xs
xsm
sm
md
lg

“เสี่ยอู๊ด” โผล่อัดรายการทีวีย้ำไม่ใช่นักโทษ สุดเสียใจ “คู่กรณี” ไม่เหลียวแล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“เสี่ยอู๊ด” เปิดใจผ่าน “วู้ดดี้เกิดมาคุย” ลั่นไม่ใช่นักโทษเป็นแค่ผู้ต้องขัง พ้อไม่เชื่อเรื่องบุญกุศลแล้ว เพราะไม่เช่นนั้นตนคงไม่เข้าคุก เจ้าตัวปัดทุกข่าวลือเป็นแฟน “พาวเวอร์แพท”, มีแฟนผู้คุม, นอนตึกช้างฯ รับจิตตกคิดฆ่าตัวตาย เผยดารา-นักร้องค่ายแถวลาดพร้าวไปเยี่ยมหลายคน แต่สุดเสียใจ “คู่กรณี” ไม่เหลียวแล ก่อนย้ำไม่คิดจากวงการพระเครื่อง

พ้นโทษออกมาจากเรือนจำตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ผ่านมา ล่าสุดทางฟากของ “สิทธิกร บุญฉิม” หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันดีในชื่อของ “เสี่ยอู๊ด” ก็ได้ไปเปิดใจผ่านรายการ “วู้ดดี้เกิดมาคุย” เทปที่จะออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายนนี้ ถึงความรู้สึกหลังต้องเข้าไปรับใช้ความผิดในคดีหลอกลวงประชาชนเช่า “พระสมเด็จเหนือหัว” เป็นเวลานานกว่า 5 ปีด้วยกัน

ทั้งนี้ในช่วงที่บันทึกเทปรายการนั้น มีรายงานว่าทางฟากของอดีตเสี่ยคนดังมีอาการกัดลิ้น ดมยาดม และหลับตาก่อนที่จะตอบของผู้ดำเนินรายการ “วู้ดดี้ วุฒิธร” อยู่ตลอดเวลา โดยเจ้าตัวได้เผยถึงตั้งแต่วินาทีที่โดนจับว่า...“วินาทีที่โดนคุมตัวที่สนามบินกำลังพาลูกน้องไปญี่ปุ่นเที่ยวประจำปี เช็กอินแล้วกำลังนั่งทานอาหารอยู่ มีเจ้าหน้าที่จาก DSI มาแสดงหมายศาลแล้วจับตัวไป ตอนแรกผมตกใจที่มากันเยอะมาก แต่ไม่ได้เครียดอยากพาไปตรงไหนผมก็ไปผมไม่คิดหนี ตอนผมเข้าคุกผมก็เดินเข้าไปเลยไม่ได้ใช้สูตรเข้าคุกโดยเดินหันหลังเข้าตามที่เขาพูดกัน”

ลั่นไม่ใช่นักโทษเป็นแค่ผู้ต้องขัง ก่อนบอกทุกโครงการที่ตัวเองทำเกิดเรื่องขึ้นทุกครั้ง มีทั้งที่เป็นคดีความและไม่เป็นคดีความ แต่กับเรื่องนี้ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นหนุมานที่ต้องแบกกรุงลงกาไว้คนเดียว...“ผมมีความรับผิดชอบ รับทุกอย่างรับทุกการตัดสินของศาล ศาลท่านใช้ดุลพินิจตัดสินตามตัวบทกฎหมาย คดีความมาจากกระบวนการยุติธรรมเป็นขั้นตอนตัดสินตามคำขอของโจทก์ จะผิดจะถูกไม่ได้มอง ผมทำสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ให้นำผลกระทบไปกับผู้อื่นที่ผมเคารพรัก”

“และในวันที่กำลังเดินเพื่อเข้าเรือนจำ ผมได้เขียนจดหมายตัดพ้อขณะฝนตกถึงผู้ที่ผมเคารพรักว่า ผมไม่เชื่อว่าบุญกุศลมีจริง ถ้าบุญมีจริงวันนี้ผมต้องไม่เข้าคุก แล้วเหตุใดวันที่ผมต้องเข้าสถานที่แห่งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้าม ไม่ได้คิดแย่เรื่องการเข้าเรือนจำ แต่น้อยใจผลที่ได้รับ ทำไมสวนทางกับอดีตที่ทำมาทั้งหมด ไม่เคยนับว่าทำบุญมาเท่าไหร่แต่รวมแล้วพันกว่าล้าน”

เผยบรรยากาศในเรือนจำเหมือนโรงเรียนกินนอนโรงเรียนประจำ ผู้คุมเหมือนกับ ครู หมอ ยาม ญาติ และที่ปรึกษา สภาพไม่ได้เลวร้ายเหมือนในหนัง พร้อมกันนี้เจ้าตัวยังได้ปฏิเสธถึงข่าวลือต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องที่เป็นแฟนกับอดีตนักร้อง “พาวเวอร์แพท” โดยยืนยันไม่เคยรู้จักกันและอยู่คนละเรือนจำ, เรื่องที่ตนเองมีแฟนเป็นผู้คุม รวมถึงเรื่องที่ว่ากันว่าเจ้าตัวไม่ได้อยู่ในเรือนจำหากแต่อาศัยอยู่ที่ตึกช้างแทน ว่าทุกอย่างไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้เจ้าตัวก็ยอมรับว่ารู้สึกจิตตก คิดทุกวันทุกคืนก่อนนอนว่าทำไมตนต้องมาอยู่ที่นี่ คิดถึงคุณความดีที่ทำไว้ เวลานอนไม่หลับก็เขียนหนังสือ นอนห้องขังรวมพักฟื้นแบบคนป่วย ซึ่งตนตั้งชื่อห้องเล่นๆ ว่าโรงแรม เพราะยอดไม่แน่นอนในแต่ละวัน

เมื่อถูกพิธีกรถามว่าเคยคิดฆ่าตัวตายไหม เจ้าตัวตอบเสียงดังฟังชัดว่าเคย เพราะรู้สึกอิ่มกับความเป็นมนุษย์ พร้อมเล่าว่าเมื่อปลายปี 53 หลังจากที่ผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรัก ได้เลื่อนยศสูงสุด ตนจัดการทำพิธีส่งมอบ ทำบุญบริจาคทั้งหมด รู้สึกว่าไม่อยากอยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่าการที่มาอยู่ที่นี่เหมือนกับตนเองเป็นคนชั่วไม่ประสบความสำเร็จ ไม่อยากอยู่เพราะไม่อยากเป็นคนที่ไม่ดี น้อยใจผู้ที่ตนเคารพรัก ไม่ได้น้อยใจศาล ตอนนั้นจึงตัดสินใจกินยานอนหลับที่ร้ายแรงที่สุดเม็ดสีม่วง ได้รับมา 50 เม็ดแต่หายไปครึ่งหนึ่ง เหลือ 20 เม็ด ก่อนจะกินก็ได้แจกของแจกเสื้อให้ทุกคน แต่งตัวเรียบร้อยแล้วกินยา เลือกช่วงเวลาหัวค่ำเพราะใช้เวลานานก่อนผู้คุมจะมา

และเมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่าไม่รู้สึกเป็นบาปหรือที่คิดฆ่าตัวตาย เสี่ยอู๊ดตอบว่าบาปเป็นอย่างไร ตนไม่เชื่อบาปบุญแล้ว เป็นเรื่องอุปโลกน์ที่สมมติขึ้น ไม่เชื่อว่าบาปบุญนรกสวรรค์มีจริง มีสองสิ่งที่เชื่อคือสุขกับทุกข์ ที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่ต้องการผจญความทุกข์แล้ว กลับไปที่ที่เคยมา พร้อมกับบอกว่าตอนนี้ตนได้ขายของทุกอย่างหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้าน รถ ตึก เอาเงินแจกหมดแล้ว ไม่มีเงินในบัญชีไม่มีสมุดบัญชี ส่วนค่าใช้จ่ายในตอนนี้ก็ได้มาจากคนที่เคารพรักตนเองส่งเงินมาให้ใช้ในคุก 3 ล้านบาท กับคนแถวๆ นี้ โอนเงินมาให้ 2 ล้าน ตอนนี้ต้องการทำให้ตัวเองเป็นศูนย์ และไม่ได้เป็นเสี่ยแล้ว

ซึ่งเมื่อถูกพิธีกรถามว่าคนที่รักมากที่สุดได้ไปเยี่ยมบ้างไหมตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา เจ้าตัวตอบว่า ไม่เคยมาเลย และเมื่อถูกพิธีกรถามว่าแล้วทำไมถึงยังรักคนๆ นี้อยู่ อดีตเสี่ยคนดังตอบว่าเพราะอีกฝ่ายเป็นคนดี ไม่คิดที่จะเอาอะไรจากตนเลย รถสปอร์ต 3 คันเอาคืนตนหมด จะคืนแม้กระทั่งพระ แต่ตนขอว่าให้เอาพระเก็บไว้ ซึ่งช่วงใกล้ครบกำหนดออกจากเรือยนจำตนให้ลูกน้องโทร.ไปหาคนนี้อีกที เพื่อที่จะให้เขามาทำหน้าที่คนดีที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ในที่สุดนาทีสุดท้ายอีกฝ่ายก็ไม่มา

หลังจากนั้นเมื่อผู้ดำเนินรายการคนดังถามว่าสำหรับคนๆ ถึงตอนนี้ยังรักที่สุดในชีวิตอยู่หรือไม่ เจ้าตัวตอบเสียงดังยืนยันว่ายังเป็นนัมเบอร์วัน ยังรักอยู่ ก่อนเผยว่าช่วงที่อยู่ในเรือนจำมีดารานักร้องค่ายแถวลาดพร้าวไปเยี่ยมเยอะ แต่ตนไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ส่วนคนที่เป็น “คู่กรณี” นั้น เจ้าตัวเผยว่าไม่เคยมาเลย

“...และสิ่งที่ผมเสียใจที่สุด คือคนสนิทของผมโทร.หาเขาเพื่อขอให้มาช่วยงาน พอเขารู้ว่าเป็นงานที่มีชื่อผม เขาพูดว่าอย่าเอ่ยชื่อคนนี้ให้ได้ยินอีก ทำให้ผมผิดหวังในตัวเขามาก” เจ้าตัวเผยก่อนจะย้ำว่าตนเองไม่เคยออกจากวงการพระเครื่อง เพราะถ้าตนไม่ทำรายการจะให้ตนทำรายการ “อู๊ดเกิดมาคุยเหรอ”

สำหรับ “เสี่ยอู๊ด” นั้นในอดีตเจ้าตัวเป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงการจัดสร้างพระเครื่อง แต่ที่ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักขึ้นมาก็คือการตกเป็นข่าวกับกับดารา-นักร้องชายหลายต่อหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์ม รัฐภูมิ, ออย ธนา, นิว วงศกร, โบกี้ จักรินทร์, แทค ภรัณยู, ไผ่ พาทิศ, บิ๊ก ภุชิสสะ ฯ

โดยที่ฮือฮามากที่สุดก็คือในรายของหนุ่มฟิล์ม รัฐภูมิ ที่เจ้าตัวพาไปเที่ยวและทำบุญถึงต่างประเทศ รวมถึงให้เงินใช้ มอบของขวัญเป็นตึกแถวและรถมินิคูเปอร์ ซึ่งในตอนแรกนั้นนักร้องหนุ่มชื่อดังจากค่ายอาร์เอสฯ ได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ก่อนจะยอมรับในเวลาต่อมาภายหลังจากที่อีกฝ่ายได้นำเอาหลักฐานต่างๆ มาแฉต่อหน้าสื่อมากมาย

“เสี่ยอู๊ด” หยิบรูป แจงสัมพันธ์รัก “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ย้ำชัดแค่พี่น้อง-ไม่อยากดังแต่อยากได้ความจริง

เพิ่งนึกออก “ฟิล์ม” น้ำตาซึมเปิดใจคบ “เสี่ยอู๊ด” จริง

“เสี่ยอู๊ด” แฉอดีตหวานใจ “ฟิล์ม” ทุ่มหมดใจหลังได้ยินคำว่า...รัก

“โบกี้” ฉาวตามฟิล์ม นอนหนุนแขน “เสี่ยอู๊ด” ด้าน “ตอง” วอน ดูกันที่ผลงานใช่ข่าวคาว

“ฟิล์ม” ใบ้รับประทาน ตอบเป็นคำเดียว “ไม่...ครับ”?!

“นิว” เตือนเด็กหนุ่ม มองเรื่อง “เสี่ยอู๊ด” ให้เงินเป็นอุทาหรณ์

“ฟิล์ม” ลั่นข่าวมั่วเปล่าคืนดี “เสี่ยอู๊ด”

“ออย” ดี๊ด๊าถูกเมาท์เป็นพ่อเล้าส่งเด็กให้ “เสี่ยอู๊ด” พร้อมยันเบนซ์ป้ายแดงซื้อเอง

รู้เจตนาไม่ชัด “ไผ่” ยันไม่เคยรับของ “เสี่ยอู๊ด”

ฟัง “เสี่ยอู๊ด” แฉ “นิว” เละ! บ่นไม่ใช่ดอกไม้ริมทาง เกือบหลุดเรื่องใต้สะดือ

ศาลไม่ให้ประกัน “เสี่ยอู๊ด” คอตกนอนคุก!

“ฟิล์ม” โต้ข่าวแอบดอดเยี่ยม “เสี่ยอู๊ด” ด้าน “นิว” เฉไฉไม่ขอรับรู้

“เสี่ยอู๊ด” ออกคุกแล้ว ลั่นต่อไปจะใช้ความดีนำชีวิต-ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน


เสี่ยอู๊ด กับ ฟิล์ม รัฐภูมิ ที่กำลังโด่งดังในสมัยนั้นจนกลายเป็นข่าวฮือฮาเมื่อหลายปีก่อน
เสี่ยอู๊ด : ไม่เชื่อ "บาป-บุญ-นรก-สวรรค์" ผมเชื่อ "สุข-ทุกข์"!!
เสี่ยอู๊ด : ไม่เชื่อ "บาป-บุญ-นรก-สวรรค์" ผมเชื่อ "สุข-ทุกข์"!!
หลังจากที่พ้นโทษออกมาจากเรือนจำ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา นับเป็นเวลา 5 ปีเต็ม ที่ “นายสิทธิกร บุญฉิม” หรือ “เสี่ยอู๊ด” ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ ซึ่งหลายท่านคงสงสัยว่าชีวิตในเรือนจำเป็นอย่างไร เพราะหลังจากที่ได้ก้าวเข้าไปก็ไม่เคยมีสื่อไหนที่ได้สัมภาษณ์อีกเลย จนวันที่พ้นโทษออกมา “เสี่ยอู๊ด” ยอมที่จะเปิดใจในรายการ “ วู้ดดี้เกิดมาคุย ” เป็นที่แรกเท่านั้น โดยสิ่งที่ “เสี่ยอู๊ด”ตั้งใจทำเป็นอย่างที่ สองรองจากการเดินสายไปทำบุญก็คือ ตรวจเช็คร่างกาย ที่ ร.พ. ศูนย์มะเร็ง จ.ลพบุรี พร้อมทั้งเปิดใจกับ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” พิธีกรชื่อดัง ทุกเรื่อง ตลอดการบันทึกเทปนี้ “เสี่ยอู๊ด” มีอาการนิ่งมาก ต้องกัดลิ้นและดมยาดม มีการ
กำลังโหลดความคิดเห็น