อสมท แถลงผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2555 ฟันกำไร 481 ล้าน ปลายเดือนนี้เตรียมเปิดผังรายการใหม่ และปรับค่าโฆษณา มั่นใจผังใหม่จะทำกำไรให้ อสมท มากกว่าปีนี้ ประกาศปีหน้าจะเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ใหม่จาก “สังคมอุดมปัญญา” เป็น “สังคมสร้างสรรค์ด้วยปัญญา” เตรียมดึงดารา-คนมีชื่อเสียงมาเป็นผู้นำในเรื่องการเปลี่ยนนิสัยคนในสังคม ให้มีจิตสาธารณะมากขึ้น
เปิดแถลงผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3 ของปี 2555 ไปแล้ว สำหรับ บมจ.อสมท โดยมี ดร.เอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่พร้อมคณะผู้บริหาร บมจ. อสมท ร่วมงาน โดย ดร.เอนก ได้เปิดเผยภาพรวมต่างๆ ว่า..
“ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2555 มีทิศทางที่ดี มีกำไร 481 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำให้กำไรสุทธิ 9 เดือนแรก มีจำนวน 1,283 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยผลกำไรที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้ด้านโทรทัศน์ที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 24 การผลิตรายการของ อสมท รวมถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ส่วนราชการและเอกชน การถ่ายทอดกีฬาโอลิมปิก ทำให้มีผู้ชมเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว”
“ขณะที่ด้านวิทยุ ไตรมาส 3 รายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เนื่องจากการทำกิจกรรมร่วมกับสถานีวิทยุภูมิภาค ตลอดจนการจัดกิจกรรมด้านต่างๆ ของคลื่น FM 95 FM 97.5 และคลื่น 107 ที่ครองความนิยมจากผู้ฟังในกลุ่มเป้าหมายของตนเอง และไตรมาส 4 คาดว่าอุตสาหกรรมโฆษณาจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรในปีนี้ยังคาดว่าจะทำกำไรได้มากกว่าร้อยละ 15 ตามเป้าหมาย เนื่องจาก อสมท ยังคงมีส่วนแบ่งการตลาดเงินค่าโฆษณาด้านทีวีประมาณร้อยละ 18-19”
“ในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ เตรียมประกาศการปรับผังรายการใหม่ และการปรับค่าโฆษณาในบางส่วน เพราะหลังปรับปรุงรายการต่างๆ บางรายการได้ทำให้มีโฆษณาไหลเข้ามาดีขึ้นหลายรายการ และคาดว่าผังใหม่จะทำให้กำไร อสมท มากกว่าปีนี้ร้อยละ 15 โดยจะเน้นรายการด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-40 ของทุกช่วงรายการข่าว เพราะจากการสำรวจความเห็นประชาชนส่วนใหญ่ ต้องการรับทราบข่าวสารที่เกี่ยวกับอาชีพ ชีวิตความเป็นอยู่ในการประกอบอาชีพประจำวันทางด้านเศรษฐกิจ มากกว่าข่าวสารด้านโต้แย้งทางการเมือง ภาพอาชญากรรมหวาดเสียว”
“เนื่องจากปีหน้าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีเกี่ยวกับการกระจายเสียงจนถึงปี'58 ผู้บริหาร อสมท ก็เลยเปลี่ยนแนวทาง โดยลักษณะให้ อสมท เป็นเอ็มคอท อะคาเดมิกให้ อสมท เราเป็นพลวัตร ขณะเดียวกันก็จะเป็นองค์กรที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมที่ติดตามรายการของเราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การดำเนินการของเราทำตามเป้าประสงค์หลักของการจัดตั้งองค์กร ทั้งในส่วนของการดำเนินธุรกิจและการให้ข่าวสารกับประชาชนทุกด้าน เราก็เอาเป้าหมายหลักพวกนี้มาดำเนินการกับทางเนื้อหารายการต่างๆ”
“เราต้องเอาผู้ชมเป็นหลักว่าผู้ชมได้อะไรจากการชมรายการของเราบ้าง นี่เป็นเรื่องที่เราจะปรับเปลี่ยน โดยเน้นเรื่องเด็กและเยาวชนเป็นหลัก ซึ่งปีหน้าเราจะมีการเตือนเวลาที่เด็กๆ ควรจะเข้านอน ก็จะมีสัญลักษณ์ของเราที่จะออกมาเชิญชวนให้เด็กๆ นอนแต่หัวค่ำ ก็ต้องติดตามดูว่าจะเป็นยังไง เราเน้นความสุขของประชาชนและครอบครัวเป็นหลัก เราจะไม่เสนอข่าวสารที่เป็นเรื่องขัดแย้งที่รุนแรง อาชญากรรมต่างๆ ในช่วงการนำเสนอข่าวในช่วงรับประทานอาทานอย่างในช่วงเช้า ช่วงเย็น ก็จะไม่ได้เห็นอะไรที่เป็นความรุนแรงและเลือดท่วมจอเกิดขึ้น คือต้องการที่จะสร้างสังคม ทำให้ผู้ชมมีความสุข”
ยันจะไม่มีการปิดกั้นข่าวสารแน่นอน
“เรื่องนี้ไม่มีแน่นอน เราพยายามเน้นข่าวในเชิงสร้างสรรค์ อะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนต้องเผยแพร่อย่างเต็มที่”
“ปีหน้าที่ปรับเยอะเพราะเราผลิตเอง50เปอร์เซ็นต์ แล้วเราก็มีพันธมิตรเดิมๆ ที่ทำงานด้วยกันอยู่แล้วร่วมกับเรา ข่าวจะเน้นสิ่งที่เป็นความจำเป็นกับประชาชน เรื่องการจราจร ภูมิอากาศ ข่าวสารเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชน ในแต่ละช่วงของข่าวจะต้องมีข่าวเศรษฐกินไม่ต่ำว่า30-40 เปอร์เซ็นต์”
“ในส่วนเรื่องไอทีปีหน้าเราจะเปลี่ยนเข้าสู่อนาล็อกไปดิจิตอล เรากำลังคุยกับกสทช.ว่าเราจะช่วยเรื่องการะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้ทราบว่า โทรทัศน์ดิจิตอลมันคืออะไร เราจะต้องทำอะไรเตรียมพร้อมอะไรบ้าง เราก็จะมีการร่วมมือกับกสทช.หลายอย่างในปีหน้า เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ชมได้เข้าสู่โลกแห่งดิจิตอล ซึ่งถือเป็นช่วงปฎิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่3 เทคโนโลยีมีความสำคัญไปสู่ชีวิตประชาชนแล้ว ทุกคนถือโทรศัพท์มือถือ เด็กใช้แท็บเล็ต ผู้ปกครองเองก็ต้องเรียนรู้เรื่องเหล่านี้ ว่าเขาจะต้องเตรียมความพร้อมยังไงบ้างเพื่อให้เข้าใจเด็กๆ ในวัยนี้”
“ในอีก5ปีเราต้องใช้ระบบดิจิตอลพร้อมกับกลุ่มอาเซียน เรื่องงบประมาณเรากำลังดำเนินการอยู่ ขึ้นอยู่กับกสทช.ว่าเขาจะออกระเบียบประกาศมาอย่างไร แต่ช่วงนี้ก็มีการเตรียมพร้อมกันแล้ว เราจะเริ่มดำเนินการทดลองออกอากาศในวันที่ 5 ธันวาคม ถ้ามีติดขัดอย่างไรก็อาจจะเป็นต้นเดือนมกราคม ตอนนี้เราต้องสร้างความพร้อมของเราก่อน ทั้งในส่วนเทคนิคและทางบุคคลากรต่างๆ สำหรับการหารายได้ของ อสมท อนาคตเน้นสร้างความสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ เพื่อร่วมสร้างภาพลักษณ์องค์กรและการชี้แจงข้อมูลข่าวสาร เช่น ธนาคารออมสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ การเคหะแห่งชาติ”
มั่นใจการเปลี่ยนแปลงยิ่งเพิ่มเรตติ้งให้สถานี
“เราพบว่าเด็กจำนวนมากให้ความสำคัญกับเนื้อหาสาระของรายการ เราควรจะต้องผลิตรายการที่มีประโยชน์ มีสาระกับผู้ชม ให้ความบันเทิงในเชิงสร้างสรรค์และคิดสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชม คิดว่าแบบนี้คนจะดูมากขึ้น โทรทัศน์มีส่วนปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและค่านิยมของคนในสังคมนะ เราจะเป็นส่วนเหล่านี้ในการสร้างรายการปรับเปลี่ยนนิสัยของคนออกมา โดยเอาดาราหรือคนมีชื่อเสียงออกมาเป็นผู้นำในเรื่องของการเปลี่ยนนิสัย เช่น การเข้าห้องน้ำสาธารณะควรจะทำให้เหมือนห้องใหม่ตลอดเวลา หรือรับผิดชอบการเข้าแถว สร้างนิสัยที่ดีให้กับคนในสังคม ให้เขารับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้น มีจิตสาธารณะมากขึ้น”
