เอเอฟพี - แม้จีนจะถือว่าเปิดโอกาสด้านสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ แต่คนทำหนังยังคงต้องต่อสู้กับการเซนเซอร์อันเข้มงวดต่อไป รวมถึงผู้กำกับหนุ่ม “โหลวเย่” ที่ต้องดิ้นรนหนักกับการทำหนังในประเทศ ยอมกระทั่งทำหนังเข้าฉาย โดยที่ไม่มีชื่อของเขาอยู่ในหนังเลย เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนต่อต้านการเซนเซอร์ภาพยนตร์ในจีน
Mystery หนังอาชญากรรมระทึกขวัญผลงานใหม่ของ โหลวเย่ กลายเป็นงานที่คว้ารางวัลในระดับนานาชาติมากมาย รวมถึงเข้าชิงรางวัลภาพยนตร์เอเชียครั้งล่าสุดถึง 6 สาขา
หนังเรื่องนี้ถือเป็นผลงานเรื่องที่ 2 นับตั้งแต่ โหลวเย่ พ้นโทษแบนห้ามทำหนังในจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 5 ปีเต็ม เป็นงานที่กล่าวถึงเนื้อหาเกี่ยวกับคนรวยรุ่นใหม่ในประเทศ และชนชั้นกลาง กับชีวิตในสังคมจีนหลังยุคสังคมนิยม ที่ผู้ชายมีภรรยาน้อยกันจนเป็นเรื่องปกติ เป็นหนังที่ต้องการสะท้อนความรู้สึกของชาวจีนที่ยังคงรำลึกถึงความหอมหวานของยุคที่ประเทศปกครองโดยจักรพรรดิอยู่ไม่เสื่อมคลาย
หนังเรื่องนี้ได้ชิงรางวัลในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, ดาราสาว เหาเล่ย ก็มีลุ้นรางวัลนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมในบทภรรยาที่โดนสามีนอกใจ โดยหนังเริ่มต้นเรื่องด้วยฉากความตายอันรุนแรงน่าสะเทือนใจ ก่อนจะกลับไปเล่าถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มีชีวิตสองด้าน
“หนังเรื่องนี้เกี่ยวกับคนกลุ่มเล็กๆ จะว่าด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงสองคน มีชีวิตอยู่คนละขั้ว ที่มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นต้นเหตุ แต่ด้วยเรื่องราวเหล่านี้ผมอยากจะพูดไปถึงประเด็นทางสังคมที่ใหญ่กว่านั้น” โหลวเย่ กล่าวถึงผลงานเรื่องใหม่ของเขา ระหว่างที่หนังไปฉายที่ฝรั่งเศสในงาน Forum des Images ที่จัดขึ้นในเดือน ก.พ.
“สิ่งที่สำคัญสำหรับผมก็คือวิธีที่เราต่างเห็นว่าตัวละครทุกตัวในหนังได้ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน จากความตายของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเหตุที่ไม่มีใครสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน” เขากล่าว
ผู้กำกับชื่อดังยังบอกอีกว่าในตอนนี้การมีภรรยาน้อยกลายเป็นสิ่งปกติธรรมดาในสังคมจีนไปแล้ว โดยเฉพาะสำหรับคนที่พอจะมีฐานะอยู่บ้าง
“ตอนนี้เราสามารถเห็นวิถีชีวิตแบบนี้ได้ในกลุ่มคนที่พอจะมีเงิน” เขายังกล่าวเสริมอีกว่า เรื่องแบบนี้ถือเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงสถานะทางสังคมสำหรับผู้ชายด้วยซ้ำไป ตรงกันข้ามกับสำหรับผู้หญิงที่การนอกใจสามีถือเป็นเรื่องต้องห้ามที่คอขาดบาดตาย
Mystery ยังเป็นหนังเรื่องที่ 2 หลัง โหลวเย่ พ้นโทษโดนแบนห้ามสร้างหนัง หลังทำหนังรักสามเส้า Summer Palace (2006) ที่กล่าวถึงเหตุการณ์ต้องห้ามกับการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยเมื่อปี 1989 ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน และนำไปฉายที่เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์โดยไม่ได้รับอนุญาต
อันที่จริงแล้ว โหลวเย่ ก็ยังทำหนังเรื่อยมา ทั้ง Spring Fever ที่ถ่ายทำด้วยกล้องมือถือ เช่นเดียวกับ Love and Bruises ซึ่งเขาถ่ายทำแบบเงียบๆ ตั้งแต่ตอนโดนแบน ก่อนจะได้เข้าฉายหลังโทษแบนสิ้นสุดลง
แม้จะพ้นโทษแบนจนสามารถทำหนังในจีนได้แล้ว แต่ชื่อของ โหลวเย่ ก็ยังเป็นที่เพ่งเล็งจากเจ้าหน้าที่ตรวจพิจารณาภาพยนตร์ รวมถึงหนังเรื่องล่าสุดที่เขาส่งบท Mystery ให้ตรวจ และต้องรอเป็นเวลาถึง 5 เดือนกว่าจะทราบว่าหนังของเขาจะสร้างได้หรือไม่
สุดท้ายเจ้าหน้าที่ก็เปิดไฟเขียวอนุญาตให้สร้าง Mystery ได้ แต่ก็ระบุว่าบทหนังต้องมีการเปลี่ยนบทไปบ้าง แม้ โหลวเย่ จะบอกว่าเขาต้องเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในหนังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ผู้กำกับชื่อดังก็กล่าวว่าเรื่องแบบนี้ยังคงเป็นสิ่งที่ “ยอมรับไม่ได้” สำหรับเขา
“ผมได้ใช้เครือข่ายสังคมในอินเตอร์เน็ตของจีน เพื่อบอกให้ทุกคนทราบว่าพวกเขาสั่งให้เปลี่ยนแปลงบทหนังของผม จนได้มีโอกาสพูดคุยกับพวกเซนเซอร์ และลงเอยด้วยผลลัพธ์ที่พอรับได้" สุดท้ายแม้หนังจะโดนตัดทิ้งไปแค่ 3 วินาที กับอีก 23 เฟรม และสามารถออกฉายให้คนจีนได้ชมกันในวงกว้าง แต่ โหลวเย่ ก็เลือกที่จะไม่ใส่ชื่อของเขาไว้ในเครดิตของหนัง เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการเซนเซอร์
“การมีอยู่ของระบบเซนเซอร์คือความกังวลของผู้กำกับภาพยนตร์ทุกคน ในประเทศจีนนี่คือความจริงของเรา”
โหลวเย่ ยังเรียกร้องให้คนทำหนังทุกคนร่วมกันแสดงบทบาท เพื่อยุติพลังในการเซนเซอร์ให้หมดไปจากสังคม “ผู้กำกับทุกคนมีส่วนรับผิดชอบ ต่อข้อเท็จจริงที่ว่าการเซนเซอร์ยังคงดำเนินต่อไปในประเทศจีน” เขายังแสดงความเชื่อมั่นว่าขณะนี้สถานการณ์ก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ในระยะหลัง
หลังจากนี้ โหลวเย่ มีแผนจะดัดแปลงนิยายของ ไป๋เฟยอวี้ ที่ว่าด้วยหมอนวดตาบอดเป็นภาพยนตร์ และหวังว่าจะสร้างหนังเรื่องนี้เสร็จในปีนี้ “หวังว่าหนังเรื่องต่อไปจะมีชื่อของผมอยู่บนจอก็แล้วกัน”
Suzhou River
Summer Palace
Spring Fever
Love and Bruises
Mystery
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |