โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
แม้เขาไม่ได้โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน แต่แค่เพียงอัลบั้มแรก “Doo-Wops & Hooligans”ในปี 2010 ก็ทำให้ “บรูโน มาร์ส”(Bruno Mars) หรือชื่อเดิมคือ“ปีเตอร์ จีน เฮอร์นันเดซ”(Peter Gene Hernandez)โด่งดังกลายเป็นป็อบสตาร์เบอร์ต้นๆแห่งยุคสมัยได้อย่างไม่ยากเย็น
อัลบั้ม “Doo-Wops & Hooligans” แจ้งเกิดอย่างสวยงามให้กับนายดาวอังคาร รับทั้งเงิน ทั้งกล่อง ทั้งชื่อเสียง มีเพลงฮิตหลายเพลง อาทิ Just the Way You Are, Nothin on You, The Lazy Song, Grenade และ Marry Me ทำยอดขายกว่า 10 ล้านก็อปปี้ คว้ามาถึง 26 รางวัล เป็นการการันตีในคุณภาพ
วันนี้ บรูโน มาร์ส กลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ “Unorthodox Jukebox” ที่นับเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มร้อนแรงแห่งยุคสมัย
อัลบั้มชุดนี้ มาร์ส เขียนเพลงเองทั้งหมดร่วมกับ ฟิลิปส์ ลอว์เรนซ์(Philip Lawrence) อะรี เลวินซ์(Ari Levince) รวมถึงทีมแต่งเพลงคนอื่นในบางเพลง โดยมี The Smeezingtons มานำทีมโปรดิวซ์
“Unorthodox Jukebox” มาในหน้าปกกอริลล่ายืนหยอดตู้เพลง ซึ่งมันสื่อถึงคอนเซ็ปต์อันเข็มแข้งของอัลบั้มชุดนี้ ที่เมื่อฟังไปได้สักพักงานเพลงจะคลี่คลายแนวคิดของบรูโนให้เรารับรู้ได้อย่างไม่ยากเย็น
อัลบั้มนี้ มีเพลงทั้งหมด 10 เพลง อันเป็นสูตรสำเร็จของเพลงในยุคเทปคลาสเซ็ทเมื่อครั้งในอดีต
Unorthodox Jukebox เปิดตัวกันด้วย “Young Girls” คีย์บอร์ดเล่นซ้อนกันมา 2 ไลน์ เมโลดี้เล่นโน้ตง่ายๆเป็นป็อบจ๋าฟังปุ๊บติดหูปั๊บ บรูโนร้องแบบสบายๆในโทนเสียงสูงฟังทรงเสน่ห์ในสไตล์ของเขา ซาวนด์เพลงนี้มาในแนวย้อนยุคซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของอัลบั้มนี้
ต่อกันด้วย “Locked Out Of Heaven” ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มที่เดินขึ้นไปครองเบอร์หนึ่งในชาร์ตเพลงของบิลบอร์ดแบบสบายๆ
Locked Out Of Heaven หลายๆคนบอกเพลงนี้ฟังคล้าย MJ ไมเคิล แจ็คสัน แต่ผมฟังแล้วนึกถึงเพลง Roxanne ของวง The Police ที่ถือเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่ทรงอิทธิพลต่อบรูโน มาร์ส ย้ำนะครับว่าทรงอิทธิพล แต่ไม่ได้ไปลอกมาเหมือนหลายๆวงบ้านเราที่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่ลอกโน้ตอย่างเดียว แต่พวกลอกหมดทั้ง MV เสื้อผ้าหน้าผม น้ำเสียง ลีลา สไตล์ เรียกว่าถ้าเกาหลี ญี่ปุ่น ดังอะไร พวกค่ายยักษ์ใหญ่ก็เริ่มดำเนินการลอกทันที
กลับมาที่เพลงดัง Locked Out Of Heaven กันต่อ เพลงนี้เป็นป็อบแดนซ์สนุกๆ บรูโนร้องถ่ายทอดออกมาได้สนุกน่าฟังมาก ซาวนด์เพลงนี้แม้ฟังย้อนยุคกลับไปประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ทั้งเสียงกลอง คีย์บอร์ด และซาวนด์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องเอ๊ะๆ อ๊ะๆ อุๆ อะไรนั่น แต่เพลง Locked Out Of Heaven กับฟังร่วมสมัย นับเป็นความเก่งของบรูโนที่สามารถนำความเก่ามาผสมกับใหม่ได้อย่างลงตัว
แทรคที่สามเป็น “Gorilla” เพลงนี้ภาคดนตรีมีความเป็นร็อกสูง เสียงกีตาร์ที่ฟังเด่นเล่นผ่านเอฟเฟคปรับเสียงแตกในซาวนด์ยุค 80’s บรูโนหันมาแหกปากร้องแบบร็อกได้ดีทีเดียว แต่ถึงอย่างไรเมโลดี้ยังคงเป็นป็อบฟังติดหูง่าย ส่วนเนื้อหาว่าด้วยเซ็ก ยาเสพติดที่แรงเอาเรื่อง มีสบถต้มฟักกระจาย
ส่วน “Treasure” เป็นป็อบแดนซ์สนุกผสมทางดิสโก เมโลดี้ฟังติดหูดีเหลือเกิน ทางเพลงดึงอารมณ์กับไป เมื่อ 20-30 ปีที่แล้วได้อย่างเด่นชัด กับเสียงกลองทื่อๆพร้อมไลน์เบสที่มีลูกตบในแบบเก่าๆ ซึ่งถ้าเปิดตามผับ เธค ร้านเหล้า วัยรุ่นบ้านเราแดนซ์กันกระจาย
ต่อกันด้วย “Moonshine” เน้นซาวนด์อิเลคทรอนิกเป็นหลัก ในจังหวะปานกลาง มีกลิ่นดิสโก้อ่อนๆ กีตาร์ตีคอร์ดขัดๆแบบฟังกี้ ฟังสนุกดี
เบรกอารมณ์กันด้วย “When I Was Your Man” เป็นบัลลาดหวานหยด เสียงเปียโนใสๆขึ้นนำมา ส่งต่อให้บรูโนโชว์เสียงร้องแบบหวานเศร้า เจือสำเนียงอาร์แอนด์บี เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ปั้นให้ดังได้ไม่ยาก
“Natalie” อีกหนึ่งเพลงสนุกๆ มีซาวนด์แปลกๆประกอบเพิ่มเติมเป็นสีสัน ตามต่อกันด้วย “Show Me” เพลงนี้เร็กเก้นอนมา ทั้งซาวนด์ทั้งลีลาการร้องที่ออกไปทางจ็อบ บรรจบ เอ้ย!!! ไม่ใช่ ออกไปทางป๋า บ็อบ มาร์เลย์ ราชาเพลงเร็กเก้ผู้ยิ่งยง แต่กระนั้นบรูโนก็ได้ใส่ความร่วมสมัยเข้าไปในท่อนแร็พที่ร้องแจมไปกับทางเพลงแบบเร็กเก้
“Money Make Her Smile” เพลงนี้มีผสมทั้งร็อก ฮิป-ฮ็อป อาร์แอนด์บี มีเสียงคอรัสสาวประกอบฟังแล้วชวนให้ย้อนไปนึกถึงวงสไปซ์เกิลส์อย่างช่วยไม่ได้
จากนั้นมาปิดท้ายกันด้วย “If I Knew” อีกหนึ่งเพลงเพราะจัดมาในแบบโซลบาดลึกอารมณ์ เปิดพื้นที่ให้บรูโนโชว์น้ำเสียงอันเซ็กซี่มีเสน่ห์ปิดท้ายอัลบั้มแบบรวดเร็วทันใจกับ 10 เพลง ใช้เวลาไปแค่ประมาณ 35 นาที(34.53 นาที)
อย่างไรก็ดีกับอัลบั้มนี้แม้จะมากันแบบสั้นๆ แต่เป็นความสั้นที่มากไปด้วยคุณภาพ และมีแนวทิศทางของคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน คือ มุ่งย้อนยุคไปในยุค 80’s -90’s เป็นหลัก พร้อมทั้งนำความหลากหลายของแนวดนตรี ไม่ว่าจะเป็น ร็อก โซล ดิสโก เร็กเก้ อาร์แอนด์บี ฮิป-ฮ็อป มาคลุกเคล้าผสมผสานกันออกมาเป็นบทเพลงป็อบเท่ๆอวลเสน่ห์ชวนฟัง กับน้ำเสียงร้องในโทนแหลมสูงที่เป็นจุดเด่นของบรูโน ซึ่งสามารถถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆออกมาได้อย่างหลากหลาย
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งในอัลบั้ม Unorthodox Jukebox ก็คือ แม้นี่จะเป็นอัลบั้มที่มีคอนเซ็ปต์อันเข้มแข็งไปกับซาวนด์ย้อนยุค แต่บรูโนได้นำซาวนด์และเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสม มิกซ์ใส่ลงไปได้อย่างกลมกล่อมทำให้งานเพลงโดยรวมในชุดนี้ ฟังร่วมสมัย ไม่เชย ไม่ตกรุ่น แถมยังไปถูกจริตของคนฟังเพลงในกระแสนิยมเป็นจำนวนมากอีกต่างหาก
นับได้ว่า Unorthodox Jukebox เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มเพลงป็อบมีกึ๋น ชวนฟัง ซึ่งต้องยอมรับว่า บรูโน มาร์ส ในพ.ศ.นี้ กำลังขึ้นหม้อ จับอะไรเป็นโดนและดังไปหมด
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Let’s Fall In Love
ค่ายบีอีซี-เทโรมิวสิค ออกอัลบั้มพิเศษรับเทศกาลแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ ในแพกเกจ 2 ซีดี 24 เพลง เป็นการรวมเพลงรักดังๆที่คุ้นหูแฟนเพลงเป็นอย่างดีทั้งเก่าและใหม่ กับเนื้อเพลงรักอันหลากหลาย อาทิ “เบา เบา”(Singular),”รักเธอ”(โต๋ ศักดิ์สิทธิ์), “สภาวะทิ้งตัว”(แดน วรเวช),“หยุด”,(Groove Rider), “ยอม”(ทาทา ยัง), “รู้บ้างไหม”(Crescendo) นับเป็นอัลบั้มรวมเพลงที่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเพลงรักเพราะๆ หรือบทเพลงฟังสบายๆ
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Especially For You
อีกหนึ่งอัลบั้มรับเทศกาลวาเลนไทน์จากค่าย Warner Music ที่ได้รวบรวมเพลงรักฮอตฮิตหลากหลายสไตล์จากยุค 80’s มาให้ฟังกันเต็มอิ่มถึง 75 เพลง ในกล่องแพกเกจ 5 ซีดี ประกอบด้วยบทเพลงรักชั้นนำ อาทิ “Especially For You”(Kylie Minogue & Jason Donovan), “It Must Have Been Love”(Roxette), “Hard To Say I’m Sorry”(Chicago), “Nothing’s Gonna Change My Love For You”(George Benson), “To Be With You”(Mr.Big)
Especially For You นับเป็นอัลบั้มรวมเพลงรักย้อนยุค ที่ฟังสบาย ฟังได้เรื่อยๆ แม้ว่าการเรียงลำดับเพลงจะไม่รื่นไหลสะดุดอารมณ์ไปบ้างก็ตาม
แม้เขาไม่ได้โด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน แต่แค่เพียงอัลบั้มแรก “Doo-Wops & Hooligans”ในปี 2010 ก็ทำให้ “บรูโน มาร์ส”(Bruno Mars) หรือชื่อเดิมคือ“ปีเตอร์ จีน เฮอร์นันเดซ”(Peter Gene Hernandez)โด่งดังกลายเป็นป็อบสตาร์เบอร์ต้นๆแห่งยุคสมัยได้อย่างไม่ยากเย็น
อัลบั้ม “Doo-Wops & Hooligans” แจ้งเกิดอย่างสวยงามให้กับนายดาวอังคาร รับทั้งเงิน ทั้งกล่อง ทั้งชื่อเสียง มีเพลงฮิตหลายเพลง อาทิ Just the Way You Are, Nothin on You, The Lazy Song, Grenade และ Marry Me ทำยอดขายกว่า 10 ล้านก็อปปี้ คว้ามาถึง 26 รางวัล เป็นการการันตีในคุณภาพ
วันนี้ บรูโน มาร์ส กลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ “Unorthodox Jukebox” ที่นับเป็นอีกหนึ่งอัลบั้มร้อนแรงแห่งยุคสมัย
อัลบั้มชุดนี้ มาร์ส เขียนเพลงเองทั้งหมดร่วมกับ ฟิลิปส์ ลอว์เรนซ์(Philip Lawrence) อะรี เลวินซ์(Ari Levince) รวมถึงทีมแต่งเพลงคนอื่นในบางเพลง โดยมี The Smeezingtons มานำทีมโปรดิวซ์
“Unorthodox Jukebox” มาในหน้าปกกอริลล่ายืนหยอดตู้เพลง ซึ่งมันสื่อถึงคอนเซ็ปต์อันเข็มแข้งของอัลบั้มชุดนี้ ที่เมื่อฟังไปได้สักพักงานเพลงจะคลี่คลายแนวคิดของบรูโนให้เรารับรู้ได้อย่างไม่ยากเย็น
อัลบั้มนี้ มีเพลงทั้งหมด 10 เพลง อันเป็นสูตรสำเร็จของเพลงในยุคเทปคลาสเซ็ทเมื่อครั้งในอดีต
Unorthodox Jukebox เปิดตัวกันด้วย “Young Girls” คีย์บอร์ดเล่นซ้อนกันมา 2 ไลน์ เมโลดี้เล่นโน้ตง่ายๆเป็นป็อบจ๋าฟังปุ๊บติดหูปั๊บ บรูโนร้องแบบสบายๆในโทนเสียงสูงฟังทรงเสน่ห์ในสไตล์ของเขา ซาวนด์เพลงนี้มาในแนวย้อนยุคซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์หลักของอัลบั้มนี้
ต่อกันด้วย “Locked Out Of Heaven” ซิงเกิ้ลแรกของอัลบั้มที่เดินขึ้นไปครองเบอร์หนึ่งในชาร์ตเพลงของบิลบอร์ดแบบสบายๆ
Locked Out Of Heaven หลายๆคนบอกเพลงนี้ฟังคล้าย MJ ไมเคิล แจ็คสัน แต่ผมฟังแล้วนึกถึงเพลง Roxanne ของวง The Police ที่ถือเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่ทรงอิทธิพลต่อบรูโน มาร์ส ย้ำนะครับว่าทรงอิทธิพล แต่ไม่ได้ไปลอกมาเหมือนหลายๆวงบ้านเราที่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่ลอกโน้ตอย่างเดียว แต่พวกลอกหมดทั้ง MV เสื้อผ้าหน้าผม น้ำเสียง ลีลา สไตล์ เรียกว่าถ้าเกาหลี ญี่ปุ่น ดังอะไร พวกค่ายยักษ์ใหญ่ก็เริ่มดำเนินการลอกทันที
กลับมาที่เพลงดัง Locked Out Of Heaven กันต่อ เพลงนี้เป็นป็อบแดนซ์สนุกๆ บรูโนร้องถ่ายทอดออกมาได้สนุกน่าฟังมาก ซาวนด์เพลงนี้แม้ฟังย้อนยุคกลับไปประมาณ 20 กว่าปีที่แล้ว ทั้งเสียงกลอง คีย์บอร์ด และซาวนด์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องเอ๊ะๆ อ๊ะๆ อุๆ อะไรนั่น แต่เพลง Locked Out Of Heaven กับฟังร่วมสมัย นับเป็นความเก่งของบรูโนที่สามารถนำความเก่ามาผสมกับใหม่ได้อย่างลงตัว
แทรคที่สามเป็น “Gorilla” เพลงนี้ภาคดนตรีมีความเป็นร็อกสูง เสียงกีตาร์ที่ฟังเด่นเล่นผ่านเอฟเฟคปรับเสียงแตกในซาวนด์ยุค 80’s บรูโนหันมาแหกปากร้องแบบร็อกได้ดีทีเดียว แต่ถึงอย่างไรเมโลดี้ยังคงเป็นป็อบฟังติดหูง่าย ส่วนเนื้อหาว่าด้วยเซ็ก ยาเสพติดที่แรงเอาเรื่อง มีสบถต้มฟักกระจาย
ส่วน “Treasure” เป็นป็อบแดนซ์สนุกผสมทางดิสโก เมโลดี้ฟังติดหูดีเหลือเกิน ทางเพลงดึงอารมณ์กับไป เมื่อ 20-30 ปีที่แล้วได้อย่างเด่นชัด กับเสียงกลองทื่อๆพร้อมไลน์เบสที่มีลูกตบในแบบเก่าๆ ซึ่งถ้าเปิดตามผับ เธค ร้านเหล้า วัยรุ่นบ้านเราแดนซ์กันกระจาย
ต่อกันด้วย “Moonshine” เน้นซาวนด์อิเลคทรอนิกเป็นหลัก ในจังหวะปานกลาง มีกลิ่นดิสโก้อ่อนๆ กีตาร์ตีคอร์ดขัดๆแบบฟังกี้ ฟังสนุกดี
เบรกอารมณ์กันด้วย “When I Was Your Man” เป็นบัลลาดหวานหยด เสียงเปียโนใสๆขึ้นนำมา ส่งต่อให้บรูโนโชว์เสียงร้องแบบหวานเศร้า เจือสำเนียงอาร์แอนด์บี เป็นอีกหนึ่งบทเพลงที่ปั้นให้ดังได้ไม่ยาก
“Natalie” อีกหนึ่งเพลงสนุกๆ มีซาวนด์แปลกๆประกอบเพิ่มเติมเป็นสีสัน ตามต่อกันด้วย “Show Me” เพลงนี้เร็กเก้นอนมา ทั้งซาวนด์ทั้งลีลาการร้องที่ออกไปทางจ็อบ บรรจบ เอ้ย!!! ไม่ใช่ ออกไปทางป๋า บ็อบ มาร์เลย์ ราชาเพลงเร็กเก้ผู้ยิ่งยง แต่กระนั้นบรูโนก็ได้ใส่ความร่วมสมัยเข้าไปในท่อนแร็พที่ร้องแจมไปกับทางเพลงแบบเร็กเก้
“Money Make Her Smile” เพลงนี้มีผสมทั้งร็อก ฮิป-ฮ็อป อาร์แอนด์บี มีเสียงคอรัสสาวประกอบฟังแล้วชวนให้ย้อนไปนึกถึงวงสไปซ์เกิลส์อย่างช่วยไม่ได้
จากนั้นมาปิดท้ายกันด้วย “If I Knew” อีกหนึ่งเพลงเพราะจัดมาในแบบโซลบาดลึกอารมณ์ เปิดพื้นที่ให้บรูโนโชว์น้ำเสียงอันเซ็กซี่มีเสน่ห์ปิดท้ายอัลบั้มแบบรวดเร็วทันใจกับ 10 เพลง ใช้เวลาไปแค่ประมาณ 35 นาที(34.53 นาที)
อย่างไรก็ดีกับอัลบั้มนี้แม้จะมากันแบบสั้นๆ แต่เป็นความสั้นที่มากไปด้วยคุณภาพ และมีแนวทิศทางของคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน คือ มุ่งย้อนยุคไปในยุค 80’s -90’s เป็นหลัก พร้อมทั้งนำความหลากหลายของแนวดนตรี ไม่ว่าจะเป็น ร็อก โซล ดิสโก เร็กเก้ อาร์แอนด์บี ฮิป-ฮ็อป มาคลุกเคล้าผสมผสานกันออกมาเป็นบทเพลงป็อบเท่ๆอวลเสน่ห์ชวนฟัง กับน้ำเสียงร้องในโทนแหลมสูงที่เป็นจุดเด่นของบรูโน ซึ่งสามารถถ่ายทอดอารมณ์ต่างๆออกมาได้อย่างหลากหลาย
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งในอัลบั้ม Unorthodox Jukebox ก็คือ แม้นี่จะเป็นอัลบั้มที่มีคอนเซ็ปต์อันเข้มแข็งไปกับซาวนด์ย้อนยุค แต่บรูโนได้นำซาวนด์และเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาผสม มิกซ์ใส่ลงไปได้อย่างกลมกล่อมทำให้งานเพลงโดยรวมในชุดนี้ ฟังร่วมสมัย ไม่เชย ไม่ตกรุ่น แถมยังไปถูกจริตของคนฟังเพลงในกระแสนิยมเป็นจำนวนมากอีกต่างหาก
นับได้ว่า Unorthodox Jukebox เป็นอีกหนึ่งอัลบั้มเพลงป็อบมีกึ๋น ชวนฟัง ซึ่งต้องยอมรับว่า บรูโน มาร์ส ในพ.ศ.นี้ กำลังขึ้นหม้อ จับอะไรเป็นโดนและดังไปหมด
*****************************************
แกะกล่อง
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Let’s Fall In Love
ค่ายบีอีซี-เทโรมิวสิค ออกอัลบั้มพิเศษรับเทศกาลแห่งความรัก วันวาเลนไทน์ ในแพกเกจ 2 ซีดี 24 เพลง เป็นการรวมเพลงรักดังๆที่คุ้นหูแฟนเพลงเป็นอย่างดีทั้งเก่าและใหม่ กับเนื้อเพลงรักอันหลากหลาย อาทิ “เบา เบา”(Singular),”รักเธอ”(โต๋ ศักดิ์สิทธิ์), “สภาวะทิ้งตัว”(แดน วรเวช),“หยุด”,(Groove Rider), “ยอม”(ทาทา ยัง), “รู้บ้างไหม”(Crescendo) นับเป็นอัลบั้มรวมเพลงที่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบเพลงรักเพราะๆ หรือบทเพลงฟังสบายๆ
ศิลปิน : รวมศิลปิน
อัลบั้ม : Especially For You
อีกหนึ่งอัลบั้มรับเทศกาลวาเลนไทน์จากค่าย Warner Music ที่ได้รวบรวมเพลงรักฮอตฮิตหลากหลายสไตล์จากยุค 80’s มาให้ฟังกันเต็มอิ่มถึง 75 เพลง ในกล่องแพกเกจ 5 ซีดี ประกอบด้วยบทเพลงรักชั้นนำ อาทิ “Especially For You”(Kylie Minogue & Jason Donovan), “It Must Have Been Love”(Roxette), “Hard To Say I’m Sorry”(Chicago), “Nothing’s Gonna Change My Love For You”(George Benson), “To Be With You”(Mr.Big)
Especially For You นับเป็นอัลบั้มรวมเพลงรักย้อนยุค ที่ฟังสบาย ฟังได้เรื่อยๆ แม้ว่าการเรียงลำดับเพลงจะไม่รื่นไหลสะดุดอารมณ์ไปบ้างก็ตาม
