แม้ข่าวคาวจะเงียบหายไประยะหนึ่ง แต่ความสัมพันธ์ยังยืดยาวต่อเนื่อง สำหรับ “มหากาพย์ผัวเขารักฉัน” รักสามเส้าระหว่าง “เป๊ก” สัณชัย เองตระกูล กับแม่ของลูกลียา “ธัญญ่า - ธัญญาเรศ” กับ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ในฐานะ “มือที่ 3” เมื่อพิ้งกี้กลับมาในวงการบันเทิง การถ่ายทำละคร “ มารยาริษยา - ราชินีลูกทุ่ง” ที่ผ่านมา
สายตาหลายคู่ที่สอดส่องอยู่นั้นก็มักจะพบพฤติกรรมของ “พิ้งกี้” ที่มักจะถอดซิมเก่า เปลี่ยนซิมใหม่ และหลบอยู่ตามมุม ยิ้มและคุยเสียงหวาน … และผู้ที่คุยด้วยนั้นคือ “เป๊ก - สัณชัย” คนนี้นั่นเอง... สงครามหลอกล่ออารมณ์ระหว่าง “ธัญญ่า” กับ “สรินยา ไชยเดช” แม่ของพิ้งกี้นั้น เนื่องมาจากข้อความ Miss You Na ที่ปรากฏขึ้นในโทรศัพท์เป๊ก ที่ธัญญ่าเหลือบไปเห็นเข้าพอดี ในระหว่าง วันคล้ายวันเกิดของ “กีต้าร์” ศิริพิชญ์ วิมลโนช
เรื่องระหว่าง “ธัญญ่า - ธัญญาเรศ เองตระกูล” กับ “พิ้งกี้ - สาวิกา ไชยเดช” ดูเหมือนว่าจะยังคงไม่จบง่ายๆ แม้เรื่องจะเงียบหายไปในช่วงระยะเวลาหนึ่ง จนมีคลิปเสียงดุเดือดระหว่างธัญญ่ากับแม่ของพิ้งกี้มาสู่สาธารณชน หลังจากที่ธัญญ่าจับได้ว่าพิ้งกี้ยังมีการติดต่อส่งข้อความบอกคิดถึงมาหา “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” งานนี้ธัญญ่าบอกว่าไม่ได้ตั้งใจปล่อยคลิปแฉ แต่ส่งหาเพื่อนหลายคน เพราะต้องการหาที่ระบายความอัดอั้นตันใจ
ข้อความ Miss You Na ที่ “พิ้งกี้” สาวิกา ไชยเดช ส่งไปหา “เป๊ก” สัณชัยในวันที่ธัญญ่ากับเป๊กกำลังอยู่ในงานปาร์ตี้เลี้ยงฉลองวันเกิดของ “กีตาร์” ศิริพิชญ์ วิมลโนช(กฤษณะเศรณี) ดาราสาวเพื่อนสนิทของธัญญ่า ขณะที่บรรยากาศของงานเป็นไปด้วยความชื่นมื่น จู่ๆเสียง “แมสเซจมรณะ” ก็ดังขึ้นที่เครื่องโทรศัพท์ของเป๊ก ขณะที่เป๊กกดดูข้อความดังกล่าวเป็นจังหวะเดียวกับธัญญ่าเหลือบสายตาไปเห็นข้อความนั้นพอดี แต่ในฐานะนางเอกเจ้าบทบาทและต้องให้เกียรติเจ้าของงานจึงเก็บงำความรู้สึกที่ไม่พอใจนั้นไว้กระทั่งงานเลิก ก่อนจัดเต็มชุดใหญ่ด้วยการหลอกล่อ ไถ่ถามกับ “สรินยา ไชยเดช” แม่ของพิ้งกี้ในเวลาต่อมา
คงไม่ต้องบรรยายว่า ธัญญ่าใช้จิตวิทยาในการพูดอย่างไรที่เล่นเอาฝ่ายแม่ของพิ้งกี้เกิดอาการฟิวส์ขาด โต้ตอบด้วยถ้อยคำอันเผ็ดร้อน ชนิดที่แม่ค้าสี่มุมเมืองยังต้องม้วนเสื่อ !?
ถ้อยความจากใจของ “เป๊ก” สัณชัยที่แถลงข่าว เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 15 สิงหาคม ในงานคอนเสิร์ต “Jetrin 20th Anniversary World tour 2012 ณ Muse ซอยทองหล่อ 10 ที่ว่า
“บางทีผมก็ส่ง เดือนละครั้ง เมื่อเวลาผมเห็นสื่อหรือเห็นอะไรที่ทำให้มันนึกถึงคนที่เคยรู้จัก ผมก็เอสเอ็มเอสไปเป็นปกติ หรือในอนาคตถ้าผมเจอน้องเขา ผมก็คงต้องทัก ส่งเมสเซจไปตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องแบบนั้น มันเป็นเรื่องปกติมาก”
ยืนยันความชัดเจนถึง “จุดยืน” ของตัวเอง
“ อันนี้บอกให้ธัญญ่าฟัง ยืนยันได้เลยอย่างลูกผู้ชายว่า เรื่องเหล่านั้นคงไม่มีเหมือนที่อธิบายทั้งหมด”
ธัญญ่าไม่ปล่อยให้มีช่องว่าง ถามแทรกว่า “คงไม่มีหรือไม่มี” - “ไม่มีๆ”
จุดยืนของธัญญ่าคือ ต้องการให้เป๊กเลิกคบค้าสมาคมกับพิ้งกี้โดยเด็ดขาดทุกกรณี ! ไม่มีข้อยกเว้น เข้าทำนองว่า “มีธัญญ่าต้องไม่มีพิ้งกี้” ประมาณนั้นเลยทีเดียว ช่วงที่พิ้งกี้หายหน้าจากวงการไประยะหนึ่งนั้นถือเป็นชัยชนะ แต่สุดท้าย... ใช่ว่า “ชนะขาด” เพราะ “สายใย” ที่เป๊กได้แยกแยะจัดวางไว้นั้นยังคงอยู่
ความเป็นครอบครัวยังอยู่ ลูก - เมียยังเป็นที่รัก และเปลี่ยนสถานภาพบางอย่างเพื่อให้มิตรภาพของ “เป๊ก -พิ้งกี้” ยังอยู่ เพราะฉะนั้น … ในช่วงที่ข่าวคราวเงียบงันนั้น ใช่ว่าทั้งคู่จะขาดการติดต่อกันเลยเสียทีเดียว
ฉะนั้น … เรื่องที่หลุดลอดออกจากกองถ่าย “มารยาริษยา - ราชินีลูกทุ่ง” ที่ว่า พิ้งกี้ใช้เวลาว่างจากการถ่ายทำละครในบางวัน บางเวลา ถอดซิมเก่าเปลี่ยนซิมใหม่ที่โทรศัพท์ ยืนหลบอยู่ตามมุมกดโทรศัพท์คุยกับเป๊กคงไม่ใช่ข่าวเมาท์ที่พูดกันไปเรื่อยเปื่อย เพราะทั้งพิ้งกี้และครอบครัวไชยเดชเห็นว่า เป๊กเป็นที่ปรึกษาที่ดีได้ในหลายเรื่อง เรื่องนี้ชัดเจนมาแต่แรก มูลรอบใหม่มาปรากฏเมื่อธัญญ่าบังเอิญส่ายสายตาไปเห็นข้อความนั่นพอดีในคืนหนึ่ง เรื่องเลยกลับมาระอุอีกครั้ง จนธัญญ่าต้องไปลาก “สามี” ออกมาให้เป็น “จำเลย” อีกครั้ง
การที่พิ้งกี้กลับเข้ามาประกอบสัมมาชีพในวงการหาเลี้ยงครอบครัว และทำท่าจะไปได้ดี ไม่ได้ออกมาตีเสมอ ลอยหน้าลอยตาเหมือนแต่ก่อน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า ทั้งคู่ได้ยุติความสัมพันธ์แบบเดิมมาสู่สถานะใหม่ ทั้งนี้ เพราะเป๊กกับพิ้งกี้ และครอบครัวไชยเดชไม่เคยมีปัญหากัน แล้วทำไมต้องไม่มองหน้ากัน หรือเลิกคบค้ากัน ทั้งที่ ณ ขณะปัจจุบัน สถานภาพที่ธัญญ่าระบุเสมอมาคือ “แยกบ้าน ไม่รู้จะคืนดีหรือเปล่า?” คำถามคือ แล้วทำไมต้องตีโพย ตีพาย หึงหวงทำไม !?
เพียงเพื่อเงื่อนไข ต่อรอง ข่มขู่ เรื่อง “หย่า” !! ทั้งที่รู้แก่ใจว่า “เป๊ก” สัณชัย และครอบครัวเองตระกูลรักลูกและหลานคนนี้เพียงไร ถึงแม้จะเป็นเด็กอุ้มบุญที่ฝากท้องพี่สาวธัญญ่าก็ตาม
อุปนิสัยและกิตติศัพท์ในเรื่อง ความเจ้าชู้นั้น ธัญญ่ารู้ดีอยู่แก่ใจ ต่อให้ไม่มี “พิ้งกี้” ตามนิสัยก็ต้องมีคนอื่นอยู่ดี ธัญญ่าใช่ว่าจะไม่รู้ว่า “บางคน” ของเป๊กก็เป็นเพื่อนสนิทของธัญญ่า เพียงแต่ผู้หญิงเหล่านั้น เป๊กไม่ได้คิดจริงจังเท่านั้นเอง และการที่เป๊กกับพิ้งกี้ยังคบหากันอยู่ ก็ใช่ว่าจะต้องเป็นเรื่องนั้นๆไปเสียหมด เพราะบางครั้ง สำหรับลูกผู้ชายบางคนแล้ว “เพื่อน - มิตรภาพ” อาจจะสำคัญกว่า “คนรัก - ความรัก” ก็ได้ ยิ่งการที่ธัญญ่าไล่ต้อนให้ “เป๊ก” จนมุม ด้วยการออกมาร่วมแถลงข่าว ใช่ว่า เป๊กจะแฮปปี้ !?
ธรรมชาติของสัญชาตญาณของความเป็นผู้ชายนั้น ต่อให้ “ผิด” แค่ไหนก็ไม่อยากจะตกเป็น “จำเลย”
ถามหาในเรื่องความแฟร์แล้ว ก็ต้องบอกว่า ทุกอย่างที่เป๊กจัดให้แก่ธัญญ่าและครัอบครัว ให้แก่ลูกนั้น ถือว่า แฟร์มากแล้ว !! ถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นที่ไม่ได้มีฐานะดีมากขนาดนี้ก็คงยากที่จะทำได้
ยิ่งธัญญ่ารุกมากเท่าไหร่ เป๊กก็จะยิ่ง “รักลูกแต่สงสารพิ้งกี้” มากขึ้นเท่านั้น
ในความเป็น “ผู้ชนะ” ก็อาจจะเป็น “ผู้แพ้” และในความเป็น “ผู้พ่าย” ก็อาจจะเป็น “ผู้ชนะ” (ใจ) ก็ได้ ใครจะไปรู้
แต่สิ่งหนึ่งที่ธัญญ่าต้องคิดให้จงหนักคือ เรื่องราวทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นข่าว - การแถลงข่าว - คลิปเสียงทั้งหลาย เคยคิดมั้ยว่า เมื่อลูกสาวโตขึ้น ข้อมูลเหล่านั้นจะทำให้รู้สึกกับพ่ออย่างไร และอะไรจะเกิดขึ้นกับเด็ก
โบราณว่า ยามรักให้เปิดตาสองข้าง แต่แต่งงานแล้วให้ปิดตาลงข้างหนึ่ง บางที การอดทน อดกลั้นเพื่อลูกก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตครอบครัวที่ธัญญ่าควรคิดให้จงหนัก
การแถลงข่าวล่าสุดนี้ พิจารณาจากสีหน้าของธัญญ่าแล้ว ต้องบอกว่า “ยังขุ่นและกรุ่น” อยู่มาก และมุมมองที่แตกต่างในเรื่องเดียวกันนี้ คงยากที่จะให้เรื่องทุกอย่างจบ
เรื่องนี้ยังไงก็ไม่จบ !! ไม่สามารถเข้าสู่วาระ “ปรองดอง” ในครอบครัวได้
....................................
ที่มานิตยสาร ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 150 วันที่ 18-24 สิงหาคม 2555