“เป๊ก” แอ่นรับตัดไม่ขาดยังส่งข้อความหา “พิ้งกี้” ตามประสาคนรู้จัก แต่ยืนยันอย่างลูกผู้ชายไม่มีเรื่องชู้สาว ฉุนกึกโดนถามจะยังติดต่อพิ้งกี้อีกมั้ย ตอกอย่ามาคะยั้นคะยอ ก่อนยืดอกรับแมนๆ ผมเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด ลั่นจะทำทุกวิถีทางให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม ด้าน “ธัญญ่า” บอกทุกข์ทรมานมามากแล้ว วอนพิ้งกี้อย่าติดต่อสามีอีก
ยังคงเป็นมหากาพย์เรื่องยาวฉาวสะท้านวงการอยู่ หลังจากมีคลิปเสียงที่แทนตัวเองว่า “ธัญญ่า” โต้เถียงกัน กับ “แม่พิ้งกี้” เพราะฝ่ายแรกโกรธที่พิ้งกี้ส่งข้อความ “คิดถึง” ไปหาสามีของตนเองที่ชื่อ “เป๊ก” ทำเอาทางฝ่ายของแม่พิ้งกี้ฟิวส์ขาดโต้กลับอย่างดุเดือดถึงขั้นขึ้น มึง กู เ_ ี้ย
ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นทางฝ่ายของ “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ที่ออกมายอมรับว่าเป็นเสียงของตนเองเถียงอยู่กับ “สรินยา ไชยเดช” แม่ของนางเอก “พิ้งกี้ สาวิกา” เพราะไม่พอใจที่พิ้งกี้ส่งข้อความคิดถึงมาหาสามี พร้อมเผยตั้งใจอัดเสียงไว้ให้สามีและเพื่อนๆ ฟัง แต่ส่งให้เพื่อนหลายคน อาจทำให้เสียงดังกล่าวหลุดออกไปวงกว้าง ด้าน “แม่พิ้งกี้” ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้แล้วเช่นกัน โดยรับผิดที่พูดคำหยาบคายกับธัญญ่า แต่อยากให้เข้าใจว่า ทำไปเพื่อปกป้องลูก ก่อนแขวะธัญญ่าคงเห็นว่าลูกสาวของตนกำลังกลับเข้ามาในวงการบันเทิงมีงานเลยทนไม่ไหว
ล่าสุด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันนี้ (15 ส.ค.) “ธัญญ่า” ได้ควงสามี “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” ออกมาเปิดใจถึงคลิปดังกล่าวอย่างเป็นทางการครั้งแรก ในงานแถลงข่าวคอนเสิร์ต “Jetrin 20th Anniversary World tour 2012” ที่ร้าน Muse ทองหล่อซอย 10 โดยทั้งคู่เปิดฉากแจงแจงเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า….
เป๊ก : “ผมไม่อยากให้มองว่าเรื่องเอสเอ็มเอสเป็นเรื่องสาระสำคัญนะ ถ้าถามว่าเรื่องเอสเอ็มเอสเป็นยังไง ผมก็จะบอกว่ามันเป็นเรื่องจริง เบอร์ก็เป็นเบอร์ที่น้องเขาเคยใช้ ผมรู้และเข้าใจดีว่าเอสเอ็มเอสที่ส่งไปเป็นแค่การทักทาย คำที่อยู่ในประโยคนั้นๆ หรืออยู่ในเอสเอ็มเอสมันสามารถทำให้คนคิดได้ไปหลายรูปแบบ เพราะต่างคนก็ต่างความคิด มันก็ด้วยต่างวาระต่างสถานการณ์ ทำให้คำๆ นี้ สามารถแปลความหมายไปได้ในหลายความหมาย”
“อยากจะบอกว่า จริงๆ แล้ว มันเป็นเรื่องปกติของการส่งเอสเอ็มเอสสำหรับคนที่รู้จักกัน มันเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องของมนุษย์ เป็นเรื่องของคนที่ทำกันได้ ผมเองในบางครั้งที่ได้เห็นน้องเขาตามสื่อ หรือตามโฆษณา พอนึกถึงก็ส่งเอสเอ็มเอสไปตามปกติ ซึ่งผมก็บอกธัญญ่า แต่ผมเข้าใจในเรื่องของธัญญ่าที่ได้รับเอสเอ็มเอสในวันนั้น ในฐานะภรรยา ธัญญ่าก็จะต้องโกรธและโมโหเป็นธรรมดา”
“ถึงแม้ในวันนั้นเบอร์ที่ส่งมาจะไม่ใช่เบอร์ของน้องเขาก็ตาม เมื่อเอสเอ็มเอสมาแบบนี้ ธัญญ่าก็จะต้องโมโห ผมเข้าใจได้ดี แต่ก็อยากจะบอกธัญญ่า และทุกคนในที่นี้ด้วย ว่า ผมเองและน้องเขาไม่ได้มีอะไรเลย ไม่เคยได้เจอ ไม่เคยได้พบกันเลย มีแต่เพียงแค่แมสเสจทักทายนานๆ ที นี่พูดด้วยความสัตย์จริงของลูกผู้ชาย”
“ด้วยที่ผ่านมาทุกคนเอง คนที่ใกล้ตัวผมทุกคนคงเห็นว่า ผมเองพยายามมากแค่ไหนที่จะทำให้ครอบครัวกลับมาเป็นเหมือนเดิม ให้ภรรยาคือธัญญ่าที่ผมรักมาก และลูกสาวที่ผมรักกลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นมันไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะกลับไปทำเรื่องแบบนั้น หรืออะไรที่ไม่ดีที่จะทำให้ครอบครัวผมกลับไปนับศูนย์อีก มันไม่ใช่ความคิดของผมแน่นอน”
“ในส่วนตัวของน้องเขาเอง ผมเชื่อว่า เขาเองก็ผ่านอะไรร้ายๆ มาเยอะ กว่าที่เขาจะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำงานเลี้ยงดูครอบครัวได้ตามปกติ มันก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากแสนเข็ญหลายๆ คนก็คงเห็น คงไม่มีความคิดที่จะกลับมาทำอะไรที่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ ขอยืนยันให้ทุกคนได้ทราบ ให้ธัญญ่าได้สบายใจว่า ทุกเรื่องที่ได้ยินมามันไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเพียงแค่การทักทายกันปกติ”
“ในเรื่องของคลิปที่หลุดออกไป ผมก็ไม่รู้ว่าหลุดไปได้ยังไง ธัญญ่าส่งให้เพื่อนสนิท ส่งให้ครอบครัวที่ต่างประเทศ แล้วก็ผมส่งให้เพื่อนสนิท ส่งให้ครอบครัวผมเช่นเดียวกัน พนักงานผมฟังทุกๆ คน หลุดยังไงผมไม่ทราบ ผมต้องบอกไว้ว่าในฐานะที่ธัญญ่าเป็นภรรยา คงจะต้องโมโหผมเป็นธรรมดา ธัญญ่าเองก็ได้โทร.ไปหาน้องเขา ซึ่งมีอยู่วันนึงเมื่อนานมากแล้ว คุณแม่ของน้องเขาได้บอกธัญญ่า ว่า ถ้ามีปัญหาอะไรให้โทร.มาปรึกษาได้ ธัญญ่าก็เลยโทร.ไป มันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นของคลิปอันนี้”
“ส่วนทางคุณแม่ของน้องเขาเอง ผมก็เข้าใจว่า ตัวคุณแม่น้องเขาคงรู้ว่าน้องไม่ได้ติดต่อไม่ได้อะไรกับผม แต่พอได้มาเจอเรื่องนี้อีกครั้งนึง ก็คงจะตกใจ โมโห แล้วก็คงต้องปกป้องลูกสาวในฐานะที่เขาเป็นแม่ มันเป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่อยากเอาเรื่องเหล่านี้มาเป็นปัญหาให้ครอบครัวผมเองจะต้องมีปัญหาอีก รวมถึงครอบครัวของน้องเขาด้วย ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น”
“ที่ผ่านมา ทั้งหมดทั้งมวล ผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้เรื่องราวต่างๆ นานา มันเกิดขึ้นมา ให้ธัญญ่าต้องทะเลาะกับแม่น้องเขา หรือว่าตัวน้องเขาและอีกหลายๆ คน ทำให้ธัญญ่าต้องเสียชื่อเสียง รวมถึงชื่อเสียงของน้องเขาด้วย ผมเองเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดข่าวคราวที่น่าเบื่อหน่ายยืดยาวมากๆ จนผมเห็นข่าวผมเอง ผมยังไม่ดู ไม่อ่านอะไรทั้งสิ้น ผมอยากให้เรื่องราวเหล่านี้ยุติ ด้วยคำพูดของผมในฐานะที่ผมเป็นลูกผู้ชาย”
“ถ้าคุณมารอฟังผมกันเยอะขนาดนี้ คุณต้องเชื่อผมและให้เกียรติผม ว่า ในสิ่งที่ผมพูด ผมพูดเรื่องจริง ผมยืนยันว่า ผมกับน้องเขาไม่มีอะไร ไม่เคยเจอกันไม่เคยพบกัน และจากนี้ไปผมก็ยืนยันว่า ผมจะต้องทำให้ครอบครัวที่ผมรักมากๆ ภรรยาและลูกที่ผมรักกลับมาอยู่ด้วยกันดีเหมือนเดิมให้ได้เร็วที่สุด ส่วนน้องเขาก็ปล่อยให้น้องเขาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัวตามที่เขาต้องเป็น ผมอยากจบสิ้นยุติข่าวเรื่องนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง”
“อีกอย่างผมต้องขอบคุณพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ นักข่าวทุกคน สื่อทุกสื่อ พิธีกรรายการข่าวทีวีต่างๆ ที่ได้รอจะให้โอกาสผมได้มาพูดในวันนี้ โดยที่ไม่มีการลงข่าวหรือว่าอะไรมาตัดสินผมไปลงข่าวก่อน อันนี้ผมต้องขอบคุณจากใจผมเลย จากนี้ไปผมก็จะต้องเดินหน้าทำให้ครอบครัวผมกลับมาดีเหมือนเดิม”
ธัญญ่า : “เรื่องทั้งหมดเป๊กพูดไปหมดแล้ว อยากฝากถึงน้องคนนั้นว่า เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นมา 2 ปีกว่า จะ 3 ปี พวกเราทุกข์ทรมานกันหมดทุกฝ่าย ขณะนี้เรากำลังให้โอกาส พี่เป๊กขอโอกาส จากที่เราตัดสินใจว่าจะหย่าแน่นอนในเมื่อพี่เป๊กเป็นคนขอกลับมาอีกครั้ง และลูกเราก็โตขึ้นทุกวัน เราเลยคิดว่าก็ควรจะให้โอกาสเขา เพื่อครอบครัวเราและลูกของเรา”
“อยากฝากขอร้องน้องนิดนึงนะคะ เรื่องการส่งข้อความคิดถึงสามีเรา มันก็ยากที่จะเข้าใจ แต่ในเมื่อพี่เป๊กยืนยันว่าไม่มีอะไร เราก็โอเคจะเข้าใจอย่างนั้น สำหรับกรณีที่เกิดการคุยกันในลักษณะที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่กับคุณแม่ของน้องเขา อยากบอกว่า เราแค่จะโทร.ไปบอกว่าน้องเขามีการติดต่อมานะ คุณแม่เคยบอกไว้ว่าถ้ามีการติดต่อให้บอกคุณแม่ คุณแม่จะจัดการทุกอย่างเอง เลยอยากจะโทร.ไปบอกเขา ไม่งั้นมันจะค้างคาใจ”
“เราจะดำเนินชีวิตครอบครัวต่อไปยังไง ในเมื่อเราไม่มั่นใจในเรื่องนี้เกือบ 3 ปี มันทุกข์ทรมานทั้งครอบครัวเราครอบครัวคุณ เรื่องการส่งข้อความหรือการโทร.มาจะในอนาคตอีก 2-3 ปี หรืออีกปีหรือ 6 เดือน ก็ขอให้เรามั่นใจในความสัมพันธ์นั้นว่าไม่มีอะไรเชิงชู้สาวอีกแล้ว ธัญญ่าจะโอเคค่ะ”
เป๊ก : “อันนี้บอกให้ธัญญ่าฟัง ยืนยันได้เลยอย่างลูกผู้ชายว่า เรื่องเหล่านั้นคงไม่มี เหมือนที่อธิบายทั้งหมด”
ธัญญ่าแทรกว่า : “คงไม่มีหรือไม่มี”
เป๊ก : “ไม่มีๆ”
เผยส่งข้อความเดือนละครั้ง ต่อไปถ้าเจอกันก็ยืนยันว่าจะทักทายปกติ
เป๊ก : “บางทีผมก็ส่งเดือนละครั้ง เมื่อเวลาผมเห็นสื่อหรือเห็นอะไรที่ทำให้มันนึกถึงคนที่เคยรู้จัก ผมก็เอสเอ็มเอสไปเป็นปกติ หรือในอนาคตถ้าผมเจอน้องเขา ผมก็คงต้องทัก ส่งแมสเสจไปตามปกติ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องแบบนั้น มันเป็นเรื่องปกติมาก”
เมื่อถามว่า จะเปลี่ยนเบอร์หรือยังจะส่งแมสเสจไปหาอีกมั้ย? งานนี้ทำเอาเป๊กฉุนขึ้นมาทันควัน
“ไม่เปลี่ยน คุณไม่ต้องถามหรอก ผมพูดไปหมดแล้ว ไม่ต้องมาคะยั้นคะยอถามผมว่าส่งไม่ส่ง ผมพูดทุกสิ่งทุกอย่างหมดแล้ว ทุกคนก็รู้ดี ลองคิดถึงตัวคุณเองสิ ถ้าคุณรู้จักใครซักคนคุณจะทำยังไง ความเป็นเพื่อนคุณไม่มีเหรอ ความเป็นพี่เป็นน้องทำไม่ได้เหรอ ผมยืนยันและตั้งใจทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีเพื่อครอบครัว ณ ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือลียา เราช่วยกันดูแลทั้งคู่ตลอดเวลา ลียาเขาก็ติดคุณแม่มากกว่า”
ธัญญ่า : “แต่ถ้าไม่มีธัญญ่าลูกก็จะติดพี่เป๊กมากเหมือนกัน”
แสดงว่าเป๊กขอโฟกัสที่ลูกก่อน ?
เป๊ก : “แน่นอน ในอนาคตผมไม่อยากให้ลูกมีปัญหา มีปมด้อย ฉะนั้น ขึ้นอยู่ที่ตัวผมด้วย ต้องทำทุกอย่างให้ครอบครัวผมสมบูรณ์ เรื่องชีวิตคู่เราสองคนจริงๆ มันก็ใช้อยู่แล้วสามีภรรยาเนี่ย ก็แค่แยกบ้านกันนอน”
ธัญญ่า : “ที่ผ่านมา จากตัดสินใจจะหย่าแน่นอน จบแน่นอน แต่พอมีโอกาสได้กลับมาเป็นครอบครัว อาจไม่ได้อยู่ด้วยกัน แต่เราก็ยังไปต่างประเทศ ทำกิจกรรมร่วมกัน มีปัญหาเรื่องลียาก็ปรึกษากันตลอด ทุกอย่างเหมือนดีขึ้น เราสบายใจที่พี่เป๊กพยายามให้เห็นจริงๆ แต่พอเกิดเรื่องแบบนี้ก็ทำให้เราเฟล เหมือนเรายังไม่ไว้ใจ”
เป๊ก : “ก็ที่พูดทั้งหมดเพราะอยากให้เข้าใจว่าไม่มีอะไร”
ธัญญ่า : “ธัญญ่าเชื่อว่าถ้าเป็นภรรยา เป็นครอบครัว เป็นแม่ของลูก ถ้ามีใครเข้ามาทำให้ชีวิตเรามีปัญหา เคยมีปัญหามาก่อนแล้วเวลาก็ผ่านไปไม่นาน แล้วยังมาเจอข้อความ Miss you na มันยากที่จะเข้าใจ แต่เราก็พยายามจะเข้าใจหลังจากการที่เราได้รับการยืนยันนะคะ แต่ในวินาทีที่ได้เห็นข้อความก็คิดว่าจบแล้ว ไม่เอาแล้ว แต่พอวันเวลาผ่านไป เราก็ใจเย็นลง ได้คุยกัน ก็โอเค จะเข้าใจแบบนั้น”
เป๊ก : “ผมยืนยันความด้วยความเป็นลูกผู้ชายของผม แต่พูดไปเดี๋ยวก็โดนด่าอีก ก็มันไม่มีอะไรอย่างที่คนอื่นคิดหรอกครับ”