คอลัมน์เพลงวาน โดย : บอน บอระเพ็ด (skbon109@hotmail.com)
ลอนดอนเกม 2012 โอลิมปิกครั้งที่ 30 รูดม่านช้อยเก็บฉากกันไปแล้ว เชื่อว่าคนไทยหลายๆคนยังคงอารมณ์ค้าง เซ็งไก่ เซ็งเป็ด เซ็งไม่หายกับการชกชิงเหรียญทองของ “แก้ว พงษ์ประยูร” ที่เราคงได้เห็นกันจะๆไปแล้วว่าแก้วต่อยชนะบนสังเวียน ทั้งชนะนักมวยจีนและชนะใจคนดู แต่แก้วดันมาต่อยแพ้กรรมการชวดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดายและน่าเจ็บใจ
สำหรับพิธีปิดโอลิมปิกหนนี้ หากใครได้ดูจะพบว่ามันเป็นการผสมผสานกันระหว่างไอเดีย พิธีการ การแสดง วัฒนธรรมป็อบ(Pop Culture) และมหกรรมคอนเสิร์ตระดับโลกที่ได้รวมคนดนตรีชื่อก้องโลกของเมืองผู้ดีเอาไว้มากมาย ซึ่งสีสันและเสน่ห์อันโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งในโอลิมปิกหนนี้ก็คือเรื่องของเพลง เพราะอังกฤษนับจากทศวรรษที่ 60 ถือเป็นหนึ่งในมหาอำนาจแห่งวงการเพลงโลกผู้ให้กำเนิด นักร้อง นักดนตรี วงดนตรี และคนดนตรีในระดับบิ๊กเนมชื่อก้องโลกออกมามากมาย นับตั้งแต่บีทเทิ้ลมาจนถึงวัน ไดเร็คชัน(วงบอยแบนด์มาแรง หนึ่งในวงที่เข้าร่วมแสดงในพิธีปิด)
ในโอลิมปิกหนนี้ทีมงานผู้จัดกำหนดให้เพลง “Survival” ของวง “Muse”(มิวส์) เป็นเพลงธีมหลักอย่างเป็นทางการ แต่ดูเหมือนว่าเพลงนี้ที่ฟังแล้วฮึกเหิมแต่มีท่วงทำนองไม่ติดหู จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
จากการติดตามดูการแข่งขันทั้งการถ่ายทอดสดและถ่ายทอดแห้ง ผมได้ยินเพลง Survival ถูกใช้เปิดเป็นซาวนด์ประกอบการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆน้อยมาก จะมีก็การแข่งขันกรีฑา(วิ่ง)ในวันท้ายๆที่หันมาอัดเพลงนี้ให้ฟังกันถี่หน่อย แต่นั่นก็สู้ 2 เพลงเอกต่อไปนี้ไม่ได้ เพราะทั้ง 2 เพลงถูกใช้เปิดประกอบถี่ยิบจนกลายเป็นบทเพลงคู่ขวัญของโอลิมปิก 2012 ไปแล้ว
เพลงแรก “Chariots of Fire”(เพลงไตเติ้ล) ซาวนด์แทรคจากภาพยนตร์เรื่อง “Chariots of Fire” หรือชื่อภาษาไทย “เกียรติยศแห่งชัยชนะ” หนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของ 2 นักวิ่งชาวอังกฤษ ที่สามารถคว้าเหรียญทองให้กับประเทศในการแข่งขันโอลิมปิก 1924 ที่กรุงปารีส
ซาวนด์แทรค Chariots of Fire เขียนโดย “แวนเจลิส”(Vangelis) เจ้าพ่อดนตรีนิวเอจชาวกรีก ซึ่งเพลงธีมหลักนั้นเจ๋งมาก ใช้ตัวโน้ตไม่กี่ตัวแต่ฟังแล้วยิ่งใหญ่ ให้พลัง ติดหูง่าย จนสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง ในโอลิมปิกหนนี้เพลงไตเติ้ลแทรคจาก Chariots of Fire ถูกนำมาเปิดประกอบกีฬาหลายชนิดด้วยกัน
มาถึงบทเพลงที่สองที่ถือเป็นเพลงยอดฮิตอันดับหนึ่งประจำโอลิมปิกหนนี้ นั่นก็คือ “We Will Rock You” จากวง“ควีน” (Queen) สุดยอดวงร็อกโอเปร่าระดับตำนาน วงราชันย์ในนามราชินีที่เป็นหนึ่งในทูตแห่งเสียงเพลงจากกรุงลอนดอนในโอลิมปิดหนนี้ วงควีนประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คนคือ “Freddie Mercury” : ร้องนำ คีย์บอร์ด เปียโน(เสียชีวิตแล้ว), “Brian May” : กีตาร์, “John Deacon” : เบส(ลาออกจากวง) “Roger Taylor” เล่นกลอง
เพลง We Will Rock You อยู่ในอัลบั้ม “News of The World”(1977) ผลงานเพลงชุดที่ 6 ของควีน เพลงนี้แต่งโดย ไบรอัน เมย์ มือกีตาร์ผู้มีสรรพสำเนียงอันเป็นเอกลักษณ์ เมย์ตั้งใจแต่งเพลงนี้ให้กับแฟนเพลงใช้ร่วมร้องเวลาเล่นคอนเสิร์ต โดยเฉพาะตามสเตเดียมหรือเวทีคอนเสิร์ตที่จุคนได้มาก ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะ We Will Rock You จัดเป็น 1 ใน 10 เพลงดังอมตะของควีน ซึ่งนิตยสารบันเทิงชื่อดังของโลกอย่าง“โรลลิ่งสโตน” (Rolling Stone ) ยกให้เป็นหนึ่งใน 500 บทเพลงฮิตตลอดกาล(We Will Rock You อยู่ลำดับที่ 330)
We Will Rock You เป็นเพลงแรกของอัลบั้ม ส่วนถัดไปเป็นเพลง “We Are the Champions” อีกหนึ่งเพลงดังสุดคลาสสิกของควีน
ทั้งสองเพลงจัดเป็นเพลงยอดนิยมในวงการกีฬา We Are the Champions เป็นเพลงที่มักจะเปิดหลังการคว้าแชมป์หรือการเฉลิมฉลองแชมป์ เพราะเพลงนี้ฟังแล้วมันให้ความรู้สึกถึงพลังแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ส่วน We Will Rock You เป็นเพลงที่ใช้เปิดประกอบการแข่งขัน ให้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกคักคึกฮึกเหิม ชวนโยกตัว โยกหัว ขยับแข้งขยับขาตาม
We Will Rock You อินโทรขึ้นนำมาด้วยเสียงกลอง และเสียงปรบมือที่เป็นดังการปลุกเร้าให้คนฟังฮึกเหิม เพื่อร่วมร็อกไปกับเรา(ควีน) เพลงนี้แม้เป็นเพลงสั้นๆเพียง 2 นาทีนิดๆ แถมดนตรีก็ไม่มีอะไรมาก มีกีตาร์เล่นโซโลนิดหน่อยในท่อนจบ แต่เพลงนี้กลับฟังมีเสน่ห์มาก ติดหูง่าย ที่สำคัญครือเมื่อฟังเพลงนี้โดยเฉพาะในคอนเสิร์ต มันสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้เราร้องตามและปรบมือตามได้แบบไม่รู้ตัว นั่นจึงทำให้เพลงนี้ถูกใช้เปิดประกอบการแข่งขันกีฬาเพื่อสร้างความฮึกเหิม ซึ่งในโอลิมปิกหนนี้ใครที่ได้ดูการถ่ายทอด คงจะได้ฟังกันจนชินหู โดยเฉพาะในการแข่งขันวอลเล่ย์บอลทั้งในร่มและชายหาด กรีฑา บาสเก็ตบอล เป็นต้น
ในพิธีปิดโอลิมปิกหนนี้ We Will Rock You มาในแบบพิเศษด้วยการแสดงภาพประกอบเสียงร้องอันทรงพลังของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ผู้ล่วงลับ ซึ่งนี่ถือเป็นการเผยภาพลับเฉพาะที่เจ้าตัวเป็นผู้ถ่ายเก็บไว้โดยไม่มีการเผยแพร่ที่ใดมาก่อน
และนั่นก็เป็นเรื่องของเสน่ห์แห่งบทเพลงคู่ขวัญจากโอลิมปิกหนนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวผมชื่นชอบ(เป็นพิเศษ)ทั้ง Chariots of Fire และ We Will Rock You แต่ถ้าให้เลือกว่าโอลิมปิกหนนี้อยากฟังเพลงอะไรมากที่สุด
ผมอยากฟัง“เพลงชาติไทย”ครับ
*****************************************
คอนเสิร์ต
“Once Upon A Time .. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว”
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชวนชมคอนเสิร์ต“Once Upon A Time .. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” ผลงานนักเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ที่คัดสรรศิลปะการแสดง ในรูปแบบต่างๆมากมายทั้ง การบรรเลงดนตรีประกอบภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ เพลงบัลเลต์ของ Tchaikovsky เพลงพื้นเมือง เพลงไทย พบกับวงดนตรีหลากหลาย อาทิ วง ซิมโฟนิคออร์เคสตร้า คอนเสิร์ตแบนด์ , รวมวงเปียโน , วงดนตรีไทย, แจ๊สบิ๊กแบนด์ วงออร์เคสตร้าขนาดเล็ก
พร้อมกันนี้ จะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการนำละครเพลงของ Stephen Sondheim เรื่อง "Into the Woods" ละครเพลงชื่อดังที่นำเอาตัวละครนิทานยอดฮิต อาทิ ซินเดอเรลล่า แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ หนูน้อยหมวกแดง ราพันเซล ฯลฯ มาผสมผสานกันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและให้ข้อคิด โดยได้รับอนุญาตจาก Music theatre International (MTI) นำเสนออย่างเต็มรูปแบบพร้อมวงออร์เคสตร้า แสดงเป็นภาษาอังกฤษพร้อมบรรยายภาษาอังกฤษและไทย
สำหรับรอบการแสดงมีดังนี้
• วันอังคาร 28 สิงหาคม 2555 เวลา 19.00น.Concert Band Jazz Big Band และการแสดงดนตรีไทย
• วันพุธ 29 สิงหาคม 2555 เวลา 19.00น. ละครเพลง Into the Woods
• วันพฤหัสบดี 30 สิงหาคม 2555 เวลา 19.00น. การแสดงกีต้าร์ออร์เคสตร้า เปียโน และวงออร์เคสตร้า
• วันศุกร์ 31 สิงหาคม 2555 เวลา 14.00น. การแสดงกีต้าร์ออร์เคสตร้า เปียโน และดนตรีไทย
• วันศุกร์ 31 สิงหาคม 2555 เวลา 19.00น. การแสดงออร์เคสตร้า Jazz Big Band และ Concert Band
• วันเสาร์ 1 กันยายน 2555 เวลา 14.00น. และ 19.00น. ละครเพลง Into the Woods
ราคาบัตร
• บัตรชมการแสดงละครเพลง Into the woods 300,500,700,1000 บาท
• บัตรสำหรับคอนเสิร์ตอื่นๆ 200,400,650,1000 บาท
สถานที่แสดง หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สำรองที่นั่งได้ที่ 02-800-2525 ต่อ 153, 154, 087 -581-7995 และ 087-697-4772
www.music.mahidolac.th/onceuponatime
ลอนดอนเกม 2012 โอลิมปิกครั้งที่ 30 รูดม่านช้อยเก็บฉากกันไปแล้ว เชื่อว่าคนไทยหลายๆคนยังคงอารมณ์ค้าง เซ็งไก่ เซ็งเป็ด เซ็งไม่หายกับการชกชิงเหรียญทองของ “แก้ว พงษ์ประยูร” ที่เราคงได้เห็นกันจะๆไปแล้วว่าแก้วต่อยชนะบนสังเวียน ทั้งชนะนักมวยจีนและชนะใจคนดู แต่แก้วดันมาต่อยแพ้กรรมการชวดเหรียญทองไปอย่างน่าเสียดายและน่าเจ็บใจ
สำหรับพิธีปิดโอลิมปิกหนนี้ หากใครได้ดูจะพบว่ามันเป็นการผสมผสานกันระหว่างไอเดีย พิธีการ การแสดง วัฒนธรรมป็อบ(Pop Culture) และมหกรรมคอนเสิร์ตระดับโลกที่ได้รวมคนดนตรีชื่อก้องโลกของเมืองผู้ดีเอาไว้มากมาย ซึ่งสีสันและเสน่ห์อันโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งในโอลิมปิกหนนี้ก็คือเรื่องของเพลง เพราะอังกฤษนับจากทศวรรษที่ 60 ถือเป็นหนึ่งในมหาอำนาจแห่งวงการเพลงโลกผู้ให้กำเนิด นักร้อง นักดนตรี วงดนตรี และคนดนตรีในระดับบิ๊กเนมชื่อก้องโลกออกมามากมาย นับตั้งแต่บีทเทิ้ลมาจนถึงวัน ไดเร็คชัน(วงบอยแบนด์มาแรง หนึ่งในวงที่เข้าร่วมแสดงในพิธีปิด)
ในโอลิมปิกหนนี้ทีมงานผู้จัดกำหนดให้เพลง “Survival” ของวง “Muse”(มิวส์) เป็นเพลงธีมหลักอย่างเป็นทางการ แต่ดูเหมือนว่าเพลงนี้ที่ฟังแล้วฮึกเหิมแต่มีท่วงทำนองไม่ติดหู จะไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
จากการติดตามดูการแข่งขันทั้งการถ่ายทอดสดและถ่ายทอดแห้ง ผมได้ยินเพลง Survival ถูกใช้เปิดเป็นซาวนด์ประกอบการแข่งขันกีฬาประเภทต่างๆน้อยมาก จะมีก็การแข่งขันกรีฑา(วิ่ง)ในวันท้ายๆที่หันมาอัดเพลงนี้ให้ฟังกันถี่หน่อย แต่นั่นก็สู้ 2 เพลงเอกต่อไปนี้ไม่ได้ เพราะทั้ง 2 เพลงถูกใช้เปิดประกอบถี่ยิบจนกลายเป็นบทเพลงคู่ขวัญของโอลิมปิก 2012 ไปแล้ว
เพลงแรก “Chariots of Fire”(เพลงไตเติ้ล) ซาวนด์แทรคจากภาพยนตร์เรื่อง “Chariots of Fire” หรือชื่อภาษาไทย “เกียรติยศแห่งชัยชนะ” หนังเรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวของ 2 นักวิ่งชาวอังกฤษ ที่สามารถคว้าเหรียญทองให้กับประเทศในการแข่งขันโอลิมปิก 1924 ที่กรุงปารีส
ซาวนด์แทรค Chariots of Fire เขียนโดย “แวนเจลิส”(Vangelis) เจ้าพ่อดนตรีนิวเอจชาวกรีก ซึ่งเพลงธีมหลักนั้นเจ๋งมาก ใช้ตัวโน้ตไม่กี่ตัวแต่ฟังแล้วยิ่งใหญ่ ให้พลัง ติดหูง่าย จนสามารถคว้ารางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมไปครอง ในโอลิมปิกหนนี้เพลงไตเติ้ลแทรคจาก Chariots of Fire ถูกนำมาเปิดประกอบกีฬาหลายชนิดด้วยกัน
มาถึงบทเพลงที่สองที่ถือเป็นเพลงยอดฮิตอันดับหนึ่งประจำโอลิมปิกหนนี้ นั่นก็คือ “We Will Rock You” จากวง“ควีน” (Queen) สุดยอดวงร็อกโอเปร่าระดับตำนาน วงราชันย์ในนามราชินีที่เป็นหนึ่งในทูตแห่งเสียงเพลงจากกรุงลอนดอนในโอลิมปิดหนนี้ วงควีนประกอบไปด้วยสมาชิก 4 คนคือ “Freddie Mercury” : ร้องนำ คีย์บอร์ด เปียโน(เสียชีวิตแล้ว), “Brian May” : กีตาร์, “John Deacon” : เบส(ลาออกจากวง) “Roger Taylor” เล่นกลอง
เพลง We Will Rock You อยู่ในอัลบั้ม “News of The World”(1977) ผลงานเพลงชุดที่ 6 ของควีน เพลงนี้แต่งโดย ไบรอัน เมย์ มือกีตาร์ผู้มีสรรพสำเนียงอันเป็นเอกลักษณ์ เมย์ตั้งใจแต่งเพลงนี้ให้กับแฟนเพลงใช้ร่วมร้องเวลาเล่นคอนเสิร์ต โดยเฉพาะตามสเตเดียมหรือเวทีคอนเสิร์ตที่จุคนได้มาก ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง เพราะ We Will Rock You จัดเป็น 1 ใน 10 เพลงดังอมตะของควีน ซึ่งนิตยสารบันเทิงชื่อดังของโลกอย่าง“โรลลิ่งสโตน” (Rolling Stone ) ยกให้เป็นหนึ่งใน 500 บทเพลงฮิตตลอดกาล(We Will Rock You อยู่ลำดับที่ 330)
We Will Rock You เป็นเพลงแรกของอัลบั้ม ส่วนถัดไปเป็นเพลง “We Are the Champions” อีกหนึ่งเพลงดังสุดคลาสสิกของควีน
ทั้งสองเพลงจัดเป็นเพลงยอดนิยมในวงการกีฬา We Are the Champions เป็นเพลงที่มักจะเปิดหลังการคว้าแชมป์หรือการเฉลิมฉลองแชมป์ เพราะเพลงนี้ฟังแล้วมันให้ความรู้สึกถึงพลังแห่งชัยชนะอันยิ่งใหญ่ ส่วน We Will Rock You เป็นเพลงที่ใช้เปิดประกอบการแข่งขัน ให้ฟังแล้วเกิดความรู้สึกคักคึกฮึกเหิม ชวนโยกตัว โยกหัว ขยับแข้งขยับขาตาม
We Will Rock You อินโทรขึ้นนำมาด้วยเสียงกลอง และเสียงปรบมือที่เป็นดังการปลุกเร้าให้คนฟังฮึกเหิม เพื่อร่วมร็อกไปกับเรา(ควีน) เพลงนี้แม้เป็นเพลงสั้นๆเพียง 2 นาทีนิดๆ แถมดนตรีก็ไม่มีอะไรมาก มีกีตาร์เล่นโซโลนิดหน่อยในท่อนจบ แต่เพลงนี้กลับฟังมีเสน่ห์มาก ติดหูง่าย ที่สำคัญครือเมื่อฟังเพลงนี้โดยเฉพาะในคอนเสิร์ต มันสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้เราร้องตามและปรบมือตามได้แบบไม่รู้ตัว นั่นจึงทำให้เพลงนี้ถูกใช้เปิดประกอบการแข่งขันกีฬาเพื่อสร้างความฮึกเหิม ซึ่งในโอลิมปิกหนนี้ใครที่ได้ดูการถ่ายทอด คงจะได้ฟังกันจนชินหู โดยเฉพาะในการแข่งขันวอลเล่ย์บอลทั้งในร่มและชายหาด กรีฑา บาสเก็ตบอล เป็นต้น
ในพิธีปิดโอลิมปิกหนนี้ We Will Rock You มาในแบบพิเศษด้วยการแสดงภาพประกอบเสียงร้องอันทรงพลังของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ผู้ล่วงลับ ซึ่งนี่ถือเป็นการเผยภาพลับเฉพาะที่เจ้าตัวเป็นผู้ถ่ายเก็บไว้โดยไม่มีการเผยแพร่ที่ใดมาก่อน
และนั่นก็เป็นเรื่องของเสน่ห์แห่งบทเพลงคู่ขวัญจากโอลิมปิกหนนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวผมชื่นชอบ(เป็นพิเศษ)ทั้ง Chariots of Fire และ We Will Rock You แต่ถ้าให้เลือกว่าโอลิมปิกหนนี้อยากฟังเพลงอะไรมากที่สุด
ผมอยากฟัง“เพลงชาติไทย”ครับ
*****************************************
คอนเสิร์ต
“Once Upon A Time .. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว”
วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ชวนชมคอนเสิร์ต“Once Upon A Time .. กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว” ผลงานนักเรียนเตรียมอุดมดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ที่คัดสรรศิลปะการแสดง ในรูปแบบต่างๆมากมายทั้ง การบรรเลงดนตรีประกอบภาพยนตร์ยิ่งใหญ่ เพลงบัลเลต์ของ Tchaikovsky เพลงพื้นเมือง เพลงไทย พบกับวงดนตรีหลากหลาย อาทิ วง ซิมโฟนิคออร์เคสตร้า คอนเสิร์ตแบนด์ , รวมวงเปียโน , วงดนตรีไทย, แจ๊สบิ๊กแบนด์ วงออร์เคสตร้าขนาดเล็ก
พร้อมกันนี้ จะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่มีการนำละครเพลงของ Stephen Sondheim เรื่อง "Into the Woods" ละครเพลงชื่อดังที่นำเอาตัวละครนิทานยอดฮิต อาทิ ซินเดอเรลล่า แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์ หนูน้อยหมวกแดง ราพันเซล ฯลฯ มาผสมผสานกันเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและให้ข้อคิด โดยได้รับอนุญาตจาก Music theatre International (MTI) นำเสนออย่างเต็มรูปแบบพร้อมวงออร์เคสตร้า แสดงเป็นภาษาอังกฤษพร้อมบรรยายภาษาอังกฤษและไทย
สำหรับรอบการแสดงมีดังนี้
• วันอังคาร 28 สิงหาคม 2555 เวลา 19.00น.Concert Band Jazz Big Band และการแสดงดนตรีไทย
• วันพุธ 29 สิงหาคม 2555 เวลา 19.00น. ละครเพลง Into the Woods
• วันพฤหัสบดี 30 สิงหาคม 2555 เวลา 19.00น. การแสดงกีต้าร์ออร์เคสตร้า เปียโน และวงออร์เคสตร้า
• วันศุกร์ 31 สิงหาคม 2555 เวลา 14.00น. การแสดงกีต้าร์ออร์เคสตร้า เปียโน และดนตรีไทย
• วันศุกร์ 31 สิงหาคม 2555 เวลา 19.00น. การแสดงออร์เคสตร้า Jazz Big Band และ Concert Band
• วันเสาร์ 1 กันยายน 2555 เวลา 14.00น. และ 19.00น. ละครเพลง Into the Woods
ราคาบัตร
• บัตรชมการแสดงละครเพลง Into the woods 300,500,700,1000 บาท
• บัตรสำหรับคอนเสิร์ตอื่นๆ 200,400,650,1000 บาท
สถานที่แสดง หอแสดงดนตรี วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สำรองที่นั่งได้ที่ 02-800-2525 ต่อ 153, 154, 087 -581-7995 และ 087-697-4772
www.music.mahidolac.th/onceuponatime
