Allkpop - เรียลิตีโชว์สุดฮิตของแดนกิมจิ ที่นำดาราไปผจญภัยยังสถานที่ห่างไกล และเข้าถึงยากลำบากทั่วโลก กำลังโดนตั้งคำถามถึงความ “เรียลิตี” ของรายการ ว่าถ่ายทำตามความเป็นจริงหรือเป็นแค่การ “จัดฉาก”
“รายการโคตรเฟค!” เป็นความเห็นของผู้บริหารจากต้นสังกัดของดาราสาว ปาร์คโบยอง หนึ่งในผู้ร่วมรายการ Laws of the Jungle ที่ออกมาตั้งคำถามถึงความ “จริง” ของเรียลิตีโชว์สุดฮิตของเกาหลี จนก่อให้เกิดประเด็นถกเถียงขึ้นมากมาย และนำมาซึ่งการจับผิดรายละเอียดจุดต่างๆ ของรายการ
Laws of the Jungle เป็นรายการเรียลิตีโชว์ที่จะนำทีมงาน และแขกรับเชิญไปสำรวจยังดินแดนที่ยังคง “บริสุทธิ์” จากการเข้าถึงของผู้คน มีเพียงชาวพื้นเมืองอาศัยอยู่ ซึ่งบางครั้งอาจเป็นการเดินทางทางที่เต็มไปด้วยอันตราย, ผ่านเส้นทางโหดหิน และต้องอาศัยความอดทนพยายามอย่างหนัก เป็นรายการที่ผู้สร้างยืนยันอย่างเต็มปากว่าสถานการณ์ต่างๆ ที่ผู้ชมเห็นกันนั้นจริง “100%”
แต่แล้วกลับเกิดข้อสงสัยเรื่องความ “เรียลิตี” ของรายการขึ้นมา การเดินทางกลับเกาหลีของคณะดารานักแสดง และทีมงานที่ไปร่วมบันทึกภาพรายการ Laws of the Jungle เมื่อไม่กี่วันก่อนจึงได้รับความสนใจมากมาย มีผู้สื่อข่าวมารอขอสัมภาษณ์เหล่าทีมเดินทางสำรวจโลกกลุ่มนี้กันเต็มไปหมด
ทีมงานยอมรับ “แต่งเติม” แต่ไม่ได้ “จัดฉาก”
ล่าสุดกระแสวิจารณ์ และจับผิด Laws of the Jungle ยังคงแรงต่อเนื่อง และหลักฐานก็มีความชัดเจนน่าเชื่อถือไม่น้อย จนทางโปรดิวเซอร์ของรายการต้องออกแถลงขออภัยอย่างเป็นทางการ และแม้จะยอมรับว่ามีการ “แต่งเติม” รายละเอียดของสถานการณ์บางอย่างลงไปเพื่อความบันเทิงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่การ “จัดฉาก” อย่างที่ว่ากันแน่นอน
โดยในแถลงการณ์ทีมงานเรียก Laws of the Jungle ว่าเป็นรายการประเภท “เรียลวาไรตี้” ซึ่งทั้งผู้ถ่ายทำและแขกรับเชิญได้มีโอกาสไปสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมอันเป็นธรรมชาติ และไม่มีการปรุงแต่ง เพื่อให้ทุกคนที่ใช้ชีวิตกันอยู่ในเมืองอันเต็มไปด้วยความทันสมัย ได้มองเห็นถึงมนุษย์ที่ยังคงมีวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม ท่ามกลางโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ
สำหรับข้อกล่าวหาจากต้นสังกัดของ ปาร์คโบยอง ที่มองว่า Laws of the Jungle เป็นเพียงรายการ “เฟคๆ” ที่ทีมงานจัดฉากขึ้น ตัวแทนของรายการยืนยันว่าผู้วิจารณ์คนดังกล่าวได้เขียนขอโทษ และแสดงความเสียใจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ทางรายการก็ยอมรับว่าคำวิจารณ์ครั้งนี้ ได้ส่งผลกระทบไปถึงภาพรวมความน่าเชื่อถือของรายการ ทั้งในตอนที่ยังไม่ได้ออกอากาศ และตอนเก่าๆ ที่แล้วมา
ทางทีมโปรดิวเซอร์ของ Laws of the Jungle ยอมรับว่าในขั้นตอนการผลิต มีการใช้เทคนิคการตัดต่อ เพื่อเร้าอารมณ์สร้างความประทับให้คนดูกับสถานการณ์ต่างๆ อยู่บ้าง แต่พวกเขาก็ยืนกรานว่ารายการผจญภัยบุกเบิกดินแดนต่างๆ ทั่วโลกรายการนี้ ไม่ได้เป็นการเดินทางไปตามแพ็คเกจทัวร์อย่างที่มีการกล่าวหาแน่นอน นอกจากนั้นทีมงานยังพร้อมรับคำติเตียนทั้งหมด เพื่อนำไปปรับปรุงการทำงานในอนาคตต่อไป
กระแสจับผิดยังไม่หยุด
อย่างไรก็ตามคำแถลงดังกล่าวก็ยังไม่สามารถหยุดกระแสจัดผิดได้ เพียงแค่การเช็กข้อมูลแบบกว้างๆ ชาวเกาหลีหลายๆ คนได้พบรายละเอียดที่ไม่ชอบมาพากลของรายการ ที่พิสูจน์ได้ว่า Laws of the Jungle ดูจะไม่ใช่รายการที่มีจุดมุ่งหมาย “บุกเบิกดินแดนที่ยังไม่มีใครเข้าถึง” อย่างที่ผู้สร้างคุยกันเอาไว้
อย่างในซีรีส์ของการตลุยวานูอาตู ที่ทีมงานและเหล่านักแสดงเดินทางขึ้นเขายาซัวร์, ถ้ำสหัสวรรษ และหลุมสีน้ำเงิน รายการพูดหลายครั้งว่านี่คือดินแดนที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน ซึ่งทีมงานต้องหาทางไปกันเอง โดย คิมบยองมัน เป็นผู้นำคณะเดินทางผ่านเส้นทางริมหน้าผา ที่พวกเขาบุกเบิกขึ้นเอง และต้องคอยเตือนให้ทุกคนระวังภัยอันตรายจากหินที่จะตกมาจากด้านบน
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกลับพบว่าเขายาซัวร์คือหนึ่งในจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วๆ ไป ที่ไม่ว่าจะเป็นเด็ก หรือผู้สูงอายุก็สามารถไต่ขึ้นเขามาได้ด้วยเวลาสั้นๆ ไม่ถึง 30 นาที
เพื่อยืนยันข้อมูลทางสำนักข่าว Dispatch ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังบริษัทท่องเที่ยวในวานูอาตู จนทราบว่ามีแพกเกจทัวร์สำหรับการเยือนสถานที่ดังกล่าว และเป็นเขตท่องเที่ยวที่ปลอดภัย 100% ไม่มีอันตรายใดๆ สำหรับนักท่องเที่ยวแน่นอน
“ไกด์ทัวร์จะบอกคุณเองว่าตอนไหนที่ปลอดภัยที่สุด ไม่มีอะไรเสี่ยงหรอก ถ้ามีหินตกลงมาก็แค่รอ รถโฟล์วิลก็ขึ้นภูเขาไฟยาซัวร์ได้ จะมีไกด์ที่จะช่วยถือกล้องให้คุณด้วย รถก็เป็นของไกด์เอง” บริษัททัวร์จาก วานูอาตู กล่าว
ผจญภัยบุกเบิกโลกตามโปรแกรมทัวร์
Laws of the Jungle เน้นย้ำเสมอว่ารายการเลือกที่จะพาทีมงาน และแขกรับเชิญไปยังดินแดนสภาพแวดล้อมที่ยังคงปลอดจากความทันสมัย โดยรายการที่ผ่านมามีการเดินทางไปถ่ายทำถึงที่ ไซบีเรีย, วานูอาตู, อเมซอน, นามิเบีย, ปาปัวนิวกีนี และนิวซีแลนด์มาแล้ว
อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบแบบพื้นๆ ก็สามารถพบได้ว่าสถานที่ซึ่งรายการ Laws of the Jungle ไปถ่ายทำรวมถึงการเดินทางเพื่อไปพบกับชุมชนพื้นเมือง ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของแพ็คเกจทัวร์ ที่ใครๆ ก็สามารถไปได้ถ้าเงินถึง
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คือ “เผ่าเวารานี” ในอเมซอนซึ่งรายการเคยไปเยือน ซึ่งอันที่จริงแล้วที่เป็นจุดหมายหนึ่งของโปรแกรมทัวร์ท่องเที่ยวจำนวนมาก ทางเผ่ายังมี Facebook ของตัวเองที่โชว์ภาพ และคลิปให้คนที่สนใจอยากลองมาสัมผัสกับวิถีชีวิตของพวกเขาได้ดูกันก่อนด้วย ซึ่งบางโปรแกรมทัวร์ก็ถือว่าตรงกับโปรแกรมของรายการ Laws of the Jungle แบบพอดิบพอดี
นอกจากนั้นกิจกรรมต่างๆ ที่ทาง Laws of the Jungle เจอและนำมาออกอากาศก็สามารถซื้อได้ด้วยเงินทั้งนั้น
ทาง Dispatch ได้ยืนยันหลังมีการเช็กข้อมูลจนมั่นใจแล้วว่าพิธีกรรมพื้นเมืองต่างๆ ที่เห็นในรายการเป็นสิ่งที่ทางเผ่าคิดขึ้นมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเท่านั้น ไม่ได้เป็นพิธีโบราณที่ตกทอดกันมาอย่างที่อ้างแต่อย่างใด แหล่งข่าวของบริษัททัวร์ที่มีโปรแกรมเที่ยวอเมซอนยังเปิดเผยกับสื่อในเกาหลีว่า “เราเคยติดต่อไปที่เผ่าเวารานี ว่าต้องจ่ายเท่าไหร่สำหรับการโชว์พิธีกรรมต่างๆ เขาบอกว่าถ้าจ่ายให้ซัก 600 เหรียญ ต่อคน ก็อาจหาคนมาร่วมพิธีกรรมได้ซัก 16 คน ถ้าคุณสนใจเราก็จะติดต่อทางเผ่าให้ทันที”
เช่นเดียวกับโปรแกรมทัวร์ที่วานูอาตู และไซบีเรียซึ่งปรากฏอยู่ใน Laws of the Jungle ก็มีคำยืนยันว่ามีแพ็คเกจทัวร์ที่รายละเอียดการท่องเที่ยวแทบจะเหมือนในรายการเลย
ชาวเน็ตแฉ “ปลอมเกือบหมด”
ยังมีหลักฐานการ “จัดฉาก” ของ Laws of the Jungle อีกมากมาย รวมถึงตอนที่ไอดอลหนุ่ม มีร์ (สมาชิกวง MBLAQ) กินสมองลิงระหว่างร่วมพิธีแต่งงานในชนเผ่า ของหนุ่มที่ชื่อว่า “เปโดร” ที่เพิ่งออกอากาศไปเมื่อเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม กลับมีข้อมูลเปิดเผยออกมาว่าที่แท้ เปโดร คนนี้เป็นไกด์ทัวร์ ซ้ำร้ายยังมีภรรยาแถมมีลูกแล้วด้วย
ส่วนในรายการเทปที่เดินทางไปยังวานูอาตู ชาวเผ่าคนหนึ่งพูดต่อหน้ากล้องว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีคนนอกเดินทางมาถึงหมู่บ้านของเขา แต่กลับมีการค้นพบภาพของชาวบ้านเหล่านี้ ในภาพถ่ายของนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ และชัดเจนว่าหมู่บ้าน “ห่างไกลที่ไม่เคยมีคนเมืองเข้าถึง” แห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งโปรแกรมทัวร์ทั่วๆ ไป
ข่าวบันเทิง, ถูกต้อง, รวดเร็วฉับไว ทั้งไทย และเทศ http://www.superent.co.th
ติดตามความเคลื่อนไหวอินสตาแกรมดาราทั้งไทยและเทศตลอด 24 ชั่วโมงได้ที่ ซูเปอร์สตาแกรม
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ 7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |