมือนหนึ่งยุง”

มีกำหนดสึกเมื่อไม่มีพุทธศาสนา วันที่ธรรมะพึ่งไม่ได้ วันที่ไม่มีคนเดินเข้าวัด วันที่หมดศรัทธาในพุทธศาสนา และวันที่ศาสนาตายจากโลกนี้แล้ว
“สึกนะ กำหนดนะตอนแรกจะไม่สึก ไม่เอาแล้วไม่อยากสึกอยากบวชจนตาย ตั้งแต่บวชโยมมาหากันทุกวัน ท่านจะสึกไหมค่ะ อย่าสึกนะเจ้าค่ะ อยู่ต่อนะเจ้าคะอยู่ให้ธรรมะแก่พวกเราต่อนะเจ้าคะอยู่เป็นลมหายใจศาสนากันต่อไป พูดอยู่นั่นแหละรำคาญแล้ว สึกตั้งใจฟัง สึกวันที่ 1 ไม่มีพุทธศาสนา 2 วันที่ธรรมะพึ่งไม่ได้แล้ว 3 วันที่คนเหล่านี้ไม่เดินเข้าวัด 4 วันที่ฉันหมดศรัทธาในพระพุทธศาสนาแล้ว 5 วันที่ศาสนาตายจากโลกนี้ไป เพราะฉะนั้นศาสนากับฉันใครตายก่อน”

“ทุกวันนี้ฉันภาวนาความตายขอให้ตี 3 ฉันไม่ต้องตื่นแล้วเซ็งสุดๆ นอนในกุฏิทั้งวันอุตส่าห์ทำงานเหนื่อยนะ ศึกษาอ่านหนังสือตำรับตำราเสร็จก็หาอะไรทำ ทำงานดูสิดำเลยเนี่ย ทำโน่นทำนี่ให้เหนื่อยแล้วหลับไปเลยให้สนิทไปเลย ตี 3 ตื่นมาเซ็งสุดๆ เลยตื่นมาทำไมเนี่ย ตื่นมาลืมตาตาหูจมูกลิ้นกายใจไอ้ประสาททั้ง 5 - 6 ตัวนี่ ฉันผิดเธอไม่ผิดฉันมองเห็นเธอ เธอด่าเธอนินทาว่าฉันเธอด่าฉัน ฉันมองเห็นเธอสวยเธอหล่อก็เกิดกิเลสตัณหาแก่ฉัน ฉันกินอันนี้อร่อยไม่อร่อยฉันก็ด่าแม่ค้าไง ฉันสัมผัสอันนี้ร้อนหนาวได้ที่โอเคดี แต่พอวันไหนฝนตกก็ด่าฟ้าด่าฝนพอ วันไหนร้อนก็เอ้ยห่ากิน หืม...ทำไมร้อนได้ขนาดนี้เป็นแบบนี้”

“ฉันไม่อยากจะมาสร้างบ่วงทุกข์ให้กับฉันเอง ฉันอยากตัดตรงนั้นแต่ฉันก็ยังไม่ตายสักทีเซ็งมากเลย ถ้าฉันตายช่วยเขียนข่าวให้ฉันหน่อยนะ ฉันดีใจมากเลย ฉันฝากตรงนี้ไว้เลยนะ ไหนๆ พูดฉันเขียนหนังสือของฉันไว้แล้วว่าถ้าฉันตายไปอย่าเสียใจ เพราะฉันสมหวังความปรารถนาของฉันแล้วมันจะได้จบทุกอย่างไป ไม่ใช่เพราะฉันมีปัญหาชีวิตไม่ใช่เพราะพ่อแม่ไม่รัก แต่เพราะฉันเหนื่อยมาก ตื่นมาไม่เหนื่อยกันเหรอ ใครไม่เหนื่อยบ้าง ถ่ายกันแล้วตัดดีๆ นะ ถ่ายกันนะอย่าตัดให้เพี้ยนนะ ถ้าไม่เหนื่อยลองตื่นเช้ามาดูสิ ไม่แปรงฟัน เน่าไหม ตื่นมาไม่ล้างหน้าสิใครจะมองเธอจ๊ะ ลองไม่ทาลิปสติกสิ ไม่กรีดอายไลน์เนอร์สิลองไม่สระผมสิ คิดแค่นี้ก่อนนะ ตัวเน่าสิผมเป็นสังกะตังมาใครจะมอง โดนเพื่อนด่าอีกว่าเนี่ยบ้า มันไม่พอดีสักอย่างหนึ่ง นี่ไงที่เขาเรียกว่าตัวทุกข์ เราต้องเข้าใจจริง วันก่อนเธอรักฉันมาวันนี้ไม่เหมือนเดิมก็คือทุกข์”

ต่อข้อซักถามยังรักสวยรักงามอยู่หรือเปล่า เผยว่า
“ก็ยังมีแอบส่องกระจกอยู่บ้างนะ อ้าว....สิวขึ้น โอ้....สิวไม่เป็นไร เมื่อก่อนใช้ครีมเยอะแยะมากมาย พอไปอยู่วัดอาบน้ำบาดาลแพ้น้ำบาดาลสิวขึ้นเต็มหน้าเลย หยุดใช้หมดทุกอย่างดูสิไม่สิวก็ฉันเนี่ยแหละตายก่อนกัน ไม่สิวหายก็วัดดวงกัน (ไม่ได้เป็นอุปสรรคอะไร?) ปากอย่างเดียวปากดีอย่างเดียว ใช้ปากอย่างเดียวเลย ทุกวันนี้ฉันนำโยมนั่งสมาธินะ โยมไม่ตำหนิเรื่องสิวฉันสักคำ โยมถามธรรมะอย่างเดียว ตายแล้วไปไหน สามีดิฉันเป็นกรรมไหมค่ะ ฉันไปเอาของเขามา คือมันใช้ธรรมะอย่างเดียวเลย พระพุทธเจ้าเก่งฉันไม่เก่ง พอพูดถึงพระพุทธเจ้าเซ็งเลย เมื่อก่อนฉันก็เซ็งเหมือนคุณนั่นแหละ นิพานเป็นไปไม่ได้ให้ตายก่อนแล้วถึงจะเข้าถึงได้ เข้าถึงยากมาก ตายแล้วนิมนต์มาสวด 7 วัน 9 วัน ร้อยวัน ใช้ผ้าบังสุกุลอย่างดี ใช้มาลามาลัยอย่างดีเลย พระพุทธเจ้าสอนให้อยู่กับปัจจุบัน”

เผยถึงความรู้สึกที่มีข่าวพระตุ๊ดแต๋วออกมาเยอะ
“พระตุ๊ดแต๋วเหรอ แล้วตุ๊ดแต๋วไม่มีความทุกข์เหรอจ๊ะ ฉันเคยเป็นตุ๊ดมานะจ๊ะ ฉันก็ทุกข์เหมือนกัน ฉันก็มีพ่อมีแม่ฉันต้องเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ทุกข์หมด เป็นกะเทยทุกข์จะตายไม่แต่งหน้าสิเพื่อนด่า ทำอะไรไม่พอดีสักอย่างหนึ่ง แล้วตุ๊ดไม่มีสิทธิ์บวชกันเหรอ ฉันถึงบอกถ้าเกิดเป็นตุ๊ดเป็นกะเทยอย่างเพิ่งแปลงเพศลูก ฉันวางอนาคตไว้ฉันถึงไม่แปลงเพราะฉันจะบวชสักตอน 30 หรือ 40 อย่าเพิ่งตัดใดๆ ทั้งสิ้น อยากทำอะไรเธอทำเลย เธอแต่งหญิงให้เต็มที่เลย ถ้าเธอคิดว่าเธอทำแล้วมีความสุขเธอทำ เธอชอบผู้ชายคนไหน เธอบอกรักเขาไปเลยให้เต็มที่ แล้วคนมันจะขึ้นสุดๆ พอคนมันจะขึ้นอย่าไปห้ามมันนะ มันเป็นกะเทยบอกมันอย่าไปใส่ส้นสูงตบเลยนะ ไม่ได้ เพราะยิ่งห้ามมันยิ่งขึ้น อยากกินกินให้สุดๆ เลยให้เป็นมะเร็งเลยสุดๆ พอมันเห็นมันจะวางได้ไง แม้แต่ขึ้นสุดมันจะวางได้แล้วมันจะบอกไม่เอาแล้ว”

“เขาก็เหมือนกันเขาก็ไปบวชเพราะอะไร เพราะว่าเขาอยากเอาบุญให้พ่อแม่ อยากศึกษาธรรมะ เราไม่รู้หรอกว่าเขาทำจริงไม่จริงแต่เรื่องของเขา แต่ธรรมะเหมือนเป็นลู่วิ่งโอลิมปิกวิ่งกันตั้งแต่กีฬาจังหวัด ไปกีฬาประเทศ กีฬาประเทศไปไหน ไปเอเชียน เอเชียนไปไหนโอลิมปิก โอลิมปิกไปไหนกีฬาโลก ลู่วิ่งมันเริ่มใหญ่ขึ้นๆ ตามธรรมะที่เธอรู้ธรรมะก็เหมือนเป็นลู่วิ่งให้เธอวิ่งไป เธอวิ่งไปไหนไม่ใช่เธอวิ่งถอยหลังไม่ใช่ ให้เธอวิ่งไปดูหน้าเพื่อน เธอวิ่งถึงเส้นชัยของเธอนั่นแหละธรรมะ กะเทยก็เหมือนกันไปบวชศึกษาธรรมะแล้วเอาให้ถึง เมื่อบรรลุธรรมเจอธรรมะที่แท้จริงพระพุทธเจ้าสอนอะไรพูดอะไรกับใคร สอนอะไรเธอเอามา พ่อยังติดเหล้าอยู่เธอเอาธรรมะไปบอกพ่อเธอพูดซ้ำๆ ทุกวัน วันหนึ่งเขารำคาญเขาก็บอกเออเข้าใจ แค่นี้ ผู้หญิงผู้ชายกะเทยได้หมด แต่เธอห้ามกันเอง กากบาทตัวใหญ่เลยห้ามกะเทยบวช แล้วตอนนี้ฉันเลิกเป็นกะเทยแล้ว ก็เลิกเป็นแล้ว อดีตของเขาอย่าไปดูสิ เราก็อยู่กับปัจจุบันสิ อย่าไปอยู่กับอดีตไปอยู่กับอดีตตายสิ อดีตฉันเคยผ่านผู้ชายมากี่คนนั่นแหละ อดีตของเธอ อดีตที่ไม่ดีเธอจะไปจำทำไม ปัจจุบันสิ ตอนนี้สิ เมื่อปัจจุบันดีอนาคตก็จะดี”

พร้อมฝากคนที่ยังคอยโจมตีว่า
“โจมเลย โจมเยอะๆ โจมเข้ามา ขีปนาวุธมีไหมเขวี้ยงใส่ฉันเลย เอากันมาเยอะๆ ปาขี้ใส่ฉันเลย มาปาหน้าฉัน เกลียดฉันมาซึ่งหน้าเลย อย่าไปในเน็ต อย่ามือดีปากดีในเน็ต ในนั้นฉันหาตัวไม่ได้ ฉันจะได้หาถูกตัวไง นี่พอเขียนเสร็จหายหมด มันไม่กลับมาดูคอมเม้นท์กันเลย ไอ้โง่ที่นั่งคอมเม้นท์ด่าโน่นนี่เถียงกันเองตกลงคนเขี่ยขี้มีคนเดียวแล้วคนมาตีกันเป็นร้อยเป็นพันแผ่นดินถึงไม่เจริญ แผ่นดินไม่ได้ไม่เจริญ คนเนี่ยมันถึงหาความเจริญไม่ได้ ทะเลาะกันอยู่แบบนี้ ปากดีมือดีแต่นักเลงคีย์บอร์ดกันนะ มาสิมาซึ่งหน้าสิแบบนี้เจอกันซึ่ง
หน้าแล้วเราจะได้เข้าใจว่า เธอต้องการเจตนาอะไรฉัน ฉันต้องการอะไรให้เธอ ฉันก็ยกให้เธอหมดแล้ว แบบนี้ง่ายกว่าอีกไหม ง่ายกว่าใครจะต่อว่าฉันยังไงก็ปล่อยเขาไป ฉันบอกแล้วว่าฉันแคร์ใคร พ่อแม่ พระพุทธเจ้าเพราะพระพุทธเจ้าให้ข้าวฉันกินจีวรห่มคลายร้อนคลายหนาวก็มาจากพระพุทธเจ้า ศีลก็ของพระพุทธเจ้า แผ่นดินฉันมีอยู่ฉันแคร์ใครฉันแคร์ในหลวงแคร์ราชินีสิ แคร์สมเด็จพระนเรศวรสิที่กู้แผ่นดินนี้มาได้ แคร์ปัจจุบันด้วยในหลวง”

“และฉันก็แคร์คนสำคัญของฉันให้ข้าวให้เงินฉันกิน แม้แต่ฉันบวชก็ยังจะเอาน้องฉันไปทำงาน(หนุ่มจีสตาร์) จะให้เงินแก่น้องฉัน น้องฉันไม่ทำก็จะให้ทำ จะให้เงินเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ฉัน เพราะเขารู้ว่าบ้านฉัน ฉันเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ฉัน และพวกเธอไง(สื่อมวลชน) พวกเธอคือใคร พวกกัลยาณมิตรของฉัน ฉันเคยว่าใครเคยดูถูกใครเอาไว้ฉันก็ต้องขอโทษด้วย ฉันมีทุกวันนี้ได้เพราะอะไรเพราะพวกเธอ”

“ฉันมีคำถามสุดท้ายตรงนี้ถามว่า เวทีนางงามการประกวดนะ จำคำถามนี้ไว้เลยลูก บุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตของคุณตอนนี้ซึ่งหน้า ใช้คำว่าซึ่งหน้าตอนนี้คือใคร ก็ตอบไปเลยว่า คนที่อยู่ตรงหน้านี่แหละ อยู่ตรงหน้านี่แหละสำคัญ ถ้าเธอไม่สำคัญฉันจะพูดกับเธอรู้เรื่องไหม ถ้าฉันไม่สำคัญกับเธอ เธอจะมาฟังฉันไหม เธอจะคุยกับฉันไหม เธอจะมีคำถามถามตอบกับฉันไหม เธอจะใส่ใจกับตัวฉันไหม ไม่งั้นเธอก็ต้องกลายเป็นอาการธาตุ ล่องลอยกันไปไม่ให้ความสำคัญกัน เพราะฉะนั้นพึงให้ความสำคัญแก่คนซึ่งหน้าเท่านั้นแหละ และความสันติสุขจะเกิด”






หนุ่ม จีสตาร์ เจ้าของผับ จีสตาร์พาวิลเลี่ยน เผยถึงเหตุนิมนต์พระแจ๊สเข้าผับเกย์

นั่งฟัง พระแจ๊ส เทศน์อย่างตั้งใจ

กำลังโหลดความคิดเห็น