“พิ้งกี้” ร้องโฮ โผล่ขอโทษ “ธัญญ่า” ที่ส่ง sms หา “เป๊ก” ซัดฝ่ายชายส่งมาก่อน ตนเลยตอบกลับตามมารยาท ก่อนไล่ออกไปจากชีวิต พร้อมป้องแม่พูดไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ เหน็บไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมอัดเสียง กัดคนปล่อยคลิป สนุกแล้วก็กลับไปทำประโยชน์ให้สังคมซะ
สุดท้ายก็เขี่ยข่าวฉาวไม่พ้นตัวซะที สำหรับนางเอกหน้าแขก “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ทั้งที่เพิ่งจะกลับมายืนในวงการบันเทิงได้ไม่นาน ก็กลับมีเรื่องให้ชื่อเสียงต้องคาวอีกครั้ง หลังมีคลิปเสียง “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ทะเลาะกับ “สรินยา ไชยเดช” แม่ของพิ้งกี้หลุดออกมา ซึ่งชนวนเหตุก็เป็นเพราะธัญญ่าจับได้ว่าพิ้งกี้ส่งข้อความ “คิดถึง” ไปหา “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” สามีอีก จนทำให้ประเด็นรักสามเส้าร้อนขึ้นมาอีก
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้ ทางฝ่ายของเป๊กได้ควงธัญญ่าออกมาแถลงข่าวแล้ว โดยเป๊กยอมรับว่า ยังตัดไม่ขาดและแอบคิดถึงพิ้งกี้อยู่ทำให้มีการส่งข้อความหากันเดือนละครั้ง แต่ยืนยันคิดแค่พี่น้องไม่มีเรื่องชู้สาว ทางด้านของธัญญ่าก็ออกปากวิงสอน ว่า ขอให้พิ้งกี้เลิกยุ่งกับสามีตน เพราะทุกข์ทรมานมานานมากแล้ว
ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น พิ้งกี้ก็เอาแต่เก็บตัวเงียบ ถึงขั้นมีการยกเลิกงานอีเว้นต์ที่เคยรับไว้ แต่ล่าสุดเจ้าตัวก็เลิกหลบหน้า หอบความกล้าออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรกในงาน Zen Body Sense 2012 Stories of Seduction ที่ห้างสรรพสินค้า Zen@เซ็นทรัลเวิลด์ โดยในครั้งนี้ทำเอาสาวพิ้งกี้พูดน้ำตานองหน้าเลยทีเดียว
“วันนี้มาร่วมงานปกติไม่ได้แถลงข่าวใดๆ ทั้งสิ้น เรื่องทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น เราไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับใคร และอยากจะขอร้องว่าขอให้เรื่องนี้มันจบได้เสียที จบได้แล้วนะคะ จะบอกว่าเอสเอ็มเอสที่กี้ส่ง เป็นเอสเอ็มเอสของกี้จริง เป็นเอสเอ็มเอสปกติ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น เจตนาที่ส่งไม่มีอะไรแอบแฝง เพราะพี้เป๊กเป็นคนส่งมาให้กี้เองจริงๆ”
“เบอร์นี้เป็นเบอร์เก่ากี้ที่กี้ใช้มานานแล้ว ซึ่งกี้ไม่ได้ใช้มาเป็นปี พอเปิดมาก็มาเจอว่าพี่เขาส่งมาหากี้ กี้ก็ตอบไปโดยไม่ได้คิดอะไร ไม่งั้นคงไม่กล้าตอบไปหรอกค่ะ เอสเอ็มเอสนี้เป็นเอสเอ็มเอสที่กี้ส่งให้เพื่อนๆ ทุกคน ไม่ได้มีความหมายพิเศษใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีใครที่จะมานอกเหนือจากพ่อแม่กี้ ไม่มีใครอยู่ในหัวสมองกี้ นอกจากพ่อแม่ครอบครัวกี้เท่านั้น”
“หลังจากนี้ ก็เดินหน้าทำงานปกติ กี้ยังทำงานทุกวัน เคยทำงานยังไงวันนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นเพราะเราไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้มีเหตุการณ์ใดๆ ที่เราจะต้องเปลี่ยนแปลงทั้งสิ้น ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นมันคือเรื่องคลิป เราไม่ได้เป็นคนไปทำอะไรเกี่ยวกับคลิปเลย เราอยู่ของเราดีๆ แล้วคุณแม่เอง เราต้องเข้าใจท่าน มีใครโทร.มาหาแม่แบบนี้ก็ต้องอารมณ์เสีย”
“หนูฝากขอโทษด้วย แล้วก็ต้องขอโทษด้วยที่ส่งเอสเอ็มเอสไปทำให้ใครไม่เข้าใจหรือเข้าใจผิด หนูก็ขอโทษด้วย ขอโทษนะคะ ขอโทษที่คุณแม่พูดไม่ดี คุณแม่พูดเสียหาย คุณแม่ไม่มีเจตนาอะไรเลย แม่พูดด้วยความจริงใจ และบริสุทธิ์ไม่ได้มีเล่ห์เหลี่ยมที่จะต้องมาอัดหรืออะไรต่างๆ นานา”
ยืนยัน “เป๊ก” เป็นคนส่งข้อความมาหาก่อน
“พี่เป๊กเป็นคนส่งมาก่อนค่ะ กี้ก็ต้องตอบไปตามปกติ คำตอบนี้มันเป็นเอสเอ็มเอสภาษาแชต ที่ทุกคนเขาก็ใช้กันปกติ หนูขอยืนยันนะ ในสมองหนูไม่มีอะไรที่จะมาสำคัญเลย ไม่ได้อยู่ในหัวสมองหนู”
จะเลิกส่งเลยมั้ย?
“ไม่ได้เลิกส่งค่ะ แต่ขอร้องว่าอย่ามาวุ่นวายกับชีวิตหนูอีก”
สรุปว่าถ้าเขาทักมาเราก็จะไม่ส่งกลับไป?
“ก็ไม่ได้ใช้เบอร์นี้อยู่แล้ว ไม่ได้ใช้ แค่ไปเปิดเจอแล้วเห็นเท่านั้นเอง”
แปลว่าทุกอย่างจะจบ?
“ทุกอย่างจบ หนูกับแม่จบ พี่เชื่อมั้ย ทุกวันนี้หนูทำงานถ่ายละคร 7 วัน (น้ำตาหยด) เล่นคอนเสิร์ตอีก เรียกว่าทำงานทุกวัน จนไม่มีเวลาได้นอน”
“ธัญญ่า” บอกว่าให้หยุดส่งข้อความหาคนของเขาสักที?
“หนูไม่ได้หยุดพี่ หนูไม่เคยส่ง ก็ส่งแค่ครั้งนี้ แค่เป็นมารยาทที่คนเรามันเป็นมนุษย์ มันต้องมีความเป็นมิตร มันเป็นมิตรกัน เขาก็จะส่งถึงกันได้”
เมื่อถามว่า “เป๊ก” ส่งมาว่ายังไงบ้าง เจ้าตัวก็ถึงกับสวนว่าไม่ต้องรู้ลึกถึงขนาดนั้น!
“พี่ไม่ต้องมารู้ถึงขนาดนั้นหรอก รายละเอียดคงไม่ต้องพูดกันขนาดนั้น คนเราไม่ว่าจะเป็นใคร เราก็ต้องตอบในลักษณะของความเป็นมิตรกันทั้งนั้น ที่เราจะตอบกันได้ ต่อไปนี้อย่ามาถามเรื่องนี้กับกี้อีก กี้ขอร้อง กี้จบแล้ว”
แต่เมื่อถามย้ำว่า ตกลงถ้าเขาส่งมาอีก เราก็จะไม่ส่งตอบอีกแล้วใช่มั้ย? พิ้งกี้ก็บอกว่า…
“เรื่องเอสเอ็มเอสไม่ต้องกังวล หนูจะไม่ทำอะไรให้ใครเดือดร้อน แล้วจะไม่ทำให้ใครผิดหวัง หนูขอบอกพี่ๆ ทุกคน (น้ำตาหยด) แล้วก็...แล้วต่อไปนี้กี้จะไม่ทำให้ใครผิดหวังแม้แต่พี่ๆ นักข่าวทุกคน กี้รับประกันว่าจะไม่มีเรื่องอะไรที่พวกพี่ๆ จะต้องมาเครียดกันอย่างนี้อีก ขอร้องคนที่ปล่อยคลิปหรือว่าอะไร สนุกกันแล้วหรือว่าหัวเราะกันแล้ว ก็กลับไปทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมบ้าง”
“ส่วนคุณแม่ ตอนนี้คุณแม่ถือศีลอดอยู่ ก็ออกบวชอยู่ ไปทำอาหารให้คนที่สุเหร่า ไม่อยากร้องไห้เลยว่ะจริงๆ (ยกมือขอพอจบการสัมภาษณ์)”