ข่าวรายการ "วู้ดดี้ เกิดมาคุย"
เสี่ยอู๊ด : ไม่เชื่อ "บาป-บุญ-นรก-สวรรค์"
ผมเชื่อ "สุข-ทุกข์"!!
หลังจากที่พ้นโทษออกมาจากเรือนจำ เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2556 ที่ผ่านมา นับเป็นเวลา 5 ปีเต็ม ที่ “นายสิทธิกร บุญฉิม” หรือ “เสี่ยอู๊ด” ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำ ซึ่งหลายท่านคงสงสัยว่าชีวิตในเรือนจำเป็นอย่างไร เพราะหลังจากที่ได้ก้าวเข้าไปก็ไม่เคยมีสื่อไหนที่ได้สัมภาษณ์อีกเลย จนวันที่พ้นโทษออกมา “เสี่ยอู๊ด” ยอมที่จะเปิดใจในรายการ “ วู้ดดี้เกิดมาคุย ” เป็นที่แรกเท่านั้น โดยสิ่งที่ “เสี่ยอู๊ด”ตั้งใจทำเป็นอย่างที่ สองรองจากการเดินสายไปทำบุญก็คือ ตรวจเช็คร่างกาย ที่ ร.พ. ศูนย์มะเร็ง จ.ลพบุรี พร้อมทั้งเปิดใจกับ “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” พิธีกรชื่อดัง ทุกเรื่อง
ตลอดการบันทึกเทปนี้ “เสี่ยอู๊ด” มีอาการนิ่งมาก ต้องกัดลิ้นและดมยาดม มีการหลับตาตั้งสติทุกครั้งที่ตอบคำถาม เจ้าตัวเผยว่า เพิ่งได้รับอิสรภาพหลังจากพ้นโทษมา 5 วัน ยอมรับว่ายังไม่มีอิสระ พร้อมกับเผยชีวิตตั้งแต่วินาทีทีเข้าคุกว่า “ วินาทีที่โดนคุมตัวที่สนามบินกำลังพาลูกน้องไปญี่ปุ่นเที่ยวประจำปี เช็คอินแล้วกำลังนั่งทานอาหารอยู่ มีเจ้าหน้าที่จาก DSI มาแสดงหมายศาลแล้วจับตัวไป ตอนแรกผมตกใจที่มากันเยอะมาก แต่ไม่ได้เครียดอยากพาไปตรงไหนผมก็ไปผมไม่คิดหนี ตอนผมเข้าคุกผมก็เดินเข้าไปเลยไม่ได้ใช้สูตรเข้าคุกโดยเดินหันหลังเข้าตามที่เขาพูดกัน”
"5 ปีที่ผ่านมาผมยังไม่ใช่นักโทษเป็นแค่ผู้ต้องขังใส่ชุดสีน้ำตาล เผยถึงความรู้สึกว่าจริงๆแล้วทุกโครงการที่ตัวเองทำเกิดเรื่องขึ้นทุกครั้งเป็นคดีความบ้างไม่เป็นคดีความบ้าง แต่กับเรื่องนี้ไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นหนุมานที่ต้องแบกกรุงลงกาไว้คนเดียว ผมมีความรับผิดชอบ รับทุกอย่างรับทุกการตัดสินของศาล ศาลท่านใช้ดุลพินิจตัดสินตามตัวบทกฎหมาย คดีความมาจากกระบวนการยุติธรรมเป็นขั้นตอนตัดสินตามคำขอของโจทก์ จะผิดจะถูกไม่ได้มอง ผมทำสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ให้นำผลกระทบไปกับผู้อื่นที่ผมเคารพรัก และในวันวันที่กำลังเดินเพื่อเข้าเรือนจำ ผมได้เขียนจดหมายตัดพ้อขณะฝนตกถึงผู้ที่ผมเคารพรักว่า ผมไม่เชื่อว่าบุญกุศลมีจริง ถ้าบุญมีจริงวันนี้ผมต้องไม่เข้าคุก แล้วเหตุใดวันที่ผมต้องเข้าสถานที่แห่งนี้ สิ่งที่เกิดขึ้นมันตรงกันข้าม ไม่ได้คิดแย่เรื่องการเข้าเรือนจำ แต่น้อยใจผลที่ได้รับ ทำไมสวนทางกับอดีตที่ทำมาทั้งหมด ไม่เคยนับว่าทำบุญมาเท่าไหร่แต่รวมแล้วพันกว่าล้าน"
“วู้ดดี้” ถามต่อถึงบรรยากาศในเรือนจำว่าเป็นอย่างไร?
"เหมือนโรงเรียนกินนอนโรงเรียนประจำ ผู้คุมเหมือนกับ ครู หมอ ยาม ญาติ และที่ปรึกษา ไม่ได้เลวร้ายเหมือนในหนังเป็นไปตามอัตภาพ"
หลังจากนั้นให้เสี่ยอู้ดเคลียร์ข่าวลือที่เกิดขึ้นระหว่างที่อยู่ในคุกดังนี้
เป็นแฟนกับ พาวเวอร์แพท จริงหรือไม่?
"ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอ อยู่คนละเรือนจำ แต่เห็นจากในสื่อ"
มีความรักในเรือนจำหรือไม่?
"ไม่มีเพราะในคุกไม่ใช่สวนสนุกหรือสรวงสวรรค์"
มีแฟนเป็นผู้คุมจริงหรือเปล่า?
"ไม่เป็นความจริงพูดไปอายปาก"
จิตตกบ้างไหม?
"คิดทุกวันทุกคืนก่อนนอนว่าทำไมต้องมาอยู่ที่นี่ คิดถึงคุณความดีที่ทำไว้ เวลานอนไม่หลับก็เขียนหนังสือ นอนห้องขังรวมพักฟื้นแบบคนป่วย ตั้งชื่อห้องเล่นๆว่าโรงแรมเพราะยอดไม่แน่นอนในแต่ละวัน"
มีเพื่อนอยู่ในคุกไหม?
"ส่วนใหญ่จะเป็นคนรั่ว แต่ก็จำได้ว่าเสี่ยอู๊ดป็นใคร"
ข่าวลือที่ว่า จริงๆแล้วเสี่ยอู๊ดไม่ได้อยู่ในเรือนจำแต่กลับไปอยู่ที่ตึกช้างจริงหรือไม่?
"ไม่จริง ไม่ได้มีอภิสิทธิ์และไม่ได้มีเด็ดขาด ในเรือนจำก็ไม่ได้มีลูกน้องด้วย สั่งใครไม่ได้"
เคยฆ่าตัวตายไหม?
"เคย เพราะรู้สึกอิ่มกับความเป็นมนุษย์ เมื่อปลายปี 53 หลังจากที่ผู้ใหญ่ที่ตนเคารพรัก ได้เลื่อนยศสูงสุด ตนจัดการทำพิธีส่งมอบ ทำบุญบริจาคทั้งหมด รู้สึกว่าไม่อยากอยู่แล้วเพราะรู้สึกว่าการที่เราอยู่ที่นี่เหมือนกับเราเป็นคนชั่วไม่ประสบความสำเร็จ ไม่อยากอยู่เพราะไม่อยากเป็นคนที่ไม่ดี น้อยใจผู้ที่ตนเคารพรัก ไม่ได้น้อยใจศาล ตอนนั้นจึงตัดสินใจกินยานอนหลับที่ร้ายแรงที่สุดเม็ดสีม่วง ได้รับมา 50 เม็ดแต่หายไปครึ่งหนึ่ง เหลือ 20 เม็ด ก่อนจะกิน ตัวเองก็ได้แจกของ แจกเสื้อให้ทุกคน แต่งตัวเรียบร้อยแล้วกินยา เลือกช่วงเวลาหัวค่ำเพราะใช้เวลานานก่อนผู้คุมจะมา"
ไม่รู้สึกเป็นบาปเหรอที่คิดฆ่าตัวตาย?
"บาปเป็นอย่างไรผมไม่เชื่อบาปบุญแล้ว เป็นเรื่องอุปโลกน์ที่สมมติขึ้น ไม่เชื่อว่าบาปบุญนรกสวรรค์มีจริง มีสองสิ่งที่เชื่อคือสุขกับทุกข์ ที่ฆ่าตัวตายเพราะไม่ต้องการผจญความทุกข์แล้ว กลับไปที่ๆเคยมาพร้อมกับลั่นวาจาว่า เมื่อผมตายในคุกไม่ได้ ถ้ามีโอกาสผมจะมาตายนอกคุก"
อย่าเพิ่งฆ่าตัวตาย !!!
"คนที่จะขอกันได้มี 3 คน 1 คนที่ผมเป็นหนี้บุญคุณ 2 คนที่ผมรักมาก และ 3 คนที่รักผมมาก ซึ่งคนที่เป็นหนี้บุญคุญก็คือคนที่หยิบยื่นคุกให้ผม ส่วนคนที่ผมรักมากเขาไม่เคยมาเยี่ยมผมเลย 5 ปี ส่วนคนที่รักผมมากคือพ่อแม่ ก็เสียชีวิตไปแล้ว"
เสี่ยอู๊ดเผยต่อว่า ได้ขายของทุกอย่างหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ้านรถตึก เอาเงินแจกหมดแล้ว ไม่มีเงินในบัญชีไม่มีสมุดบัญชี
"วู้ดดี้" ไม่เชื่อ จึงถามว่า ค่าใช้จ่ายทุกวันนี้เอามาจากไหน?
"เอามาจากคนที่เคารพรักผม ส่งเงินมาให้ใช้ในคุก 3 ล้านบาทกับคนแถวๆนี้ โอนเงินมาให้ 2 ล้าน ตอนนี้ต้องการทำให้ตัวเองเป็นศูนย์ และไม่ได้เป็นเสี่ยแล้ว"
คนที่คุณรักมากไปเยี่ยมบ้างไหมตลอด 5 ปี ที่ผ่านมา?
"ไม่เคยมาเลย"
รักคนนี้เพราะอะไร?
"เพราะเขาเป็นคนดีจริงๆไม่เอาอะไรเลย รถสปอร์ต 3 คันเอาคืนหมด จะคืนแม้กระทั่งพระ แต่ผมขอว่าให้เอาพระเก็บไว้ แล้วบอกอีกว่า จนใกล้ครบกำหนดออกจากเรือยนจำให้ลูกน้องโทรไปหาคนนี้อีกที เพื่อที่จะให้เขามาทำหน้าที่คนดีที่สมบูรณ์แบบที่สุด แต่ในที่สุดนาทีสุดท้ายเขาก็ไม่มาผมคงไม่ดีพอ มีข้อบกพร่อง"
ทำไมถึงคิดว่าเขาเป็นคนดี?
"ประโยคสุดท้าย เขาฝากมาบอกว่า พี่ครับเลิกอาชีพนี้เถอะ เพราะมีคนคิดร้ายต่อพี่เยอะมาก"
รักที่สุดในชีวิตนี้เลยไหม?
"นัมเบอร์วันยังรักอยู่"
เสี่ยอู๊ดยังเปิดเผยว่า ช่วงที่อยู่ในเรือนจำมีดารานักร้องค่ายแถวลาดพร้าวไปเยี่ยมเยอะ อย่าเอ่ยชื่อเลย
คู่กรณี ไปเยี่ยมบ้างไหม?
"ไม่เคยมาและสิ่งที่ผมเสียใจที่สุดคือคนสนิทของผมโทรหาเขาเพื่อขอให้มาช่วยงาน พอเขารู้ว่าเป็นงานที่มีชื่อผม เขาพูดว่าอย่าเอ่ยชื่อคนนี้ให้ได้ยินอีก ทำให้ผมผิดหวังในตัวเขามาก"
ทุกคนที่เข้ามาพัวพันในชีวิตคุณ เขาบอกมาว่าไม่เคยมีอะไรกัน?
"ไม่ขอพูดเพราะจะเป็นการสร้างภาพ แต่คนที่พูดกับคุณวู้ดดี้มา เขากำลังรักษาภาพหรือเปล่าไม่มีใครอยากจะประจานตัวเองหรอก"
"เสี่ยอู๊ด" กล่าวทิ้งท้ายเกี่ยวกับวงการพระเครื่องว่า "ผมไม่เคยออกจากวงการพระเครื่อง ถ้าผมไม่ทำวงการพระเครื่องจะให้ผมทำรายการ อู๊ดเกิดมาคุยเหรอ" พร้อมบอกข้อคิดที่ได้รับจากการใช้ชีวิตในเรือนจำว่าได้อะไรบ้าง พร้อมกับติดตามผลตรวจร่างกายของเสี่ยอู๊ดว่าจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ในรายการ วู้ดดี้เกิดมาคุย เท่านั้น
ห้ามพลาดเด็ดขาด ยังมีประเด็นแซ่บๆอีกเยอะ ติดตามชมคืนวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน 2556 เวลา 23.30 น. ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี