xs
xsm
sm
md
lg

ย้อนรอย “กิตติรัตน์” โกหกขาวขุ่น พลิกลิ้น-ไร้สปิริต จำนำข้าวเจ๊งไม่รับผิดชอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“โต้งท้าลาออก” ข่าวหน้าหนึ่ง นสพ.โพสต์ทูเดย์ 3 ต.ค. 2554
2 ปี 8 เดือน โกหกขาวขุ่น ไร้สปิริตชัด “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” เคยพูดเสียงแข็ง หากรัฐบาลทำโครงการจำนำข้าวเจ๊งมากกว่า 6 หมื่นล้าน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็คงอยู่ไม่ได้ ในฐานะรองนายกฯ จะต้องรับผิดชอบ วันนี้กลับพลิกลิ้น ไม่เคยพูดว่าจะลาออก แถมท้าถ้าพูดจริงต้องมีคลิปชี้แจงแล้ว

วันนี้ (7 มิ.ย.) เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ ได้นำเสนอกรณีที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า “ไม่เคยพูดว่าจะลาออกจากตำแหน่งหากโครงการจำนำข้าวขาดทุนเกิน 6 หมื่นล้านบาท เพราะหากพูดจริงก็คงต้องมีหลักฐานหรือคลิปมาชี้แจงแล้ว ไม่ใช่แค่ข่าวลือว่าพูดเท่านั้น” โดยระบุว่า คำพูดเรื่องการลาออกของนายกิตติรัตน์นั้น เจ้าตัวได้มีการให้สัมภาษณ์ในลักษณะดังกล่าวไว้ ในสมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ แม้จะไม่ได้เอ่ยคำว่าลาออกออกมา แต่ก็กล่าวไว้อย่างชัดเจนถึงการรับผิดชอบในกรณีที่โครงการรับจำนำข้าวทำให้รัฐเสียหาย

โดยข่าวหน้าหนึ่งของ นสพ.โพสต์ทูเดย์ ฉบับประจำวันที่ 3 ต.ค. 2554 ได้นำเสนอข่าว ระบุว่า นายกิตติรัตน์ ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ถ้ารัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ทำให้รัฐเสียหายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่รัฐบาลชุดก่อนใช้ชดเชยในระบบประกันรายได้เกษตรกร รัฐบาลพรรคเพื่อไทยคงอยู่ไม่ได้ ไม่ต้องตั้งคำถามเลยว่า ในฐานะรองนายกฯ เศรษฐกิจจะรับผิดชอบอย่างไร

“ถ้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาล 2554/2555 ที่จะเริ่มรับจำนำวันที่ 7 ต.ค.รัฐบาลสามารถรับจำนำแล้ว ขาดทุนน้อยกว่า 6 หมื่นล้านบาท และยังทำให้เกษตรกรขายข้าวเปลือกเจ้าได้ราคาตันละ 1.5 หมื่นบาท ข้าวหอมมะลิตันละ 2 หมื่นบาท ต้องถือว่ารัฐบาลสอบผ่าน”

ต่อมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมากล่าวถึงการให้สัมภาษณ์ของนายกิตติรัตน์ ซึ่งโพสต์ทูเดย์ได้นำเสนอเป็นข่าวหน้า 1 ในหนังสือพิมพ์ฉบับวันที่ 4 ต.ค.เช่นเดียวกัน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ความจริงตัวเลขการขาดทุนจริงจะไปเกิดหลังจากที่มีการรับจำนำแล้ว และระบายข้าวออกต้องใช้เวลาเป็นปี แต่ขอบอกว่าเฉพาะค่าบริหารจัดการเท่าที่ประเมินก็เป็นหลักหมื่นล้านบาท และเป็นเงินที่ไม่ถึงมือเกษตรกร แต่เงินประกันรายได้ทุกบาททุกสตางค์ตกถึงมือเกษตรกร”

“ต้องติดตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลจะอุดช่องโหว่แก้จุดอ่อนที่ถูกวิจารณ์มาโดยตลอดได้หรือไม่ แต่รอบนี้อาจจะเบาลง เพราะขณะนี้รัฐบาลเปิดโอกาสให้เกษตรกรใช้สิทธิรับเงินส่วนต่างได้ และจะเห็นการลดแรงกดดันในแง่ปริมาณ เพราะข้าวที่ไปจำนำมีไม่มาก แต่ปัญหาพื้นฐานยังมี อีกทั้งในต่างประเทศก็กำลังจับตาโครงการนี้ และที่ผ่านมาได้ยินว่าอาจถูกเรียกให้ไปชี้แจง เพราะขัดต่อหลักองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) และมีผลต่อการแข่งขันระหว่างประเทศ เพราะประเทศที่นำเข้าข้าวจะดูว่าราคาส่งออกจะกระทบหรือไม่”

อีกด้านหนึ่ง ทีมข่าวการเมือง ASTV ผู้จัดการออนไลน์ ได้เคยนำเสนอข่าว โดยผู้สื่อข่าวถามว่ายืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวนี้จะไม่ขาดทุน รองนายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีทาง ผมไม่แน่ใจว่าท่านที่วิจารณ์อย่างชนิดที่ท่านก็รู้หรือเปล่าว่าไม่ใช่ จะใช้งบประมาณ 4 แสนล้านบาทคงไม่ใช่ เพราะ 4 แสนล้านบาท เป็นกรณีที่ผู้ที่อยู่ในระบบตลาดทั้งหลายไม่เชื่อมั่น ซึ่งไม่สบายใจไม่เป็นไร แต่รัฐบาลจะดูแล รัฐบาลสามารถขายข้าวในราคารับจำนำก็แล้วกัน”

ต่อข้อถามว่าเรื่องข้าวจะไม่ทำเสถียรภาพของรัฐบาลสั่นคลอนใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ ตนยืนยันว่าเรื่องข้าวจะเป็นเรื่องที่ทำให้เรามีความภูมิใจร่วมกัน ถ้านักวิชาการคิดถูกเหลือเกิน จะให้รัฐบาลปล่อยกลไก ถ้าเป็นอย่างนั้นตนจะเป็นรัฐบาลทำไม

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 2554 ข่าวเที่ยง ของสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเชีย อัพเดท กระบอกเสียงของกลุ่มคนเสื้อแดง และรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เคยนำเสนอข่าวนายกิตติรัตน์ แสดงความมั่นใจว่าโครงการรับจำนำข้าว ใช้เงินน้อยกว่าโครงการประกันราคาข้าวของรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า “หากรัฐบาลทำโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ทำให้รัฐเสียหายมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นงบที่รัฐบาลชุดก่อนใช้ชดเชย ในระบบประกันรายได้เกษตรกร รัฐบาลพรรคเพื่อไทยก็คงอยู่ไม่ได้ ซึ่งในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ จะต้องแสดงความรับผิดชอบ”



อ่านประกอบ : “กิตติรัตน์” เมิน “มาร์ค” จี้ประกันรายได้ช่วยน้ำท่วม โต้ “อุ๋ย” จำนำข้าวไม่มีเจ๊ง
กิตติรัตน์ ณ ระนอง (ภาพจากแฟ้ม)

กำลังโหลดความคิดเห็น