รอยเตอร์ - ชาวลอสแองเจลิสลงประชามติเห็นชอบให้นักแสดงชายที่แสดงภาพยนตร์สำหรับผู้ใหญ่ต้องสวมถุงยางอนามัยในฉากร่วมเพศ ซึ่งทำให้บรรดาคนทำหนังออกมาขู่ดำเนินคดีวานนี้(7) และอาจตัดสินใจย้ายฐานผลิตหนังโป๊ไปยังเมืองอื่นๆแทน
กฎหมาย “มาตรการ บี” (Measure B) ซึ่งนำเสนอโดยมูลนิธิ เอดส์ เฮลธ์แคร์ ได้รับความเห็นชอบจากประชาชนร้อยละ 55.85 ต่อ 44.15 ในการลงประชามติเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ตามข้อมูลจากสำนักงานทะเบียน เทศมณฑลลอสแองเจลิส
“นี่แหละคือประชาธิปไตย เราเสนอกฎหมายให้ส่วนปกครองเทศมณฑลแต่พวกเขาไม่สนใจ ดังนั้นเราจึงให้ประชาชนโหวตโดยตรง และพวกเขาก็ตอบมาเป็นเสียงเดียวกัน” ไมเคิล ไวน์สไตน์ ประธานมูลนิธิ เอดส์ เฮลธ์แคร์ ให้สัมภาษณ์
กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ภาพยนตร์โป๊ทุกเรื่องที่ผลิตในเทศมณฑลลอสแองเจลิสต้องใช้ถุงยางอนามัยในฉากร่วมรัก ซึ่งหนังโป๊ส่วนใหญ่ในอเมริกาก็มักถ่ายทำที่ย่าน ซาน เฟอร์นันโด แวลีย์ ในเทศมณฑลนี้
ไดแอน ดุค ผู้บริหารกลุ่ม ฟรี สปีช โคอะลิชชัน (Free Speech Coalition) ซึ่งเป็นผู้แทนอุตสาหกรรมหนังโป๊ ส่งจดหมายร้องเรียนไปยังที่ปรึกษาเทศมณฑลลอสแองเจลิสว่า กฎหมายฉบับนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และต้องให้ศาลระดับรัฐเข้ามาตัดสิน มิใช่ส่วนปกครองท้องถิ่น
“เพราะฉะนั้นเราจะยื่นคัดค้านกฎหมายนี้ในชั้นศาล” จดหมายระบุ
ดุค บอกด้วยว่า ผู้ผลิตหนังโป๊มีแนวโน้มจะย้ายออกจากลอสแองเจลิสไปถ่ายทำในเมืองอื่น
“ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เราจะเสนอโรดแมปให้อุตสาหกรรมหนังผู้ใหญ่ย้ายธุรกิจนับพันล้านดอลลาร์ และงานอีก 10,000 ตำแหน่งไปยังชุมชนที่เอื้ออำนวยกว่า”
เดวิด ซอมเมอร์ส โฆษกคณะกรรมการที่ปรึกษาเทศมณฑลลอสแองเจลิส เลี่ยงที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับจดหมายฉบับนี้โดยบอกว่ายังไม่ได้อ่าน แต่ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกำลังพิจารณาผลกระทบของกฎหมายที่บังคับดาราสวมถุงยางอนามัย
“ข้อบังคับลักษณะนี้เป็นเรื่องใหม่ซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ดังนั้นการจะทำอย่างไรต่อไปจึงต้องค่อยๆหารือกัน และขึ้นอยู่กับประชาชนด้วยว่าจะมีความเห็นเกี่ยวกับ มาตรการ บี อย่างไร”
มาตรการ บี กำหนดให้ผู้ผลิตหนังโป๊ต้องขอใบอนุญาตสุขภาพ (health permit) จากเทศมณฑลลอสแองเจลิส ก่อนจะถ่ายทำหนังที่เปิดเผยฉากร่วมเพศอย่างชัดเจน ซึ่งเงื่อนไขของใบอนุญาตก็คือต้องให้ดาราสวมถุงยางอนามัย