xs
xsm
sm
md
lg

Side Effects : ผลข้างเคียงที่ไม่อาจคาดคิด

เผยแพร่:   โดย: อภินันท์ บุญเรืองพะเนา


สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก อาจจะไม่เป็นชื่อที่คุ้นหูสำหรับคนดูหนังวงกว้างบ้านเรามากนัก แต่ถ้าบอกว่าเขาคือผู้กำกับหนังปล้นที่ขึ้นต้นชื่อด้วยคำว่า “โอเชี่ยน” ไม่ว่าจะเป็น Ocean Eleven, Ocean Twelve และ Ocean Thirteen ผมเชื่อว่าหลายคนคงรู้จักเป็นอย่างดี เพราะมันเป็นที่ดูสนุกและได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่ง

อันที่จริง สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก ทำหนังมาแล้วไม่น้อย และบางปี เขาก็มีงานออกฉายมากกว่าหนึ่งเรื่อง แต่ที่สำคัญ โซเดอร์เบิร์กทำหนังได้หลายสเกล ขณะที่ความสนใจก็หลากหลาย บางครั้ง เราอาจเห็นเขาไปทำหนังฟอร์มใหญ่ๆ ขายตลาดวงกว้างอย่างหนังตระกูลโอเชี่ยน และบางที เขาก็ไปจับหนังเล็กๆ เล่าเรื่องของชีวิตของคนตัวเล็กๆ ในสังคมอย่าง The Girlfriend Experience (ที่ได้ซาช่า เกรย์ ดาราหนังผู้ใหญ่ผู้คล้าย “มิยาบิแห่งอเมริกา” มาแสดงนำในบทบาทหญิงสาวผู้บำบัดความเหงาให้ผู้ชาย) และอย่างน้อยหนึ่งครั้ง โซเดอร์เบิร์กก็หันไปเล่าชีวิตของนักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่อย่างเรื่อง “เช” (CHE)

จำได้ว่า เมื่อปีที่แล้ว ผู้กำกับคนนี้ก็มีหนังอย่าง Magic Mike มาให้คนดูได้ชมกัน เป็นเรื่องราวของผู้ชายนักเต้นระบำตามผับที่ค่อยๆ สร้างเนื้อสร้างตัวจากการเป็น “ม้านอกสายตา” สู่นักเต้นระบำผู้ประสบความสำเร็จ Magic Mike เป็นหนังที่ผสมออกมาแล้วได้ทั้งสาระความบันเทิงไปพร้อมๆ กัน

มาปีนี้ โซเดอร์เบิร์กก็มีงานอีกชิ้นมาให้เราได้ชมกัน อย่าง Side Effects หนังเล็กๆ ที่ไม่ค่อยถูกกล่าวถึงมากนักในบ้านเรา แต่ผมบอกได้เลยครับว่า นี่คือหนังอีกเรื่องที่ไม่น่าพลาดในปีนี้

Side Effects ได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง “จู๊ด ลอว์” มาเป็นหนึ่งในดารานำของเรื่อง เขาคือจิตแพทย์หนุ่มอนาคตไกลที่ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของคนไข้หญิงรายหนึ่งซึ่งกลายมาเป็นจุดตัดครั้งสำคัญ เพราะหลังจากที่เขาสั่งจ่ายยาให้กับคนไข้หญิงรายดังกล่าว ดูเหมือนว่าผลข้างเคียงของยาจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่คาดฝัน ชีวิตและอาชีพของเขาคือเดิมพัน สิ่งที่เขาเพียรสร้างมาทั้งชีวิตกำลังจะล่มสลายลงไปในพริบตา เพียงเพราะยาขนานเดียว

อย่างไม่รีบร้อน...โซเดอร์เบิร์กค่อยๆ ต้อนคนดูเข้าสู่เรื่องราวทีละเล็กทีละน้อย การเล่าเรื่องแบบค่อยเป็นค่อยไป และบรรจงบ่มเพาะสถานการณ์ความตึงเครียดให้ค่อยๆ สุกงอม ก่อนจะเปิดเผยบทสรุปที่ต้องอึ้ง ทึ่งไปตามกัน แน่นอนว่า หนังไม่ได้มีแอ็กชั่นอะไรเลย หากแต่สามารถทำให้คนดู “ลุ้น” ไปกับสถานการณ์ของตัวละครได้อย่างสนุกระทึก

ความยอดเยี่ยมของผลงงานเรื่องนี้ มันเกิดจากการวางแผนทางประเด็นมาแล้วแหลมคม คำว่า ไซด์เอฟเฟคต์ ในทางการแพทย์ ก็บ่งบอกตรงตัวแล้วว่าคือผลข้างเคียง การใช้ยาเคมีทุกชนิดล้วนแล้วแต่หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงไปไม่พ้น หนังวิพากษ์สิ่งนี้อย่างตรงไปตรงมา ขณะที่ก็ตีแผ่เรื่องราวในวงการการแพทย์ตลอดจนจรรยาบรรณของแพทย์ได้อย่างเห็นภาพ แต่สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประทับใจยิ่งขึ้นไปอีกก็คือ นอกจากพูดเรื่องราวในวงการการแพทย์ หนังยังแตะประเด็นเกี่ยวกับสัญชาตญาณด้านมืดของมนุษย์ได้อย่างน่าสะพรึงกลัว ความโลภที่ครอบงำ ตัณหากามารมณ์ที่ล่อลวง คือบ่วงที่หลอกล่อให้มนุษย์ติดกับมาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่

ไซด์ เอฟเฟคต์ สำหรับโซเดอร์เบิร์ก จึงมีความหมายมากกว่าเรื่องพื้นๆ ที่เราแทบจะรู้กันหมดแล้ว ในมุมมองของผม คิดว่าไซด์ เอฟเฟคต์ ของหนังเรื่องนี้ กินความหมายกว้างไกลถึงทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตมนุษย์ พฤติกรรมหรือการกระทำใดๆ ก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีไซด์ เอฟเฟคต์ ด้วยกันทั้งนั้น ไม่ด้านใดก็ด้านหนึ่ง เสมอๆ

บทสรุปอันเลวร้ายของตัวละครหลายตัวในเรื่อง ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาจากสาเหตุแห่งการที่ไปทำบางสิ่งบางอย่าง โดยไม่คาดคิดมาก่อนว่ามันจะผลข้างเคียงแบบนั้น ต่อให้วางแผนดีสักแค่ไหน แต่สุดท้ายก็หลีกเลี่ยงผลข้างเคียงไปไม่พ้น

หนังเรื่องนี้ ถ้าให้เล่าอะไรมากไปกว่านี้ อาจจะนำไปสู่ “ผลข้างเคียง” แบบหนึ่ง นั่นก็คือ ทำให้อรรถรสในการดูหนังของคุณลดลง เอาเป็นว่า ถ้าคุณต้องการหาหนังสนุกๆ ดูสักเรื่อง ไซด์ เอฟเฟคต์ ก็คือตัวเลือกที่ดีมากๆ ตัวเลือกหนึ่งเลบล่ะครับ!




กำลังโหลดความคิดเห็น